HTG2.club

อยากรู้วิธีการออกแบบวงจร direct coupling ครับ

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้


ออฟไลน์ LOUIS

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,091
ถ้ายังงี้แสดงว่าผมคำนวนผิดหมดเลย
เพราะคำนวนภาคหน้า 2ข้างใช้ 50mA ภาคปรีใช้ 2.5mA
และหาค่า Rk ได้ 5.6k

หลอดหน้าผมมองวงจรไม่ชัด ว่าไฟที่ Cathode เป็นกี่โวลท์ เห็นลางๆ 1.3V
เลยดูที่โหลดไลน์ของ 6BM8  ถ้าไฟที่ผ่าน R load มาแล้วเหลือ 118-120V
R Cathode 1.1K  ก็น่าจะได้กระแสหลอดหน้าประมาณ 1.2mA ครับ รวม 2 ข้างก็ 2.4mA

ส่วนหลอดหลังไม่รู้ผมดูผิดรึเปล่า :black_eye เห็นวงจรเขียนไว้ 11.8V  R 680 Ohm  ได้ I ประมาณ 17.4mA ครับ

ส่วน 7.5K ก็หามาจาก  สมมุติไฟที่ Cathode เดิมมี 11.8V + 118V (Vplate หลอดหน้า)  = 130V
รันกระแสเท่าเดิม คือ 17.4mA   จะได้ R = 130/17.4mA = 7471 Ohm ครับ

ลองดูทีนะครับ ไม่รู้ผมคำนวณผิดตรงไหนเปล่า :D


ออฟไลน์ Flures

  • *****
    • กระทู้: 516
    • เพศ:ชาย
  • ชอบแสงสี
ที่จริงไม่อยากเปลืองก็ลดไฟ B+ จาก 845 มาใช้ก็ได้ครับ  ที่ คุณFluresจะทำ ใช้ไฟเลี้ยงร่วมกัน 2 ข้างเลยใช่ไหมครับ
ก็ต่อ RC Filter เพิ่มอีก 2 ชุดครับ

ถ้าลองคิดดูก็คือ
ไฟ B1 มีประมาณ 830V  B2 ต้องการ 530 ก็เหลือ 300V  ที่ต้องดรอบลง
กระแสภาคหน้ารวม 2ข้าง 37mA   R = 300/37mA = 8.1K  
เลือกใช้ R 3.3K ต่ออนุกรม 4.7K แบบ 50W ติดซิ๊งให้มันก็อยู่แล้วครับ

ส่วนไฟ B3 ก็ต้องมีประมาณ 180V  ผ่าน R Load น่าจะได้ 118V ครับ
ก็คือ 530-180 = 350V   หาค่า R = 350/2.5mA = 140K  R ตัวนี้ใช้ 5W ก็อยู่ครับถ้า 10W ไม่ร้อนครับ

ลองดูนะครับ  d_d





ถ้ายังงี้แสดงว่าผมคำนวนผิดหมดเลย
เพราะคำนวนภาคหน้า 2ข้างใช้ 50mA ภาคปรีใช้ 2.5mA
และหาค่า Rk ได้ 5.6k


ออฟไลน์ LOUIS

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,091
อย่าลืมเปลี่ยน R Cathode  stage ที่ 2   จากค่า 680 เป็น 7.5K ด้วยนะครับ  :secret

แล้วก็ C ที่ Bypass 7.5K ก็หา C Oil ซัก 10-20uF /150V ขึ้นไป มาลองใส่ดูครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31 สิงหาคม, 2007, 12:38:57 am โดย LOUIS »


ออฟไลน์ LOUIS

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,091
ที่จริงไม่อยากเปลืองก็ลดไฟ B+ จาก 845 มาใช้ก็ได้ครับ  ที่ คุณFluresจะทำ ใช้ไฟเลี้ยงร่วมกัน 2 ข้างเลยใช่ไหมครับ
ก็ต่อ RC Filter เพิ่มอีก 2 ชุดครับ

ถ้าลองคิดดูก็คือ
ไฟ B1 มีประมาณ 830V  B2 ต้องการ 530 ก็เหลือ 300V  ที่ต้องดรอบลง
กระแสภาคหน้ารวม 2ข้าง 37mA   R = 300/37mA = 8.1K  
เลือกใช้ R 3.3K ต่ออนุกรม 4.7K แบบ 50W ติดซิ๊งให้มันก็อยู่แล้วครับ

ส่วนไฟ B3 ก็ต้องมีประมาณ 180V  ผ่าน R Load น่าจะได้ 118V ครับ
ก็คือ 530-180 = 350V   หาค่า R = 350/2.5mA = 140K  R ตัวนี้ใช้ 5W ก็อยู่ครับถ้า 10W ไม่ร้อนครับ

ลองดูนะครับ  d_d



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31 สิงหาคม, 2007, 12:31:05 am โดย LOUIS »


ออฟไลน์ พริกไทย

  • ****
    • กระทู้: 457
ผมเพิ่งทำ 2A3 direct coupling เสร็จ เสียงดีครับ แต่ ผมไม่ได้ ยกไฟสูงที่ 2A3 นะครับ bias ที่ cathode อยู่ประมาณ 95 V. ที่ grid ประมาณ 60 V. ภาคหน้า ใช้วงจร SRPP ลดvoltage ลงมาที่ 60 V. ใช้งานได้ดีครับ เสียง กระชับ แต่มีรายละเอียด หวาน ระยิบระยับ สไตล์ 2A3


ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
อันตรายอีกอย่างนึงของการยกไฟสูงเพื่อทำ direct coupling จะอยู่เวลาหลอดเสียครับ ถ้าหลอดหน้า short หลอดหลังอาจจะรอด แต่ถ้าหลอดหน้าขาด หลอดหลังมีโอกาส  :blowup


ออฟไลน์ Flures

  • *****
    • กระทู้: 516
    • เพศ:ชาย
  • ชอบแสงสี
คำนวนคร่าวๆ ในกระดาษแล้วครับ
เปลืองกว่าจริงๆ เพราะต้องดัน B2+ ให้เป็น 530V
ทั้งค่าหม้อแปลงและ c regulate ไฟสูง เพิ่มอีกบานเลย


ออฟไลน์ Withaya

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,390
ข้อเสียของ direct coupling ส่วนใหญ่คือเปลืองภาคจ่ายไฟเพิ่มครับ  หรือไม่ก็ต้องยอมสูญเสียเกนลงไป  ตอนผมทำ PP300B direct coupling มันก็ร้อนมากๆครับ  เพราะแทนที่จะใช้ B+400V ก็ต้องใช้B+ 550V แทน


ออฟไลน์ alex2000

  • ****
    • กระทู้: 359
อ้างถึง
แต่จะว่าไปคุณ Flures จะใช้ C Coupling ทำไมอีกล่ะ?!?! ทำให้มัน Pure Direct Coupling ทั้ง Tri ภาค ไปเลย ยกแรงดัน 845 ขึ้นไปอีกซักหน่อยก็ใช้ได้แล้ว

แล้วมันจะไม่ปาเข้าไป เกิน 1000 volt เลยเหรอ สำหรับ 845 ถ้าอย่างนี้ใช้ C ดีกว่ากลัว บึม....


ออฟไลน์ krupohn

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,770
    • เพศ:ชาย
  • ฟังเพลงร็อค ในห้องเล็ก
 :) หรือไม่ก็ จ่ายไฟลบให้จุด 0V ของภาคไดร์ฟ ให้ไฟเพลตของภาคไดรฟ์ ต่ำลงจนได้โวลต์เป็นที่พึงประสงค์ของกริดภาคเอาต์  ก็ปวดหัวอยู่ดีครับ  :yahoo


ออฟไลน์ DIY Man.

  • It's GOOD To Be...... Audio D.I.Y.
  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,363
    • เพศ:ชาย
  • Good day!
แล้วถ้าผมจะออกแบบวงจรที่ post ไว้โดยเอา c coupling ระหว่างภาค tiro กับ penthode ของ 6bm8 ออก
ปัญหาที่ตามมาก้คือ ต้องใช้ c coupling ที่ทนแรงดันได้สูงขึ้นมากใช่ไหมครับ
             
               แน่นอนอยู่แล้ว...แต่อย่างเพิ่งไปกังวลขนาดนั้นครับเรื่องยังอีกไกล!!! แค่ยก +B2 ให้สูงขึ้นมาและออกแบบค่า Rk ให้ Pentode หลอดหลังทำงานเพื่อรับการ Direct Copling จาก Vplate ของหลอด Triode หน้าก็ปวดหัวตึบๆๆๆ แล้วครับ เพราะการยกแรงดันขึ้นไป  ต้องจัดสรร B+ แต่ละจุด ให้ดีๆ และถ้าแรงดันที่ต้องการสูง มากElectrolytic ก็ต้อง Serial กัน หรือจะใช้ OIL Cap หรือจะแบ่ง B+ มาจากหลอด O/P ทุกอย่างต้องเป๊ะ ไม่งั้นจะพังกันเป็น Domino เลย:D     
               แต่จะว่าไปคุณ Flures จะใช้ C Coupling ทำไมอีกล่ะ?!?! ทำให้มัน Pure Direct Coupling ทั้ง Tri ภาค ไปเลย ยกแรงดัน 845 ขึ้นไปอีกซักหน่อยก็ใช้ได้แล้ว :headphone อย่าลืมภาคจ่ายไฟนะและ B+ แต่ละจุดให้ดีๆ นะ :nono หุหุ คำนวนนะหมูแต่พอลงมือต่อจริงๆ แล้วจะรู้  :cry2
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30 สิงหาคม, 2007, 03:23:24 pm โดย DIY Man. »
*Theory doesn't satisfy my emotion sense !
THE HEART:   The output tubes.
THE SOUL:   The output transformers.
THE MUSCLE:   The power supply.
THE BONES:   The chassis.
THE BRAINS:  The circuitry.


ออฟไลน์ Flures

  • *****
    • กระทู้: 516
    • เพศ:ชาย
  • ชอบแสงสี
แล้วถ้าผมจะออกแบบวงจรที่ post ไว้โดยเอา c coupling ระหว่างภาค tiro กับ penthode ของ 6bm8 ออก
ปัญหาที่ตามมาก้คือ ต้องใช้ c coupling ที่ทนแรงดันได้สูงขึ้นมากใช่ไหมครับ


ออฟไลน์ DIY Man.

  • It's GOOD To Be...... Audio D.I.Y.
  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,363
    • เพศ:ชาย
  • Good day!
สรุปก็คือ ต้องดูก่อนว่า v-plate ของภาค drive ใช้ไฟสูงเท่าไหร่
แล้วเราก็ยกไฟของภาค output ทั้ง v-plate v-gride และ Rk ตาม
โดยค่าอื่นๆ พวก plate currect และ R load ยังคงเท่าเดิมใช่ไหมครับ
           
           ถูกต้องแล้วครับ  O0
*Theory doesn't satisfy my emotion sense !
THE HEART:   The output tubes.
THE SOUL:   The output transformers.
THE MUSCLE:   The power supply.
THE BONES:   The chassis.
THE BRAINS:  The circuitry.


ออฟไลน์ Flures

  • *****
    • กระทู้: 516
    • เพศ:ชาย
  • ชอบแสงสี
สรุปก็คือ ต้องดูก่อนว่า v-plate ของภาค drive ใช้ไฟสูงเท่าไหร่
แล้วเราก็ยกไฟของภาค output ทั้ง v-plate v-gride และ Rk ตาม
โดยค่าอื่นๆ พวก plate currect และ R load ยังคงเท่าเดิมใช่ไหมครับ


ออฟไลน์ DIY Man.

  • It's GOOD To Be...... Audio D.I.Y.
  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,363
    • เพศ:ชาย
  • Good day!
Direct Coupling ง่ายมากครับ  แค่ E=I*R สูตรเดียวก็เสียวได้สำหรับงานนี้  :wiggle
            
                ^-^ ก่อนอื่นรู้กฏแค่อย่างเดียวว่าหลอดทั่วๆไปจะทำงานได้ที่ Negative Bias หรือความต่างศักย์ที่ Grid ต้องเป็นลบเมื่อเทียบกับ Cathode
        ที่นี้เมื่อเราออกแบบหลอดภาค (Driver) หน้า เราก็ต้องรู้ค่า Vplate ของหลอด Stage หน้าอยู่แล้วและในเมื่อไม่มี Coupling Capacitor แล้วมันก็คือ แรงดันที่ Grid ของหลอด Stage ถัดมาใช่ไหมครับ :D เมื่อเป็นดังนี้การจะทำให้หลอด Stage หลังทำงานก็ต้องสร้าง Vk ที่สูงกว่าแรงดัน Grid ที่เข้ามานั่นเอง เราต้องการแค่ค่ากระแสที่เราอยากจะเลือกที่จะ Bias เลือกมาซักค่าเพื่อคำนวนหาค่า Rk และแรงดัน Bias ที่เราต้องการให้แตกต่าง
       เอาอย่างนี้.......ยกตัวอย่างเราออกแบบ(Driver)และ Vplate หลอดหน้าได้ค่าเป็น 100V จะเอามันมาต่อตรงกับสมมุติ 2A3  ^-^ ที่เราจะให้มันทำงานที่ (250Vp) @ Grid -45 Volt / 60mA.เราต้องหาแค่ค่า Rk ที่  Cathode ของ 2A3 เท่ากับ 100V+45V /0.060A ซึ่งก็คือประมาณ  2 k กว่าๆ ขึ้นไป เป็นต้น จากวงจร RC ปกติ 2A3 ใช้ Rk ประมาณ 750 R เป็นต้น  
        สรุป....วงจร Direct Coupling นี้เราต้องสร้าง B+ ที่จะเลี้ยง 2A3 ต้องแตะๆ 400 VDC ขึ้นไปถึงจะคงสถานะ Vplate ที่ 250V ได้
        พูดจริงๆ.....ผมไม่เคยชอบเสียงที่ได้จากวงจร SE Direct Coupling เลย ส่วนใหญ่ที่เจอทั้งบาดหูและสากเสี้ยน แถมต้องทำ B+ ของหลอด O/P ให้สูงกว่าระดับที่ใช้งานกว่าปกติอีกตรงนี้ยากและต้องลงทุนอุปกรณ์ น่าจะแพงกว่า C Coupling นะ 2f 2f
*Theory doesn't satisfy my emotion sense !
THE HEART:   The output tubes.
THE SOUL:   The output transformers.
THE MUSCLE:   The power supply.
THE BONES:   The chassis.
THE BRAINS:  The circuitry.


ออฟไลน์ Flures

  • *****
    • กระทู้: 516
    • เพศ:ชาย
  • ชอบแสงสี
วิธีการทำก็คือ เราต้องยก กริดของวงจรหลังให้มีแรงดันเท่ากับ เพลทของหลอดหน้าที่ 100V
จะเห็นว่า ผมกำหนดให้หลอดหลังมี V bias 1V
เราก็คิดดูว่าสำหรับวงจรหลัง ถ้าให้กริดเป็น 100V ต่อ plate กับไฟสูง 200V เราต้องไบอัสให้ คาโทดสูงกว่า กริด อยู่ 1V ฉะนั้น คาโทดก็จะต้องมีโวล์ทเท่ากับ 100+1 = 101V
สมมุติว่าที่จุดไบอัสนี้ หลอดจะกินกระแส 10mA ฉะนั้น เราก็ต้องหา R cathode ที่ต่อลงกราว์ด จากสูตร R = V/I = 101 / .01 = 10100 ohm
R ตัวนี้ จะ มี V ผ่าน 101V กระแสผ่าน 10mA ฉะนั้นจะมี power = VI = 101 x .01 = 1.01 watt เราก็ควรเผื่อใช้ R 2Watt ขึ้นไป เพื่อควมปลอดภัย

พอเข้าใจไหมครับ  ไม่เข้าใจก็ถามแล้วกันครับ  

แล้ว v-plate ก็ต้องยกให้สูงขึ้นตามไปด้วยใช่ไหมครับ


ออฟไลน์ Flures

  • *****
    • กระทู้: 516
    • เพศ:ชาย
  • ชอบแสงสี
เอาวงจรมาให้ช่วยดูครับ
ช่วยใช้เป็น case study และอธิบายหลักการหน่อยครับ
คิดไว้ว่าอยากเอา c coupling ระหว่างภาค tiro กับ penthode ของ 6bm8 ออก


ออฟไลน์ Withaya

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,390
วิธีการทำก็คือ เราต้องยก กริดของวงจรหลังให้มีแรงดันเท่ากับ เพลทของหลอดหน้าที่ 100V
จะเห็นว่า ผมกำหนดให้หลอดหลังมี V bias 1V
เราก็คิดดูว่าสำหรับวงจรหลัง ถ้าให้กริดเป็น 100V ต่อ plate กับไฟสูง 200V เราต้องไบอัสให้ คาโทดสูงกว่า กริด อยู่ 1V ฉะนั้น คาโทดก็จะต้องมีโวล์ทเท่ากับ 100+1 = 101V
สมมุติว่าที่จุดไบอัสนี้ หลอดจะกินกระแส 10mA ฉะนั้น เราก็ต้องหา R cathode ที่ต่อลงกราว์ด จากสูตร R = V/I = 101 / .01 = 10100 ohm
R ตัวนี้ จะ มี V ผ่าน 101V กระแสผ่าน 10mA ฉะนั้นจะมี power = VI = 101 x .01 = 1.01 watt เราก็ควรเผื่อใช้ R 2Watt ขึ้นไป เพื่อควมปลอดภัย

พอเข้าใจไหมครับ  ไม่เข้าใจก็ถามแล้วกันครับ  


ออฟไลน์ 1856

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,272
    • เพศ:ชาย
  • ทุกอย่างหยุด ถ้ารู้จัก "พอ"
    • ข้อมูลการติดต่อนะจ๊ะ
ต้องคุณหลุยส์ ไม่รู้ติดใจอะไรนักหนา.... ออกมาอธิบายหน่อยครับ  ;D
ข้อมูลการติดต่อนะจ๊ะ  http://www.htg2.net/index.php?topic=34223.0


ออฟไลน์ Withaya

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,390
ถามง่ายๆ แต่ตอบยากเหมือนกันแฮะ  ลองดูครับว่าจะเข้าใจไหม

สมมุติว่า เรามีภาคหน้าเป็น Anode follower ธรรมดาอยู่ อย่างในรูปที่ 1  V out = 100V

เราอยากเอามาต่อกับวงจร cathode follower ในรูปที่ 2 แต่ไม่อยากมี C coupling

เราก็ต้องทำให้จุด A กับ B มี Volt เท่ากัน


ออฟไลน์ chrysanthemum

  • **
    • กระทู้: 82
หากจะดัดแปลงนี่หากวงจรซับย้อนเรื่องใหญ่เลย เพราะว่าต้องนำเรื่องดัน DC ทางด้านขาออกของวงจรภาคหน้ามาคิดให้กับวงจรในภาคหลังด้วย
และถ้าเป็นวงจรมที่มี nfb คือแรงดัน DC ทุกจุดมีผลกระทบต่อวงจรทั้งหมดครับ

เพราะฉนั้นออกแบบใหม่งานกว่าครับ ส่วนหลักการก็เหมือนกับ c คับปลิ้ง หรือ inter stage แหละครับเพียงแต่ต้องนำแรงดันของวงจรขยายด้านหน้ามาคิดด้วย

 :showoff


ออฟไลน์ PORN

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,456
 "ฝั้งไหนกับฝั่งไหนครับ"
output จากภาคขยายฝั่งหนึ่ง สู่งฝั่ง input ภาคขยายถัดไป


"...... ช่วยขยายความเหมือนสอนเด็กๆหน่อยครับ "  ในนี้ไม่เห็นมีเด็ดๆเลย  :D
สกุล  หิรัญเดช   tel  081 557 8300

24 พหลโยธิน 14  พญาไท
สามเสนใน  กทม 10400


ขอบคุณคร๊าบบบบบ
PORN


ออฟไลน์ TOM

  • Superstar...
  • ****
    • กระทู้: 4,169
    • เพศ:ชาย
  • Less is More
หลักการง่ายมาก  "ทำแรงดัน dc 2ฝั่งให้เท่ากัน" ;)

ผมก็สนใจเหมือนกันครับ K) ...... ช่วยขยายความเหมือนสอนเด็กๆหน่อยครับ  ฝั้งไหนกับฝั่งไหนครับ...... :D :D :D
<a href="http://www.htg2.net/index.php?topic=45230.0/" target="_blank" > ข้อมูลนาย TOM (ฒอม)  ต้อม [/url]


ออฟไลน์ PORN

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,456
หลักการง่ายมาก  "ทำแรงดัน dc 2ฝั่งให้เท่ากัน" ;)
สกุล  หิรัญเดช   tel  081 557 8300

24 พหลโยธิน 14  พญาไท
สามเสนใน  กทม 10400


ขอบคุณคร๊าบบบบบ
PORN


ออฟไลน์ Flures

  • *****
    • กระทู้: 516
    • เพศ:ชาย
  • ชอบแสงสี
อยากให้ช่วยอธิบายวิธีออกแบบ/ดัดแปลงวงจร c coupling ให้เป็น direct coupling หน่อยครับ