ลำดับแรก ต้องคำนวณกระแสที่ภาคต่างๆ ต้องการครับ
1. ภาค drive (12AU7) คำนวนณได้ 2 ทาง คือ
1.1 แรงดันที่ภาคจ่ายไฟ B1+ ที่ 315 V แรงดัน B2+ ที่ 280 V ไหลผ่านความต้านทาน 4K7 (4,700 R)
คิดกระแสได้ (315-280)/4700 =0.0074468 A หรือ 7.4468 mA (2 ch L-R รวมกัน)
1.2 แรงดันที่ขาคาโทด 3.6 V ตกคร่อมตัวต้านทาน 1K (1,000 R)
คิดกระแสได้ 3.6/1000 =0.0036 A หรือ 3.6 mA เมื่อคิด 2 ch L-R รวมกันกระแสจะเป็น 2 เท่า คือ 0.0072 A หรือ 7.2 mA
ซึ่งกระแสที่ได้ใกล้เคียงกัน จึงสามารถเลือกค่าใดค่าหนึ่งก็ได้
2. ภาค power (EL84) คำนวณกระแสจาก แรงดันที่ขาคาโทด 10 V ตกคร่อมตัวต้านทาน 440 R
คิดกระแสได้ 10/440 =0.0227 A หรือ 22.7 mA เมื่อคิด 2 ch L-R รวมกันกระแสจะเป็น 2 เท่า คือ 0.00454 A หรือ 45.4 mA
เมื่อรวมกระแสทั้งสองส่วน จึงได้กระแสรวม 7.4468+45.4=52.8468 mA
ลำดับถัดมา ต้องคำนวณแรงดันที่ได้จากหม้อแปลง 250-0-250 V โดยใช้ภาคจ่ายไฟแบบ Full Wave Rectifier
แรงดันไฟสลับ 250 V ตกคร่อมไดโอดครั้งละ 1 ตัว แรงดันจึงลดลง 0.6 V เหลือ 249.4 V
แปลงเป็นแรงดันไฟตรง โดยคูณด้วย 1.414
249.4x1.414=352.7 V
แต่จากประสิทธิภาพของการแปลงไฟลักษณะนี้ จะพบว่าแรงดันที่ได้จริงจะเหลือเพียง 95% ของค่าที่คำนวณได้
นั่นคือ แรงดันที่ได้จริงจากภาคจ่ายไฟจึงเป็น 95%x352.7=335 V
ลำดับสุดท้าย คำนวณ R Drop ที่ต้องใช้
แรงดันที่จ่าย 335 V แรงดันที่ใช้ 315 V กระแสที่ต้องการ 52.8468 mA = 0.0528468 A
คำนวณ R Drop ได้ (335-315)/0.0528468 =378.45 R
ซึ่งอาจต้องหาค่าใกล้เคียงในท้องตลาด คือ 390 R
อัตราทนกำลังของ R ที่ใช้ คำนวณจาก P=(IxI)xR
P=(0.0528468x0.0528468)x390=1.089 W
เผื่อกำลังไว้อีกประมาณ 2.5 เท่า คือ 2.7225 หรือเลือกขนาด 3 W ขึ้นไปก็จะดีครับ