มันต้องว่ากันยาวทั้งระบบเลย
....ถ้าระบบลำโพงโอเคและดอกหย่ายๆ (เช่นทำได้ 40Hz-22,000Hz +-3dB) อย่างนี้ซีบายพาสคาโธดอาจจำไม่จำเป็น
...ดูที่ การทนโวลท์ของซี ปริ่มๆเกินไปก็อันตราย เผื่อไว้บ้างดีกว่า
...อันนี้สิครับสำคัญ คุณสมบัติของซี.........(ชนิด คุณภาพ รุ่น ยี่ห้อ ประเภท แล้วแต่จะสรรหา) คุณสมบัติเหล่านี้มีผลต่อโซนิคของเสียงโดยตรง
นอกจากระบบที่ว่าแล้ว ใส่หรือไม่ใส่ยังมีเรื่องความชอบของคนเข้ามาเอี่ยวอีกด้วย
ถ้าตัดสินแบบฟันธงได้ทันทีมันก็เกินไปกระมังครับ (ขืนชอบหญิงคนเดียวกันก็ไปเที่ยวด้วยกันไม่ได้แน่ เฮ่ๆๆ)
บางคนก็ชอบหญิงที่สวยธรรมชาติ(ไม่อาบน้ำ ไม่ถูขี้ไคลก็ไม่ว่า ขอให้สวยจากเนื้อแท้เป็นพอ)
บ้างก็ชอบแบบธรรมชาติ+ขอให้สะอาดสะอ้านด้วย
บ้างก็ชอบสวยธรรมชาติ+เครื่องประทินโฉมพองาม
บ้างก็ชอบแบบโฉบเฉี่ยวพอก+โปะหนาๆก็ไม่ว่ากันขอให้สวยเดี๋ยวนั้น
อันคำว่าเสียงดีของแต่ละคน คงไม่มีบรรทัดฐานที่ชัดเจนในการวัดแบบที่ใครๆก็ยอมรับได้แน่ๆ
แม้กระทั่งการชู้ทเอ้าท์ ที่บ่อยครั้ง มักฟังกันแค่ฉาบฉวย แค่อินโทร หรือบางช่วงบางตอน เดี๋ยวก็เปลี่ยนแทร็ค เปลี่ยนแผ่น อีกแล้ว
ถ้าใส่ซีบายพาสต้องคำนึงถึง
.....วงจร และการรันกระแสด้วยครับ(ใช้หลอดเบอร์อะไร รันกระแสเท่าไหร่)
จริงอยู่ทางการคำนวนการตอบสนองความถี่อาจใช้สูตรแล้วก็ค่าตัวต้านทานเป็นหลัก แต่เรื่องเสียงในทางปฏิบัติ ไม่ได้มีอะไรตายตัวเป๊ะๆ
คุณภาพของอุปกรณ์ก็คงต้องว่ากันไปตามยุคตามสมัย ของ(เสียง)ดีราคาถูกไม่มีในโลกก็จริง ........แต่ถ้าเสียงดีในราคาถูกแบบสมเหตุสมผลนั้น มีแน่นอนครับ
.....การใช้ซีคัปปลิ้ง และอาร์โหลด ของสเตจถัดไปด้วย
.....ใช้ค่ามาก มีผลต่อเสียงเบส เบสลึกขึ้น ฟังเหมือนว่าเยอะขึ้น(หากซีตอบสนองความถี่ย่านสูงได้ไปดีเท่าไหร่)
แต่จะรู้สึกดีหากคุณภาพของซีตอบสนองย่านความถี่สูงได้ดีด้วย
.....การใช้ซีค่าน้อยกว่าหลายตัว(ค่าเท่าๆกัน)ขนานกัน อาจทำให้ความรู้สึกว่าเบสช้า เบสยาน ทุเลาลง หรือไม่รู้สึกเลยก็เป็นไปได้หากคุณสมบัติของซีที่ใช้ทำงานรวดเร็วไม่อืดอาด
อุปกรณ์ราคาประหยัดเสียงดีมีแน่ครับ อยู่ที่ว่าจะค้นพบและรู้จักมันหรือเปล่า อ้อที่สำคัญคือ ทำใจได้กับการที่มันไม่มีชื่อยี่ห้อดังๆแปะอยู่หรือไม่
ที่ว่ามา เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจากการลองครับ (ขออภัยด้วยที่ผมไม่สันทัดทางทฤษฎีจึงไม่มีสูตรหรือตัวเลขให้อ้างอิงครับ)