หัวข้อ: ฝากข่าว e-squar ในหนังสือมติชน

[WRC]

แวะไปเยี่ยมชมมาแล้ว BenQท่านขุนจิต คุณภาพสมคำร่ำลือจริงๆ

[ขุนจิต]

http://www.matichon.co.th/weekly/weekly.php
http://www.matichon.co.th/weekly/weekly.php?srctag=04112121147&srcday=2004/11/12&search=no
เครื่องเสียง

พิพัฒน์ คคะนาท pipaz@thai.com

BenQ DLP Projector

กับชื่อ BenQ นี่ เพิ่งจะเป็นที่รู้จักกันในบ้านเราเมื่อสองสามปีที่ผ่านมานี้เอง แรกที่เข้ามานั้นเป็นรู้กันว่าคือแบรนด์ใหม่จากไต้หวัน ช่องทางที่เข้ามาก็คือตลาดทางด้าน IT ที่หลากแบรนด์จากดินแดนที่ว่านั้นเข้าไปยึดหัวหาดแทบจะทั่วทุกมุมโลกอยู่แล้ว และมีการเติบโตที่รวดเร็วมาก จากสินค้าหลักๆ ไม่กี่อย่างที่มักคุ้นกันในแวดวงคอมพิวเตอร์ วันนี้สินค้าไอทีภายใต้ชื่อ BenQ มีมากพอถึงกับใช้คำว่าสากกะเบือยันเรือรบได้แล้ว (กระมัง ?)

รวมทั้งยังมีเครื่องฉายภาพ หรือ Projector ที่ก้าวพ้นปริมณฑลของไอที ล่วงเข้ามาสู่วงการ Audio/Video ชนิดที่นักเล่นระดับ Videophile ถึงกับเป็นงงว่าพลัดหลงเข้ามาได้อย่างไร

ซึ่งที่สุดแล้วสรุปได้สั้นๆ ว่า "คุณภาพ" เป็นคำตอบสุดท้ายครับ

ผมเองก็มิได้มักคุ้นอะไรกับชื่อนี้มาก่อน โดยเฉพาะในส่วนของระบบภาพและเสียงที่ข้องเกี่ยวอยู่ในเชิงออดิโอและวิดีโอ รู้จักก็ครือกันกับที่รู้จักชื่อ Acer, Epson อะไรแถวๆ นั้น กระทั่งได้ไปพบเห็นที่เดโม" อยู่คราวหนึ่ง ในงานอะไรสักอย่างเมื่อกลางๆ ปีที่ผ่านมา ด้วยเครื่องฉายภาพหรือโปรเจ็กเตอร์นี่แหละครับ จำได้ว่าเห็นแล้วทึ่งกับสีสันของภาพที่บอกตัวเองว่า-เข้าตาดีแฮะ--แต่ก็ไม่มีจังหวะที่จะนั่งดูอย่างพินิจได้ ก็เลยเลือนๆ ไป และไม่มีโอกาสได้พบเห็นจากที่ไหนอีก

นานวันเข้าก็ลืมแบบหายจากความทรงจำไปเลย แม้ว่าบางช่วงจะผ่านตาจากนิตยสารต่างประเทศบ้าง แต่ก็ผ่านแบบเปิดพลิกผ่านโดยที่มิได้ลงไปในรายละเอียดอะไร เพราะเห็นมีเรื่องอื่นๆ ให้รู้สึกน่าสนใจอ่านมากกว่า

กระทั่งพักหลังที่ไปขลุกอยู่แถบ eSquare ค่อนข้างถี่สักหน่อย ประมาณว่าอาทิตย์นึงต้องมีเข้าไปสักหนครึ่งหนนี่แหละครับ จึงมีโอกาสได้เห็นหน้าค่าตากันอีก อีกทั้งยังมีโอกาสเหมาะที่ได้สัมผัสประสิทธิภาพแบบเต็มๆ และสบายๆ เพราะไม่มีใครมาวุ่นวายอะไรด้วยเหมือนเวลาไปดูตามงานโชว์ต่างๆ อย่างที่ผ่านมา

จึงทำให้พอได้เรื่องราวอันนำมาเล่าสู่กันฟังที่ตรงนี้ได้ครับ

เครื่องที่ว่านี้ คือ BenQ PE-8700 ซึ่งเป็นแบบที่ทำงานในระบบ Single-Chip DLP Projection ที่ใช้ชิพ (DMD-Chip) ประมวลผลตัวล่าสุดของ Texas Instrument คือ HD2+ โดยให้รายละเอียดสูงสุดด้วยค่า Native Resolution 1280 x 720 pixels ใช้เลนส์ 1-1.2 Zoom หลอดแสงสว่าง 210W NSH โดยให้ค่าความสว่าง 1000 ANSI Lumens ค่าอัตราส่วน Contrast Ratio 2500 : 1 สามารถให้ภาพได้ขนาด 40-250 นิ้ว มีอินพุตให้เลือกใช้ครบครัน อาทิ Component (RCA), RGB/Component HDTV (BNC), DVI-I, Composite Video และ S-Video เอาต์พุตเป็นแบบ 12VDC Trigger ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเพียง 16.7 ปอนด์ หรือ 7.5 กิโลกรัม โดยประมาณ

หน้าตาเป็นกล่องสี่เหลี่ยมแบบเชยๆ อย่างที่เห็นในภาพนั่นแหละครับ ไม่มีเส้นสายของรูปทรงที่โค้ง เว้า เหมือนเครื่องแบรนด์ญี่ปุ่น ที่ส่วนใหญ่ระยะหลังๆ จะดีไซน์กันค่อนข้างโฉบเฉี่ยวบาดตาอย่าง NEC HT-1100, Hitachi PJ-TX-100, Sharp DT-200 เป็นต้น

แต่กับหน้าตาเฉิ่มๆ เชยๆ ที่ว่านั้นแหละครับ ที่ให้ภาพออกมาแจ่มอย่างชนิดที่เมื่อนั่งดูแบบเอาเรื่องแล้ว ต้องยอมรับว่ามีความโดดเด่นในตัวเองสูงมาก โดยเฉพาะเมื่อได้รับรู้ว่าขายอยู่ที่ราคาเท่าไร

เขาตั้งราคาขายสุทธิเอาไว้ที่ 199,000 บาท ครับ เป็นราคารวม VAT หรือภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว

เห็นราคานั้นแล้ว สิ่งแรกที่ผมทำหลังกลับมาถึงที่ทำงานในวันเดียวกันนั้นก็คือ ค้นหนังสือครับ ค้นดูว่าที่เคยเห็นเป็นบทวิจารณ์ผ่านตานั้น เป็นรุ่นเดียวกันนี้หรือเปล่า และถ้าใช่, ที่นั่นเขาขายกันอยู่เท่าไร คือยังไม่แน่ใจนะครับว่าคราวที่พลิกหนังสือเห็นรายงานการทดสอบเครื่อง BenQ ผ่านตานั้น เป็นหนังสือจากยุโรป หรือว่าของอเมริกา

ปรากฏว่าพลิกหาไม่กี่เล่มก็เจอครับ ตีพิมพ์อยู่ในนิตยสาร Ultimate AV ซึ่งเป็นนิตยสารในเครือหนึ่งในคัมภีร์นักเล่นไฮ-เอ็นด์ค่อนโลก คือ Stereophile แห่งอเมริกานั่นเอง และเป็นเครื่องรุ่นเดียวกัน แต่ที่โน่นเขาขายเครื่องละ 7,995 เหรียญ โดยยังไม่รวมภาษี ทั้งนี้เพราะภาษีสินค้าที่ขายในอเมริกานั้น แต่ละเมืองไม่เท่ากันครับ การบอกราคาสินค้าที่โน่นเขาจึงบอกแต่ราคาสินค้าโดดๆ ใครอยู่เมืองไหน รัฐใด มีอัตราภาษีร้อยละเท่าไร ก็เอาภาษีนั้นบวกเข้าไปด้วยเป็นมูลค่ารวมของสินค้า

ซึ่งกับราคาที่เห็นนั่น คิดเป็นเงินบ้านเราแบบง่ายๆ คือ เอา 40 คูณ ก็ปาเข้าไปร่วมสามแสนสองแล้ว แสดงว่าที่อเมริกานั้น เครื่องนี้ขายแพงกว่าในบ้านเราเป็นแสนเลยนะครับ

เพราะฉะนั้น หากเครื่องนี้บ้านเราขายอยู่ในราคาสามแสนขึ้น ประมาณว่าสักสามแสนห้าสามแสนหก ผมคงไม่เป็นอึ้งและทึ่งถึงขนาดนี้เมื่อได้เห็นคุณภาพ



เพราะนี้เป็นราคาที่ถูกมาก หรือจะบอกว่าเป็นราคาต่ำสุดของเครื่องระดับนี้ที่มีขายอยู่ในบ้านเราเวลานี้ ก็ว่าได้เลยนะครับ คือด้วยสายตาของผมนั้น ผมว่ามันท้าชนทุกเครื่องในบ้านเราที่ขายสามสี่แสนขึ้นอยู่แถวๆ นี้ ได้ทุกตัวครับ ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นเครื่องไหนให้ภาพดีกว่านี้มาก่อนนะครับ มีหลายเครื่อง เห็นหลายตัวครับ ที่ให้ภาพเหนือกว่าเครื่องนี้

แต่เมื่อเทียบกันที่ราคาแบบบาทต่อบาทแล้ว ผมมีความเห็นว่าเงินที่จ่ายให้เครื่องนี้มีความคุ้มค่ามากกว่าครับ เพราะเท่าที่ได้ดูมาในตลาดเครื่องฉายภาพเวลานี้ หากจะเอาคุณภาพระดับนี้คุณต้องจ่ายมากกว่านี้ครับ หรือจะหาเครื่องที่ดีกว่านี้แล้วยอมจ่ายมากอีกหน่อย ประมาณว่าอีกเกือบหรือสักเท่าตัวนั้น ก็พอมีนะครับ

แต่กับราคาที่มากกว่าขนาดนั้นเท่าที่ผมได้เห็นมาหลายๆ เครื่อง คุณภาพมันดีกว่าแบบว่าเหลื่อมกว่าตรงนั้นนิด ตรงนี้หน่อย แบบว่าหน่อยเดียวเท่านั้นเอง แล้วคุ้มหรือครับ

คือก็ไม่ใช่ว่าดูมาเห็นมาหมดทุกเครื่องแล้วดอกนะครับ แต่แม้ว่าจะยังดูไม่หมดทุกเครื่อง ยังเห็นไม่ครบทุกตัวก็เถอะ กับประสบการณ์ที่ผ่านตามา-ซึ่งก็ไม่น้อยเครื่องเหมือนกัน, บอกเช่นที่ว่านั้นได้ครับ

ภาพสวย ให้สีสันที่มีความเป็นธรรมชาติสูง ภาพกลางแจ้งแบบแสงธรรมชาติยามกลางวันนี่ เด็ดขาดมากครับ โดยเฉพาะกับสีเนื้อตัวของผู้คนที่ต่างผิว แผกพันธุ์ ความยับย่นของผิวหน้า ความกร้านกระด้างของมือไม้ในผู้สูงวัยนั้น มีความเสมือนจริงอย่างน่าทึ่ง บอกริ้วรอยของกาลเวลาที่ผ่านพ้นให้สัมผัสได้อย่างชัดเจน ในขณะที่ผิวเด็กแบบฝาดเลือดสีอมชมพูตรงกระพุ้งแก้มอวบๆ นั้น เห็นแล้วแทบอยากเอื้อมมือไปหยิกหมับเข้าให้ด้วยความมันเขี้ยว ผมทึ่งกับการให้รายละเอียดของสีสันภาพตรงนี้มากทีเดียว

ในขณะที่ภาพในความมืดหรือในบริเวณที่มีแสงสว่างไม่มากนั้น แม้จะไม่ถึงกับโดดเด่นชนิดที่แยกแยะความดำมืดออกมาได้เป็นระดับชั้น แต่ก็ไม่ได้มีอะไรเสียหายถึงขนาดรับไม่ได้ เพราะภาพที่เห็นในความมืดนั้นยังบอกมิติตื้น ลึก ได้ชนิดที่แตกต่างไปจากการดูภาพ "หนังแผ่น" หน้าโรงอย่างสิ้นเชิง

ภาพเคลื่อนไหวมีความต่อเนื่องที่เนียนตาดีมาก ดูสบายตาด้วยซ้ำแม้กับภาพที่เคลื่อนไหวรวดเร็ว อย่างการแข่งขันกีฬา แม้ว่าจะนั่งอยู่ห่างจอไม่เกินสี่เมตร กับขนาดภาพที่ขยายขึ้นไปบนจอระดับ 92-94 นิ้ว ก็ยังดูลื่นไหลสบายตาดีจริงๆ นำมาบอกกล่าวกันไว้เผื่อว่าใครกำลังมองหาเครื่องพวกนี้อยู่ ก่อนตัดสินใจกับอะไร ช่วยเปิดโอกาสให้เครื่องนี้ได้ทำงานผ่านตาคุณสักหนก่อนก็แล้วกัน

หลังจากนั้นแล้วจะตกลงปลงใจกับอะไร เครื่องไหน ตัดสินใจเอาเองครับ


หน้า 88

--------------------------------------------------------------------------------

[ขุนจิต]

http://www.matichon.co.th/weekly/weekly.php?srctag=04100051147&srcday=2004/11/12&search=no

วันที่ 05 พฤศจิกายน พ.ศ. 2547 ปีที่ 25 ฉบับที่ 1264

เครื่องเสียง

พิพัฒน์ คคะนาท pipaz@thai.com

eSquare: 2

ไปชั้นสองกันต่อเลยนะครับ จะขึ้นลิฟต์หรือไปบันไดเลื่อนก็ได้ แต่ผมว่าขึ้นกระไดเลื่อนไปดีกว่า เพราะว่าสะดวกดี เขามีขึ้นตัว ลงตัว อยู่กันคนละฟากโดยมีลิฟต์คั่นกลางเอาไว้ ซึ่งดูๆ ไป ก็แลสะดวกและดูโอ่โถงดี ขึ้นมาแล้วเห็นได้ว่าร้านรวงบนชั้นสองนี่ ดูจะคึกคักกว่าชั้นล่างสักหน่อย เพราะจวนจะแล้วเสร็จแบบเต็มร้อยเต็มทีแล้ว สิ้นเดือนนี้ต้นเดือนหน้าเป็นอย่างช้า ที่ชั้นนี้น่าจะเปิดได้ครบถ้วนทุกห้อง

ตอนนี้บันไดเลื่อนเขายังไม่สลับสับเปลี่ยนครับ คือตัวไหนขึ้นก็ยังปล่อยขึ้นตลอด ตัวไหนลงก็ปล่อยหมุนลงไปเรื่อย แต่พูดๆ กันเอาไว้ ว่าถ้าเปิดครบเมื่อไร จะสลับขึ้น ลง กันตัวละอาทิตย์อะไรแถวๆ นี้แหละครับ

เพราะฉะนั้น ตอนนี้พอขึ้นไปแล้วที่ประจันหน้าเลยทางซ้ายก็จะเป็นโชว์รูมหนึ่ง ส่วนทางขวาก็จะเป็นอีกร้านหนึ่ง ว่ากันถึงร้านก่อนนะครับ ร้านนี้ คือ Audio Center ที่นักเล่นทุกระดับรู้จักกันดีมาตั้งแต่ครั้งอยู่เพลินจิต เซ็นเตอร์ นั่นเอง เป็นร้านที่ให้บริการครบวงจรของ "นักเล่น" จริงๆ คือมีทั้งของใหม่และสินค้ามือสองเต็มไปหมด

โดยเฉพาะเครื่องมือสองนั้น ใครอยากได้อะไร มามองหาหรือว่ามาออเดอร์ทิ้งเอาไว้ มักจะไม่ผิดหวัง

นอกจากนั้นแล้วยังมีอุปกรณ์ประเภทของเล่น หรือเครื่องเคียง แบบกระจุกกระจิก ให้ซื้อหาไปเล่น นำไปลองใช้ กันอีกแยะประเภทครับ

เข้าร้านนี้แล้วหากอยากจะเสียกะตังค์ รับรองไม่ผิดหวังด้วยประการทั้งปวง เพราะจะได้ของไปเล่นสมใจคุ้มค่าปริมาณเงินที่อยากจ่ายอย่างแน่นอน

ติดๆ กัน ที่บอกว่าเป็นโชว์รูมนั้น เขาทำขึ้นมาโอ่อ่าทีเดียวล่ะครับ ขึ้นมาแล้วตัวอักษร Vifa ในรูปแบบสัญลักษณ์จะเตะตาคุณก่อนอื่นใดทั้งหมด เห็นโลโก้นี้แล้วเห็นมีลำโพงวางพื้นวางเรียงอยู่อย่างสง่าประดับเคียงข้างแล้วล่ะก็ อย่าเพิ่งได้เป็นงงหรือสงสัยอะไรนะครับ โดยเฉพาะกับนักเล่นขาเก่าที่คุ้นกันกับชื่อนี้ในฐานะลำโพง Kit หรือผู้ผลิต Driver ป้อนให้แก่โรงงานทำลำโพงชื่อดังๆ มาแล้วทั่วโลก

เพราะเวลานี้ Music & Cinema ที่เป็นผู้นำเข้ามาจำหน่ายในบ้านเราได้สั่งลำโพงแบบประกอบตู้สำเร็จของ Vifa เข้ามาขายด้วยแล้ว นอกเหนือไปจากการเป็นตัวแทนจำหน่ายลำโพง Boston Acoustics ที่บุกเบิกตลาดบ้านเรามาก่อนหน้า

แต่โชว์รูมแห่งนี้เขาเจตนาจะยกให้กับ Vifa โดยเฉพาะครับ เพราะฉะนั้น จะเห็นลำโพงยี่ห้อนี้ครอบครองโชว์รูมใหม่แห่งนี้เกือบหมดเลยก็ว่าได้

ใครที่อยากทราบกันว่าผู้ผลิตไดรเวอร์รายนี้มีดีอะไร ลำโพงหลายๆ ยี่ห้อจึงต้องใช้ตัวขับของเขา และเมื่อหันมาทำลำโพงสำเร็จเองด้วยแล้ว สุ้มเสียงจะออกมาอย่างไร ก็ต้องลองแวะไปฟังกันดูล่ะครับ

อีกร้านหนึ่งที่อยู่บนชั้นนี้ และเป็นที่รู้จักกันดีของนักเล่นเครื่องเสียงประเภทชอบเสาะแสวงหาสินค้าประเภท Killer Value ก็คือ Conice หรือที่คนเล่นกลุ่มสมาชิกของเขาชอบเรียกกันว่า "บ้านทวาทศิน" นั่นเอง Conice ขึ้นมาบน eSquare ด้วยภาพลักษณ์ที่หรู เฉียบ และเนี้ยบชนิดที่ใครเห็นก็อดจะเข้าไปเยือนไม่ได้ ด้วยแฝงความอบอุ่นเข้าไว้อยู่ในที

โชว์รูมแห่งนี้ของเขาออกแบบและตกแต่งแบบ Trendy สุดสุด โดยเฉพาะกับการนำเสนอในรูปแบบ Custom Installation ที่เป็น Multi-Source/Multi-Zone ซึ่งกำลังนิยมกันอย่างมากในเวลานี้

ลองไปสัมผัสโชว์รูมแห่งนี้ของเขาดู แล้วจะถึงบางอ้อ ว่าภาพลักษณ์ใหม่หรือรูปแบบใหม่ของ Home Entertainment นั้น มันมีหน้าตาเป็นอย่างไร เอื้อความสะดวกแค่ไหน เสริมบุคลิกบ้าน บุคลิกห้อง ให้ดูดีขึ้นได้อย่างไร ในโชว์รูมห้องนี้มีคำตอบครับ

นอกจากการตกแต่งและ Display ที่ว่านั้นแล้ว Conice ยังมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทั้งในส่วนของเครื่องเสียงจาก NAD และลำโพงรุ่นใหม่ๆ มาเดโม" อยู่ที่นี่แยะเลยครับ โดยเฉพาะกับ The New Image Series จาก PSB ที่กำลังเป็นที่กล่าวขานถึงกันมากในเวลานี้ มีมาให้ลองฟังครบรุ่นครับ แล้วก็ยังมีสับ-วูฟเฟอร์ซีรี่ส์ใหม่ๆ ของ Velodyne เตรียมไว้คอยให้บริการด้วย

และแน่นอนว่าบรรดาเครื่องเคียงเลื่องชื่อของเขาไม่ว่าจะเป็น Supra, AR Master Series ตลอดจน Britannia ทั้งในส่วนของสายสัญญาณ สายลำโพง สายอเนกประสงค์ และหัวแจ๊กเสียบต่อแบบต่างๆ ที่นี่ก็มีให้บริการครบครันเช่นกัน



ติดๆ กันกับ Conice คือ Superior AV ครับ ที่เห็นโดยมองผ่าน Window Display เข้าไปจะพบสินค้าของเขาทั้งเครื่อง ทั้งลำโพง มากหน้าหลายตาทีเดียว โดยเฉพาะกับลำโพง KEF ที่ผมเคยนำมาพูดถึงใน Budget 5.1 นั้น ไปสัมผัสคุณภาพกันได้ที่นี่ครับ เพราะเขาต่อสายสำหรับทำเดโม" เอาไว้ด้วย

นอกจากนั้น ยังมีรุ่นต่างๆ อีกมากกว่ามาก รวมทั้งลำโพงที่เราท่านรู้จักกันดีมาแต่ไหนแต่ไรอย่าง Polk Audio ทางด้านเครื่องก็มีอย่าง Vatiros และบางส่วนของผลิตภัณฑ์ภายใต้ชื่อ Grado กับบรรดาสารพัดสายของ Audioquest ทั้งสายสัญญาณและสายลำโพง

และที่อยู่ตรงกันข้าม คือ B&W ที่ทำ Display ออกมาในลักษณะของ Concept Shop โดยมีพระเอกจากยุโรปที่เป็นลำโพงชื่อเดียวกันนั้นอวดตัวอย่างโอ่อ่า โดยมีอิเล็กทรอนิกส์ของ Chord กับ Bow Technology และมีบางตัวของ Niro Nakamichi มาตั้งเสริมให้คอนเซ็ปต์ ช็อป แห่งนี้ แลดูโดดเด่นยิ่งขึ้น

ห้องนี้ดีไซน์แปลกตรงที่จากข้างนอกมองเข้าไปจะไม่เห็นอะไรมาก เพราะส่วนที่ควรเป็น Window Display นั้น เกือบทั้งหมดทำเป็นผนังทึบ แต่ก็ดีในเชิงท้าทายที่ทำให้เกิดคำถามว่ามีอะไรอยู่ข้างใน และจะเข้าไปในนั้นได้อย่างไร น่าสนใจครับ ก้าวผ่านหน้าร้านเขาสองสามก้าวแล้ว อย่าเข้าใจว่าร้านเขาปิดนะครับ-วันเสาร์ อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์, ไม่แน่--แต่วันธรรมดานี่เปิดตลอดครับ

เพราะฉะนั้น ลองหาทางเข้าโชว์รูมเขาดู ใบ้ให้นิดว่ามีแง้มมีงับครับผม

อีกรายที่อยู่บนชั้นนี้ คือ Diamond Products ซึ่งเลื่องชื่อในการทำชั้นวางชุดเครื่องเสียง และขาตั้งลำโพง ว่าเป็นงานฝีมือคนไทยเราที่นำอวดใครเขาได้สบายมาก มีให้เลือกแยะครับ ไม่ว่าจะนำไปใช้กับซิสเต็มเล็ก ใหญ่ ขนาดไหน หรือกับลำโพงที่ต้องการขาตั้งแบบใด เขามีอุปกรณ์เชิงนี้รองรับได้อย่างครบถ้วน

นอกจากงานฝีมือเยี่ยมแล้ว คุณภาพยังอยู่ในระดับพึ่งพาอาศัยได้ และด้วยราคาที่เป็นมิตรกับกระเป๋าดีครับ อ้อ, เวลานี้เห็นที่ร้านเขามีแผง Diffuser จำหน่ายด้วยนะครับ เป็นแบบแผงแยกชิ้นที่ผมว่าเหมาะกว่าแผง Built-In เข้าผนังห้องเป็นไหนๆ เพราะสามารถขยับหาตำแหน่งวางที่เหมาะสมได้อย่างถึงที่สุดนั่นเอง

มีชื่อคล้ายๆ กับที่อยู่ชั้นล่างชื่อหนึ่ง คือ Music for You ครับ ซึ่งบอกกันชัดๆ เคียงข้างชื่อร้านว่าเป็นสถานที่สำหรับบรรดา Movie & Music Lovers โดยเฉพาะ เพราะให้บริการทางด้านอุปกรณ์สำหรับระบบภาพ และระบบเสียง ทุกประเภทอย่างครบวงจร นอกจากนั้น ยังมีเครื่องมือสองเตรียมไว้คอยให้เลือกซื้อหากันด้วย เข้าไปลองดูและฟังชุดโฮม เธียเตอร์ ที่เขาเดโม" อยู่แล้ว นึกว่าจำลองโรงหนังเข้ามาในร้านยังไงยังงั้นเชียว ลองแวะกันไปดู

มีอยู่อีกร้านครับที่กำลังตกแต่งอยู่อย่างขะมักเขม้น คาดว่าอีกไม่นานวันก็คงแล้วเสร็จสามารถเปิดให้บริการได้ คือ Golden Sound (2001) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการทางด้านไฮ-เอ็นด์อีกราย โดยเฉพาะกับบรรดานักเล่นที่ยังคงเสน่หาอยู่ในสเตรีโอ 2 แชนเนล อย่างไม่เสื่อมคลายนั้น น่าจะชื่นชอบกันมาก

ลากันด้วยซอฟต์แวร์ เฮ้าส์ อีกรายครับ คือ "บูมเมอแรง" ซึ่งมีทั้งแผ่นหนังดีๆ และแผ่นเพลงเพราะๆ ทุกแนว ให้เลือกไปเสพสุนทรียรสกันในราคาแบบคิก-ออฟ แคมเปญ ด้วยเช่นเดียวกัน


หน้า 88

--------------------------------------------------------------------------------

[ขุนจิต]

http://www.matichon.co.th/weekly/weekly.php
http://www.matichon.co.th/weekly/weekly.php?srctag=04115291047&srcday=2004/11/12&search=no

วันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2547 ปีที่ 25 ฉบับที่ 1263

เครื่องเสียง

พิพัฒน์ คคะนาท info@hifi.co.th

eSquare : 1

พาเที่ยวชั้นล่างก่อนนะครับ หากคุณเอารถขึ้นไปจอดที่ลานจอดของ Big C ราชดำริ ตามที่ผมแนะนำไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ลงลิฟท์มาทื่ชั้น 1 เดินออกจากลิฟต์ไปทางซ้ายมือสี่ซ้าห้าก้าว ก็จะเห็นประตูทางเข้าห้างอยู่ทางขวามือ ซึ่งเมื่อเดินออกจากตึกบิ๊กซี ที่ประตูนี้ ก็จะเห็นประตูทางเข้า eSquare เยื้องๆ กันอยู่ทางด้านขวามือ ให้ตรงเข้าไปได้เลยครับ อ้อ, แต่ไม่ควรก่อน 11 โมง นะครับ เพราะร้านรวงแถบนี้เขาจะเปิดกันก็ต่อเมื่อล่วงเวลาที่ว่านั้นไปแล้ว

แค่ก้าวเข้าประตูไป บานกระจกแบบ Window Display ด้านซ้ายมือก็จะตรึงคุณเอาไว้ด้วยอุปกรณ์ประเภทเครื่องเคียงของคนเล่นเครื่องเสียงวางเรียงอยู่เต็มตู้แลดูน่าสนใจดี

ยิ่งคุณเหลือบมองขึ้นด้านบนเพื่อจะดูว่าร้านนี้ชื่ออะไรล่ะก็ แทนที่จะเห็นชื่อร้านกลับจะเห็นสารพัดชื่อยี่ห้อที่อยู่แถวหน้าๆ ของวงการทั้งในส่วนของระบบภาพ และระบบเสียง ละลานตาเต็มไปหมด ไล่ไปตั้งแต่ NEC Projector, M&K Speaker System, VTL, Aerial Acoustics, Totem Acoustics, Ayre ตลอดจนชื่ออย่าง BenQ

ส่วนที่ระบุเอาไว้เป็นชื่อร้านจริงๆ นั้น คือ Audio/Video Paradise ครับ

จากรายชื่อสินค้าที่เห็นนั้น นักเล่นคงจะทราบกันดีนะครับ ว่าเป็นสินค้าที่นำเข้ามาโดยเครือ Deco ทั้งหมด แม้จะมีชื่ออย่าง NEC, BenQ หลุดออกมา ก็เป็นที่ทราบกันดีว่าทางกลุ่มเดโคนี่แหละครับ ที่เป็นคนทำตลาดทางด้านเครื่องฉายภาพกับจอพลาสมาให้กับ NEC เขา ทุกชื่อที่อยู่ในร้านนี้น่าสนใจทั้งสิ้นครับ โดยเฉพาะกับการโชว์ชุด 2 แชนเนล ด้วยอิเล็กทรอนิกส์ของ Ayre กับลำโพง Totem นั้น น่าไปนั่งฟังกันมากครับ

ส่วนชุดลำโพง M&K เอง ก็น่าสนใจ โดยเฉพาะกับการนำไปใช้ในระบบเสียงแบบโฮม เธียเตอร์ เพราะนี้เป็นยี่ห้อลำโพงที่บรรดาสติวดิโอบันทึกเสียงหลายๆ แห่ง โดยเฉพาะในฮอลลีวู้ดนั้น นิยมใช้เป็นมอนิเตอร์กันมากครับ

ก่อนจะผ่านเอ/วี พาราไดส์ ไป ใครที่ชมชอบการบันทึกภาพด้วยกล้องดิจิตอล ก็สามารถแวะชมสินค้ารุ่นใหม่ๆ ทางด้านนี้ได้ที่ฝั่งตรงกันข้ามนะครับ มีกล้องน่าสนใจอยู่หลายตัวทีเดียว โดยเฉพาะ 8.0 เมกะพิกเซล ของ Olympus กับ Finepix S5500 ตัวใหม่ที่กำลังมาแรง และราคาก็น่าสนใจดีด้วย

ติดๆ กันกับเอ/วี พาราไดส์ คือ Save Audio ครับ ขานี้ก็เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะร้านออกแบบทำห้อง และเซ็ตอัพระบบภาพและเสียงที่มีงานล้นมือ เป็นที่เชื่อถือและไว้วางใจของนักเล่นขาใหญ่ในวงการมานานพอตัว เสียดายหน่อยตรงที่ว่าที่ทางที่นี่น้อยกว่าเมื่อคราวอยู่เพลินจิต เซ็นเตอร์ ไปหน่อย ก็เลยยังลงสินค้าลงอะไรได้ไม่เต็มที่

แต่ที่เห็นและดึงความสนใจของผมได้มากก็คือ มีเทิร์นเทเบิลตัวใหม่ที่เป็นรุ่นเล็กสุด ซึ่งมาพร้อมโทนอาร์มพร้อมสรรพของ Clear Audio วางโชว์ดูหรูสุดๆ อยู่หน้าร้าน จนอดไม่ได้ที่เข้าไปขอลองฟังดูหน่อย แต่ต้องให้ผิดหวัง เพราะกำลังเซ็ตอัพอยู่ ยังไม่เข้าที่เข้าทาง ก็เลยไม่สามารถนำอะไรมาบอกกล่าวให้ทราบกันได้บ้าง

ที่เซฟนี่, นอกจากจะมีเครื่องและลำโพงไฮ-เอ็นด์หลากหลายให้ลองแล้ว ที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือเขามีแผ่นสำหรับออดิโอไฟล์จำหน่ายด้วย ทั้ง CD-Audio, SACD ตลอดจนแผ่นไวนิล มีครบครับ ลองเข้าไปชมกันดู คงได้อะไรติดไม้ติดมือกลับมาบ้างล่ะน่า

ห้องถัดจากเซฟไป ดูยังไม่ค่อยจะเรียบร้อยดีครับ ยังอยู่ระหว่างการจัดเรียงสินค้าอยู่ แต่ห้องหับอะไรนั้น เรียบร้อยแล้วนะครับ ชื่อว่า Music for Life ที่เห็นวางอยู่หน้าร้านแยะมากก็คือบรรดาลำโพงไฮ-เอ็นด์ทั้งหลาย เห็นทั้ง Thiel ทั้ง ProAc และที่ผมยังอยากจะลองฟังแบบชัดๆ อีกที ก็คือ Athena Technology ครับ สุดสัปดาห์นี้ว่าจะแวะเข้าไปอีกที หวังว่าคงได้น้ำได้เนื้ออะไรกลับมาบ้าง

มีอีกร้านน่าสนใจมาก แต่ยังไม่แล้วเสร็จแบบเรียบร้อยดี คือ Hi-End Audio ครับ ดูจากภายนอกด้วยสายตาที่คะเนแบบคร่าวๆ แล้ว ที่ทางไม่น่าจะหนีกันกับที่เปิดอยู่ที่เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า สักกี่มากน้อย และเท่าที่ลองแง้มๆ มอง ท่าจะติดหรูพอๆ กันด้วย อีกไม่กี่อึดใจก็น่าจะเรียบร้อยได้ คราวนี้แหละครับ ผมคงไม่ต้องฟันฝ่าการจราจรแบบข้ามฟากเวลาอยากจะฟังอภิมหาลำโพงอย่าง Grande Utopia Beryllium ของ Focal-JM Lab ที่ได้ชื่อว่าเป็น Laboratory Reference Loudspeaker รวมทั้งเครื่องอย่าง Accuphase อีกต่อไปแล้ว

ฝากเร่งมือหน่อยนะครับคุณมนู หูผมจะลงแดงอยู่แล้วเฮีย-ฮา--



อีกร้านที่อยู่ชั้นล่างนี้ซึ่งเป็นร้านที่ขาใหญ่ กระเป๋าหนัก มักคุ้นกันเป็นอย่างดีอีกร้านหนึ่ง คือ KS Sonsgroup ครับ ก็ชื่อที่คู่กันกับยี่ห้อ McIntosh ไงครับ เท่าที่สังเกตดูเคเอสยกสินค้ามาที่นี่เพียบเลยนะครับ ทั้งเครื่องทั้งลำโพง โดยเฉพาะลำโพง Sonus-Faber ที่เป็นงานฝีมือระดับประณีตศิลป์จากอิตาลีนั้น อยากให้ลองไปฟังกันดูครับ ว่าศาสตร์และศิลป์แห่งเสียงดนตรีที่ผ่านการ "ทำซ้ำ" หรือ Reproduction มาแบบถึงๆ นั้น เป็นอย่างไร

นอกจากเครื่องแม็ก"แล้ว ยังเห็นมีเครื่องของ Audio-Research กับเครื่องของ Pass Lab วางเดโม" อยู่ด้วย มีทั้งเครื่องหลอดและเครื่องโซลิด-สเตตล่ะครับ ที่น่าสนใจคือเห็นเครื่องแม็ก" มือสอง สภาพยังสวยกริ๊กอยู่เลย วางโชว์แบบพร้อมขายอยู่หลายตัวเหมือนกัน

และที่ขาดไม่ได้อีกอย่างในร้านของเคเอสนอกจากเครื่อง และลำโพง ที่พูดถึงข้างต้น กับ Accessories ทางด้านสายทั้งสายสัญญาณ สายลำโพง ของ XLO แล้ว ก็คือซีดีเพลงระดับออดิโอไฟล์ครับ เห็นบอกว่าตอนนี้ลดราคาให้เป็นพิเศษ รวมทั้งมีพวก SACD ขายด้วย

Onkyo ก็มานะครับ อยู่ที่ชั้นล่างนี้เหมือนกัน มาไสตล์สว่าง กระจ่าง กระจะตา แลโล่ง โปร่ง แบบว่าน้อยแต่มีน้ำหนักอยู่ในทีตามแบบญี่ปุ่นนั่นแหละครับ ดูแล้วชวนชม ชวนให้เข้าไปดีจังครับ ที่นี่เน้นระบบภาพและเสียงเป็นหลัก จัดไว้เป็นซิสเต็ม แลดูเข้าตาและลงตัวดีครับ มีเอ/วี รีซีฟเวอร์ น่าสนใจอยู่หลายเครื่องเหมือนกัน

ส่วนใครที่กำลังมองหาชุดระบบเสียงติดรถยนต์ มาที่นี่ก็ไม่ผิดหวังนะครับ เพราะที่ใกล้ๆ กับออนเกียวนั้น มีทั้งแบบแยกชิ้น และจัดชุด ของ Bostwick, Karstat และ JVC ให้เลือกมากมายเชียวครับ นอกจากนั้น ที่นี่ยังมีสายลำโพงที่นิยมใช้กันของ Furukawa เตรียมไว้คอยให้บริการด้วย อ้อ, ที่ชวนให้แปลกตากับ Window Display ของที่นี่ ก็คือเห็นมีโปรเจ็กชั่น ทีวี ราคาน่าเล่นตั้งโชว์อยู่สามสี่ขนาดด้วย

ลากันที่ชั้นล่างก่อนขึ้นไปชั้นสองต่อด้วย แมงป่อง ครับ ตอนนี้เห็นมีรายการพิเศษแบบคิก-ออฟ แคมเปญ กะเขาด้วยเหมือนกัน คือ ลดแหลก แจก แถม

ทั้งซอฟต์แวร์หนังและซอฟต์เพลงทุกประเภทครับ