อิอิอิ ส่วนหนึ่งที่น่ารู้ สำหรับกำลังไฟฟ้า
ปรกติกำลังไฟฟ้ามีทังหมด 3 ประเภทครับคือ
1. กำลังปรากฏ S : VA หาได้จากสูตร ExI
2. กำลังใช้งานจริง P: Watt หาได้จากสูตร ExI cos(teta) เมื่อ Teta เป็นมุมระหว่างกระแสกับแรงดัน หาได้จาก มุมแรงดัน ลบด้วยมุมของกระแส
2. กำลังงานต้านกลับQ: VAR หาได้จากสูตร ExI sin(teta) เมื่อ Teta เป็นมุมระหว่างกระแสกับแรงดัน หาได้จาก มุมแรงดัน ลบด้วยมุมของกระแส
กำลังไฟฟ้าที่ส่งจ่ายให้อุปกรณ์ไฟฟ้าหนึ่ง ๆ นั้น ค่าเฉลี่ยเกิดจากผลรวมของแรงดันไฟฟ้าชั่วขณะ V(t) ที่ตกคร่อมอุปกรณ์นั้นอยู่กับกระแสไฟฟ้าชั่วขณะ I (t) ที่ไหลผ่านอุปกรณ์นั้น ๆ
S=P+jQ
S=รากที่2 ของ P^2+Q^2
โดยปกติกำลังไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้ากระแสสลับจะมี 2 ลักษณะ คือ
1. กำลังไฟฟ้าที่แรงดัน ( E ) และกระแส ( I ) เกิดขึ้นที่จุดเดียวกัน ( Inphase ) S=P= E . I หน่วย Watt (W), Q=0VAR
2. กำลังไฟฟ้าที่แรงดัน ( E ) และกระแส ( I ) เกิดที่มุมต่างกัน (out off phase or phase difference ) แบ่งออกเป็นสามชนิด คือ
2.1 กำลังไฟฟ้าจริง ( Ture Power ) ExI cos(teta) เป็นกำลังใช้งานที่ทำให้เกิดพลังงานหรือเกิดงานที่ใช้ภายในวงจร จะใช้อักษร P เป็นผลมาจากค่าของแรงดันกับกระแสที่ไหลและมุมต่างเฟสที่เกิดขึ้น หน่วย Watt (W)
2.2 กำลังไฟฟ้าปรากฏ ( Apparent Power ) ExI เป็นกำลังไฟฟ้าที่จ่ายให้แก่วงจร และเป็นผลให้เห็นกำลังไฟฟ้านี้จากค่าของแรงดันและกระแสจะใช้อักษรย่อ S หน่วย Volt Amp . (VA)
2.3 กำลังไฟฟ้าต้านกลับ (Reactive Power ) ExI sin(teta) เป็นกำลังไฟฟ้าที่สูญเสียไปในวงจร ซึ่งไม่ได้ให้กำลังงานหรือพลังงาน ให้อักษรย่อ Q หน่วย VARS (VAR)
สามเหลี่ยมกำลังไฟฟ้า ( Power Triangle )
จากกำลังไฟฟ้าที่สูญสัมพันธ์ของกำลังไฟฟ้าทั้งสามจะสามารถเขียนแสดงค่าทางตรีโกณมิติได้ จะได้เป็นสามเหลี่ยมมุมฉาก ซึ่งเรียกว่า สามเหลี่ยมกำลังไฟฟ้า
![yes Y]](https://www.htg2.club/Smileys/default/57.gif)