Home Theater Guide webboard > มุม โฮมเธียเตอร์ (HT)
งานนี้ต้องมาขอคุณท่าน wk kk ที่ช่วยดำเนินการประกอบ hi-def
jimmm:
[[
--- อ้างถึง ---table]color=Purple]รบกวนคุณแม่ท่านขุนแค่กล่องเดียวแหล่ะครับ The Return of The King Giftset แค่นั้นก็เกรงใจแย่แล้วเพราะกล่องมันใหญ่ ส่วนแผ่นอื่นผมสั่งเอาทางเวบไ้ด้ แต่ไอ้กล่องนี้ขึ้นสั่ง[/color]มาภาษีอานแน่ ขอบคุณอีกครั้งหวังว่ามันจาออกทันคุณแม่ท่านขุนเดินทางนะ
--- End quote ---
พี่หมอtjครับ รู้สึกว่า Z2 ที่พี่หมอต้องการจะออกวันที่10 ธค นะครับ ถ้าผมไม่ผิดนะครับ ไม่ทราบว่าพี่หมอtjเคยลองเล่นแผ่นdvdจากญี่ปุ่นไหมครับ คุณภาพของภาพและเสียงดีหรือแย่กว่าเมื่อเทียบกับ Z1&Z2 (นอกจากราคาที่แพงกว่าครับ)
หมอทีเจ:
รบกวนคุณแม่ท่านขุนแค่กล่องเดียวแหล่ะครับ The Return of The King Giftset แค่นั้นก็เกรงใจแย่แล้วเพราะกล่องมันใหญ่ ส่วนแผ่นอื่นผมสั่งเอาทางเวบไ้ด้ แต่ไอ้กล่องนี้ขึ้นสั่งมาภาษีอานแน่ ขอบคุณอีกครั้งหวังว่ามันจาออกทันคุณแม่ท่านขุนเดินทางนะ
Hidden RH1N0:
.... ขอบคุณครับ .... แต่ เอ... ผมสั่งหนังเรื่องอะไรไว้อ่ะครับ .... จำไม่ได้แล้ว .... อิ อิ
... หรือว่าเป็น Desperado Zone 2 ???
ขุนจิต:
พอดีมีคนส่งข่าวมาว่า มีพี่ท่านหนึ่งพอดีมาชมภาพที่ร้านครับ แต่จิตไม่ทราบเป็นใครเหมือนกัน ก็ต้อนรับตามปรกติ แต่มาทราบที่หลังเป็นเจ้าของหนังสือเครื่องเสียงเก่าแกj แต่มาเขียนคอลัม์ในหนังสือมติชน และเขียนถึง benq 8700 จึงเอามาฝากอ่านครับ
http://www.matichon.co.th/weekly/weekly.php?srctag=04112121147&srcday=2004/11/12&search=no
วันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2547 ปีที่ 25 ฉบับที่ 1265
เครื่องเสียง
พิพัฒน์ คคะนาท pipaz@thai.com
BenQ DLP Projector
กับชื่อ BenQ นี่ เพิ่งจะเป็นที่รู้จักกันในบ้านเราเมื่อสองสามปีที่ผ่านมานี้เอง แรกที่เข้ามานั้นเป็นรู้กันว่าคือแบรนด์ใหม่จากไต้หวัน ช่องทางที่เข้ามาก็คือตลาดทางด้าน IT ที่หลากแบรนด์จากดินแดนที่ว่านั้นเข้าไปยึดหัวหาดแทบจะทั่วทุกมุมโลกอยู่แล้ว และมีการเติบโตที่รวดเร็วมาก จากสินค้าหลักๆ ไม่กี่อย่างที่มักคุ้นกันในแวดวงคอมพิวเตอร์ วันนี้สินค้าไอทีภายใต้ชื่อ BenQ มีมากพอถึงกับใช้คำว่าสากกะเบือยันเรือรบได้แล้ว (กระมัง ?)
รวมทั้งยังมีเครื่องฉายภาพ หรือ Projector ที่ก้าวพ้นปริมณฑลของไอที ล่วงเข้ามาสู่วงการ Audio/Video ชนิดที่นักเล่นระดับ Videophile ถึงกับเป็นงงว่าพลัดหลงเข้ามาได้อย่างไร
ซึ่งที่สุดแล้วสรุปได้สั้นๆ ว่า "คุณภาพ" เป็นคำตอบสุดท้ายครับ
ผมเองก็มิได้มักคุ้นอะไรกับชื่อนี้มาก่อน โดยเฉพาะในส่วนของระบบภาพและเสียงที่ข้องเกี่ยวอยู่ในเชิงออดิโอและวิดีโอ รู้จักก็ครือกันกับที่รู้จักชื่อ Acer, Epson อะไรแถวๆ นั้น กระทั่งได้ไปพบเห็นที่เดโม" อยู่คราวหนึ่ง ในงานอะไรสักอย่างเมื่อกลางๆ ปีที่ผ่านมา ด้วยเครื่องฉายภาพหรือโปรเจ็กเตอร์นี่แหละครับ จำได้ว่าเห็นแล้วทึ่งกับสีสันของภาพที่บอกตัวเองว่า-เข้าตาดีแฮะ--แต่ก็ไม่มีจังหวะที่จะนั่งดูอย่างพินิจได้ ก็เลยเลือนๆ ไป และไม่มีโอกาสได้พบเห็นจากที่ไหนอีก
นานวันเข้าก็ลืมแบบหายจากความทรงจำไปเลย แม้ว่าบางช่วงจะผ่านตาจากนิตยสารต่างประเทศบ้าง แต่ก็ผ่านแบบเปิดพลิกผ่านโดยที่มิได้ลงไปในรายละเอียดอะไร เพราะเห็นมีเรื่องอื่นๆ ให้รู้สึกน่าสนใจอ่านมากกว่า
กระทั่งพักหลังที่ไปขลุกอยู่แถบ eSquare ค่อนข้างถี่สักหน่อย ประมาณว่าอาทิตย์นึงต้องมีเข้าไปสักหนครึ่งหนนี่แหละครับ จึงมีโอกาสได้เห็นหน้าค่าตากันอีก อีกทั้งยังมีโอกาสเหมาะที่ได้สัมผัสประสิทธิภาพแบบเต็มๆ และสบายๆ เพราะไม่มีใครมาวุ่นวายอะไรด้วยเหมือนเวลาไปดูตามงานโชว์ต่างๆ อย่างที่ผ่านมา
จึงทำให้พอได้เรื่องราวอันนำมาเล่าสู่กันฟังที่ตรงนี้ได้ครับ
เครื่องที่ว่านี้ คือ BenQ PE-8700 ซึ่งเป็นแบบที่ทำงานในระบบ Single-Chip DLP Projection ที่ใช้ชิพ (DMD-Chip) ประมวลผลตัวล่าสุดของ Texas Instrument คือ HD2+ โดยให้รายละเอียดสูงสุดด้วยค่า Native Resolution 1280 x 720 pixels ใช้เลนส์ 1-1.2 Zoom หลอดแสงสว่าง 210W NSH โดยให้ค่าความสว่าง 1000 ANSI Lumens ค่าอัตราส่วน Contrast Ratio 2500 : 1 สามารถให้ภาพได้ขนาด 40-250 นิ้ว มีอินพุตให้เลือกใช้ครบครัน อาทิ Component (RCA), RGB/Component HDTV (BNC), DVI-I, Composite Video และ S-Video เอาต์พุตเป็นแบบ 12VDC Trigger ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเพียง 16.7 ปอนด์ หรือ 7.5 กิโลกรัม โดยประมาณ
หน้าตาเป็นกล่องสี่เหลี่ยมแบบเชยๆ อย่างที่เห็นในภาพนั่นแหละครับ ไม่มีเส้นสายของรูปทรงที่โค้ง เว้า เหมือนเครื่องแบรนด์ญี่ปุ่น ที่ส่วนใหญ่ระยะหลังๆ จะดีไซน์กันค่อนข้างโฉบเฉี่ยวบาดตาอย่าง NEC HT-1100, Hitachi PJ-TX-100, Sharp DT-200 เป็นต้น
แต่กับหน้าตาเฉิ่มๆ เชยๆ ที่ว่านั้นแหละครับ ที่ให้ภาพออกมาแจ่มอย่างชนิดที่เมื่อนั่งดูแบบเอาเรื่องแล้ว ต้องยอมรับว่ามีความโดดเด่นในตัวเองสูงมาก โดยเฉพาะเมื่อได้รับรู้ว่าขายอยู่ที่ราคาเท่าไร
เขาตั้งราคาขายสุทธิเอาไว้ที่ 199,000 บาท ครับ เป็นราคารวม VAT หรือภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว
เห็นราคานั้นแล้ว สิ่งแรกที่ผมทำหลังกลับมาถึงที่ทำงานในวันเดียวกันนั้นก็คือ ค้นหนังสือครับ ค้นดูว่าที่เคยเห็นเป็นบทวิจารณ์ผ่านตานั้น เป็นรุ่นเดียวกันนี้หรือเปล่า และถ้าใช่, ที่นั่นเขาขายกันอยู่เท่าไร คือยังไม่แน่ใจนะครับว่าคราวที่พลิกหนังสือเห็นรายงานการทดสอบเครื่อง BenQ ผ่านตานั้น เป็นหนังสือจากยุโรป หรือว่าของอเมริกา
ปรากฏว่าพลิกหาไม่กี่เล่มก็เจอครับ ตีพิมพ์อยู่ในนิตยสาร Ultimate AV ซึ่งเป็นนิตยสารในเครือหนึ่งในคัมภีร์นักเล่นไฮ-เอ็นด์ค่อนโลก คือ Stereophile แห่งอเมริกานั่นเอง และเป็นเครื่องรุ่นเดียวกัน แต่ที่โน่นเขาขายเครื่องละ 7,995 เหรียญ โดยยังไม่รวมภาษี ทั้งนี้เพราะภาษีสินค้าที่ขายในอเมริกานั้น แต่ละเมืองไม่เท่ากันครับ การบอกราคาสินค้าที่โน่นเขาจึงบอกแต่ราคาสินค้าโดดๆ ใครอยู่เมืองไหน รัฐใด มีอัตราภาษีร้อยละเท่าไร ก็เอาภาษีนั้นบวกเข้าไปด้วยเป็นมูลค่ารวมของสินค้า
ซึ่งกับราคาที่เห็นนั่น คิดเป็นเงินบ้านเราแบบง่ายๆ คือ เอา 40 คูณ ก็ปาเข้าไปร่วมสามแสนสองแล้ว แสดงว่าที่อเมริกานั้น เครื่องนี้ขายแพงกว่าในบ้านเราเป็นแสนเลยนะครับ
เพราะฉะนั้น หากเครื่องนี้บ้านเราขายอยู่ในราคาสามแสนขึ้น ประมาณว่าสักสามแสนห้าสามแสนหก ผมคงไม่เป็นอึ้งและทึ่งถึงขนาดนี้เมื่อได้เห็นคุณภาพ
เพราะนี้เป็นราคาที่ถูกมาก หรือจะบอกว่าเป็นราคาต่ำสุดของเครื่องระดับนี้ที่มีขายอยู่ในบ้านเราเวลานี้ ก็ว่าได้เลยนะครับ คือด้วยสายตาของผมนั้น ผมว่ามันท้าชนทุกเครื่องในบ้านเราที่ขายสามสี่แสนขึ้นอยู่แถวๆ นี้ ได้ทุกตัวครับ ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นเครื่องไหนให้ภาพดีกว่านี้มาก่อนนะครับ มีหลายเครื่อง เห็นหลายตัวครับ ที่ให้ภาพเหนือกว่าเครื่องนี้
แต่เมื่อเทียบกันที่ราคาแบบบาทต่อบาทแล้ว ผมมีความเห็นว่าเงินที่จ่ายให้เครื่องนี้มีความคุ้มค่ามากกว่าครับ เพราะเท่าที่ได้ดูมาในตลาดเครื่องฉายภาพเวลานี้ หากจะเอาคุณภาพระดับนี้คุณต้องจ่ายมากกว่านี้ครับ หรือจะหาเครื่องที่ดีกว่านี้แล้วยอมจ่ายมากอีกหน่อย ประมาณว่าอีกเกือบหรือสักเท่าตัวนั้น ก็พอมีนะครับ
แต่กับราคาที่มากกว่าขนาดนั้นเท่าที่ผมได้เห็นมาหลายๆ เครื่อง คุณภาพมันดีกว่าแบบว่าเหลื่อมกว่าตรงนั้นนิด ตรงนี้หน่อย แบบว่าหน่อยเดียวเท่านั้นเอง แล้วคุ้มหรือครับ
คือก็ไม่ใช่ว่าดูมาเห็นมาหมดทุกเครื่องแล้วดอกนะครับ แต่แม้ว่าจะยังดูไม่หมดทุกเครื่อง ยังเห็นไม่ครบทุกตัวก็เถอะ กับประสบการณ์ที่ผ่านตามา-ซึ่งก็ไม่น้อยเครื่องเหมือนกัน, บอกเช่นที่ว่านั้นได้ครับ
ภาพสวย ให้สีสันที่มีความเป็นธรรมชาติสูง ภาพกลางแจ้งแบบแสงธรรมชาติยามกลางวันนี่ เด็ดขาดมากครับ โดยเฉพาะกับสีเนื้อตัวของผู้คนที่ต่างผิว แผกพันธุ์ ความยับย่นของผิวหน้า ความกร้านกระด้างของมือไม้ในผู้สูงวัยนั้น มีความเสมือนจริงอย่างน่าทึ่ง บอกริ้วรอยของกาลเวลาที่ผ่านพ้นให้สัมผัสได้อย่างชัดเจน ในขณะที่ผิวเด็กแบบฝาดเลือดสีอมชมพูตรงกระพุ้งแก้มอวบๆ นั้น เห็นแล้วแทบอยากเอื้อมมือไปหยิกหมับเข้าให้ด้วยความมันเขี้ยว ผมทึ่งกับการให้รายละเอียดของสีสันภาพตรงนี้มากทีเดียว
ในขณะที่ภาพในความมืดหรือในบริเวณที่มีแสงสว่างไม่มากนั้น แม้จะไม่ถึงกับโดดเด่นชนิดที่แยกแยะความดำมืดออกมาได้เป็นระดับชั้น แต่ก็ไม่ได้มีอะไรเสียหายถึงขนาดรับไม่ได้ เพราะภาพที่เห็นในความมืดนั้นยังบอกมิติตื้น ลึก ได้ชนิดที่แตกต่างไปจากการดูภาพ "หนังแผ่น" หน้าโรงอย่างสิ้นเชิง
ภาพเคลื่อนไหวมีความต่อเนื่องที่เนียนตาดีมาก ดูสบายตาด้วยซ้ำแม้กับภาพที่เคลื่อนไหวรวดเร็ว อย่างการแข่งขันกีฬา แม้ว่าจะนั่งอยู่ห่างจอไม่เกินสี่เมตร กับขนาดภาพที่ขยายขึ้นไปบนจอระดับ 92-94 นิ้ว ก็ยังดูลื่นไหลสบายตาดีจริงๆ นำมาบอกกล่าวกันไว้เผื่อว่าใครกำลังมองหาเครื่องพวกนี้อยู่ ก่อนตัดสินใจกับอะไร ช่วยเปิดโอกาสให้เครื่องนี้ได้ทำงานผ่านตาคุณสักหนก่อนก็แล้วกัน
หลังจากนั้นแล้วจะตกลงปลงใจกับอะไร เครื่องไหน ตัดสินใจเอาเองครับ
Too' Ninja:
เอ!แผ่น Hi-def ที่คุณ fot_ja เพียบเลยนะคับ เฮีย wk ก็น่าจะตุนไว้เยอะเหมือนกัน...อิๆๆ :D
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version