คือว่าคุณแม่ผมท่านเป็น
โรคไทรอยด์เป็นพิษ เพิ่งตรวจพบและเริ่มกินยารักษามาได้ 30 วันแล้วครับ
และด้วยความที่อยากรักษาคุณแม่ให้หาย ผมก็พยายามค้นหาข้อมูลก็ได้ความว่า
ต่อมธัยรอยด์เป็นพิษ Hyperthyroid คอพอกเป็นพิษ หมายถึงภาวะที่ต่อมธัยรอยด์สร้างฮอร์โมนออกมามากว่าปกติเป็นผลทำให้ร่างกายมีการเผาผลาญมากเกินไป
สาเหตุสำคัญของโรคคอพอกเป็นพิษที่เกิดจากต่อมคือ
- โรค Grave's disease เกิดภาวะที่มีภูมิไปกระตุ้นต่อมธัยรอยด์สร้างฮอร์โมนออกมามาก ผู้ป่วยจะมีต่อมธัยรอยด์โตทั้งต่อม
- โรค Toxic multinodular goiter หมายถึงภาวะที่ก้อน [nodule] ในต่อมธัยรอยด์ทำงานสร้างฮอร์โมนเพิ่มขึ้น อาจก้อนเดียว หรือหลายก้อน
- Thyroiditis ช่วงแรกของต่อมธัยรอยด์อักเสบจะมีอาการของคอพอกเป็นพิษ
ผู้ป่วยคอพอกเป็นพิษจะมีอาการดังนี้ อารมณ์แปรปรวน นอนไม่หลับ กล้ามเนื้ออ่อนแรง ตาโปน มือสั่น ใจสั่น เหนื่อยง่าย คอพอก ประจำเดือนผิดปกติ ขี้ร้อน น้ำหนักลดแม้ว่าจะรับประทานอาหารได้ดี ผิวหนังเปลี่ยนแปลง
อาการทางหัวใจ ได้แก่ หัวใจเต้นผิดปกติ หัวใจล้มเหล หรือกล้ามเนื้อหัวใจตายได้
การวินิจฉัย เมื่อเจาะเลือดพบว่า ค่า T3หรือ T4 สูง และค่า TSH ต่ำ และทำธัยรอยด์สแกน เพื่อดูว่าสภาพต่อมธัยรอยด์โตทั้งต่อม หรือ มีก้อนในต่อมธัยรอยด์ หรือเป็นต่อมธัยรอยด์อักเสบ
การรักษา การรักษามีได้หลายวิธีแพทย์จะพิจารณาจาก อายุ สภาพของผู้ป่วย ชนิดของคอพอกเป็นพิษ ความรุนแรงของโรค และการตัดสินใจของผู้ป่วย การรักษามีได้ 3 วิธี
1. การรับประทานยาเพื่อยับยั้งการสร้างและปล่อยฮอร์โมน เช่น PTU (Propylthiouracil),Methimazole, Carbimazole ( ไม่มีในไทย ) แต่หากเป็น Toxic multinodular goiter นั้น การทานยาจะเป็นการช่วยควบคุมอาการของผู้ป่วย แต่ไม่ได้รักษาให้หายขาด
2. การรักษาโดยกัมมันตรังสี เป็นการรับประทานน้ำแร่ radioactive iodineเมื่อผู้ป่วยรับประทานน้ำแร่เข้าไป ต่อมธัยรอยด์ก็จะรับ iodine ที่มีรังสีเข้าไป รังสีนี้จะทำลายเนื้อต่อมธัยรอยด์ แพทย์จะคำนวณขนาดยาที่เหมาะสม หากได้มากเกินไปจะเกิดภาวะต่อมธัยรอยด์ทำงานน้อยจำเป็นต้องได้รับยา thyroid hormone ไปตลอดชีวิต แต่ถ้าหากได้รับน้ำแร่น้อยไปผู้ป่วยยังคงเกิดอาการของต่อมธัยรอยด์เป็นพิษแต่รุนแรงน้อยลง แพทย์จะนัดให้ยาอีกครั้ง
3. การผ่าตัด ปัจจุบันการผ่าตัดพบว่ามีปัญหาแทรกซ้อนน้อยทำให้เป็นทางเลือกที่สำคัญในการรักษาทางหนึ่ง มีข้อบ่งชี้ดังนี้ รักษาด้วยยาไม่ได้ผล,ผู้ป่วยไม่สามารถทานยาได้สม่ำเสมอ,ต่อมขนาดใหญ่และไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยา,ผู้ป่วยอายุน้อย(จะได้ไม่ต้องทานยานาน),ผู้ป่วยมีอาการทางตา
4. ยาอื่น betablocker เช่น propanolol,atenolol,metoprolol เพื่อลดอาการของโรค
ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านต่อมไร้ท่อจะเป็นผู้พิจารณาการรักษาตามอาการและสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคของผู้ป่วยแต่ละคนค่ะ
หากมีอาการทางตา ควรสวมแว่นกันแดด ใส่น้ำยาหล่อเลี้ยงลูกตาและปิดตาโดยเทปให้สนิทเวลานอน ซึ่งอาจช่วยลดภาวะการบวมรอบตาด้วยในกรณีที่อาการไม่รุนแรง
การรักษาโดยทั่วไปแล้วต้องขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคที่เป็น ไม่สามารถกำหนดเวลาหายที่แน่นอนได้ค่ะ โดยทั่วไปแล้ว แพทย์ที่ทำการรักษาจะมีการให้ยาเพื่อทำการรักษา ผู้ป่วยต้องมีการติดตามการรักษาอย่างต่อเนื่อง และต้องติดตามผลเลือดเพื่อดูค่าการทำงานของต่อมไทรอยด์เป็นระยะๆ การรักษาหากผู้ป่วยปฎิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย พักผ่อนอย่างเพียงพอ ทำจิตใจให้สบาย รับประทานยาสม่ำเสมอ ติดตามการรักษาเป็นระยะๆ ผลเลือดจะสามารถกลับมาปกติได้โดยใช้เวลาไม่นาน จากนั้นแพทย์จะมีการปรับยาให้ตามความเหมาะสม แต่ผู้ป่วยจำเป็นต้องรับประทานยาต่อเนื่องเป็นระยะเวลาประมาณ 2 ปีแล้วแต่แพทย์พิจารณา เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำของโรคค่ะ ในส่วนของตาโปนหากผลเลือดกลับมาอยู่ในระดับปกติโดยทั่วไปอาการตาโปนจะดีขึ้นได้ค่ะ โรคนี้เป็นโรคที่ให้ความสำคัญกับการปฎิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ การรับประทานยาตามแผนการรักษา และการติดตามการรักษาค่ะ
จาก BangkokHealth ซึ่งผมสนใจการรักษาตาม ข้อ 2 คือ การรักษาโดยกัมมันตรังสี เป็นการรับประทานน้ำแร่
ค้นหาข้อมูลหลาย ๆ ที่ เห็นว่าเป็นการรักษาที่จะได้ผลมากที่สุด
แร่ ที่กลืน สำหรับคนที่เป็นไทรอยต์ ผมก็คิดว่าจะไปรักษาที่ จุฬา หรือที่ รามา
อยากจะรบกวนถามพี่หมอว่า
ที่รามามีคลีนิกพิเศษหลังเวลามั้ยครับ เพราะว่าถ้าไปรอคิวแต่เช้าก็สงสารคุณแม่น่ะครับ และไม่ทราบว่าถ้าผมจะเข้าไปติดต่อรักษาไทรอยด์ที่รามา ผมสามารถติดต่อคุณหมอท่านไหนได้บ้างครับ ผมพยายามค้นหาที่
โรงพยาบาลรามาธบดี ก็ไม่เจอ
และตอนนี้ไปเจอ
โรงพยาบาลเทพธารินทร์ เห็นว่ามีศุนย์ไทรอยด์เฉพาะทางด้วย ไม่ทราบว่าคุณหมอพอจะให้ความเห็นอย่างไรบ้างครับ