หัวข้อ: Marantz CD63 KI ยังokอยู่หรือเปล่าคับ หรือว่าซื้อรุ่นใหม่ราคาหมื่นต้น ๆ ดีกว่า

[Bassy]

โอ้วว ไม่ได้เข้ามาดูตั้งนาน คนตอบเพียบเลย ดีครับ ได้ความรู้ดี ขอบคุณมากครับ

[wiwatp]

บอกแบบเดาสุ่มคือ
อย่างต่ำแรงดันเท่าของเดิมครับ

แต่ถ้าทราบแรงดันการทำงาน (รู้ว่าใช้ไฟเลี้ยงวงจรสูงเท่าไหร่) ก็ใช้ค่า๑.๓เท่าขึ้นไปของไฟเลี้ยงได้(กรณีเครื่องโซลิดสเตท)

หรือวัดโวลท์ ตกคร่อมขณะทำงาน(ระวังชอร์ทจุดอื่นนะครับ ไม่ได้ตั้งใจหรอกบางทีมันเผลอได้ง่ายๆ) แล้วเผื่อไว้ ๒หรือ๓เท่าขึ้นไป

ยกเว้นซีที่บายพาส คาโธดของหลอด  บางท่านก็ใช้โวลท์ต่ำๆ ปริ่มๆ กับโวลท์เตจไบอัสที่ขากริดก็มี
(อย่างผมเองก็ชอบใช้โวลท์เตจขนาด ๖.๓ โวลท์ หรือ๑๐ โวลท์ สำหรับปรีหลอดครับ)

ถ้าเป็นซีอิเล็กโทรไลติก หรือใช้งานในเชิงเดียวกันอย่าง แบล็กเกท  แล้ว วิธิการที่นิยมคือ ของเก่าถอด(เก็บ)ทิ้งครับ
ส่วนค่าเล็กๆ ต่อไบแค็ป ต้องว่ากันเป็นจุดๆครับ 

ถ้าเป็นปรีแอ็มป์ หรือแอ็มป์ก็คงแนะนำให้ลองต่อฟังดูเองนะครับ ว่าจำเป็นไหม  ชอบไหม(เพราะบางครั้งบางจุด บางวงจร การใช้ซีตัวเดียว ฟังดีกว่าใช้หลายตัวก็มีครับ)

ขอบคุณครับ

[xthaix]

แฮะ ๆ เพิ่งกลับมาอ่านวันนี้เองครับ...
ขอบคุณทั้งคุณ KJ และคุณคุ้มครับ...
ได้ความรู้ดีๆ มาอีกนิด แต่ยังงงว่า.. คือถ้ามี C (เกรดธรรมดา) ที่ใช้เดิมอยู่ เรลก็เอา C (เกรดดี เช่น Black Gate) ค่าต่ำๆ มาต่อขนาน กับ C ตัวเดิมเลยใช่ไหมครับ 
ถ้าใช่ แล้ว C เกรดดีๆ ตัวที่มาเพิ่มนี่ ต้องทนแรงดันได้เท่ากับ C ตัวเดิมไหมครับ (เช่น C เดิมใช้ 1000 uf/63v แล้ว C ตัวใหม่ที่มา Bi-Cap ก็ต้องใช้ 0.1 uf/63 v ใช่ไหมครับ)
 

[wiwatp]

ขอบคุณท่านพี่เคเจครับผม

ว่ากันต่อครับ  กับ"Bi = สอง" คาปาซิเตอร์  ที่เขาว่าช่วยลดสไปค์ความถี่สูง ที่มากับภาคจ่ายไฟทิ้งไป  หรือส่งผ่านสัญญาณความถี่สูงดีขึ้น(กรณีใช้คัปปลิ้งสัญญาณ)

ก็ใช้ค่าเล็กกว่า  คุณภาพดีกว่ามาชดเชย หรือเสริมให้ตัวเดิมกรณีไบแค็ป

แต่ถ้าเปลี่ยนเอาของใหม่ที่ดีกว่าใส่เข้าไปทั้งคู่อันนี้เรียกว่าเปลี่ยนของเก่าออกอย่างสิ้นเชิง

ถ้าว่ากันตามทษฎีโดยละเอียดๆแล้ว  ผมเองไม่ได้เคยทราบมาก่อนเช่นกันครับ  แต่ถ้าว่ากันตามที่คุ้นเคย จากการพบเห็นในเครื่องต่างๆ  คงนำมาเล่าสู่กันฟังได้นิดหน่อยดังนี้

๑)พวกเครื่องเสียง อานาล็อก ใช้ค่า๐.๑ เป็นส่วนใหญ่ ในการไบแค็ปให้ตัวเก็บประจุอิเล็กโตรไลติกในภาคจ่ายไฟ หรือที่ใช้ในการคัปปลิ้งสัญญาณก็มี  .........ตัวอย่างชัดๆก็เครื่องเสียงเมดอินไทยแลนด์ แบร็นด์เนม(ส่วนใหญ่) และชุด(ไม่ต้องคิด)คิท ทั้งหลายละครับ

๒)พวกเครื่องที่มีดิจิตอลความถี่สูงเข้ามาเกี่ยว  ส่วนใหญ่เป็นเครื่องเล่นหรือแหล่งสัญญาณ
มักจะเห็นซีคุณภาพสูงขึ้น เช่นซิลเวอร์ไมก้า หรือเซรามิค(ส่งผ่าความถี่สูงๆได้ดี) ในจุดต่างๆ

๓)ถ้าเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งหลาย เราจะสังเกตุว่า จะมีพวกแทนทาลั่ม(ปัจจุบันไม่ค่อยจะเห็น แต่เป็นพวกอิเล็กโตรไลติก โลว์อิมพีแด้นซ์ ซะมากกกว่า)  แล้วก็ซีโพลี่ หรือเซรามิกไบแค็ป

ทีนี้เรื่องเสียงนี่มันละเอียดอ่อนมากๆ( เรื่องภาพเราจะแยกแยะได้ละเอียดน้อยกว่าเสียง)
การเปลี่ยนไปนั้นมีแน่  แต่จะชอบหรือไม่ มันอีกเรื่อง   จะลงตัวหรือเปล่าก็อีกเรื่อง

หรือบางทีอาจแย่กว่าก็เป็นได้(อาจมีโอกาส)

.....แต่ที่แน่ๆ  มันมี"ที่ดีกว่า" อยู่เรื่อยๆ นี่แหละครับ สิ่งที่ทำให้เดือดร้อน "เสียตังค์ซื้อชิ้นส่วน" ฮ่าๆๆ

ไม่ใช่แค่ประเภทของซี(เช่น โลว์-อิมพีแด้นซ์ , โพลีโพรไพรีน,เปเปอร์อินออยล์....อื่นๆ)เท่านั้น
รุ่น หรือยี่ห้อ ที่ผลิตต่างกัน มันก็เสียงเปลี่ยนไปแล้ว(คุณภาพของวัสดุ และเทคนิคการผลิต แร้งค์แรงดัน ทุกอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ทั้งหมด  ถ้าศึกษาค้นคว้าจริงจังคงมีข้อมูลที่รองรับผลการรับฟังได้ว่าทำไมเสียงจึงต่างกัน)

ความสุข(บางทีก็เฉียดเส้นที่ว่าบ้ากับดีเล็กน้อย ฮ่าๆๆ)ก็อยู่ที่ตรงนี้แหละครับ


นอกเรื่องไปมากแล้วครับ  กลับมาว่าถึงไบแค็ปทำได้อย่างไรกันต่อ

ถ้าเป็นผมในฐานะที่เรียนรู้มาเล็กน้อยผมทำอย่างนี้ครับ

ก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่า เครื่องเดิมให้เสียงอย่างไร  ในเครื่องเดิมเขาใช้อะไรอยู่

เราต้องการอะไร อย่างไร  แล้วเราจะทราบเองว่าควรใช้อะไรครับ 

ทั้งนี้เป็นสิ่งที่ได้จากจากข้อมูลที่สอบถาม ศึกษาการทดลองของดีไอวายท่านอื่น(ชู้ทเอ้าท์ต่างๆ)+ผลการทดลองเล่นจริงๆ ของเรา(ชู้ทเอ้าท์เอง)

รายละเอียดจารไนคงไม่ไหวครับผม...........เพราะทฤษฎีที่เป็นตัวเลข หรือตัวอักษรไม่สามารถใช้ได้ทั้งหมด

ขอบคุณครับ

[KJ]

ขออนุญาตตอบแทนเรื่องไบแคปเพื่อรอคุณคุ้มมาเพิ่มเติมครับ   ไบแคปคือการเอาแคปคุณภาพสูงใส่เพิ่มพ่วงเข้าไปกับแคปเดิม   นัยว่าเพื่ออาศัยคุณภาพของแคปที่สูงกว่ามาช่วยคุณภาพเสียงให้ดีขึ้นในราคาที่ประหยัดกว่าการเปลี่ยนแคปดีๆตัวใหญ่ๆไปแทนที่ตัวเก่าครับ

[xthaix]

คุณคุ้ม ครับ.... 5 5 5 เขินจัง แต่ต้องถามว่า การไบแค็ปในภาคจ่ายไฟ ทำไงอ่ะครับ คือไม่เข้าใจการไบแค็ป คืออะไรครับ ทำได้อย่างไรครับ... 

[wiwatp]

ขออนุญาตตอบคุณ ไท ครับ

แหม ถ้าถามผมแบบนี้ ผมก็ต้องบอกว่า  โมฯ+ต่อแด็คฯ ภายนอกดีกว่าซิครับ

๖๓ และ ๖๓เอสอีของผมไม่ได้โมฯแบบบ้าบิ่น และทุกภาค หรอกครับ
(ยกเว้นซีดี ๕๓ ตัวแรกที่พี่เจ้าของคนแรกเขาทำมาก่อนแล้วแบบสุดๆ ทุกภาค)ครับผม

เลือกทำใจจุดที่ลองแล้วได้ผล ดีกรณีใช้เป็นทรานสปอร์ตครับ
เริ่มจาก เปลี่ยนสายไฟเอซี  แล้วก็จบด้วย การใช้ซีโอเอสคอน ไบแค็ปในภาคจ่ายไฟ และภาคดีคัปปลิ้งในภาคดิจิตอล ทั้งหมดครับ(ยี่สิบกว่าตัวกระมังครับ)

ใช้แด็คฯภายนอก (ถ้าไม่ทำอะไรผิดพลาด) เสียง"ยก"กว่าแบบเดิมๆ เห็นๆครับ  ของอย่างนี้ต้องลองเองครับผม

ขอบคุณครับ

[xthaix]

คุณคุ้ม ครับ 63 mkII ถ้าไม่โม แต่ต่อ DAC ภายนอก เสียงดีกว่า โมฯ อย่างเดียวไหมครับ หรือ ทั้งโมน+DAC ภายนอกแจ๋วสุด...
คือผมมือใหม่ไม่ค่อยอยากโม 63mkII อ่ะครับ แต่ถ้าประกอบ DAC ภายนอกเอง ก็น่าสนใจครับ

[Bassy]

ขอบคุณมากครับ

[wiwatp]

  ขออนุญาตแสดงความเห็นในฐานะแฟนมาร้านซ์คนหนึ่ง(ผมใช้ 53,63,63SE)

ถ้าสภาพภายนอกยังสวย ก็ยังน่าใช้ครับผม

หัวอ่านฟิลลิปส์(ทำในมาเลย์เซีย) ราคาถูกมากครับ ไม่เกินหกเจ็ดร้อยบาท(ที่อมร) เปลี่ยนแล้วใช้ได้อีกนานครับ
กลไกภาคทรานสปอร์ต สามารถหยอดครีมหล่อลื่นได้

ถ้าฟังแบบเดิมๆ เสียงก็พอใช้ได้ครับ    แต่ถ้าต่อกับแด็คฯภายนอก ยกคุณภาพได้อีกแยะครับผม

ขอบคุณครับ

[Hidden RH1N0]

ถ้าเรื่องเสียง .... ราคาระดับนี้ คุ้มค่าแน่นอน .... แต่ เครื่องเล่น CD มือ  2 ถ้าจะซื้อ คงจะต้องพิจารณา เกี่ยวกับ ภาค Transport ด้วยอ่ะครับ ว่ายังคงสภาพดีแค่ไหน หัวอ่านยังดีหรือไม่ ด้วยอ่ะครับ ..... 

[Bassy]

ช่วยคิดหน่อยครับ
CD 63KI มือสอง 7000
รุ่นใหม่ ๆ หมื่นต้น ๆ ถึง กลาง ๆ
หรือว่า พวกประมาณ 2-3 หมื่น เสียจะดีขึ้นจนคุ้มแก่การลงทุนหรือไม่??

ขอบคุณครับ