HTG2.club

ผลงานและประสบการณ์ DIY หม้อแปลง

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้



ออฟไลน์ prasan

  • ...Back to the Basic...
  • Superstar...
  • ****
    • กระทู้: 5,086
    • เพศ:ชาย
ลวดทองแดงที่ผมใช้อยู่มีตามนี้ครับ
- Dia.(mm) เป็นเส้นผ่าศูนย์กลางของลวดที่ผมวัดรวมฉนวนแล้วครับ
- พิกัดการทนกระแสผมคิดที่ค่าความหนาแน่นกระแส 1800 Amp. ต่อพื้นที่หน้าตัดของเส้นลวด 1 ตารางนิ้วครับ
"I haven't failed. I've found 10,000 ways that don't work." - Thomas Edison
"Anyone who has never made a mistake has never tried anything new." - Albert Einstein


ออฟไลน์ พ่อน้องเปรียว

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,303
  • งดสร้างแอมป์ชั่วคราว
คุณPrasan พอจะโพสท์ตารางขนาดลวดที่ใช้เป็นประจำได้หรือเปล่าครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขนาดที่ใช้กับ Sec. ไฟสูงครับ
* "อนาถา" มันมีสเน่ห์ตรงไหนนะ * 
 I=E/R # V=IR  # R =V/I # P=IV #
เราออกแบบและสร้างแบบนี้? ต้องให้คะแนน
Aesthetic=ความงามหรือสุนทรียะ
Function=ประโยชน์ใช้สอย
Ergonomic=ความเหมาะสมกับสรีระผู้ใช้
Safety=ความปลอดภัยในการใช้งาน
Durable=ทนทาน
Maintainance=ง่ายต่อการซ่อมบำรุง
Cost=ราคาเหมาะสม


ออฟไลน์ prasan

  • ...Back to the Basic...
  • Superstar...
  • ****
    • กระทู้: 5,086
    • เพศ:ชาย
มอเตอร์หมุนกระจกรถยนต์ครับนำมาดัดแปลงให้ต่อกับก้านหมุนของที่พันลวด เป็น DC มอเตอร์ครับ ปรับรอบด้วยการปรับแรงดันไฟที่จ่ายให้กับมอเตอร์ครับ ผมตั้งใจว่าจะเอาไว้ใช้พันลวดที่เส้นเล็กๆ แล้วใช้รอบต่ำๆ ผมทดสอบแรงดึงขณะที่รอบต่ำๆ แล้วใช้ได้ครับแต่ว่าผมยังไม่ได่ใช้งานจริงซักทีครับ
"I haven't failed. I've found 10,000 ways that don't work." - Thomas Edison
"Anyone who has never made a mistake has never tried anything new." - Albert Einstein


ออฟไลน์ Ra

  • *****
    • กระทู้: 690
    • เพศ:ชาย
พี่ prasan ครับ
พี่ใช้ motor รอบช้า(ไม่รู้เรียกถูกป่าว) ใช้กี่รอบ/นาทีนะครับ..หรือใช้แบบปรับรอบได้ช่วยบอกแหล่งหาซื้อให้หน่อยครับ.ตอนนี้ผมก็เริ่มจาก หม้อแปลงจุดใส้หลอดได้2-3ลูกแล้วครับ
ขอบคุณมากครับอ้ออีกอย่างครับ รบกวนขอPM ร้านที่ขายพวกอุปกรณ์หม้อแปลงเช่น เหล็ก,ลวด ฯลฯตอนนี้ยังใช้ของที่แกะจากหม้อแปลงเก่าๆอยู่นะครับ.จะลองพันไฟสูงดูครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
ระ


ออฟไลน์ prasan

  • ...Back to the Basic...
  • Superstar...
  • ****
    • กระทู้: 5,086
    • เพศ:ชาย
ขอความรู้ในเรื่องการพันอย่างไรไม่ให้ลวดแตกออกจากกลุ่มครับ เพราะพันทีไรลวดที่อยู่ด้านล่างโดยเฉพาะเส้นขอบๆชอบที่จะแตกกลุ่มออกมาครับ

ผมใช้กาวแห้วเร็วอาจจะเป็นตราช้างหรือยี่ห้ออื่นครับหยอดให้ลวดติดกับฉนวนที่รองระหว่างชั้นลวดครับ กาวนี้ไม่ทำลายฉนวนของเส้นลวดครับ ที่ใช้งานมายังไม่พบว่ามีปัญหาครับ ระวังนิดอย่าให้กาวที่หยอดลงไปเป็นหยดอยู่ที่จุดเดียวเพราะว่ามันจะทำให้เวลารองฉนวนแล้วมันจะนูนพอพันลวดต่อไปแล้วลวดก็จะนูนไปด้วยครับ นอกจากจะไม่สวยแล้วยังมีผลต่อการเรียงเส้นลวดให้ชิดกันด้วยครับ

ดีเลยครับ  จัด Home stage มีพี่ ๆ น้อง ๆ ไปช่วยกัน  น่าจะได้ความรู้เพิ่มอีกเยอะครับ ที่โคราชจัดไม่ได้ เอาเป็นคุณ prasan เปิดมินิฯ  ก็ดีครับ

เอาอย่างนี้เลยหรือครับพี่มุมคนรักหลอด แบบว่าผมเองชั่วโมง (บิน) OPT ยังน้อยอยู่ครับเกรงว่าจะพาไปหลงทางครับพี่  ;D แต่ถ้าในสิ่งที่ผมรู้ผมไม่หวงหรอกครับพี่ผมยินดีมากเลย
"I haven't failed. I've found 10,000 ways that don't work." - Thomas Edison
"Anyone who has never made a mistake has never tried anything new." - Albert Einstein


ออฟไลน์ สุรศักดิ์

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,234
    • เพศ:ชาย
แสดงว่าคุณใช้ Bobbin แบบไม่มีขอบใช่ไม๊ครับ? เวลาผมใช้ Bobbin แบบไม่มีขอบ พอพันถึงรอบท้ายๆ ประมาณ 5-10 รอบสุดท้ายของชั้น ผมจะตัดเทปกาวยาวประมาณ 3-4cm และพัน 5-10 รอบสุดท้ายของชั้นแรกทับลงไปบนเทปด้านที่เป็นกาวครับ พอถึงรอบสุดท้ายก็พับเทปกาวทับกลับมาบนขดลวดแล้วเริ่มพันชั้นต่อไปครับ หรือจะรองฉนวนก่อนพันชั้นต่อไปก็ได้ ทำแบบนี้ทั้ง 4 ด้านแล้วเทปกาวจะช่วย Lock ไม่ให้ลวดด้านล่างแตกกลุ่มครับ พอจะขึ้นชั้น 3 ก็ทำแบบนี้อีกไปเรื่อยๆ ครับ  :)
ขอบคุณครับ ผมก็ใช้แบบนี้อยู่ครับ อาจเป็นเพราะความห่วยของฝีมือผมครับ ทำให้ต้องพบปัญหาอย่างนี้เรื่อยไป ยังงัยแล้วจะเพิ่มความปราณีตขึ้นมาอีก อาจดูเรียบร้อยขึ้นครับ


ออฟไลน์ Mr. Tube

  • Admin
  • Super Star.
  • *****
    • กระทู้: 2,839
ขอความรู้ในเรื่องการพันอย่างไรไม่ให้ลวดแตกออกจากกลุ่มครับ เพราะพันทีไรลวดที่อยู่ด้านล่างโดยเฉพาะเส้นขอบๆชอบที่จะแตกกลุ่มออกมาครับ

แสดงว่าคุณใช้ Bobbin แบบไม่มีขอบใช่ไม๊ครับ? เวลาผมใช้ Bobbin แบบไม่มีขอบ พอพันถึงรอบท้ายๆ ประมาณ 5-10 รอบสุดท้ายของชั้น ผมจะตัดเทปกาวยาวประมาณ 3-4cm และพัน 5-10 รอบสุดท้ายของชั้นแรกทับลงไปบนเทปด้านที่เป็นกาวครับ พอถึงรอบสุดท้ายก็พับเทปกาวทับกลับมาบนขดลวดแล้วเริ่มพันชั้นต่อไปครับ หรือจะรองฉนวนก่อนพันชั้นต่อไปก็ได้ ทำแบบนี้ทั้ง 4 ด้านแล้วเทปกาวจะช่วย Lock ไม่ให้ลวดด้านล่างแตกกลุ่มครับ พอจะขึ้นชั้น 3 ก็ทำแบบนี้อีกไปเรื่อยๆ ครับ  :)


ออฟไลน์ LOUIS

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,091
สงสัยงานนี้ต้องเกิดแน่ๆเลยครับ Output Transformer แบบ Paper in Oil  เสียงต้องหวานแน่ๆเลย :clap  :clap :clap


ออฟไลน์ TOM

  • Superstar...
  • ****
    • กระทู้: 4,169
    • เพศ:ชาย
  • Less is More

ออฟไลน์ มุมคนรักหลอด

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,004
    • เพศ:ชาย
ดีเลยครับ  จัด Home stage มีพี่ ๆ น้อง ๆ ไปช่วยกัน  น่าจะได้ความรู้เพิ่มอีกเยอะครับ ที่โคราชจัดไม่ได้ เอาเป็นคุณ prasan เปิดมินิฯ  ก็ดีครับ


ออฟไลน์ prasan

  • ...Back to the Basic...
  • Superstar...
  • ****
    • กระทู้: 5,086
    • เพศ:ชาย
ผมกำลังเตรียมการพัน OPT เพื่อทดสอบการพันแบบ interleave โดยให้ขด sec. อยู่ชั้นแรกกับชั้นสุดท้ายแทนที่จะเป็น prim. ได้ผลอย่างไรแล้วจะมาแชร์ประสบการณ์ครับและจะลองใช้กระดาษรองระหว่างชั้นแทนที่จะใช้ Mylar อยากจะลองอีกอย่างคือเอาไปจุ่มในน้ำมันหม้อแปลง (อย่าง SHELL Diala AX) แล้วทดลองว่าเสียงจะออกแนว PIO capacitor หรือเปล่า และถ้าไม่ขี้เกียจซะก่อนอยากจะพันอีกแล้วเอาไปอบให้ร้อนแล้วจุ่มลงในขี้ผึ้งแท้ๆ ที่ต้มจนเหลว อยากรู้จังว่าเสียงจะเป็นอย่างไร ????????
"I haven't failed. I've found 10,000 ways that don't work." - Thomas Edison
"Anyone who has never made a mistake has never tried anything new." - Albert Einstein


ออฟไลน์ TOM

  • Superstar...
  • ****
    • กระทู้: 4,169
    • เพศ:ชาย
  • Less is More
เปิดสอนหน่อยครับ .........  เอาแบบพันกันให้เห็นจริงเลยครับ ทั้ง OT PT Inter stage..............  :drive1
<a href="http://www.htg2.net/index.php?topic=45230.0/" target="_blank" > ข้อมูลนาย TOM (ฒอม)  ต้อม [/url]


ออฟไลน์ ยุทธ

  • ผู้สนับสนุน web
  • Super Star.
  • *
    • กระทู้: 2,420
  • D.I.Y.
ขอความรู้ในเรื่องการพันอย่างไรไม่ให้ลวดแตกออกจากกลุ่มครับ เพราะพันทีไรลวดที่อยู่ด้านล่างโดยเฉพาะเส้นขอบๆชอบที่จะแตกกลุ่มออกมาครับ
ง่ายที่สุดพันชั้นแรกแล้วใช้วานิชเคลือบ แต่มีหลายท่านไม่ชอบวานิช สำหรับผมไม่ตั้งข้อรังเกียจวานิชแต่ต้องใช้แบบแห้งในอากาศโดยไม่ต้องอบ สีใสใช้งานง่ายและมีความหนืดค่อนข้างน้อยเมื่อเทมาใช้ใหม่ๆ ทำให้แทรกซึมเข้าไปได้ดีมากเท่าที่พันมาหูผมฟังไม่ออกว่าใช้กับไม่ใช้วานิชเสียงมันแตกต่างกันหรือไม่
ข้อมูลติดต่อ
http://www.htg2.net/index.php?topic=32816.0


ออฟไลน์ prepiag

  • ****
    • กระทู้: 439
 :D   :D  :D  :D  :D  :D  :D  :D  :D  :D  :D  :D  :D  :D  :D  :D  :D  :D  :D  :D  :D  :D  :D  :D  :D  :D  :D  :D  :D.......... :giveup
                                                                                                             prepiag


ออฟไลน์ สุรศักดิ์

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,234
    • เพศ:ชาย
ถ้าท่านใด้จะลองพันเองผมแนะนำว่าควรพันเรียงเส้นและรองฉนวนทุกชั้น อย่าลืมนะครับ เราทำ เราใช้เอง๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐   :secret :secret
จากที่ผมลองพันเองพบว่า หากรองฉนวนทุกชั้นจะพันแบบเรียงเส้นง่ายกว่าแบบไม่รองฉนวนครับ ท่านอื่นว่าอย่างไรครับ


ออฟไลน์ PajoneC

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,370
    • เพศ:ชาย
    • สนุกกับการได้ทำ ทำในสิ่งที่ชอบ
ไม่ทราบว่าหลายๆ ท่านคิดหรือทำเหมือนผมไหม เพราะผมคิดว่า โอกาสที่หม้อแปลง มันจะ Breakdown ข้ามขดมีโอกาสสูงมากเหมือนกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งขดไฟสูง ถ้าเราพันไม่ดี ฉนวนของลวดถลอก แน่นอนครับมีโอกาสสูงที่เดี่ยวที่หม้อแปลงและอุปกรณ์เราจะพังได้ สำหรับผม ซึ่งผมพันหม้อแปลงใช้เอง ถึงแม้จะเป็นหม้อแปลงไฟสูงหรือต่ำ ผมจะพันแบบเรียงเส้น แม้จะเสียเวลามากก็ตาม และรองฉนวนทุกชั้น เพราะถ้ามันจะ Breakdown ข้ามขดจริงๆ ก็ข้ามเพียงไม่กี่รอบ และแรงดันไม่เปลี่ยนแปลงมาก เท่าที่ทดลองใช้งานผมพบว่าหม้อแปลงที่ผมพันไม่สั่นไม่คราง ไม่ร้อน ถึงแม้จะลองไม่เคลือบด้วยวานิชก็ตาม ถ้าท่านใด้จะลองพันเองผมแนะนำว่าควรพันเรียงเส้นและรองฉนวนทุกชั้น อย่าลืมนะครับ เราทำ เราใช้เอง๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐   :secret :secret


ออฟไลน์ สุรศักดิ์

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,234
    • เพศ:ชาย
ขอความรู้ในเรื่องการพันอย่างไรไม่ให้ลวดแตกออกจากกลุ่มครับ เพราะพันทีไรลวดที่อยู่ด้านล่างโดยเฉพาะเส้นขอบๆชอบที่จะแตกกลุ่มออกมาครับ


ออฟไลน์ Somtick

  • อนุลักษณ์ของเก่า(หลอดสูญญากาศ)
  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,648
    • เพศ:ชาย
แสดงว่าแรงดันระหว่างขดก็ต้องพึ่งระวังไว้ในหม้อแปลงไฟสูงๆ ได้ความรู้เพิ่มอีกหนึ่งข้อครับ
ข้อความส่วนตัว ===> http://www.htg2.net/index.php?topic=16461.0


ออฟไลน์ Mr. Tube

  • Admin
  • Super Star.
  • *****
    • กระทู้: 2,839
พอจะแนะนำฉนวนระหว่างชั้น Pri. กับฉนวนระหว่าง Pri.กับ Sec. ให้หน่อยครับ
ถ้าจะใช้กระดาษควรเลือกใช้ชนิดไหนดีครับ   ขอบคุณครับ. :)

ผมไม่ทราบว่าคุณ Louis จะเอาไปใช้กับแรงดันสูงขนาดไหนและลักษณะขดลวดเป็นอย่างไร ผมแนะนำไม่ถูกครับ คงบอกได้แค่ว่าให้มันทนแรงดันที่จะใช้ได้น่ะครับ

ส่วนเรื่องการเลือกใช้กระดาษนั้น อันที่จริงแล้วผมรู้จักกระดาษที่ใช้ในงานหม้อแปลงจริงๆ แค่ 2-3 ชนิดครับ ผมไม่สามารถแนะนำเป็นเรื่องเป็นราวได้ เฉพาะที่พบขายกันทั่วไปในบ้านเราเป็นกระดาษสีน้ำตาลเคลือบพลาสติกด้านหนึ่ง ซึ่งผมไม่ชอบใช้นักครับ เมื่อก่อนผมจะใช้กระดาษลอกลายและกระดาษห่อพัสดุครับ ซื้อได้ตามร้านเครื่องเขียนทั่วไปครับ แต่เมื่อ 2 ปีก่อนได้ เพื่อนผมส่งกระดาษชนิดหนึ่งมาให้จาก Hongkong บอกว่าใช้พันหม้อแปลง ผมก็เลยใช้กระดาษนี้มาตลอดครับ ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไรในภาษาไทยครับ เค้าก็เรียกแค่ Long Fiber Craft Paper ครับ ฉีกเอาไปลองถามร้านแถวคลองถมดูก็ไม่รู้จักกันครับ ลักษณะเป็นกระดาษสีน้ำตาลอ่อน บางๆ เทียบเนื้อกระดาษแล้วดูเป็นระเบียบกว่ากระดาษสีน้ำตาลเคลือบพลาสติกที่ขายกันตามร้านหม้อแปลงทั่วไปครับ และสีอ่อนกว่า เนื้อกรอบกว่าด้วย ถ้าเพื่อนๆ ทราบว่าหาได้ที่ไหนหรือเรียกว่าอะไรรบกวนแจ้งให้ทราบด้วยครับ   :bowdown


ออฟไลน์ Mr. Tube

  • Admin
  • Super Star.
  • *****
    • กระทู้: 2,839
  จากข้อคาวมของคุณMr. tube ควรรองฉนวนทุกชั้นครับเพราะว่าผมเองในการพันตอนแรกๆพันยังไงก็ไม่สวย แต่ผมยังไม่เข้าใจในส่วนที่ว่าแรงดันระหว่างขดนะครับมันมีผลเสียกับหม้อไหมครับ

มีครับ กรณีถ้าแรงดันระหว่าง Pri และ Sec สูงมากๆ เช่นคุณต่อ B+ 1000V และเอา Sec ลงกราวด์ ก็แตกต่างกัน 1000V มีโอกาศที่ไฟจะรั่วผ่านฉนวนจาก Pri ไป Sec ครับ อย่างแรกเลยถือว่าหม้อแปลงเสียหายแล้ว อย่างที่ 2 คืออาจจะพาอย่างอื่นไปนรกด้วยครับ เช่นลำโพง, หม้อแปลงจ่ายไฟ, Diode, หรืออาจจะแค่ Fuse เป็นต้น :D

กรณีลวดในขดเดียวกัน Short กัน โดยมากจะเรียกว่า Short รอบครับ กรณีนี้ส่วนที่ Short จะดึงกระแสมหาศาลลวดจะร้อนจนฉนวนหมดสภาพหรือลวดขาดครับ หม้อแปลงก็เสียหายไปครับ

สรุปก็คือถ้าแรงดันระหว่างขดสูงจนเกิดการ Short กันขึ้นในกรณีไดๆ ข้างต้น ก็ถือว่าหม้อแปลงเสียครับ  :)


ออฟไลน์ LOUIS

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,091
และฉนวนก็ควรจะทนแรงดันระดับที่ว่านี้ได้

พอจะแนะนำฉนวนระหว่างชั้น Pri. กับฉนวนระหว่าง Pri.กับ Sec. ให้หน่อยครับ
ถ้าจะใช้กระดาษควรเลือกใช้ชนิดไหนดีครับ   ขอบคุณครับ. :)


ออฟไลน์ พ่อน้องเปรียว

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,303
  • งดสร้างแอมป์ชั่วคราว
รบกวนถามพี่ประสานครับ ถ้าจะพันหม้อแปลงขดไฟสูง ที่มี center trap สำหรับวงจรฟูลเวฟ เช่น 350-0-350 ทำไงครับให้ไฟออกมาเท่ากันทั้งสองซีกครับ ผมเคยลองทดลองพันโดยใช้ โวลท์ต่ำๆก่อน แต่ผลออกมาไฟกับออกไม่เท่ากันครับ ช่วยแนะเพื่อเป็นวิทยาทานหน่อยครับ

ฟังเพลง


เพราะขดแรกกับขดหลังใช้ลวดยาวไม่เท่ากันนะซิครับ ถ้าให้เท่ากันก็พันเส้นคู่เลย มันก็จะมีปลาย 4 จุด A-B-C-D แล้วรวบตรงกลางเข้าหากันเป็น A(350) BC(0) D(350) ตำราบอกไว้ครับอยู่ในห้องดาวน์โหลด
เห็นด้วยกับ พ่อน้องเปรียว ครับ เคยเรียนมาแบบนี้เหมือนกันแต่ไม่เคยพันสักที

ตำราและทฤษฎีถูกต้อง พอตอนผมทำมั่ง ไหม้ภายในสามวันเจ็ดวันครับ เหม็นมากๆ กลิ่นวานิชไหม้นี่ ละลายติดกันเป็นก้อนแข็งแกะเอาอะไรคืนไม่ได้ ผมก็เลยแขวนไว้ไล่นกที่กิ่งขนุนหน้าบ้านครับ
* "อนาถา" มันมีสเน่ห์ตรงไหนนะ * 
 I=E/R # V=IR  # R =V/I # P=IV #
เราออกแบบและสร้างแบบนี้? ต้องให้คะแนน
Aesthetic=ความงามหรือสุนทรียะ
Function=ประโยชน์ใช้สอย
Ergonomic=ความเหมาะสมกับสรีระผู้ใช้
Safety=ความปลอดภัยในการใช้งาน
Durable=ทนทาน
Maintainance=ง่ายต่อการซ่อมบำรุง
Cost=ราคาเหมาะสม


ออฟไลน์ Somtick

  • อนุลักษณ์ของเก่า(หลอดสูญญากาศ)
  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,648
    • เพศ:ชาย
รบกวนถามพี่ประสานครับ ถ้าจะพันหม้อแปลงขดไฟสูง ที่มี center trap สำหรับวงจรฟูลเวฟ เช่น 350-0-350 ทำไงครับให้ไฟออกมาเท่ากันทั้งสองซีกครับ ผมเคยลองทดลองพันโดยใช้ โวลท์ต่ำๆก่อน แต่ผลออกมาไฟกับออกไม่เท่ากันครับ ช่วยแนะเพื่อเป็นวิทยาทานหน่อยครับ

ฟังเพลง


  ผมก็เคยเจอปัญหานี้เหมือนกันครับ คือผมพันจำนวนรอบไม่เท่ากัน พักหลังๆผมจึงใช้วิธีของคุณประสานครับ คือพัน 320 - 0 แล้วจึงพัน 0- 320 ผลออกมาเท่ากันครับ
ข้อความส่วนตัว ===> http://www.htg2.net/index.php?topic=16461.0


ออฟไลน์ Somtick

  • อนุลักษณ์ของเก่า(หลอดสูญญากาศ)
  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,648
    • เพศ:ชาย
"อย่างไรก็ตามการรองฉนวนที่หนาพอสมควรจะทำให้พันเรียงเส้นชั้นต่อไปได้ง่ายกว่าไม่รองครับ ช่วง 6-7 ปีหลังมานี้ก็เลยพยายามจะรองฉนวนตลอดครับ"

"มีหมายเหตุสำหรับผู้ที่คิดว่าจะทดลองพันโดยไม่รองฉนวนครับ ประการแรกระวังเรื่องลวดถลอกครับ ถ้าคุณหักลวดแล้วครั้งหนึ่งก็ไม่ควรหักที่เดิมอีกครับ พวกฉนวนอย่าง Polyuretane จะถลอกค่อนข้างง่ายครับ และให้ระวังเรื่องแรงดึงที่รอบแรกและรอบสุดท้าย (ขอบ Bobbin) ถ้าคุณดึงแรงมากไปใน layer หลังๆ จนลวดยุบลงไปติดกับ layer แรก แรงดันแตกต่างระหว่างลวดอาจจะมากเกินค่าที่ลวดทนได้ครับ" 

  จากข้อคาวมของคุณMr. tube ควรรองฉนวนทุกชั้นครับเพราะว่าผมเองในการพันตอนแรกๆพันยังไงก็ไม่สวย แต่ผมยังไม่เข้าใจในส่วนที่ว่าแรงดันระหว่างขดนะครับมันมีผลเสียกับหม้อไหมครับ
ข้อความส่วนตัว ===> http://www.htg2.net/index.php?topic=16461.0


ออฟไลน์ Somtick

  • อนุลักษณ์ของเก่า(หลอดสูญญากาศ)
  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,648
    • เพศ:ชาย
ถามเรื่องการพันหม้อแปลงไฟ ว่าการพันแบบแยกขด pri กับ sec กับการพันแบบ พัน pri ก่อนแล้วค่อยพัน sec ทับตามลงไป แบบใหนมีประสิทธิภาพดีกว่ากันครับ

    ผมเคยพันแล้วลูกหนึ่งประสิทธิภาพเท่ากันครับ ผมลองถามคนที่เขาพันมาก่อนเขาก็บอกว่าไม่ช่วยเท่าไหร แถมยังบอกมาว่าระวังไฟรั้วระหว่างขดด้วย ลูกที่ผมพันคือพันขดPrimaryครึ่งหนึ่งก่อน แล้วพันSecandaryจนครบจำนวนรอบ แล้วจึงพันขดPrimaryอีกครึ่งที่เหลือ
ข้อความส่วนตัว ===> http://www.htg2.net/index.php?topic=16461.0


ออฟไลน์ Mr. Tube

  • Admin
  • Super Star.
  • *****
    • กระทู้: 2,839
สังสัยการคำนวณค่าแรงดันระหว่างขดครับ

คือถ้าแอมป์ผมใช้แรงดัน 1300V  OPT ผม Pri. มี 7 ชุด  แต่ละชุดของไพมารี่มี 3 ชั้น  DCR รวมของไพมารี่ 300 Ohm จะคำนวณแรงดันระหว่างขดยังไงอ่ะครับ ???

ขอบคุณครับ.

คุณ Louis ต้องคำนวณหา Volt per turn มาก่อนครับ ซึ่งค่านี้คำนวณจาก Max AC ที่ Swing บน Primary ครับ ซึ่งคุณสามารถมาค่านี้ได้จากการ Plot บน Plate Curve กรณีคุณ Louis ใช้ B+ 1300V ในวงจร SE ผมไม่ทราบว่าใช้กับหลอดอะไร แต่ Max AC Swing on Primary น่าจะไม่ต่ำกว่า 2000V ครับ แต่จะเผื่อไว้เต็ม 2600V เลยก็ได้ตามทฤษฎี สมมุติคุณพัน Primary ไป 5200 รอบ ก็เท่ากับว่า V per turn = 2600/5200 = 0.5V/turn.

ทีนี้มาดูที่ขดลวดกันครับ สมมุติ 1 layer ของคุณพันได้ 100 รอบ ถ้าคุณพัน 2 layer (ไป และ กลับ บน Bobbin) ก็จะทำให้รอบที่ 1 กับรอบที่ 200 มีโอกาสที่แรงดันจะต่างกันได้ 0.5x200 = 100V ก็ค่อยประเมินดูว่ามีโอกาส Short ข้ามขดรึเปล่า? ถ้ามีก็รองฉนวนครับ อันที่จริงแล้วค่า 100V นี้ ผมมักจะเผื่อไว้เป็น 1.5-2.0เท่าตัว ก็คือถือว่ามีความเป็นไปได้ที่จะถึง 150-200V ผลออกมาเช่นนั้นก็หมายความว่าควรจะรองฉนวนทุกชั้นเพื่อความปลอดภัยทั้งของหม้อแปลงและผู้ใช้ครับ และฉนวนก็ควรจะทนแรงดันระดับที่ว่านี้ได้ :) :bye1


ออฟไลน์ Mr.Q

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,935
รบกวนถามพี่ประสานครับ ถ้าจะพันหม้อแปลงขดไฟสูง ที่มี center trap สำหรับวงจรฟูลเวฟ เช่น 350-0-350 ทำไงครับให้ไฟออกมาเท่ากันทั้งสองซีกครับ ผมเคยลองทดลองพันโดยใช้ โวลท์ต่ำๆก่อน แต่ผลออกมาไฟกับออกไม่เท่ากันครับ ช่วยแนะเพื่อเป็นวิทยาทานหน่อยครับ

ฟังเพลง


เพราะขดแรกกับขดหลังใช้ลวดยาวไม่เท่ากันนะซิครับ ถ้าให้เท่ากันก็พันเส้นคู่เลย มันก็จะมีปลาย 4 จุด A-B-C-D แล้วรวบตรงกลางเข้าหากันเป็น A(350) BC(0) D(350) ตำราบอกไว้ครับอยู่ในห้องดาวน์โหลด
เห็นด้วยกับ พ่อน้องเปรียว ครับ เคยเรียนมาแบบนี้เหมือนกันแต่ไม่เคยพันสักที


ออฟไลน์ LOUIS

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,091


อันที่จริงแล้วเรื่องรองฉนวนระหว่างชั้นจะขึ้นกับค่าแรงดันระหว่างขดที่ติดกันครับ ไม่ค่อยจะเกี่ยวกับว่าใช้กับแรงดันสูงแค่ไหนครับ ช่างที่ผมสนิทด้วยเค้าประมาณค่าเอาไว้ที่ 80V สำหรับลวด 1 ชั้นและ 150V สำหรับลวด 2 ชั้นครับ ถ้าคิดค่าแรงดันระหว่างลวดที่ติดกันแล้วได้มากกว่าค่านี้ ก็ควรจะใช้ฉนวนมารองครับ ซึ่งกับ EI / C Core OPT ที่เคยพันมา โดยมากค่า V per Turn ก็จะน้อยมาก ไม่ถึง 1V/Turn ครับ ถ้าพันเรียงเส้นและคิดรอบที่ติดกันแล้วอย่างมากก็ 50V ครับ (อันนี้กรณีเฉพาะที่ผมออกแบบนะครับ) อย่างไรก็ตามการรองฉนวนที่หนาพอสมควรจะทำให้พันเรียงเส้นชั้นต่อไปได้ง่ายกว่าไม่รองครับ ช่วง 6-7 ปีหลังมานี้ก็เลยพยายามจะรองฉนวนตลอดครับ



สังสัยการคำนวณค่าแรงดันระหว่างขดครับ

คือถ้าแอมป์ผมใช้แรงดัน 1300V  OPT ผม Pri. มี 7 ชุด  แต่ละชุดของไพมารี่มี 3 ชั้น  DCR รวมของไพมารี่ 300 Ohm จะคำนวณแรงดันระหว่างขดยังไงอ่ะครับ ???

ขอบคุณครับ.


ออฟไลน์ Mr. Tube

  • Admin
  • Super Star.
  • *****
    • กระทู้: 2,839
ถามเรื่องการพันหม้อแปลงไฟ ว่าการพันแบบแยกขด pri กับ sec กับการพันแบบ พัน pri ก่อนแล้วค่อยพัน sec ทับตามลงไป แบบใหนมีประสิทธิภาพดีกว่ากันครับ

กรณีหม้อแปลงจ่ายไฟนะครับ แบบแยก Pri/Sec เป็น Section จะดีกว่าครับ แต่ไม่ได้ดีกว่าด้านประสิทธิภาพนะครับ ดีกว่าในแง่ความปลอดภัยและเรื่องสัญญาณรบกวนครับ เรื่องประสิทธิภาพก็จะขึ้นกับ Core loss / Copper loss ซึ่งต้องมาดูก่อนว่าหม้อแปลงเป็น Step-down หรือ Step-up ด้วยครับ จึงจะพอเห็นแนวโน้ม ส่วนเรื่องความปลอดภัยนั้น พอทำการแยกขด Pri/Sec ออกจากกัน โอกาส Short ระหว่างขดก็ลดลง และค่า C ระหว่างขดลวดก็ลดลงด้วย ทำให้โอกาสในการที่สัญญาณรบกวนความถี่สูงที่เข้ามาทาง Pri จะหลุดไปโผล่ที่ Sec ลดลงครับ  :)


ออฟไลน์ Mr. Tube

  • Admin
  • Super Star.
  • *****
    • กระทู้: 2,839
เพราะขดแรกกับขดหลังใช้ลวดยาวไม่เท่ากันนะซิครับ ถ้าให้เท่ากันก็พันเส้นคู่เลย มันก็จะมีปลาย 4 จุด A-B-C-D แล้วรวบตรงกลางเข้าหากันเป็น A(350) BC( 0 ) D(350) ตำราบอกไว้ครับอยู่ในห้องดาวน์โหลด


ตามที่ผมเข้าใจ คุณพ่อน้องเปรียวหมายถึงว่าลวด 1 ปลาย A-B กับลวด 2 ปลาย C-D พันคู่กันไป แล้วเอา B ต่อ C ได้เป็น 350-0-350 ถูกไม๊ครับ?

กรณีแรงดันต่ำๆ (<50V) น่าจะพอทำเช่นนี้ได้ครับ แต่กรณีแรงดันสูงๆ ต้องระหว่างว่าที่ปลาย A จะมีแรงดันต่างจากปลาย BC อยู่ถึง 350V และเนื่องจากคุณพ่อฯ พันลวดคู่กันมา เพราะฉะนั้นจะเกิดแรงดันแตกต่างระหว่างลวดที่ติดกันถึง 350V ทีนี้ก็ต้องมาดูที่ลวดแล้วละว่าทนได้รึเปล่าครับ ซึ่งถ้าเป็นลวด AIW/EIW ที่ผมกล่าวมาตอนต้น น่าจะทนไม่ได้และมีโอกาส Short รอบครับ  :bye1


ออฟไลน์ Mr. Tube

  • Admin
  • Super Star.
  • *****
    • กระทู้: 2,839
ได้โปรดเถิดครับ อย่าเรียก "พี่" เลยครับผมอายุยัง (เหลือ) น้อยครับ  ;D ;D

ผมยังไม่เคยเจอปัญหาแบบนี้ครับ ถ้าพันได้รอบเท่ากันแรงดันเอซีที่ออกมาต้องเท่ากันครับ ลองตรวจสอบดูอีกทีนะครับ แต่ค่า DCR ของลวดไม่เท่ากันแน่ถ้าเรายังใช้วิธีการพันขดชุดแรกก่อน เช่น ขด 350-0 แล้วพันออกขด คือ 0-350 ทับกัน ซึ่งบางตำรา (RDH 4th) บอกว่าการพันแบบนี้จะมีค่าแรงดันกระเพื่อม (Ripple) สูงกว่าการพันแบบให้ได้ค่า DCR เท่ากันทั้งสองข้างซึ่งจะต้องพันแบบใช้ Bobbin ประกบกัน 2 อันเหมือนกับ Bobbin ที่ใช้พันหม้อแปลงแบบแยกขด Prim. กับ Sec ครับ

เห็นด้วยกับคุณ prasan เรื่องรอบเท่ากันแรงดันที่ได้ก็ต้องเท่ากันครับ แต่เฉพาะที่ No Load นะครับ กรณีที่ขดลวดมี DCR ต่างกันมากหรือจ่ายกระแสมากๆ Copper Loss ของ 2 ขดจะต่างกัน และได้แรงดันต่างกันด้วย แต่ถ้ารอบเท่ากันแล้วก็ควรจะต่างกันแค่เล็กน้อย 1-5% เท่านั้นครับ ขึ้นกับตัวแปรต่างๆ

อ้างถึง
RDH 4th อีกนั่นแหละแนะไว้ว่าถ้าจะให้ดีขดของหม้อแปลงที่จะไปใช้จุดไส้หลอด Rectifier กรณีเป็นหลอด Rectifier แบบ Direct Heat จะต้องพันแบบมีเซ็นเตอร์แล้วเอาจุดเซ็นเตอร์นี้แหละเป็นจุดต่อออกไปภาคฟิลเตอร์ ผมเองยังไม่เคยลองครับ ถ้าได้พันหม้อแปลงเพาเวอร์อีกจะลองดูครับ

เฉพาะกรณีหลอด Direct Heat Rectifier นะครับ โดยส่วนตัวแล้วผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับ RDH 4th เท่าไหร่ในประเด็นนี้ครับ ในแง่ของการ Filter แล้วมันทำให้ Filter ได้ง่ายขึ้นเพราะ Hum ไส้หลอด Rectifier ถูก Cancel กันเกือบหมดในขดลวด เหลือแต่ Ripple ของไฟสูงเท่านั้นที่ต้องกรอง แต่ในแง่ของหม้อแปลงแล้ว Ripple ที่ไหลกลับเข้าไปทางขดจ่ายไส้หลอด จะไปรบกวนและ Modulate กันในหม้อแปลงอีกรอบครับ  ;)


ออฟไลน์ Mr. Tube

  • Admin
  • Super Star.
  • *****
    • กระทู้: 2,839
            อืม......ผมสงสัยอยู่เล็กน้อยครับว่า ต้องไฟซักสูงขนาดใหนครับ?? เราถึงจำเป็นควรต้องรองด้วยฉนวนระหว่างชั้น??

ผมเคยพยายามหาค่ามาตรฐานด้านแรงดัน แต่ก็ไม่พบครับ พบแต่เรื่องอุณหภูมิครับ ถ้าใครทราบรบกวนแจ้งด้วยครับ

ส่วนมากเวลาผมซื้อลวดมาพันหม้อแปลง ก็จะคุยกับผู้ขายแค่ฉนวน 1 ชั้นหรือ 2 ชั้นครับ (AIW/EIW) ซึ่ง 2 ชั้นจะทนแรงดันและอุณหภูมิได้มากกว่า 1 ชั้นครับ แต่ก็จะได้ รอบต่อชั้น หรือ turn per layer น้อยลงครับ

ดูมาตรฐานทางอุณหภูมิได้ที่นี่ครับ http://www.hitachicable.com.sg/EW_gen_info.htm

อันที่จริงแล้วเรื่องรองฉนวนระหว่างชั้นจะขึ้นกับค่าแรงดันระหว่างขดที่ติดกันครับ ไม่ค่อยจะเกี่ยวกับว่าใช้กับแรงดันสูงแค่ไหนครับ ช่างที่ผมสนิทด้วยเค้าประมาณค่าเอาไว้ที่ 80V สำหรับลวด 1 ชั้นและ 150V สำหรับลวด 2 ชั้นครับ ถ้าคิดค่าแรงดันระหว่างลวดที่ติดกันแล้วได้มากกว่าค่านี้ ก็ควรจะใช้ฉนวนมารองครับ ซึ่งกับ EI / C Core OPT ที่เคยพันมา โดยมากค่า V per Turn ก็จะน้อยมาก ไม่ถึง 1V/Turn ครับ ถ้าพันเรียงเส้นและคิดรอบที่ติดกันแล้วอย่างมากก็ 50V ครับ (อันนี้กรณีเฉพาะที่ผมออกแบบนะครับ) อย่างไรก็ตามการรองฉนวนที่หนาพอสมควรจะทำให้พันเรียงเส้นชั้นต่อไปได้ง่ายกว่าไม่รองครับ ช่วง 6-7 ปีหลังมานี้ก็เลยพยายามจะรองฉนวนตลอดครับ

มีหมายเหตุสำหรับผู้ที่คิดว่าจะทดลองพันโดยไม่รองฉนวนครับ ประการแรกระวังเรื่องลวดถลอกครับ ถ้าคุณหักลวดแล้วครั้งหนึ่งก็ไม่ควรหักที่เดิมอีกครับ พวกฉนวนอย่าง Polyuretane จะถลอกค่อนข้างง่ายครับ และให้ระวังเรื่องแรงดึงที่รอบแรกและรอบสุดท้าย (ขอบ Bobbin) ถ้าคุณดึงแรงมากไปใน layer หลังๆ จนลวดยุบลงไปติดกับ layer แรก แรงดันแตกต่างระหว่างลวดอาจจะมากเกินค่าที่ลวดทนได้ครับ  :)


ออฟไลน์ sotus

  • มีเรื่องถามชมพู่
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,062
    • เพศ:ชาย
ถามเรื่องการพันหม้อแปลงไฟ ว่าการพันแบบแยกขด pri กับ sec กับการพันแบบ พัน pri ก่อนแล้วค่อยพัน sec ทับตามลงไป แบบใหนมีประสิทธิภาพดีกว่ากันครับ
อยากรู้จักผมตาม link เลย
http://www.htg2.net/index.php?topic=54264.0


ออฟไลน์ Mr. Tube

  • Admin
  • Super Star.
  • *****
    • กระทู้: 2,839
- ฉนวนที่ใช้รองระหว่างแต่ละชั้นของลวด ผมใช้วัสดุอยู่ 2 อย่างคือ กระดาษสีน้ำตาลที่ด้านหนึ่งเคลือบด้วยวัสดุคล้ายพลาสติก (คนขายเค้าบอกว่าเป็นไมลาร์ จริงหรือเปล่าผมไม่ทราบครับ) บางคนอาจจะเรียกว่ากระดาษคร๊าฟ (Craft paper) วัสดุชนิดนี้ผมเห็นว่าไม่เหมาะกับงานพัน OPT เนื่องจากจะทำให้ค่า Capacitance ของขดลวดมีค่าสูงเพราะว่ากระดาษมีค่าคงตัวของสารไดอิเลกทริคสูงกว่าวัสดุพวกไมลาร์  กระดาษสีน้ำตาลผมมักจะเอามาเป็นกระดาษชั้นนอกสุดที่ใช้เก็บงานให้ดูเรียบร้อย และถ้าจะใช้กับการฉนวนระหว่างชั้นของลวดผมจะใช้กับหม้อแปลง Power หรือกับโช๊คภาคจ่ายไฟ

ข้อนี้ขอแย้งสักเล็กน้อยครับ

กระดาษแห้งจะมีค่า k หรือ Dielectric constant ประมาณ 2.0-2.2 ครับ ขึ้นกับชนิดของกระดาษ ในขณะที่ mylar (polyester film) จะมีค่า k ไม่ต่ำกว่า 3.1 ครับ (บางตำราเขียนไว้ 3.1-4.3 ทีเดียวครับ) ผมคิดว่าที่คุณ prasan พันแล้วได้ค่า c มากขึ้นเมื่อใช้กระดาษเป็นฉนวนรองนั้น ฉนวนอาจจะไม่ใช่ปัจจัยหลักครับ

อย่างไรก็ตาม กระดาษที่คุณ prasan ใช้นั้น เป็นกระดาษเคลือบ mylar ซึ่งน่าจะมีค่า k แตกต่างไปจากกระดาษแห้งที่ผมอ้างอิงข้อมูลมาครับ แต่ผมก็ยังคิดว่าค่า k ไม่น่าจะสูงกว่า mylar เพียวๆ ได้นะครับ

http://www.asiinstr.com/technical/Dielectric%20Constants.htm

สำหรับผมเอง จะชอบใช้กระดาษ (ไม่เคลือบ mylar) รองระหว่างชั้นในขดลวดครับ เป็นเหตุผลทางด้านเสียงครับ ไม่เกี่ยวกับวัสดุศาสตร์ แต่ระหว่างขดลวดจะใช้พวก mylar ครับ ซึ่งเป็นเหตุผลทางวัสดุศาสตร์เพราะที่ความหนาเท่ากัน mylar จะทนแรงดันระหว่างขดได้สูงกว่าครับ  :)

--กลับมาอ่านแล้วก็นึกได้ว่าลืมหมายเหตุเรื่อง กระดาษอาจจะมีปัญหากับการใช้งานในพื้นที่ที่ความชื้นสูงๆ ได้นะครับ อันที่จริงบ้านเราก็ถือว่าความชื้นสูงในทุกพื้นที่อยู่แล้ว โดยเฉพาะจังหวัดชายทะเล ยังไงก็พิจารณาเรื่องนี้ด้วยนะครับ ก่อนเลือกใช้ฉนวน เมื่อก่อนผมจะใช้ Epoxy ป้ายตามตะเข็บที่ความชื้นเข้าไปได้ แต่หลังๆ เห็นว่าไม่เคยเจอปัญหาก็เลยไม่ได้ทำแล้วครับ  ;)--
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19 สิงหาคม, 2006, 03:06:37 pm โดย Mr. Tube »


ออฟไลน์ Diy Project Seeker ©

  • Admin
  • Super Star.
  • *****
    • กระทู้: 2,204
    • เพศ:ชาย
เป็นกระทู้ที่ยอดเยี่ยมจริงๆครับ ทำให้อยากลองพันดูเองมั่ง   :clap  :clap :clap c) c)


ออฟไลน์ พ่อน้องเปรียว

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,303
  • งดสร้างแอมป์ชั่วคราว
รบกวนถามพี่ประสานครับ ถ้าจะพันหม้อแปลงขดไฟสูง ที่มี center trap สำหรับวงจรฟูลเวฟ เช่น 350-0-350 ทำไงครับให้ไฟออกมาเท่ากันทั้งสองซีกครับ ผมเคยลองทดลองพันโดยใช้ โวลท์ต่ำๆก่อน แต่ผลออกมาไฟกับออกไม่เท่ากันครับ ช่วยแนะเพื่อเป็นวิทยาทานหน่อยครับ

ฟังเพลง


เพราะขดแรกกับขดหลังใช้ลวดยาวไม่เท่ากันนะซิครับ ถ้าให้เท่ากันก็พันเส้นคู่เลย มันก็จะมีปลาย 4 จุด A-B-C-D แล้วรวบตรงกลางเข้าหากันเป็น A(350) BC(0) D(350) ตำราบอกไว้ครับอยู่ในห้องดาวน์โหลด
* "อนาถา" มันมีสเน่ห์ตรงไหนนะ * 
 I=E/R # V=IR  # R =V/I # P=IV #
เราออกแบบและสร้างแบบนี้? ต้องให้คะแนน
Aesthetic=ความงามหรือสุนทรียะ
Function=ประโยชน์ใช้สอย
Ergonomic=ความเหมาะสมกับสรีระผู้ใช้
Safety=ความปลอดภัยในการใช้งาน
Durable=ทนทาน
Maintainance=ง่ายต่อการซ่อมบำรุง
Cost=ราคาเหมาะสม


ออฟไลน์ prasan

  • ...Back to the Basic...
  • Superstar...
  • ****
    • กระทู้: 5,086
    • เพศ:ชาย
พันลวด OPT เสร็จแล้วครับมาเรื่องการต่อขดลวดครับ

ผมได้เล่าไปตั้งแต่ต้นๆ แล้วว่าถ้าเราอยากได้ค่า C น้อย ก็ให้พิจารณาเรื่องวัสดุที่จะนำมาใช้ การแบ่งออกเป็นเซกชั่น ความเห็นของผมถ้าใช้แกนใหญกว่าขนาด 38 mm น่าจะแบ่งเป็น 2 เซกชั่นและอีกอย่างที่จะทำได้คือการต่อลวดระหว่างแต่ละ Interleave ก็จะช่วยในเรื่องค่า C ของลวดได้ จากพื้นฐานของตัวเก็บประจุนั่นเองครับ ลองดูรูปครับแล้วจะเข้าใจ เป็นตัวอย่างของการต่อลวดที่พันแบบ Interleave 6:5 ครับ สรุปคือ ชั้นเลขคี่ต่อกับชั้นเลขคี่ก่อน (เพื่อเพิ่มระยะ d) แล้วต่อชั้นเลขคู่กับชั้นเลขคู่ เสร็จแล้วก็ต่อชั้นเลขคี่กับชั้นเลขคู่

พิจาณาข้อมูล OPT ที่ผมพันดูนะครับ

ถ้าจะออกแบบ OPT ใหม่ก็อย่าลืมนะครับว่า ต้องไม่ให้เส้นแรงแม่เหล็กที่เกิดขึ้น ซึ่งก็คือเส้นแรงแม่เหล็กจากกระแสตรงและเส้นแรงแม่เหล็กที่เกิดจากสัญญาณ (เอซี) สูงเกินกว่าที่แกนเหล็กจะรับได้  กลับมาแล้วค่อยมาลองดูกันครับ ง่วงนอนแล้วครับ  :)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19 สิงหาคม, 2006, 04:07:55 am โดย prasan »
"I haven't failed. I've found 10,000 ways that don't work." - Thomas Edison
"Anyone who has never made a mistake has never tried anything new." - Albert Einstein


ออฟไลน์ prasan

  • ...Back to the Basic...
  • Superstar...
  • ****
    • กระทู้: 5,086
    • เพศ:ชาย
ต่อเรื่องวัสดุ อุปกรณ์ครับ

ถ้าดูจากรูปที่ผม post จะเห็นว่ามีหลายอย่างที่จะต้องใช้ ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ถุงมือครับ จำเป็นมากกกกก ผมเลือกใช้ถุงมือยางที่มีขายตามซุปเปอร์มาร์เก็ต ผมลองมาหลายยี่ห้อแต่ได้ยี่ห้อ... มีสีเหลืองเป็นยางนิ่มๆ เวลาจับลวดจะไม่ลื่นทำให้สามารถดึงลวดได้ตึงแต่ว่าไม่ใช่ไม่เจ็บนิ้วนะครับ เจ็บเหมือนกันครับแต่ก็ยังดีกว่าไม่ใส่ถุงมืออย่างนี้เจ็บมากกว่าครับ

ลวดทองแดงผมใช้ลวดเกรดมาตรฐานทั่วไปที่มีขายตามร้ายขายอุปกรณ์ซ่อมมอเตอร์ครับ สำหรับลวดเยอรมันผมไม่มีความเห็นครับ เป็นว่าผมจะพยายามควบคุมค่าต่างๆ ให้ได้ตามที่ผมต้องการด้วยวัสดุที่หาซื้อได้ใกล้บ้านๆ ถ้าท่านใดมีประสบการณ์เกี่ยวลวดเยอรมันช่วยเล่าให้ฟังบ้างนะครับ

กาวแห้งเร็วก็จำเป็นครับใช้ติดตามขอบ ตามมุมของชั้นลวดเพื่อกันลวดหลุดจากชั้น เฉพาะลวดที่อยู่ขอบนอกเท่านั้นนะครับหรืออาจจะใช้บริเวณอื่นก็ได้ครับ แต่มีข้อระวังครับหยอดกาวลงลวดแล้วกาวแห้งถ้าจะดึงลวดออกจากกาวที่ติดแห้งแล้วอาจจะทำให้วานิชที่เคลือบลวดอยู่หลุดออกมาได้ครับ แนะนิดนึงครับนอกจากจะติดที่มุมของขดลวดทั้งสี่มุมแล้วควรหยอดกาวที่กึ่งกลางระหว่างแต่ละมุมด้วยครับ

วานิชสำหรับผมเห็นว่าที่อาจจะต้องทาวานิชก็คือ ขดที่อยู่ติดกับ Bobbin ครับเนื่องจากว่าเท่าที่ผมพันมาโอกาสที่ชั้นที่ติดกับ Bobbin จะหย่อนมามีถ้าเราพันชั้นอื่นๆ ทับไปหลายๆ ชั้นแล้วสาเหตุก็เนื่องมาจากชั้นแรกๆ จะสัมผัสกับ Bobbin ที่ขอบเหลี่ยมของ Bobbin เส้นลวดที่ดึงระหว่างเหลี่ยมหนึ่งไปยังอีกเหลี่ยมหนึ่งของ Bobbin มักจะไม่แนบกับหน้าของ Bobbin จุดนี้เองที่จะเกิดการพองขึ้นมาได้ โดยฉพาะ Bobbin ที่ทำจากกระดาษเหลี่ยมของกระดาษอาจจะยุบตัวเมื่อพันลวดชั้นอื่นๆ แนะอีกนิดถ้าใช้ Bobbin กระดาษหลังจากที่ประกอบกระดาษเป็นกล่อง Bobbin แล้วให้ใช้เล็บหรือไม้บรรทัดก็ได้ครับลบเหลี่ยมทิ้งซะก่อนที่มันจะสร้างปัญหาให้เราต่อไป

สำคัญมากๆ ครับการพันลวดชั้นแรกๆ มักจะเจอปัญหาลักษณะนี้พยายามจัดการให้ดีแล้วชั้นต่อๆ ไปจะดีตามไปด้วย

ถ้าห่วงเรื่องค่า C ของขดลวดก็ไม่ต้องเอาไปจุ่มวานิชครับเพราะว่าวานิชเป็นสารไดอิเลกทริกที่แทรกอยู่ระหว่างชั้นของขดลวดทำให้ค่า C สูงกว่าการไม่ทา/จุ่มวานิช ผมจึงพยายามดึงลวดให้ตึงทุกรอบและอีกอย่างแผ่นไมลาร์ที่ผมใช้กั้นระหว่างชั้นของลวดจะมีความฝืดดังนั้นถ้าเราดึงลวดให้ตึงและเรียงให้ชิดแต่ละรอบผมว่าน่าจะเพียงพอที่จะไม่ทา/จุ่มวานิชทั้งหมด อีกบริเวณที่ผมจะทาวานิชก็คือ ขอบด้านนอกของขดลวดที่พันเสร็จแล้วทั้งสองข้าง วัตถุประสงค์ของผมคือป้องกันความชื้นที่จะเข้าไปในขดลวดทำให้ค่าความต้านทานของฉนวนลดลง ถ้าเราเอาไปใช้งานกับแรงดันไฟสูงๆ อาจจะทำให้เกิดการเบรกดาวน์ (ไฟชอร์ต) ได้

แค่นี้ก่อนครับเรื่องวัสดุ ถ้ามีอื่นๆ ที่น่าสนใจจะนำมาเล่าใหม่ครับ
"I haven't failed. I've found 10,000 ways that don't work." - Thomas Edison
"Anyone who has never made a mistake has never tried anything new." - Albert Einstein


ออฟไลน์ prasan

  • ...Back to the Basic...
  • Superstar...
  • ****
    • กระทู้: 5,086
    • เพศ:ชาย
ได้โปรดเถิดครับ อย่าเรียก "พี่" เลยครับผมอายุยัง (เหลือ) น้อยครับ  ;D ;D

ผมยังไม่เคยเจอปัญหาแบบนี้ครับ ถ้าพันได้รอบเท่ากันแรงดันเอซีที่ออกมาต้องเท่ากันครับ ลองตรวจสอบดูอีกทีนะครับ แต่ค่า DCR ของลวดไม่เท่ากันแน่ถ้าเรายังใช้วิธีการพันขดชุดแรกก่อน เช่น ขด 350-0 แล้วพันออกขด คือ 0-350 ทับกัน ซึ่งบางตำรา (RDH 4th) บอกว่าการพันแบบนี้จะมีค่าแรงดันกระเพื่อม (Ripple) สูงกว่าการพันแบบให้ได้ค่า DCR เท่ากันทั้งสองข้างซึ่งจะต้องพันแบบใช้ Bobbin ประกบกัน 2 อันเหมือนกับ Bobbin ที่ใช้พันหม้อแปลงแบบแยกขด Prim. กับ Sec ครับ

RDH 4th อีกนั่นแหละแนะไว้ว่าถ้าจะให้ดีขดของหม้อแปลงที่จะไปใช้จุดไส้หลอด Rectifier กรณีเป็นหลอด Rectifier แบบ Direct Heat จะต้องพันแบบมีเซ็นเตอร์แล้วเอาจุดเซ็นเตอร์นี้แหละเป็นจุดต่อออกไปภาคฟิลเตอร์ ผมเองยังไม่เคยลองครับ ถ้าได้พันหม้อแปลงเพาเวอร์อีกจะลองดูครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19 สิงหาคม, 2006, 02:54:18 am โดย prasan »
"I haven't failed. I've found 10,000 ways that don't work." - Thomas Edison
"Anyone who has never made a mistake has never tried anything new." - Albert Einstein


ออฟไลน์ Help !!!

  • Guest (บุคคลทั่วไป)
  • Superstar...
  • *
    • กระทู้: 5,866
  • Please Help Thanks
รบกวนถามพี่ประสานครับ ถ้าจะพันหม้อแปลงขดไฟสูง ที่มี center trap สำหรับวงจรฟูลเวฟ เช่น 350-0-350 ทำไงครับให้ไฟออกมาเท่ากันทั้งสองซีกครับ ผมเคยลองทดลองพันโดยใช้ โวลท์ต่ำๆก่อน แต่ผลออกมาไฟกับออกไม่เท่ากันครับ ช่วยแนะเพื่อเป็นวิทยาทานหน่อยครับ

ฟังเพลง
กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่เพื่อนๆที่ยังไม่ได้สมัครสมาชิกฝากถามมา ก็ขอความอนุเคราะห์จากเพื่อนๆสมาชิก ช่วยตอบให้ด้วยนะคร๊าบผม...ขอบคุณมั่กๆครับ...


ออฟไลน์ santi

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,822
    • เพศ:ชาย
  • ปล่อยให้ดนตรีนำพา
   ผมก็เจอปัญหานี้เหมือนกัน ผมกำลังหาแกนที่มันทำง่ายๆอยู่ครับ แล้วไม้ที่ว่านี้หาซื้อได้ที่ไหนครับ 
ตามร้านเครื่องเขียนทั่วไปครับ บอกเขาว่า "ไม้ฉลุ" (ฉะ-หลุ) บางร้านมี MDF 3 ม.ม. ขายด้วย
แต่คิดว่าขัดแต่งยากกว่าไม้ฉลุครับ


ออฟไลน์ Somtick

  • อนุลักษณ์ของเก่า(หลอดสูญญากาศ)
  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,648
    • เพศ:ชาย
"ตรงนี้สำคัญครับ ต้องให้ Bobbin สวมกับกล่องไม้นี้ให้แน่นพอดีเลยนะครับไม่เช่นนั้นพอพันลวดอาจจะทำให้ Bobbin โย้เวลาจะเอาไปใส่แกนเหล็กจะใส่ไม่สนิท"
 
   ผมก็เจอปัญหานี้เหมือนกัน ผมกำลังหาแกนที่มันทำง่ายๆอยู่ครับ แล้วไม้ที่ว่านี้หาซื้อได้ที่ไหนครับ 
ข้อความส่วนตัว ===> http://www.htg2.net/index.php?topic=16461.0


ออฟไลน์ prasan

  • ...Back to the Basic...
  • Superstar...
  • ****
    • กระทู้: 5,086
    • เพศ:ชาย
แกนไม้สี่เหลี่ยมเอาไว้สวมกับ Bobbin เช่นเดียวกับของคุณ Somtick แหละครับ ต่างกันตรงที่ผมทำจากไม้ฉลุที่นักเรียนเค้าใช้เลื่อฉลุเจาะทำงานฝีมือ ตัดให้ได้ขนาดที่จะให้สวมกับ Bobbin ได้พอดี ยึดไม้ให้เข้ากันเป็นกล่องด้วยกาวแห้งแร็ว (บางคนจเรียกว่ากาวตราช้าง) ทดลองสวมกับ Bobbin ถ้าแน่นไปให้ขัดออกด้วยกระดาษทรายหรือถ้าหลวมให้ตัดกระดาษแล้วสอดเข้าไประหว่าง Bobbin กับกล่องไม้นี้

ตรงนี้สำคัญครับ ต้องให้ Bobbin สวมกับกล่องไม้นี้ให้แน่นพอดีเลยนะครับไม่เช่นนั้นพอพันลวดอาจจะทำให้ Bobbin โย้เวลาจะเอาไปใส่แกนเหล็กจะใส่ไม่สนิท

ดูลักษณะการใช้งานตามรูปนี้ครับ
"I haven't failed. I've found 10,000 ways that don't work." - Thomas Edison
"Anyone who has never made a mistake has never tried anything new." - Albert Einstein


ออฟไลน์ Somtick

  • อนุลักษณ์ของเก่า(หลอดสูญญากาศ)
  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,648
    • เพศ:ชาย
ผมเห็นแกนไม้สี่เหลี่ยมเอาไว้พันแกนแบบไม่มีขอบใช้ไม้อะไรทำครับ ส่วนของผมใช้เศษไม้แล้วมาเจาะรูตรงกลาง ต้องกลึงให้มันเท่ากัน
ข้อความส่วนตัว ===> http://www.htg2.net/index.php?topic=16461.0


ออฟไลน์ LOUIS

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,091
มาเล่าให้ฟังครับ

เดิมๆ 845 ผมรันที่ 1000V / 75mA ใช้ OPT 5K เป็นวงจรแบบ FixBias สามารถปรับเพิ่มลด VBias ได้ครับ

วันที่ลองผมได้ลองต่อ OPT เบอร์3 เข้าไปแทน OPT ตัวเดิมของผม

พอได้ลองฟัง สัมผัสแรก(ด้วยความเคยชินกับเครื่องตัวเอง) ผมรู้สึกได้ทันที ว่าเสียงแหลมจาก OPTของพี่ประสานไปได้ไกลกว่าของผมพอสมควรเลย(จุดนี้ผมชอบมากครับ) แต่เสียงโดยรวมยังออกแห้งๆ เสียงเบสไม่มีน้ำหนักเท่าไหร่ ทั้งๆที่ OPT ตัวนี้มี Inductance ถึง 45 Henry แต่ OPTของผมมี 30 Henry และเมื่อเร่งวอลุ่มมากขึ้นออกอาการเสียงพร่าๆเล็กน้อย ตรงนี้ผมยังงงๆอยู่เลยว่าเกิดจากสาเหตุอะไร :D แต่พี่ประสานบอกว่าแกนเหล็กอิ่มตัว  
ผมได้ลองพยายามปรับ เพิ่ม-ลด ไบอัสของ 845 อาการที่ว่าก็ยังไม่หาย เราเลยเปลี่ยนไปฟัง OPT เบอร์ 2 ซึ่งใช้เหล็ก RG9 กันครับ

OPTเบอร์2 เสียงแหลมก็ยังไปได้ดีกว่าของผมอีกตามเคย :cry2 แต่ตัวนี้เสียงแหลมยังสู้ตัวแรกไม่ได้เหมือนกัน เสียงกลางและเสียงเบสก็ Okดีไม่มีปัญหาเหมือนตัวแรก
เสียงดูมีเนื้อหนังกว่าของผม แต่เสียงเบสผมว่า OPT ของผมยังฟังดีกว่าเล็กๆครับ :whistling (เข้าข้างตัวเองซะงั้น  ;D ) อาจเป็นที่ OPT ของพี่ประสานยังไม่ได้ใช้งานเลยเสียงเลยอาจจะยังไม่เข้าที่

หมดมุขแล้วครับเอาแค่นี้แล้วกัน.. :bye1
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17 สิงหาคม, 2006, 02:38:11 am โดย LOUIS »


ออฟไลน์ prasan

  • ...Back to the Basic...
  • Superstar...
  • ****
    • กระทู้: 5,086
    • เพศ:ชาย
จากข้อมูลที่ได้จาก RDH 4th ผมเห็นว่าเป็นการสรุปที่น่าสนใจมากและก็ยึดเป็น Concept ในการพัน OPT ลองดูในรูปนะครับ

Fig.5.10B เป็นวงจรสมมูลย์ของ OPT ต่อการตอบสนองต่อความถี่ต่ำ สิ่งที่จะต้องทำคือ พัน OPT แล้วค่า DCR ต่างๆ จะต้องต่ำ ค่า L ของขดลวดจะต้องสูง
Fig.5.10C เป็นวงจรสมมูลย์ของ OPT ต่อการตอบสนองต่อความถี่กลาง สิ่งที่จะต้องทำคือ พัน OPT แล้วค่า DCR ต่างๆ จะต้องต่ำ
Fig.5.10D เป็นวงจรสมมูลย์ของ OPT ต่อการตอบสนองต่อความถี่สูง สิ่งที่จะต้องทำคือ พัน OPT แล้วค่า DCR ต่างๆ จะต้องต่ำ ค่า Leakage inductance จะต้องต่ำและค่า C ของขดลวดจะต้องต่ำ

สังเกตมั๊ยครับว่าค่า DCR ไปมีผลต่อการตอบสนองความถี่ทุกระดับเลย นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ผมพยายามเลือกแกนเหล็กขนาดใหญ่เพื่อที่ผมจะสามารถใช้ลวดเส้นใหญ่พันได้ OPT ยี่ห้อดังๆ ผมเคยดู Spec เค้าใช้ลวดเส้นเล็กแต่ใช้การพันคู่หรือที่เค้าเรียกกันว่า Bifila ครับ ผมว่ามันโหดเกินไปสำหรับผมที่จะพันแบบนั้นไม่เอาดีกว่า  ;D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17 สิงหาคม, 2006, 02:32:12 am โดย prasan »
"I haven't failed. I've found 10,000 ways that don't work." - Thomas Edison
"Anyone who has never made a mistake has never tried anything new." - Albert Einstein


ออฟไลน์ prasan

  • ...Back to the Basic...
  • Superstar...
  • ****
    • กระทู้: 5,086
    • เพศ:ชาย
            อืม......ผมสงสัยอยู่เล็กน้อยครับว่า ต้องไฟซักสูงขนาดใหนครับ?? เราถึงจำเป็นควรต้องรองด้วยฉนวนระหว่างชั้น??
อันนี้ผมเองก็ไม่ทราบครับ จะลองไปหาข้อมูลดูว่าฉนวนของลวดทองแดงทนแรงดัน AC ได้เท่าไรแล้วจะมาแจ้งให้ทราบครับ แต่ถ้าเป็นแรงดัน DC ถ้าในโรงงงานผมทดสอบค่าความต้านทานของฉนวนสำหรับมอเตอร์ 380 Vac ใช้แรงดันทดสอบ 500 Vdc ครับ

ว่าแต่ว่า Gap นี่ใช้วัสดุอะไรครับ
ใช้พวกวัสดุที่เราใช้รองขดลวดนี่แหละครับ ความหนาของวัสดุแต่ละอย่างผมเคยลงไว้กระทู้ใน HTG2 นี่แหละครับ

group by อุปกรณ์และเครื่องมือเลยดีไหม หรือแนะนำการซื้ออุปกรณ์  คือว่าซื้อไม่ถูกนะครับไม่รู้เริ่มต้นตัวไหนก่อน :D  :-\
ผมแนะนำให้ซื้อเครื่องพันลวดที่นับรอบได้ดีๆ หน่อย นะครับ ทดลองหมุนแล้วดูจำนวนรอบที่ขึ้นครับว่าถูกต้องหรือเปล่า ผมมีรูปตัวที่ผมใช้อยู่ตัวสีเขียวครับราคาประมาณเกือบสองพัน ส่วนอีกตัวประมาณสามร้อยแต่ผมว่าไม่น่าใช้ครับ ลองพิจารณาดูนะครับหรืออาจจะดัดแปลงที่วัดรอบจากตัววัดรอบอื่นๆ มาใช้งานก็ได้ครับ เครื่องคิดเลขก็ได้ครับต่อสวิทช์ไปที่เครื่องหมายเท่ากับ (=) แล้วกดที่เครื่องคิดเลข [1] จากนั้นกดเครื่องหมาย + แล้วกดเครื่องหมาย = ทีนี้พอหมุนได้ครบรอบให้ก้านของแกนหมุนมากดสวิช์ เครื่องคิดเลขก็จะนับเพิ่มอีกหนึ่งรอบ แต่ว่าต้องเป็นเครื่องคิดเลขแบบเป็นสวิทช์ปิด-เปิดนะครับ ห้ามใช้แบบปิดเองอัตโนมัติ มีหวังพังแน่งานพันหม้อแปลง  ;D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17 สิงหาคม, 2006, 01:41:26 am โดย prasan »
"I haven't failed. I've found 10,000 ways that don't work." - Thomas Edison
"Anyone who has never made a mistake has never tried anything new." - Albert Einstein


ออฟไลน์ prasan

  • ...Back to the Basic...
  • Superstar...
  • ****
    • กระทู้: 5,086
    • เพศ:ชาย
ผมบอกตรงๆ เลยว่าผมพัน OPT มาได้เพียงสามคู่เท่านั้นเอง POT สองตัว Choke ภาคจ่ายไฟสี่ตัว หม้อแปลง Power ประมาณสิบตัว ผมขอออกตัวอีกครั้งว่าไม่ได้เชี่ยวชาญอะไรหรอกนะครับ ถือซะว่าเอาแนวทางที่ผมได้ทำมาลองพิจารณาก่อนลงมือทำตามนะครับ

ผมขอเอาข้อมูลที่ได้จากการพัน OPT ทั้งสามคู่มาให้ดูกันก่อน (ยั่วน้ำลาย  ;D) ถือว่าเป็นการพักยกแล้วเราค่อยมาว่ากันต่อ
(1) OPT 3.033K/8ohm, 2.483K/8ohm ตัวแรกในชีวิตการพัน OPT  ;D ยังมั่วๆ อยู่
แกนเหล็ก RG9 ขนาด 45x60mm
Prim. winding: #27SWG, 1850 รอบ, DCR 59.5 ohm, L = 13 H ที่ 120 Hz, Cp = 2.5 nF ที่ 1 kHz
Sec. winding: # 19SWG, 95 รอบและ 105 รอบ เลือกต่อได้เพื่อเปลี่ยนค่า Prim. impedance
Gap = 0.1 mm
Leakage inductance = 8.8 mH ที่ 1 kHz
C ระหว่าง Prim-Sec = 18.8 nF ที่ 1 kHz
Interleave 4:3
การจัดเรียงของลวดและจำนวนรอบในแต่ละชั้น
- เริ่มจากแกนเหล็ก -> P(4x130รอบ) -> S(1x78รอบ) -> P(4x130รอบ) -> S(1x78รอบ) -> P(4x130รอบ) -> S(17,10,17,10) -> P((2x130รอบ)+(1x30รอบ))
ฉนวนระหว่างชั้นของ Prim ใช้กระดาษหม้อแปลงสีน้ำตาลหนา 0.15 mm
ฉนวนระหว่าง Pri-Sec ใช้กระดาษ...... ผมจำไม่ได้ครับเพราะว่าตอนนั้นผมยังไม่ได้บันทึกข้อมูลจริงๆจังๆ จะแกะดูแล้วจะมาแจ้งให้ทราบอีกทีครับ
ผมพันแบบไม่แบ่ง Section ครับ

(2) OPT 9.996K/8ohm, 6.398K/8ohm, 4.443K/8ohm
แกนเหล็ก RG9 ขนาด 45x60mm
Prim. winding: #30SWG, 4242 รอบ, DCR 244 ohm, L = 45 H ที่ 120 Hz, Cp = 160 pF อีกตัวได้ 46 pF ที่ 1 kHz
Sec. winding: # 22SWG, 120 รอบ 30 รอบและ 30 รอบ เลือกต่อได้เพื่อเปลี่ยนค่า Prim. impedance
Gap = 0.2 mm
Leakage inductance = 32 mH ที่ 1 kHz
C ระหว่าง Prim-Sec = 5.8 nF ที่ 1 kHz
Interleave 5:4
การจัดเรียงของลวดและจำนวนรอบในแต่ละชั้นของแต่ละ Section ผมพันแบบแบ่งขด Prim ออกเป็น 2 Section ครับ
- เริ่มจากแกนเหล็ก -> P(3x80รอบ) -> S(1x30รอบ) -> P(7x80รอบ) -> S(1x30รอบ) -> P(7x80รอบ) -> S(1x30) -> P(7x80รอบ) -> S(1x30รอบ) และ (1x30รอบ) -> P(3x80รอบ)
ฉนวนระหว่างชั้นของ Prim ใช้แผ่นไมลาร์หนา 0.1 mm
ฉนวนระหว่าง Pri-Sec ใช้กระดาษ DMD 0.2 mm

(3) OPT 9.22K/8ohm, 4.098K/8ohm, 2.3K/8ohm ตัวนี้อยากลองไม่แบ่ง Section ของขด Prim.
แกนเหล็ก S-14 ขนาด 50x60mm
Prim. winding: #30SWG, 4074 รอบ, DCR 260 ohm, L = 45 H ที่ 120 Hz, Cp = 580 pF ที่ 1 kHz
Sec. winding: # 19SWG, 120 รอบ 60 รอบและ 60 รอบ เลือกต่อได้เพื่อเปลี่ยนค่า Prim. impedance
Gap = 0.2 mm
Leakage inductance = 13 mH ที่ 1 kHz
C ระหว่าง Prim-Sec = 13.58 nF ที่ 1 kHz
Interleave 7:6
การจัดเรียงของลวดและจำนวนรอบในแต่ละชั้น
- เริ่มจากแกนเหล็ก -> P(1x194รอบ) -> S(1x60รอบ) -> P(4x194รอบ) -> S(2x60รอบ) -> P(4x194รอบ) -> S(2x60) -> P(4x194รอบ) -> S(2x60รอบ) -> P(4x194รอบ) -> S(1x60รอบ) -> P(3x194รอบ) -> S(1x60รอบ) -> P(1x194รอบ)
ฉนวนระหว่างชั้นของ Prim ใช้แผ่นไมลาร์หนา 0.1 mm
ฉนวนระหว่าง Pri-Sec และระหว่าง Sec-Secใช้กระดาษ DMD 0.2 mm
ถ้าจะปรับปรุงตัวที่สามนี้อยากให้ใช้ฉนวนรองระหว่าง Prim หนาสัก 0.05 mm ครับ ค่า Leakage inductance ที่ได้จะต่ำกว่านี้และถ้าต้องการให้ได้ค่า C ของขด Prim. ที่ต่ำกว่านี้อยากให้แบ่งขด Prim ออกเป็นสอง Section ครับ

ตัวที่สามตอบสนองต่อความถี่สูงได้ดีกว่าตัวที่สองมาก

ผมลองเอาไปต่อกับ 845 ของคุณ LOUIS จึงอยากให้คุณ LOUIS มาเล่าผลการทดสอบให้ฟังดีกว่านะครับ ขอเล่าอีกหน่อยละกันถ้าจะพันแบบตัวที่สามแล้วเอาไปใช้กับแอมป์วัตต์สูงอย่าง 845 ไม่ควรใช้แกนเหล็ก S-14 ครับเพราะว่ามันจะมีเสียงแตกพร่าครับซึ่งน่าจะเกิดจากการอิ่มตัวของแกนเหล็กแต่ตัวที่สองไม่มีอาการดังกล่าว ถ้าเอาตัวที่สามนี้ไปใช้กับ 45 1626 ของผมจะไม่มีอาการให้ได้ยินครับแต่ผมก็มีแผนจะปลี่ยนแกนเป็น RG9 ครับเผื่อเอาไว้ใช้กับ 845 ของผมเองในอนาคต

รูปแบบการต่อขดลวดระหว่างแต่ละชั้นผมจะเขียนรูปมาให้ดูครับ มีเทคนิคในการต่อแล้วให้ได้ค่า C ของขดลวดต่ำลงได้ คือนอกจากจะไม่ให้ค่า C สูงจากการเลือกวัสดุแล้ววิธีการต่อขดลวดก็มีผลเช่นกันครับด้วยเหตุนี้แหละครับผมไม่เห็นด้วยกับการพันขดลวดแบบไม่ตัดลวดแล้วค่อยมาดูรูปแบบการต่อที่ผมจะเอามาให้ดูจะได้เข้าใจว่าการพันแบบตัดลวดนั้นได้ประโยชน์มากกว่า

ผมจะเลือกต่อทางด้านขด Sec เพื่อเปลี่ยนค่า Prim. impedance แทนที่การแท็ปที่ด้าน Prim เพราะว่าการลดจำนวนรอบทางด้าน Prim มีผลต่อค่า L ของขด Prim ซึ่งส่งผลต่อการตอบสนองต่อความถี่ต่ำของ OPT ผมเห็นว่าถ้าเราสามารถคุมค่า DCR Leakage inductance ค่า C ของขดลวดได้ผมว่าการเลือต่อขดลวดอย่างที่ผมทำไม่น่าจะมีผลเสียอะไร

มีรูปวัสดุ อุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ในการพันลวดมาให้ดูก่อนครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17 สิงหาคม, 2006, 02:30:11 am โดย prasan »
"I haven't failed. I've found 10,000 ways that don't work." - Thomas Edison
"Anyone who has never made a mistake has never tried anything new." - Albert Einstein


ออฟไลน์ alex2000

  • ****
    • กระทู้: 359
สุดยอดครับ....

ของแบบนี้ถ้าไม่รักกันจริง ไม่มีใครเปิดเผยนะครับ


เพราะมันใช้หารับทานได้ เห็นๆ กันอยู่ 


เอาให้จบนะครับ

โช๊ค  เพาวเวอร์ เอาท์พุท

อันดับแรก แนะนำยี่ห้ออุปกรณ์ และร้านที่ขาย ด้วยครับ เพราะไม่รู้จะซื้อแบบไหนอย่างไรและเท่าไหร่ ดี

ขอบคุณมากๆๆๆๆ


ออฟไลน์ ฅนโคกเคียน

  • ***
    • กระทู้: 171
 :clap เป็นการจุดประกายที่ดีมากเลยครับ เพราะผมยังทำแบบงงปป..อยู่เลยครับถ้าหากมีผู้ชี้แนะแนวทางที่ชำนาญในด้านประสบการณ์ คงจะทำให้นัก Diy มือใหม่ๆ  มั่นใจในผลงานของตัวเองมากขึ้น และก็จะนำแนวคิดที่ได้ไปพัฒนาให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะ Choke กับ Opt ที่ต้องการผู้ที่มีประสบการณ์มากๆ มาช่วยถ่ายทอดให้  ( ชำนาญดีกว่าเดาไปเรื่อยครับ)เดินถูกทางเร็วไม่เสียเวลามาก ขอสนับสนุนครับ  เครื่องพันลวดผมมีแล้วแต่ขาดตัวเรียงเส้นลวดครับ ไม่ทราบว่ามีแยกขายหรือเปล่า จะประดิษฐ์แบบเองก็ไม่มีความสามารถในด้านนี้ ใครรรู้ช่วยบอกด้วยครับเพราะเลียงทีละเส้นกว่าจะเสร็จก็ตาลาย.เจ็บหลังแน่.. :giveup
.....ไม่เคืองแค้นน้อยใจ..ในโชคชะตา...
.....ไม่เสียดายชีวา..ถ้าสิ้นไป............

http://www.htg2.net/index.php?topic=59957.0


ออฟไลน์ สิงห์

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,957
  • ชื่อสิงห์ ชอบกินช้าง
ดีมาก ๆ เลยครับ ต่อไปหลายคนคงต้องหันมาทำเองแล้วครับ เพราะราคาหม้อแปลงเดี๋ยวนี้แพงกว่าหลอดแล้วล่ะครับ

เป็นกระทู้ที่ยอดเยี่ยมครับ  O0 O0

:clap ดีครับ  ใครที่สนใจเกี่ยวกับหม้อแปลงแต่ยังไม่ได้ตัดสินใจ  จะได้เป็นแนวทางครับ  :clap  :clap

 :bowdown    :boat    ............   :euro
สังคมจะดีได้ หากทุกคนอยู่ภายใต้กฏเกณฑ์


ออฟไลน์ krupohn

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,770
    • เพศ:ชาย
  • ฟังเพลงร็อค ในห้องเล็ก
 :clap ดีครับ  ใครที่สนใจเกี่ยวกับหม้อแปลงแต่ยังไม่ได้ตัดสินใจ  จะได้เป็นแนวทางครับ  :clap  :clap


ออฟไลน์ tewmax

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,759
    • เพศ:ชาย
group by อุปกรณ์และเครื่องมือเลยดีไหม หรือแนะนำการซื้ออุปกรณ์  คือว่าซื้อไม่ถูกนะครับไม่รู้เริ่มต้นตัวไหนก่อน :D  :-\
ที่อยู่ครับ http://www.htg2.net/index.php?topic=41722.0


ออฟไลน์ มุมคนรักหลอด

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,004
    • เพศ:ชาย
ดีมาก ๆ เลยครับ ต่อไปหลายคนคงต้องหันมาทำเองแล้วครับ เพราะราคาหม้อแปลงเดี๋ยวนี้แพงกว่าหลอดแล้วล่ะครับ


ออฟไลน์ เขียวหวาน

  • ผู้สนับสนุน web ......
  • Superstar...
  • ******
    • กระทู้: 4,364
    • เพศ:ชาย
  • อยู่ร่วมกัน แบ่งปัน น้ำใจ
    • เขียวหวาน DIY

ออฟไลน์ DIY มด

  • DIY มด DIY หมด
  • Admin
  • Super Star.
  • *****
    • กระทู้: 2,664
    • เพศ:ชาย
  • ตัวจริง เสียงจริง

ออฟไลน์ prasan

  • ...Back to the Basic...
  • Superstar...
  • ****
    • กระทู้: 5,086
    • เพศ:ชาย
ดีใจด้วยครับสำหรับท่านที่จะหันมา DIY หม้อแปลงใช้เอง ผมเคยสั่งหม้อแปลงมาใช้งานเหมือนกันแต่ไม่ขอเอ่ยนามผู้ผลิตนะครับ ผิดหวังมากเลยครับเอาเป็นว่าเป็นบทเรียนละกันครับที่แล้วก็แล้วกันไป

ผมได้หาข้อมูลการพันจาก Web ที่สำคัญอย่างยิ่งต้องขอขอบคุณคุณอาร์ตที่จุดประกายการ DIY หม้อแปลงให้ผม ข้อมูลที่ผมจะให้ไปผมจะพยายามอ้างที่มา เหตุผล เพื่อเป็นประโยชน์ที่จะนำไปใช้ได้ต่อๆ ไป แต่ผมก็ไม่ได้ทราบทุกเรื่องครับ บางอย่างก็คาดหรือเดาเอาเช่นกัน

เครื่องพันลวด

ถ้ายังไม่ได้ซื้ออุปกรณ์โดยเฉพาะเครื่องพันลวด อยากจะให้พิจารณาเครื่องพันลวดที่มีตัวนับรอบที่อ่านจำนวนรอบได้สะดวกและค่อนข้างจะถูกต้อง ตอนแรกผมก็ซื้อเครื่องราคาถูกๆ มาใช้ ราคาประมาณสามร้อยกว่าบาท ก็พบกับปัญหาการอ่านจำนวนรอบนี่แหละครับ อ่านรอบไม่ถูกต้องก็เข้าใจครับว่าในราคาแค่นี้จึงได้ตัดสินใจซื้อเครื่องใหม่ที่ดีขึ้นมาอีกแต่ก็ยังพบกับปัญหาเดิมอยู่เหมือนกันแต่น้อยกว่า ปัญหาการอ่านรอบที่ตัวนับรอบที่มากับเครื่องพันนี้ผมว่ามันมาจากความละเอียดของจำนวนเฟืองที่ใช้ ขอย้ำเลยครับว่า อย่าได้วางใจกับจำนวนรอบที่เครื่องอ่านให้เรา ต้องตรวจสอบอยู่เรื่อยๆ ที่ต้องย้ำกับการอ่านรอบนี้ก็เพราะว่า ถ้าเราพันหม้อแปลง เช่น OPT ประมาณสี่พันกว่ารอบแล้วผิดพลาดไปซัก 40-50 รอบ มันมีผลมากครับและยิ่งต้องพันหม้อแปลงสองลูกด้วย งานที่ออกมาควรจะให้ได้ใกล้เคียงกันมากที่สุด สำคัญกว่านั้นเราทำเพื่อเราเอง เวลาที่เสียไปกับการพันต้องทำให้เกิดประโยชน์มากที่สุด

วัสดุอื่นที่จำเป็นต้องใช้

- ฉนวนที่ใช้รองระหว่างแต่ละชั้นของลวด ผมใช้วัสดุอยู่ 2 อย่างคือ กระดาษสีน้ำตาลที่ด้านหนึ่งเคลือบด้วยวัสดุคล้ายพลาสติก (คนขายเค้าบอกว่าเป็นไมลาร์ จริงหรือเปล่าผมไม่ทราบครับ) บางคนอาจจะเรียกว่ากระดาษคร๊าฟ (Craft paper) วัสดุชนิดนี้ผมเห็นว่าไม่เหมาะกับงานพัน OPT เนื่องจากจะทำให้ค่า Capacitance ของขดลวดมีค่าสูงเพราะว่ากระดาษมีค่าคงตัวของสารไดอิเลกทริคสูงกว่าวัสดุพวกไมลาร์  กระดาษสีน้ำตาลผมมักจะเอามาเป็นกระดาษชั้นนอกสุดที่ใช้เก็บงานให้ดูเรียบร้อย และถ้าจะใช้กับการฉนวนระหว่างชั้นของลวดผมจะใช้กับหม้อแปลง Power หรือกับโช๊คภาคจ่ายไฟ

ความหนาของกระดาษสีน้ำตาลที่ผมเลือกใช้ คือ 0.15 mm จริงๆ อยากได้บางกว่านี้แต่ที่ระยองนี่บางที่สุดแล้ว
ความหนาของไมลาร์ที่ผมเลือกใช้ คือ 0.1 mm ผมจะใช้กั้นระหว่างชั้นของลวด ถ้าสามารถหาที่บางก็นี้ได้ เช่น 0.05 mm ก็จะดีกว่าครับ สำหรับงานพัน OPT จะเหมาะมากเลยแต่ผมก็หาซื้อไม่ได้ในระยอง มีผลต่อค่า Leakage inductance ของขดลวด (ถ้าต้องการให้ค่า Leakage inductance ของขดลวดมีค่าต่ำ หนึ่งคือต้องทำ Interleave มากๆ ที่ผมเห็นว่าเหมาะ คือ 7:6 แล้วค่อยว่ากันอีกทีนะครับเรื่องนี้สำคัญมากเพราะว่ามีผลต่อการตอบสนองความถี่สูงของ OPT และสองคือ ฉนวนที่ใช้กั้นระหว่างชั้นของลวดต้องบางๆ )
ฉนวนอีกแบบที่ผมใช้คือ กระดาษ DMD ผมเคยเข้าไปหาข้อมูลใน Web เค้าบอกว่าที่จริงกระดาษ DMD เป็นวัสดุประเภทไมลาร์แต่ทนต่อแรงดันได้สูงกว่า ความหนาที่ผมเลือกคือ 0.2 mm

- กระดาษกาว เทปใส (เทปใสผมใช้ของ 3M เนื่องจากมีความหนา 0.06 mm และไม่เหนียวเหนอะ)

- Bobbin อาจจะใช้แบบสำเร็จหรืออาจจะทำเองจากกระดาษชานอ้อยความหนาประมาณ 1.9 mm ถ้าเป็นหม้อแปลง Power หรือโช๊คในภาคจ่ายไฟผมว่าแบบสำเร็จที่เป็นพลาสติกเหมาะเพราะว่าเราจำเป็นที่จะต้องอัดแกนให้แน่น นี่ไม่ใช่ว่า Bobbin ที่ทำจากกกระดาษเวลาอัดแกนจะไม่แน่นนะครับ แน่นเหมือนกันครับเพียงแต่ว่าถ้าตอนที่เราตัดกระดาษชานอ้อยมากระกอบกันเป็น Bobbin แล้วอาจะเกิดผิดพลาดแล้วตอนที่ใส่แกนอาจจะเกิดช่องว่างทำให้อัดแกนได้ไม่แน่น

ความเห็นของผมงานหม้อแปลงสมควรที่จะต้องใช้ Bobbin แบบที่ไม่มีปีก อาจจะเป็นแบบที่ทำเองหรืออาจจเป็นแบบสำเร็จแล้วตัดปีกมันทิ้งซะ ปีกของ Bobbin มันเกะกะมือเรามากกับการพันเรียงเส้นลวด

เอ.. คงต้องพักแค่นี้ก่อนนะครับ แล้วค่อยมาว่ากันต่อครับ ผมจะทยอยเอารูปมาให้ดูนะครับ จะเอาแต่ละขั้นตอนมาให้ดูกัน เรื่องวัสดุยังไม่จบนะครับ

คำถามที่แต่ละท่านสอบถามผมขอติดค้างไว้ก่อนนะครับแล้วจะตอบทีหลังครับ
"I haven't failed. I've found 10,000 ways that don't work." - Thomas Edison
"Anyone who has never made a mistake has never tried anything new." - Albert Einstein