ขึ้นหัวเป็นฝรั่งเลยครับแต่ซีดีแผนนี้เป็นซีดีเพลงไทยที่มีคุณภาพการผลิตที่ ดีมากมากครับเพราะว่าเมื่อผมไปเที่ยวในงาน HiFi Show ที่ โรงแรม The Emerald เมื่อ วันที่ ๒๘ มิถุนายน - ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๐ ผมได้ไปยืนมุงกับเขาที่ บริษัทนี้เขาไปออกงานโดยมี Integrated Amp เสียบหูฟังให้ลองฟัง และนำเอา Notebook ของ Apple มาเปิด VCD ให้ดู เพียงฟังเสียงจากลำโพงของ Notebook ของ Apple ก็อดทึ่งในเรื่องน้ำเสียงของซีดีแผ่นนี้แล้วครับ เพราะนี้ขนาดฟังจากแผ่น VCD นะครับ หากเป็นแผ่นซีดีธรรมดาคงไม่ธรรมดาเป็นแน่
นายหนุ่ย(สุรัตน์)เพื่อนรุ่นน้องของผมเขาก็ซื้อกลับบ้านไปหนึ่งแผ่น แล้วเขาก็กลับบ้านที่อยู่แถวสาธุประดิษฐ์ ขณะที่ผมเองยังเพลิดเพลินอยู่ในงานฯ รางสองทุ่มนายหนุ่ยก็โทรมาคุยกับผมโดยเล่าว่าเมื่เขากลับถึงบ้านนั้นก็ตรงเข้าไปเปิดเครื่องและอุ่นเครื่องไว้ส่วนตัวเขาก็ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื่อผ้าเป็นชุดนอน แล้วก็เปิดแผ่นซีดีแผ่นนี้ฟังและแล้วอาการสติแตกก็เกิดขึ้นกับนายหนุ่ยคนนี้เพราะเขาอ้อนวอนให้ผมไปฟังซีดีแผ่นนี้กับเขาเหตุที่เขานั้นคุ้นเคยกับดนตรีไทยมาตั้งแต่เล็ก เขาบอกว่าบรรยากาศที่เขาได้รับฟังนั้นช่างสมจริงมากขณะที่คุยกันนั้นเขาฟังรอบที่สองและสาม เราคุยกันนานมากจนแบตเตอรีโทรศัพท์ของผมหมดเลยครับ เมื่อผมกลับมาถึงบ้านก็ลองฟังแผ่นนี้ดูก็พบว่าสมจริงดังที่นายหนุ่ยเล่าให้ฟัง ขนายผมใช้ Receiver ของธานินทร์ที่เก่าแก่ของผมโดยฟังจากหูฟัง (เนื่องจากดึกมากแล้ว) แผ่นนี้บันทึกเสียงดีมากครับ แอมป์ที่ใช้ฟังขอกำลังมากมากหน่อยนะครับ หากเป็น Single End ก็ขอลำโพงความไวสูงสูงมากว่า 100 db นะครับจะบันเทิงมากครับ
ซีดีแผ่นนี้มีทั้งหมด ๑๑ เพลง (ขอลอกจากเอกสารที่เขาแจกมาให้นะครับ เพราะบางข้อมูลผมก็ไม่มี)
หากหาซื้อไม่สะดวกลองติดต่อที่
บริษัท Charaxtra Group จำกัด
คุณ วรเศรษฐ์ นิพัทย์กุศล
โทร 02 3914269/081 8681534
E-Mail : aseanrecords@gmail.com
14/39 สุขุมวิท 65 (ซอยชัยพฤกษ์) พระโขนงเหนือ วัฒนา กทม 10110
ซีดีแผ่นนี้ประกอบด้วเพลงทั้งหมด ๑๑ เพลง
๑ มอญลุยแหลก
เพลงมอญลุยแหลก เพลงนี้เป็นเพลงโบราณ
จุดเด่นของเพลงนี้ เป็นการบันทึกเสียงของวงอังกะลุงประยุกต์ขนาดใหญ่จากวงอังกะลุงวัดส้มเกลี้ยง โดยบันทึกเสียงเครื่องดนตรีทุกชิ้น โดยใช้ไมโครโฟนคุณภาพสูง ณ หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย จุดเด่นของเพลงนี้คือ เครื่องอังกะลุงประยุกต์ที่ถูกดัดแปลงเป็น Machine โดยลักษณะการเล่นจะมีแป้นกดดีดคล้ายเปียโน ทำให้สามารถเล่นสอดประสานได้ด้วยความรวดเร็วลายหลายเครืองพร้อมกัน ลักษณะเสียงที่ได้จะพลิ้วต่อเนื่องกันคล้ายกับการรัวระนาดสอดประสานเสียงกับเสียงเปิงมาง ตะโพน โหม่ง ฉิ่ง
ลองฟังเสียงเปิงมางคอกที่ออกมาจากลำโพงข้างซ้ายซิครับว่ามีบางสิ่งน่าฟังอยู่ในนั้น
๒ พราหมณ์เข้าโบสถ์
เพลงอัตราสองชั้น ทำนองเก่าสมัยอยุธยาเป็นเพลงอันดับที่ ๖ ในเพลงตับสำหรับไหว้ครูข้างเช้า พระยาประสานดุริยศัพท์(แปลก ประสานศัพท์)นำมาแต่งขยายเป็นสามชั้น เมื่อปลายรัชกาลที่ ๕ ต่อมาใน พ.ศ. ๒๔๗๖ นายมนตรี ตราโมท ได้แต่งตัดเป็นชั้นเดียวครบเป็นเพลงเถา
จุดเด่นของเพลงนี้ อยู่ที่กระจับปี่ที่บรรเลงโดยคุณประสาน วงศ์วิโรจน์รักษ์ ผู้เชี่ยวชาญและเป็นที่รู้จักนับถือในการเล่นเครื่องสายไทยหลายชนิดอาทิเช่น จะเข้ เป็นต้น สำหรับเพลงนี้นอกจากกระจับปี่แล้ว ยังมี ซอสามสาย ขลุ่ยโทน รำมะนา และกลับพวง
๓ ตระนิมิตร
๑. เพลงหน้าพาทย์ สำหรับประกอบการเนรมิตร่างใหม่ของตัวละครที่มีศักดิ์สูงทั้ง พระนาง ยักษ์ ลิง เป็นเพลงตระที่มีทำนองทางร้อง นอกจากใช้ประกอบการเนรมิตร่างใหม่แล้วยังใช่ต่อท้ายระบำสำคัญๆ เช่น การรำถวายพระพรในโอกาสต่างๆ เพลงนี้(จางวางทั่ว พาทยโกศล) นำทำนอง ไปแต่งดัดแปลงเป็นเพลงชาติไทย ส่งประกวดตามประกาศของทางราชการ และได้รับรางวัลที่ ๑ คู่กับเพลงชาติทำนองที่พระเจนดุริยางค์แต่ง เมื่อวันที่ ๒๑ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๗๗ และได้ใช้เป็นเพงชาติคู่กันมาจนมีประกาศเปลี่ยนชื่อประเทศจากสยามเป็น "" เมื่อ พ.ศ.๒๔๘๒ จึงยกเลิก โดยใช้ทำนองของพระเจนดุริยางค์ เป็นต้นมา
๒. เพลงอัตราจังหวะสามชั้น นายบุญยงค์ เกตุคง แต่งเพลงตระนิมิตทำนองเก่าซึ่งเป็นเพลงหน้าพาทย์ประกอบกิริยาเนรมิตร่างใหม่ในการแสดงโขนละคร เพลงตระนิมิตสามชั้นนี้ใช้เป็นเพลงประจำวงดนตรีไทยของกรุงเทพมหานคร
จุดเด่นของเพลงนี้ คือการผสมผสานเสียงกับเครื่องเป่าทองเหลื่องของทางตะวันตกกับเครื่องดนตรีที่ให้จังหวะของไทยอาทิ เช่น กลองทัต และฉิ่ง ก่อให้เกิดลักษณะเสียงที่เป็นเอกลักษณะของแตรวงไทย(แกรวง)
๔ ลีลากระทุ่ม
เพลงทำนองเก่าสมัยอยุธยา เป็นเพลงอันดับที่ ๗ ในเพลงตับเรื่องพระทอง
จุดเด่นของเพลงนี้ คือเสียงร้องเอื้อนของนักร้องหญิง ที่ถูกบันทึกเสียงโยไมโครโฟน Rode Classic II เพื่อถ่ายทอกอารมณ์เสียงร้องให้ได้อารมณ์เทียบเท่ากับการขับร้องสด
๕ Universal Compassion
เป็นเพลงสวดโบราณ "โอม มณี ปัทเม " ของพระธิเบต สวดโดยคณะ Kandroma Paiden Chotso ซึ่งเป็นนักบวชหญิง บันทึกเสียงที่ ธิเบตในกระท่อมกลางป่าภูเขาสูง เพื่อให้สามารถเข้าถึงและถ่ายทอดจิตวิญญาณและท่วงทำนองการสวดแล้วนำมาเรียบเรียงใหม่ เพื่อให้เข้ากับโน้ตดนตรีของชาวตะวันตกประสานกับเสียงกีตาร์
โอม มณี ปัทเม ฮุม
"บทสวดสำคัญบทหนึ่ง เรียกกันว่า บทพาหุง หรือพาหุง ๘ บท เรียกเป็นภาษาทางการว่า ชยมังคลัฏฐกคาถา
บทสวดนี้ท่านรวบรวมขึ้นไว้เพื่อแสดงถึงวิธีที่พระพุทธเจ้าทรงมีชัยชนะผ่านพ้นเหตุการณ์ร้าย โดยทรงแก้ปัญหาด้วยวิธีปฏิบัติต่าง ๆ กัน ในเหตุการณ์และปัญหาเหล่านี้ บางเรื่องพระพุทธเจ้าทรงแก้ด้วยวิธีเมตตา บางเรื่องทรงแก้ด้วยขันติ บางเรื่องทรงแก้ด้วยอิทธิปาฏิหาริย์
บางเรื่องทรงแก้ด้วยวิธีแห่งอาการสงบ
บางเรื่องทรงแก้ด้วยความลึกซึ้งแห่งการใช้ปัญญา
บางเรื่องทรงแก้ด้วยการชี้แจงแสดงความจริง หรือแสดงธ"
๖ พระเจ้าลอยถาด
เพลงพระเจ้าลอยถาดเป็นเพลงหน้าพาทย์พิเศษเพลงหนึ่ง เพราะเพลงนี้มิได้อยู่ในเร่องเพลงหน้าพาทย์ที่สำหรับใช้ในโอกาสพิเศษเท่านั้น และเป็นเก่าสมัยยุธยา โอกาสที่ใช้เพลงนี้คือในเวลาพระสงฆ์ได้ฉันอาหารบิณฑบาตเช้าอิ่ม และอนุโมทนาแล้ว ซึ่งนับว่าเป็นเพลงที่เหมาะสมกับโอกาสเช่นนั้นอย่างยิ่ง ทำนองเพลงและไม้กลอง ฟังเป็นเสียงกระเพื่อมของผิวน้ำ ทำให้สาธุชนหวนระลึกถึงเมื่อครั้งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสวยข้าวมธุปายาส ที่นางสุชาดานำมาถวายในวันแรกที่ตรัสรู้ เสร็จแล้วทรงลอยถาดทองลงบนกระแสน้ำแห่งแม่น้ำเนรญชรา
จุดเด่นของเพลงนี้ คือ การบรรเลงโดยใช้เครื่องดนตรีให้จังหวะที่งที่เป็นโลหะและไม อาทิเช่น ขิม ระนาดทุ้มไม้ ระนาดทุ้มเหล็ก ฆ้องวง เป็นการบันทึกเสียงสดทุกชิ้นก่อนนำมาผ่าน Computer processing เพื่อสอดประสานเสียงถูแก้ว เสียงระฆัง และเสียงกังสะดาล เข้าไปเพื่อเน้นารมณ์ Chilled Out ในลักษณะของ Spa Music
๗ จีนเก็บบุปผา
เพลงจีนเก็บบุปผา สามชั้น เดิมนักร้องสักวาไม่ทราบนามได้แต่งขึ้นสำหรับใช้ร้องเป็นเพลงลำลาในการเล่นสักวา จนได้รับความนิยมแพร่หลาย นักดนตรีจึงนำทำนองทางร้องไปแต่งเป็นทำนองทางดนตรี ในการแต่งทำนองร้องของนักร้องสักวานั้นได้แต่งโดยนำเพลงจีนขิมเล็กสองชั้น ซึ่งพระประดิษฐไพเราะ(มี ดุริยางกูร) เป็นผู้แต่ง นำมาแต่งซ่อนเงื่อนงำ โดยเฉพาะทำนองเพลงท่อน ๒ เพลงจีนขิมเล็กท่อน ๒ สั้นมาก นักร้องต้องร้อง ๒ เที่ยว นักร้องสักวาดังที่กล่าวไว้ตอนต้นจึงแต่งก็ถือแนวว่าทำนองร้อง ๒ เที่ยวนั้น เป็น ๑ เที่ยวที่ดนตรีจะต้องรับ จึงแต่งขยายเพิ่มเข้าอีก ๑ เที่ยว ทำนองดนตรีจึงเท่ากับบรรเลงซ้อนถึง ๔ เที่ยว นับว่าเพลงจีนเก็บบุปผานี้มีความไพเราะและได้ับความนิยมแพร่หลายมากเพลงหนึ่ง สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ได้นำทำนองเพลงจีนเก็บบุปผานี้มาทรงนิพนธ์เป็นเพลงเถาทางหนึ่ง บันทึกเป็นโน้ตสากลไว้ทั้งทางระนาดเอกและฆ้องวงใหญ่ เมื่อ พ.ศ.๒๔๘๔ ขณะประทับอยู่เมืองบันดุง ประเทศอินโดนีเซีย ประทานชื่อใหม่ว่าเพลง"เด็ดดอก" นอกจากนี้นายจำเนียร ศรีไทยพันธุ์ ได้แต่งเป็นเถา ทั้งทำนองทางดนตรีและทางร้องไว้อีก ๑ ทางด้วย โดยยังเรียกชื่อเพลงเดิมว่าเพลงจีนเก็บบุปผาเถา
จุดเด่นของเพลงนี้ คือการบันทึกเสียงอังกะลุงประยุกต์ขนาดใหญ่ประกอบกับเครื่องดนตรีไทยอื่นอื่น อาทิ เช่น ซอด้วงและขิม ภาคของดนตรีเป็นทำนองเพลงจีน เป็นเพลงที่คุ้นหู แต่มีความแตกต่างชัดเจนในส่วนของท่วงทำนอง ที่แบ่งเป็น ๒ ส่วนคือ ช่วงต้นของเพลงจะเป็นเรื่องราวของนักรบจีน ให้ความรู้สึกเข้มแข็ง ดุดัน ในขณะที่ช่วงที่ ๒ และ ๓ จะเป็นเรื่องราวพรรณนาเกี่ยวกับผู้หญิงเก็บดอกไม้ ซึ่งให้ความรู้สึอ่อนหวาน
๘ มาร์ชลาวดวงเดือน
พันตรีหลวงประสานดุริยางค์ศรีชญา (สุทธิ์ ศรีชญา) ๒๔๘๖ - ๒๔๙๐ จาก กองดุริยางค์ทหารบก: Royal Thai Army Band ได้เรียบเรียงเสียงประสานเป็นเพลงมาร์ชเมื่อราวปี พ.ศ. ๒๔๘๓
ผู้ทรงนิพนธ์เพลงนี้คือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นพิชัยมหินทโรดม พระนามเดิม พระองค์เจ้าชายเพ็ญพัฒน์พงศ์ ในขณะที่มีพระชนมพรรษา ๒๑ พรรษา พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าลูกยาเธอในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่ัว รัชกาลที่ ๕ ในปี พ.ศ. ๒๔๔๖ พระองค์ทรงจบการศึกษาจากประเทศอังกฤษและได้เสด็จประพาสเชียงใหม่ ได้รับการต้อนรับจากเจ้าหลวงอินทวโรรสสุริวงศ์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่และเจ้าแม่ทพย์เนตร มีการจัดงานเลี้ยงต้อนรับขึ้น ในงานเลี้ยงครั้งนี้มี เจ้าราชสัมพันธวงศ์(ธรรมลังกา) และเจ้าแม่คำย่นณ ลำพูน พร้อมธิดาคนโต เจ้าหญิงชมชื่นซึ้งมีอายุเพียง ๑๖ ปี
เจ้าหญิงชมชื่น(พระธิดาองค์ที ของเจ้าธรรมลังกา)
ที่ทำให้พระองค์เจ้าชายเพ็ญพัฒน์พงษ์ ถึงกับตะลึงในแบบรักแรกพบ ในวันรุ่งขึ้นพระองค์ได้ทรงให้ พระยานริศราชกิจ ข้าหลวงใหญ่ใมณฑลพายัพ นำพระองค์ไปเยี่ยมคุ้มเจ้าราชสัมพันธวงศ์(คุ้มหน้าวัดบ้านปิง ปัจจุบันคือบ้านใบเมียงที่ฝรั่งเช่าทำเป็นที่สอนศาสนา) และกลายเป็นแขกประจำคุ้ม ต่อมาได้ทรงให้พระยานริศราชกิจเป็นเถ้าแก่ไปเจจาสู่ขอเจ้าหญิงชมชื่นแต่ทางบิดาฝ่ายหญิงผู้เชี่ยวชาญในด้านกฎหมายนั้นได้ทัดทาน(มิได้ปฏิเสธ)ไว้ สองเงื่อนไขคือ
๑ ขอให้รอจนเจ้าหญิงชมชื่นอายุ ๑๘ ปี เสียก่อน
๒ ต้องทำให้ถูกต้องตามขนบธรรมเนียม คือ พระองค์จะอภิเษกสมรสต้องได้รับพระบรมราชานุญาต
เป็นสะใภ้หลวง มิฉะนั้นก็จะเป็นเพียงแค่นางบำเรอ
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น ๔ พระองค์เจ้าโสณบัณฑิต กรมขุนพิท>ฤฒิธาดา ต้นราชสกุล โสณกุล
เหตุที่ ทัดทานครั้งนี้เกิดจากเรื่องความรักระหว่างพระองค์เจ้าโสณบัณฑิต ทางเจ้านายในราชวงศ์จักรีนี้ เคยเกิดขึ้นใน พ.ศ. ๒๔๓๓ มาแล้ว คือ พระองค์เจ้าโสณบัณฑิต พระราชโอรสในสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่ัว รัชกาลที่ ๔ พระน้องยาเธอใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่ัว รัชการที่ ๕ ได้เสด็จมาปราบปรามพวกยางแดง แถวแม่น้ำสาละวิ(คง) และได้พบรักกับ เจ้าหญิงข่ายแก้ว ธิดาเจ้าทักษิณนิเกตน์(มหายศ) และทรงสู่ขอจากเจ้าทักษิณนิเกตน์(มหายศ) แต่ไม่ได้รับพระบรมราชานุญาตในการเสกสมรส และไม่มีพระโอรสและพระธิดาด้วยกัน ครั้นพระองค์เจ้าโสณบัณฑิตเสด็จกลับกรุงเทพก็ไม่ได้เอาลงมาด้วยเพราะมีหม่อมอมอยู่แล้ว ทำให้เจ้าหญิงข่ายแก้ว กลายเป็น "แม่ร้าง" ที่จะไปร้องเรียนกับใครก็ไม่ได้ เจ้าราชสัมพันธ์วงศ์ (ธรรมลังกา) จึงไม่ปรารถนาให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยจึงได้ทัดทานไว้ และพระองค์จึงเสด็จกลับกรุงเทพเพื่อปรึกษาญาติผู้ใหญ่ซึ้งก็ได้รับการทัดทานอย่างหนักหน่วง เมื่อไม่สมหวังก็ทรงหันเข้าหาความเยือกเย็นแห่งดนตรีไทยดับความรุ่มร้อนในหัวอก และก็ทรงนิพนธ์เพลงนี้จากบทร้องจากวรรณคดีเรื่อง "พ"ขึ้นมาทำให้เกิดตำนานรักเพลง "ลาวดวงเดือน"
๙ แขกเจ้าเซ็น
เพลงอัตราจังหวะสองชั้น ทำนองเก่า เป็นเพลง ๒ ท่อน สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัตติวงศ์ นำมาบรรจุไว้เป็นอันดับ ๕ ในตับนิทราชาคริต และเป็นเพลงบรรเลงประกอบการชกมวยไทย
จุดเด่นของเพลงนี้ คือปี่ชวา กลองแขก และฉิ่ง ให้อารมณ์ดุดันโดยเฉพาะเสียงปี่ชวาที่กระตุ้นเร้าโสตประสาท
๑๐ จาวจาบ
เป็นเพลงรักโบราณของชาวเขมร บรรเลงโดยพิณน้ำเต้าเครื่องดนตรีโบราณของชาวอุษาคเนย์
จุดเด่นของเพลง คือเสียงจากพิณน้ำเต้า
๑๑ ระบำชาวไร่ หรือ Farmer Dance
เป็นผลงานเพลงของวงฟองน้ำ ประพันธ์โดยครูบุญยงค์ เกตุคง บรรเลงและเรียบเรียงเสียงประสานโดย Bruce Gaston ในยุคก่อตั้งของวงฟองน้ำในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๑๓
จุดเด่นของเพลง คือเนื้อเพลงที่พรรณนาถึงชีวิตชาวไร่ชาวนาที่ต้องฝ่าฟันเอดำรงชีพอยู่ในสภาพสังคมที่แปรเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว
ครูบุญยงค์ เกตุคง
จากนักดนตรีท่านหนึ่งที่มีนามว่า "บุรุษ เกศกรรณ" หรือ Bruce Gaston(พ.ศ. ๒๔๘๙-ปัจจุบัน) นักเปียโนชาวอเมริกัน บิดาเป็นผู้อำนวยเพลง มารดาเป็นนักร้อง เขาจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก University of Southern California และศึกษาปริญญาโททางด้านดนตรีแต่ขณะศึกษาปริญญาโทเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๒ได้ถูกเกณฑ์มาเป็นทหารในสงครามเวียดนาม เนื่องจากเป็นมังสวิรัติไม่ต้องการฆ่าใครจึงเลือกที่จะมาทำงานอยู่ที่ประเทศไทแทนการเป็นทหารที่เวียดนามโดยการเป็นครูสอนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนผดุงราษฎร์พิษณุโลกและสอนดนตรีที่มหาวิทยาลัยพายัพที่เชียงใหม่จนครบ ๒ ปีแต่เมื่อได้กลับ้านไม่พบอะไรน่าสนใน จึงตัดสินใจกลับมาอยู่ที่เมืองไทย คุณบุรุษชอบแนวความคิดของ John Cage นักดนตรีแจ็สที่รับอิทธิพลจากนิกายเซ็น(Zen)ที่ใฝ่หาความว่าง(สุญญตา)และธรรมชาติ หลังจากอ่านหนังสือเรื่อง Silence เมื่ออยู่ในเมือไทยเขาพักอยู่ใกล้กับป่าช้าซึ่งทำให้ได้ฟังปี่พาทย์งานศพบ่อยจนเกิดความประทับใจจึงได้ลองเรียนดูและได้เรียนดนตรีไทยครั้งแรกกับครู ศิริชัยชาญ ฟักจำรูญ และเรียนดนตรีล้านนากับ ลุงต๋าคำ ที่เชียงใหม่ ต่อมาได้เรียนระนาดกับ ครู บุญยงค์ เกตุคง ที่มาของวงดนตรีไทยร่วมสมัยที่ชื่อวง"ฟองน"และชื่อนี้มาจากเพลง ท"ฟองน" จากเพลงเรื่อง"จิ้งจกทอง"
คำนิยมในเว็ป ลองเข้าไปอ่านดูซิครับ
http://www.audio-teams.com/webboard/?ca1=16&id=38991&PHPSESSID=43dda3c29bc9d57328b94d098478f0bd รายละเอียดการบันทึกเสียง
เพลงที่ ๑, ๒ ,๓,๔,๖,๗ และ ๘
บันทึกเสียงที่ หอเล็กศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เมื่อ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๙
ด้วยความละเอียดสูง 96 kHz High Sampling Digital Recording
ไมโครโฟน Earthworks รุ่น QTC40, Rode รุ่น Classic II, Neumann รุ่น KM184,
Sennheiser รุ่น MD421
เครื่องบันทึกเสียง Sadie รุ่น LRX
เพลงที่ ๕
บันทึกเสียง ที่ ธิเบต ในกระท่อมกลางป่าภูเขาสูง ซึ่งสวดโดยคณะนักบวชหญิง Kandroma Paiden Chotso
เพลงที่ ๑๐
บันทึกเสียงที่ สถานนีวิทยุกระจายเสียงแห่งชาติ ประเทศกัมพูชาเมื่อ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๙
ด้วยความละเอียดสูง 96 kHz High Sampling Digital Recording
ไมโครโฟน Earthworks รุ่น QTC40, Rode รุ่น Classic II, Neumann รุ่น KM184, Sennheiser รุ่น MD421
เครื่องบันทึกเสียง Tascam รุ่น HD-P2
Monitored on ลำโพง JBL 433a และ Genelecs 1029a
ชุดหูฟัง Sennhesier HD650 และสาย Cardas
ไมโครโฟน
Earthworks QTC40 Matched Pair
Matched Stereo Pair of Omni directional Condenser Mics Capture "true" sound at Sweetwater! The QTC40 microphone provides a true and accurate representation of sonic events as they happen in the air. This means you get the REAL sound, the sound that's really there. Naturally, the QTC40 mics are whisper quiet, enabling you to mic even the most subtle vocal or choir passage...
Sennheiser รุ่น MD421
The MD421 II continues the tradition of the MD 421 which has been one of Sennheiser's most popular dynamic mics for over 35 years. The large diaphragm, dynamic element handles high sound pressure levels, making it a natural for recording guitars and drums. The MD 421's full-bodied cardioids pattern, and five-position bass control make it an excellent choice for most instruments, as well as group vocals, or radio broadcast announcers. One listen and you'll know why it's a classic
Polar Pattern
Rode รุ่น Classic II
Features
? Class A valve circuitry
? Dedicated Power Supply
? 6072 Twin Triode
? New "edge-terminated" 1"Gold sputtered Diaphragm
? Custom designed JENSEN Transformer
? -10dB and -20dB Pads (Switched from power supply)
? 2 position High Pass Filter (switched from power supply)
? 9 polar patterns (switched from power supply)
? Double Shielded Oxygen Free Copper Multicore Cable with custom designed heavy duty plugs and sockets. CLASSIC II
From its custom designed Jensen transformer to the dual pressure gradient transducer this valve microphone is a Classic.
Machined from solid brass, hand polished, glass bead blasted and coated in satin nickel, this is a microphone with Class A valve circuitry that gives unmatchable warmth, clarity and sensitivity when critical vocal and instrument recording is required.
The Classic II when a Classic performance is needed.
Accessories included: ? The Classic II is supplied complete with Power Supply, 10m (30ft) Cable, SM2 ? Shock Mount Suspension, M2 Stand Mount 3/8"-5/8" Thread Adaptor. ? Custom Aluminum Flight Case.
Specifications
Capsule: Externally polarised dual diaphragm 25mm (1") condenser Active Electronics: Thermionic impedance converter Pickup Pattern: Switch able Omni directional / Cardioids / Figure-8 in nine stepsFrequency response: 20 Hz-20 kHz High Pass Filter: Switch able: flat, -15dB @ 20Hz, -21dB @ 20Hz. Cascaded first-order filters Output Impedance: 200 Sensitivity: -37dB re 1volt/pascal (14mV @ 94dB SPL) +/-2dB Equivalent Noise: <18 dBA ("A"-weighted per `IEC268-15) Maximum Output: +2dBu (@ 1% THD into 1K) Dynamic Range: > 113dB (per IEC268-15) Maximum SPL: 131dB SPL (@ 1% THD into 1K) Signal/Noise Ratio: > 76dB (per IEC268-15) Power Requirements: Dedicated Power Supply (110 ~ 120V/220 ~ 240V, 50/60 Hz) Packed Weight 8.7kg (Mic only 1.044kg)
The Nuemann KM 184
The Nuemann KM 184 is one of Nuemann's least expensive mics as are the rest of the "Series 180" mics. The KM 184 mic is cardioid microphone that has become a standard within the sound engineers. It's available in either a matte black or nickel finish. It includes a folding box and windshield along with two stand mounts; 1 that connects to the body of the microphone and the other to the XLR connector.
The KM 184 is especially suitable for a very wide range of tasks in the radio and television. This mic really sounds good in situations for recording live and in the studio. It's great when you don't want to have off axis sound (or noise in this case) from entering the microphone. This is more of a directional mic and focus' more on a single sound source: think Announcer's mic for broadcasting. You can also use this microphone for drum overheads or miking any instrument/group using the XP or ORTF stereo pair positions. the KM 184 can also be used for close miking of strings, wind instruments, percussion, piano, guitar amps and other instruments.
อุปกรณ์บันทึกเสียง
Sadie LRX
SADIE LRX ซึ่งย่อมาจาก Location Audio Workstation เป็นอุปกรณ์ที่เหมาะสำหรับการบันทึกเสียงทั้งในและนอกสตูดิโอ เช่น การผลิตภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ หรือการผลิตสื่อสำหรับการเผยแพร่ชนิดอื่นๆเช่นการผลิต CD DVD ฯลฯ
ความยืดหยุ่นของ LRX อยู่ที่สามารถทำงานร่วมกับ เครื่องคอมพิวเตอร์พีซีทั้งโน๊ตบุ๊คและเดสท๊อปโดยใช้ปฎิบัติการ Window XP ผ่านทางพอร์ต USB2 คุณภาพการบันทึกที่ได้นั้น ดีเยี่ยมยอดเทียบเท่ากับการ์ด I/O ของเครื่องบันทึกเสียงมัลติแทรก SADIE รุ่น H64 (Multitrack Workstation)
จุดเด่นของ LRX อีกจุดก็คือ มีฮาร์ดแวร์คอนโทรล เพื่อควบคุมการทำงานบันทึกและแก้ไขได้อย่าสะดวกไม่ต่างไปจาก Digital Audio Workstation ระดับ High End อื่นๆ
พลังในการทำงานของ LRX คือการได้ฟังก์ชั่นการทำงานของซอฟแวร์ Sadie 5 ครบทั้งระบบ เช่น ? Time code และ Genlock ? วีดีโอสตรีม ซึ่งสามารถแคปเจอร์ทั้งภาพและเสียงสำหรับงาน ADR ? รองรับการแลกเปลี่ยนไฟล์ได้หลายฟอร์แมต ? ฮาร์ดดิสก์สำหรับเก็บข้อมูลต่างสามารถนำมาพ่วงต่อผ่านได้อย่างสะดวกผ่าน พอร์ต USB2 หรือพอร์ต Fire wire เพื่อทำ Mirror recording (ทำสำเนาไปพร้อมๆกันกับการบันทึก)
http://www.sadie.com/products/prod_lrx2.html TASCAM HD-P2 Portable High-Definition Stereo Audio Recorder
Answering the call of remote recording engineers, the TASCAM HD-P2 Portable High-Definition Stereo Audio Recorder is the professional solution for challenging live and on-location applications. Co-developed with Frontier Design Group, it records at up to 192 kHz/24-bit resolution to Compact Flash media, and its audio files are instantly available to DAWs through the built-in high-speed FireWire computer connection. Unlike consumer MP3 sketchpads, the professional HD-P2 incorporates high-end features
a SMPTE timecode input for synchronization to external devices while in record or playback. The user interface is designed for fast and intuitive use under stressful one-take-only situations, and its large, angled LCD is perfect for any application from over-the-shoulder location recording to concert recording and commercial use.
High-definition Recording, To GoThe HD-P2 records in stereo from 44.1 kHz to 192 kHz, at 16- or 24-bit, to affordable Compact Flash media. Not only is Compact Flash absolutely silent, so no transport noise will show up on your recording, but the recorded audio is written directly as Broadcast WAVE files for immediate use in digital audio workstations. The unit even includes a FireWire jack for the fastest possible transfer of files to your PC or Mac computer.
The professional design of the HD-P2 extends to convenient details that pro users will appreciate. The Retake button allows the user to delete the last recording and set up to re-record with a single button press. As audio is recorded, the file headers are continually re-saved to protect your recording against accidental data loss. Files can be named from the front panel interface or using a PS/2 keyboard, which can also be used to control transport and setup features.
On the input side, the unit has a pair of XLR mic inputs with phantom power and analog peak limiting to curb distortion during unpredictable live events. The input level control allows the user to change the level without taking their eyes off the action. The HD-P2 also features unbalanced RCA ins and outs as well as S/PDIF digital I/O. Monitoring is available through a headphone out - again, with its own ergonomic level control - using a built-in speaker. A built-in microphone is also provided for interviews and educational use.
Built-in Synchronization - Because Being On Time Shouldn't Have To Be An OptionTASCAM's HD-P2 comes standard with a full-featured time code input - making it the most affordable recorder with built-in time code ever made. Incoming LTC is connected to the locking XLR input for time stamping your Broadcast WAVE files from a central clock. Not only does the recorder timestamp your recorded audio with sample accuracy, the HD-P2 chases incoming time code during playback for review or loading into an editor. A video clock input allows frame edge resolve to a central black burst source or use as a lock-and-release time code slave. There's also a freewheel setting for use with unpredictable time code sources.
For maximum compatibility with the post production world, the HD-P2 supports pull-up and pull-down sample rates, even at high-resolution settings. The video clock input accepts tri-level sync for high-definition television production.
On Location, It's More Welcome Than The Craft Service TableThe shoulder-slung design of the HD-P2 with its included locking strap makes it a natural choice for film production recording. The Compact Flash media is safely recessed and latched to prevent accidental ejection, and audio can be recorded locked to timecode and video reference for absolute lock. It runs for approximately 5.5 hours on readily-available AA alkaline batteries, and weighs less than two pounds with batteries installed. At the end of the day, recordings can be instantly transferred to an editor through the FireWire jack or a CF reader for use in a non-linear editor to sync dailies or to conform dialog during post.
Precise recording quality for capturing a live performanceThe HD-P2?s 192kHz/24-bit recording resolution is so precise, you can almost hear what brand of cork was used for the conductor's baton. Its Compact Flash transport doesn't make any noise, so you don't need to worry about machine noise on the recording. The high-quality mic preamps provide phantom power to handle sensitive condenser microphones, and the analog limiter protects the recording against sudden transient distortion. With the high capacity of today's Compact Flash media, you might even be able to enjoy the performance without constantly watching the time remaining meter.
You don't need a union card to figure it outAlthough the HD-P2 was designed for demanding film shoots and live concerts, it's still simple and affordable enough for use in everyday classrooms, churches and home studios. School band and orchestra leaders can use it to record rehearsals for students, and then record concerts to sell for fundraising. House-of-worship leaders can record their services for duplication on CD, and its high-speed FireWire connection provides instant access to the recording, so that CDs can be authored and duplication can begin as the laity files out of the church.With professional connectivity, built-in synchronization, high-resolution recording and Compact Flash convenience, the HD-P2 is the professional solution for serious recording in a reliable, portable package.
HD-P2 Recording features:
Stereo recording to Compact Flash media
44.1kHz to 192kHz recording resolution at 16- or 24-bit
Time-stamped Broadcast WAVE file format is easily imported into DAW software and spotted into projects with sample accuracy
Retake button allows user to re-do last recording with a single button press
Audio files continually re-saved to safeguard against data loss
Comprehensive system and transport control from the front panel or a PS/2 keyboard
HD-P2 I/O features:
XLR mic inputs with phantom power and analog peak limiter
Unbalanced stereo RCA I/O
S/PDIF digital I/O
Headphone output
Built-in mono microphone and speaker for desktop interview applications
Analog level controls for easy operation without the need to look at the unit
FireWire interface for fast data transfer to a computer
HD-P2 Synchronization features:
SMPTE/LTC time code input on locking XLR balanced jack
Timestamps Broadcast WAVE recordings from SMPTE input
Chase locks to incoming SMPTE time code
Video clock input resolves to house clock
Tri-level sync support for HDTV applications
Includes Frame Lock, Lock and Release and flexible Freewheel settings for unpredictable time code sources
Pull-up and Pull-down sample rates included for video format compatibility
HD-P2 Convenience Features:
Familiar tape machine-style layout and function
Angled screen for table-top or shoulder strap use
Large, uncluttered LCD display
Shortcut keys and LED indicators for frequently-accessed functions
Recessed Compact Flash slot
Runs on (
readily available AA batteries or DC power adapter
Approximately 5.5 hours of operating time on battery power
10.25"W x 7.75"D x 2.5"H
< 2 lbs with batteries
ลำโพง Monitor
Genelecs 1029A
Genelec 1029A
The Genelec 1029A monitoring system is a compact close-field system featuring a high degree of accuracy and exceptionally wide dynamic range, incorporating Genelecs proprietary Directivity Control Waveguide Technology (DCW), the same as is found on Genelecs other highly successful monitoring systems, such as the legendary Genelec 1030 series of active monitors. Powered by a pair of precisely crafted 40-watt amplifiers, the Genelec 1029A monitors offer users a wide frequency response of 68 Hz - 20 kHz (2.5 dB) from a five-inch woofer and 3/4 hard-domed tweeter. In addition to extremely low harmonic distortion, the 1029A features a front-mounted volume control, and rear panel bass & treble tilt room response controls. The Genelec 1029A active monitors also incorporate a completely new housing design, contained within a compact (10 X 6 X 7.125-inches) diecast aluminum enclosure which offers users rugged construction for travel while also providing massive heat dissipation capability and excellent shielding against RF interference. Each speaker is also EM shielded for additional protection when used in close proximity to video
หูฟัง
Sennhesier HD650
Short Description
In the HD 650, audiophiles will experience truly unique natural sound. With sound this good, long concerts in the comfort of your home are a certainty, so the HD 650 also sets standards in comfort and convenience. The HD 650 is a genuine masterpiece, which will satisfy even the most demanding listener. HD 650 - the Reference Class..
Features
Top-of-the-range open, dynamic hi-fi stereo headphones
Systems with narrow tolerances (? 1 dB), hand-picked in pairs
High-quality titanium/silver finish
Specially developed acoustic silk for precise, uniform attenuation over the entire area
Specially modulated connecting cable (detachable) made from highly conductive OFC copper, Kevlar-reinforced, with very low handling noise, i.e. low structure-borne sound sensitivity
Specially modulated connecting cable (detachable) made from highly conductive OFC copper, Kevlar-reinforced, with very low handling noise, i.e. low structure-borne sound sensitivity
Can be directly connected to stationary hi-fi components of the highest quality, in particular SACD, DVD-A and CD players
Classic ll -- ?The Flagship Top-of-the-line Dual 1? Condenser Studio Valve MicrophoneThe Classic II is Rode's top-of-the-line studio condenser microphone. Classic by name and nature. Featuring a custom spec 1 in. dual diaphragm capsule feeding a vintage twin triode (New old stock) GE JAN-6072 valve and custom Jensen output transformer. The result? Classic warmth and richness on both vocals and acoustic instrumentsClassic ll -- ?The Flagship Top-of-the-line Dual 1? Condenser Studio Valve MicrophoneThe Classic II is Rode's top-of-the-line studio condenser microphone. Classic by name and nature. Featuring a custom spec 1 in. dual diaphragm capsule feeding a vintage twin triode (New old stock) GE JAN-6072 valve and custom Jensen output transformer. The result? Classic warmth and richness on both vocals and acoustic instruments.Features:9 polar patternsVariable pad and filterShock mountMachined from solid brass, the body is hand-polished, glass bead-blasted and coated in satin nickelAlso included -- double-shielded oxygen-free 30 ft. copper cable with heavy-duty plugs and sockets, power supply, a suspension shock mount, stand mount, thread adaptor and sturdy aluminium flight case
Technical Info
Capsule: Externally polarised dual diaphragm 25mm (1 in.) condenser Active Electronics: Thermionic impedance converter with bipolar output buffer Pickup Pattern: Switchable Omnidirectional / Cardioid / Figure-8 in 9 steps Frequency Response: 20 Hz-20 kHz High Pass Filter: Switchable: flat, -15dB @ 20Hz, -21dB @ 20Hz. Cascaded first-order filters Output Impedance: 200 ohmsSensitivity: -37dB re 1V/Pa (14mV @ 94dB SPL) +/-2dB Equivalent Noise: <18 dBA('A'-weighted per `IEC268-15) Maximum Output: +2dBu (@ 1% THD into 1K ohms) Dynamic Range: > 113dB (per IEC268-15) Maximum SPL: 131dB SPL(@ 1% THD into 1K ohms) Signal/Noise Ratio: > 76dB (per IEC268-15) Power Requirements: Dedicated Power Supply (110 ~ 120V/220 ~ 240V, 50/60 Hz) Packed Weight: 8.7kg (Mic only 1.44kg) Classic ll -- ?The Flagship Top-of-the-line Dual 1? Condenser Studio Valve MicrophoneThe Classic II is Rode's top-of-the-line studio condenser microphone. Classic by name and nature. Featuring a custom spec 1 in. dual diaphragm capsule feeding a vintage twin triode (New old stock) GE JAN-6072 valve and custom Jensen output transformer. The result? Classic warmth and richness on both vocals and acoustic instruments.Features:9 polar patternsVariable pad and filterShock mountMachined from solid brass, the body is hand-polished, glass bead-blasted and coated in satin nickelAlso included -- double-shielded oxygen-free 30 ft. copper cable with heavy-duty plugs and sockets, power supply, a suspension shock mount, stand mount, thread adaptor and sturdy aluminium flight case
Technical Info
Capsule: Externally polarised dual diaphragm 25mm (1 in.) condenser Active Electronics: Thermionic impedance converter with bipolar output buffer Pickup Pattern: Switchable Omnidirectional / Cardioid / Figure-8 in 9 steps Frequency Response: 20 Hz-20 kHz High Pass Filter: Switchable: flat, -15dB @ 20Hz, -21dB @ 20Hz. Cascaded first-order filters Output Impedance: 200 ohmsSensitivity: -37dB re 1V/Pa (14mV @ 94dB SPL) +/-2dB Equivalent Noise: <18 dBA('A'-weighted per `IEC268-15) Maximum Output: +2dBu (@ 1% THD into 1K ohms) Dynamic Range: > 113dB (per IEC268-15) Maximum SPL: 131dB SPL(@ 1% THD into 1K ohms) Signal/Noise Ratio: > 76dB (per IEC268-15) Power Requirements: Dedicated Power Supply (110 ~ 120V/220 ~ 240V, 50/60 Hz) Packed Weight: 8.7kg (Mic only 1.44kg)
