เกิดแรงสะเทือนทำให้เกิดรอยร้าวที่บริเวณพื้นหน้าบ้าน ไม่ทราบว่าใช่พื้นบริเวณที่จอดรถหรือเปล่าครับ ถ้าใช่แล้วเป็นอย่างที่ผมเข้าใจคือ โดยทั่วไปพื้นบริเวณที่จอดรถจะเป็นระบบพื้นที่เรียกว่าพื้นวางบนดิน (slab on ground) ซึ่งพื้นระบบนี้ก็จะเหมือนกับพื้นถนนคือใช้ดินเป็นตัวรับน้ำหนัก นานวันเข้าไปดินทรุดพื้นระบบนี้ก็จะทรุดตามดิน ทำให้เกิดรอยร้าวบริเวณขอบรอยต่อระหว่างพื้นกับต้วบ้านซึ่งโครงสร้างอยู่บนเสาเข็ม ถ้าเป็นบ้านแพงๆหน่อยอย่าง L&H บริเวณรอยต่อนี้มักจะโรยกรวดแม่น้ำเอาไว้ทำให้ไม่เห็นรอยร้าวหน้าเกลียด
แต่กรณีนี้ผมไม่ได้เห็นรูปจริง ยังไงถ้าถ่ายรูปมาได้น่าจะตอบได้มั่นใจกว่านี้ครับ การตอกเสาเข็มหรือแรงสั่นสะเทือนทำให้ดินเกิดการทรุดตัวเร็วขึ้นทำให้พื้นระบบนี้ทรุดเร็วขึ้นครับ อีกอย่างหนึ่งที่ควรระวังคือหากตึกที่สร้างมีชั้นใต้ดิน ตอนก่อสร้างมักจะทำให้บ้านข้างเคียงทรุดเสียหาย หากมีการก่อสร้างชั้นใต้ดิน แนะนำให้เข้าไปคุยก่อนเริ่มก่อสร้างและให้ประกันเข้ามาถ่ายรูปทำเอกสารเป็นลายลักษร์อักษรในกรณีที่อาจมีความเสียหายในอนาคต
1. เรื่องรอยร้าวคงตอบให้ละเอียดหมดไม่ไหวครับ รบกวนไปซื้อหนังสือเล่มนี้มาอ่าน
คู่มือตรวจสอบรอยร้าว (ชื่อหนังสือถ้าผิดขอภัย)โดย อ.ธเนศ วีระศิริ ติดต่อที่ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ 487 รามคำแหง 39 (ซอยวัดเทพลีลา) วังทองหลาง กทม. 10310 โทร 0-2319-2410-3 โทรสาร 0-2319-2710-11
www.eit.or.th ผมไม่แน่ใจว่ามีบริการสั่งซื้อทาง ปณ. หรือเปล่า
ยังไงก็แล้วแต่ส่วนที่ไวที่สุดซึ่งเป็นตัวบอกเหตุคือผนังบ้านหรือผน้งก่ออิฐนี่แหละครับ ลักษณะการแตกร้าวของผนังจะเป็นตัวบอกว่าอันตรายหรือไม่
2. รอยร้าวในจุดที่มองไม่เห็นเช่นใต้ท้องพื้น คาน ที่อยู่เหนือฝ้า พวกนี้หากมีปัญหาอย่างที่บอกคือมันจะเกิดที่ผนังซึ่งไวต่อการแตกร้าวกว่าก่อนครับ
3. เอาเข้าใจง่ายๆคือเรียงลำดับความสำคัญจากน้อยไปหามากตามนี้ครับ ผนังก่ออิฐ พื้น คาน เสา ฐานราก 2 อย่างหลังนี้ถ้าพังคือเกือบทั้งหลัง และที่สำคัญพวกนี้ไม่ค่อยร้าวให้เห็นเท่าไหร่ครับ แต่เมื่อเกิดปัญหาจะไปร้าวให้เห็นที่อื่นมากกว่า
4. ข้อนี้คงต้องให้ทนายช่วยตอบด้วยครับ แต่ผมแนะนำในฐานะวิศวกรก็แล้วกัน
ปกติโครงการก่อสร้างที่มีคุณภาพ (สร้างโดยเจ้าของโครงการเจ้าใหญ่)จะไม่ค่อยอยากมีปัญหากับบ้านข้างเคียงอยู่แล้วครับ เวลาจะเริ่มโครงการ บ.ที่ปรึกษาควบคุมงานที่ทำงานเป็นจะต้องให้ผู้รับเหมาจัดทำประกันภัยรับผิดชอบความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ก่อนเริ่มก่อสร้างจะต้องขอให้ประกันเข้าไปถ่ายรูปสภาพเดิมของบ้านข้างเคียง (ซึ่งปกติเจ้าของบ้านมักจะไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าไหร่ ทั้งๆที่เราอยากจะไปช่วยเขา แต่พอมีปัญหาจะค่อนข้างลำบากในการเคลม) ซึ่งยังไงก็แล้วแต่ฝ่ายเจ้าของโครงการรวมถึงผู้รับเหมาและ บ.ที่ปรึกษาควบคุมงานที่ดีจะเข้าไปดูแลซ่อมแซมให้ถึงแม้ประกันจะไม่จ่าย
ขณะที่ก่อสร้างแล้วเกิดปัญหาก็แนะนำให้ติดต่อไปยัง Project Manager ของ บ.ที่ปรึกษาควบคุมงาน (ดูจากป้ายที่ติดหน้าโครงการว่า บ.ไหนเป็นที่ปรึกษาควบคุมงาน แล้วโทรไปสอบถามคุยกับคนที่เป็น PM ดูครับ) ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเขาจะซ่อมให้จนคุณพอใจครับ ถ้าเขาไม่ซ่อมให้ค่อยมาคุยเรื่องค่าเสียหายอีกที
แต่อยากจะฝากไว้ครับ เจ้าของบ้านรักบ้านอันนี้ผมเข้าใจครับ แต่คนที่ทำงานก็คงไม่อยากมีใครทำให้บ้านคุณเสียหาย อันนี้ผมหมายถึงคนที่เป็นลูกจ้างที่เขามาทำงานในโครงการนะครับ เลยไม่อยากให้เหมือนบางคนที่ผมเคยเจอคือเอาแต่ใจตนเอง เอาแต่อารมณ์ บางคนโวยวายถึงกับให้ซ่อมส่วนที่ร้าวอยู่ก่อนซึ่งผมก็ให้ผู้รับเหมาซ่อมให้หมด (อันนี้ผมดูออกครับว่ามันร้าวเนื่องจากอะไร ร้าวอยู่ก่อนหรือเปล่า เช่นไปต่อเติมแล้วร้าว) และไม่อยากให้พอมีปัญหาปุ๊บก็แจ้งเขตเลย อยากจะบอกว่าทั้งเจ้าของบ้านและเจ้าของโครงการเจ็บครับ เจ้าของโครงการก็อาจจะไม่พอใจพาลให้คุณไปฟ้องเอาไม่ยอมซ่อม ซึ่งผมว่าไม่ใช่วิธีที่ควรจะให้เกิด
เล่าหนังจีนให้ฟังเล่นๆครับ เมื่อก่อนนี้หน้าโครงการโรงเตี้ยมแห่งหนึ่งตอนกำลังก่อสร้างชอบมีแม่ค้ามาขายของหน้าโครงการให้คนงานก่อสร้าง เจ้าของโครงการก็ไม่ชอบเพราะทำให้ภาพพจน์ไม่หรูเวลามีคนมาดูโครงการ ก็เลยจ่ายให้จอหงวนมาช่วยจับแม่ค้า ฝ่ายจอหงวนได้รับโทรศัพท์ไม่รอช้า ก็รีบมาจับ แต่ไม่รู้อีท่าไหน แม่ค้าก็ยังขายอยู่นั่นแหละจนจบโครงการ ผมไปถามเจ้าของโครงการเลยได้ความว่าจอหงวนล่อทั้งสองทาง
