HTG2.club

เสียงที่ได้จากหลอดต่างเบอร์กัน

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ PokkyMan

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,488
    • เพศ:ชาย
ต้องลองแบบง่าย 6SN7 แน่แหละลองหลายๆยี่ห้อ มีให้เลือกเยอะ ตั้งแต่ราคาคู่ละไม่กี่ร้อย ถึงคู่ละหมื่นกว่าบาท  ถ้าฟังไม่ออกก็ถือว่าโชคดีไป ไม่ต้องเสียงตังค์ซื้อ แต่ก็กลัวหูเสีย ต้องไปควานหามาจนได้แหละ   :) :) :)


oui.

  • บุคคลทั่วไป
ผมคิดว่า

เปลี่ยนเบอร์เสียงคงต่างละครับ หลายเหตุปัจจัย โครงสร้าง ความสามารถในการนำ-ไม่นำกระแส

เพราะถ้าจะให้ทำงานได้ดีคงต้องเปลี่ยนจุดทำงานตามด้วย  เสียงก็เลยน่าจะต่างกัน  Y] Y]

ส่วนหลอดเบอร์เดียวกัน ต่างยี่ห้อ ก็พอฟังออกครับ แต่ผมว่ามันต่างกันน้อยมากครับ ฟังนานเดี๋ยวก็ชิน  ;D ;D

หลอดเบอร์เดียวกัน ยี่ห้อเดียวกัน ต่างปี ก็ต่างกันครับ  แต่ผมรู้สึกน้อยมากมาก

ยิ่งเวลาเอากล่องหลอดปีเก่า ๆ ยี่ห้อแพง ๆ

มาตั้งหน้าเครื่อง จะรู้สึกว่าเสียงดี นุ่มนวล มีสง่าราศีมากขึ้นทันหู ทันตา    2f 2f  จริงนะนี่ ตอนนั้นรู้สึกอย่างนี้จริง ๆ

แต่หลัง ๆ ไม่เอาแล้วครับ รู้สึกว่ามันจะเครียดเกิน เอาให้แค่ไม่ฮัม ไม่จี่ ก็ฟังเพราะทุกเครื่องแล้วครับ    O0 O0




ออฟไลน์ Jeung50

  • ***
    • กระทู้: 152
    • เพศ:ชาย
- แต่ดินน้ำมันผมว่าก็ดีนะครับ O0
ผมเอารองไว้ใต้ตูดลำโพง หูถั่วๆผมว่าดีกว่าลูกปืนวางในถ้วยอีกนะครับ
 8)


ออฟไลน์ DIY มด

  • DIY มด DIY หมด
  • Admin
  • Super Star.
  • *****
    • กระทู้: 2,664
    • เพศ:ชาย
  • ตัวจริง เสียงจริง
เสียงหวานอย่างเดียวไม่พอครับ ต้องหวานฉ่ำด้วย  ;D ;D
เดี๋ยวก็ต้องมีคนถามอีกแน่ว่า แล้วไอ้เสียงแห้งๆน่ะ มันเป็นยังไง
 ^-^
อ้างถึง
ที่นี้ยังไง......ความซวยก็จะมาเยือนครับ เนื่องจากหูที่ได้ยินความแตกต่าง....จะไปสั่งให้สมองเราไปสั่งมือเราอีกทีให้ควักตังค์ซื้อมันมาครอบครองอ่ะครับ       

อันนี้แหละประเด็น  Y] Y]

ทางแก้ง่ายมาก ตอนฟังก็เอาดินน้ำมันสัก 10mg มาถ่วงที่ติ่งหูซะ ช่วย damping นิดหน่อย ฟังแล้วจะได้ไม่ต่างกันมาก  2f 2f


ไม่รู้สิ ผมว่าตอนนี้หูผมชักเพี้ยนๆเหมือนกัน ขนาดเพิ่งต่อชุดคิต intergrated ทรานซิสเตอร์ไปเครื่องหนึ่ง เอาไว้ดูหนังที่บ้าน แทนแอมป์ตัวเก่า ไหงดันฟังเพราะกว่าแอมป์หลอดหลายๆตัวที่ต่อมาอีกแหะ ไม่รู้ว่าฟัง ผบ.ทบ. บ่น กับเสียงลูกร้อง มากไปหน่อยรึเปล่า  :D :D :D

ข้อมูลส่วนตัวครับ
http://www.htg2.net/index.php?topic=10172.0


ออฟไลน์ WIM

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,396
    • เพศ:ชาย
นิยามของเสียงหวานในแง่ของลักษณะเสียง...เป็นอย่างไร...
มันยากเนาะเอามาเทียบกับรสหวานง่ายกว่า...
เลยชอบเอาเสียงมาเทียบกับรสชาดกัน...
แล้วมีเสียงเค็มๆมั๊ยครับ.... ;D
อารมณ์สร้างดนตรี......ดนตรีสร้างอารมณ์... :)
http://www.htg2.net/index.php?topic=54247.msg647885


ออฟไลน์ stuart66

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,006
  • vintage lover
" ว่ากันในมุมมองทฤษฏีเชิงกายภาพ......คิดว่าหูคนเรานั่นแหละมีปัญหาดันฟังแล้วแยกความแตกต่างออก......55555  "

 :clap :clap :clap :clap
..........................................................................
http://www.htg2.net/index.php/topic,22932.msg251370.html#msg251370


ออฟไลน์ Withaya

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,390
Mu = Transconductance x rp 
เปลี่ยน หลอด เปลี่ยนหมดทุกตัว ทั้งเกน transconductance และ Rplate หน้าตาของ plate curve ก็เปลี่ยนครับ เอ้าพุทก็เปลี่ยนไปครับ


ออฟไลน์ พริกไทย

  • ****
    • กระทู้: 457
งี้ต้องสร้างเครื่องวัดความหวานของเสียงหลอดเสียแล้ว..55...
sweet sound - meter ขายตัวละ 5 ล้าน... ;D ;D ;D

เพราะต้องไป detect ถึงลักษณะของกระเเสของ electron stream ที่ผ่านสกรีนกริด ที่ต้องผ่านอุปสรรคด้วยพารามิเตอร์ต่างๆของหลอด
 ลำพังเครื่องตรวจจับสัญญาณที่มีในปัจจุบันนี้บอกความแตกต่างสู้หูไม่ได้ อิ อิ ...
ขนาดเอาดินน้ำมันไปแปะยังฟังออกเลย
resolution ขนาดไหนครับ ดินน้ำมัน ต่างกัน 1 mg ฟังออกไหมครับ


ออฟไลน์ WIM

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,396
    • เพศ:ชาย
งี้ต้องสร้างเครื่องวัดความหวานของเสียงหลอดเสียแล้ว..55...
sweet sound - meter ขายตัวละ 5 ล้าน... ;D ;D ;D

เพราะต้องไป detect ถึงลักษณะของกระเเสของ electron stream ที่ผ่านสกรีนกริด ที่ต้องผ่านอุปสรรคด้วยพารามิเตอร์ต่างๆของหลอด
 ลำพังเครื่องตรวจจับสัญญาณที่มีในปัจจุบันนี้บอกความแตกต่างสู้หูไม่ได้ อิ อิ ...
ขนาดเอาดินน้ำมันไปแปะยังฟังออกเลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 กันยายน, 2007, 08:01:59 am โดย WIM »
อารมณ์สร้างดนตรี......ดนตรีสร้างอารมณ์... :)
http://www.htg2.net/index.php?topic=54247.msg647885


ออฟไลน์ พริกไทย

  • ****
    • กระทู้: 457
ในแง่อิเล็กโทรนิกส์หรือวงจร หลอดเป็นอุปกรณ์ชนิด active แบบที่เอาปริมาณไฟฟ้าเล็กๆไปควบคุมปริมาณที่มากกว่ามากๆ ดังนั้นจึงมีพารามิเตอร์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการนี้ดังปรากฏในดาต้าชีตของหลอดซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยหรือเป็นค่ามาตรฐานในการควบคุมคุณภาพในการผลิต(QC)หากหลอดที่ผลิตมาไม่เป็นไปตามมาตรฐานด้วยเหตุผลดังที่เล่ามาข้างบนแล้ว พารามิเตอร์ก็จะไม่เท่ากันซึ่งมีผลโดยตรงต่อการทำงานของวงจร เช่นที่ชัดเจนที่สุดคือความเป็นลิเนียร์และมิว หากต่างกันปริมาณอิเล็กตรอนจากคาโทดไปเพลตที่ควบคุมโดยกริดก็จะต่างกันด้วย ทำให้เสียงที่ได้ออกมาต่างกัน (จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความไวของหู เหอๆๆ) พารามิเตอร์อื่นๆก็มีส่วนต่อการทำงานของวงจรแตกต่างกันไป   :wiggle :wiggle :wiggle
ที่ผมเล่ามาทั้งหมดนี้ขอถามหน่อยเหอะ ไอ้เสียงหวานๆนี่มันออกมาจากตรงไหน.. ;D ;D ;D

ไอ้เสียงหวานๆนี่มันออกมาจากตรงไหน..   ตรงนี้ แหละครับ ที่ อยากรู้ มัน วัดเป็น ปริมาณ ได้ไหม หลอดนี้ เสียงหวานมาก 10 หน่วย หลอดนั้น แย่ 3 หน่วย ก็พอ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 กันยายน, 2007, 03:37:31 am โดย พริกไทย »


ออฟไลน์ WIM

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,396
    • เพศ:ชาย
ในแง่อิเล็กโทรนิกส์หรือวงจร หลอดเป็นอุปกรณ์ชนิด active แบบที่เอาปริมาณไฟฟ้าเล็กๆไปควบคุมปริมาณที่มากกว่ามากๆ ดังนั้นจึงมีพารามิเตอร์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการนี้ดังปรากฏในดาต้าชีตของหลอดซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยหรือเป็นค่ามาตรฐานในการควบคุมคุณภาพในการผลิต(QC)หากหลอดที่ผลิตมาไม่เป็นไปตามมาตรฐานด้วยเหตุผลดังที่เล่ามาข้างบนแล้ว พารามิเตอร์ก็จะไม่เท่ากันซึ่งมีผลโดยตรงต่อการทำงานของวงจร เช่นที่ชัดเจนที่สุดคือความเป็นลิเนียร์และมิว หากต่างกันปริมาณอิเล็กตรอนจากคาโทดไปเพลตที่ควบคุมโดยกริดก็จะต่างกันด้วย ทำให้เสียงที่ได้ออกมาต่างกัน (จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความไวของหู เหอๆๆ) พารามิเตอร์อื่นๆก็มีส่วนต่อการทำงานของวงจรแตกต่างกันไป   :wiggle :wiggle :wiggle
ที่ผมเล่ามาทั้งหมดนี้ขอถามหน่อยเหอะ ไอ้เสียงหวานๆนี่มันออกมาจากตรงไหน.. ;D ;D ;D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 กันยายน, 2007, 09:36:26 pm โดย WIM »
อารมณ์สร้างดนตรี......ดนตรีสร้างอารมณ์... :)
http://www.htg2.net/index.php?topic=54247.msg647885


ออฟไลน์ อบ

  • ***
    • กระทู้: 181
ผมเคยฟังหลอดkt88สองค่ายในเงื่อนไขเดียวกันแค่เปลี่ยนหลอดเสียงต่างกันแล้วคับ (( ;D


ออฟไลน์ DIKKY_EL84

  • ****
    • กระทู้: 426
  • ดีที่สุด อยู่ที่ความพอใจ
แตกต่างนะขนาดเบอร์เดียวกันแท้ๆๆๆๆ  ฟังไปพักใหญ่ๆๆๆๆๆ ลองเปลี่ยนดู
ติ ชม ผลงานที่นี่ครับ http://www.htg2.net/index.php?topic=29952.0


ออฟไลน์ KVA

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,477
    • เพศ:ชาย
  • Do It Yourself if you can!
ไม่ต้องหรอกครับฟังๆไปแล้วเคยชินเองเหมือนเสียง ผบ.ที่บ้านนะครับ :yahoo :yahoo

 ผบ.ของผมเสียงเพราะนะครับพี่  ^-^


ออฟไลน์ Mr. One

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,226
ผมสรุปว่า ที่ไม่เท่ากันจริงๆคือหูของแต่ละคนนั่นเอง ต้องใช้ดินน้ำมันแก้ปัญหาครับ

เอาดินน้ำมันไปแปะที่ Amp หรือ ไปอุดหู ครับ ท่าน  :kicking


ออฟไลน์ รักหลอด

  • ****
    • กระทู้: 438
ไม่ต้องหรอกครับฟังๆไปแล้วเคยชินเองเหมือนเสียง ผบ.ที่บ้านนะครับ :yahoo :yahoo


ออฟไลน์ PANGPOND

  • (vinyl lover) มาเลิกสูบบุหรี่กันดีกว่า
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,947
    • เพศ:ชาย
  • ....1000 VOLT IS NOT ENOUGH....
ผมสรุปว่า ที่ไม่เท่ากันจริงๆคือหูของแต่ละคนนั่นเอง ต้องใช้ดินน้ำมันแก้ปัญหาครับ

http://www.hs1pmq.com/ash.htm เลิกสูบบุหรี่เพื่อคนที่คุณรักและตัวคุณเองตั้งแต่วันนี้ แล้วคุณจะรู้ว่าชีวิตมันเปลี่ยนไปได้จริงๆ Tel.086-5368784 รับปรึกษาและเป็นกำลังใจให้ทุกๆท่านที่ต้องการเลิกบุหรี่ครับ


ออฟไลน์ krupohn

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,770
    • เพศ:ชาย
  • ฟังเพลงร็อค ในห้องเล็ก
 ??? หลายปัจจัยจริงนะครับ  แต่เอาว่า ถ้าเป็นสเทริโอพยายามใช้หลอดเบอร์เดียว ล็อตผลิตสัปดาห์เดียวกัน จากโรงงานเดียวกัน ทั้ง 2 ข้างนะ ผมว่า  :headphone


ออฟไลน์ WIM

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,396
    • เพศ:ชาย
ให้รุ่นเดียวกันยี่ห้อเดียวกันเป๊ะๆ เสียงอาจจะต่างกันได้ (ขนาดmatch-pairยังไม่ค่อยจะเท่ากันเลย)
-โครงสร้าง เป็นตัวแปรหลัก แค่พันสกรีนกริดให้เหมือนกันเป๊ะก็ยากแล้ว เส้นลวดระดับไมครอน การติดชิ้นส่วนต่างๆเข้าตำแหน่งของมัน การอาร์คแต่ละชิ้นติดกับขาอีกรับรองไม่มีทางเท่ากัน ในโครงสร้างที่แขวนลอยอยู่ในสุญญกาศยึดด้วยขา จะมีความถี่การสั่นสะเทือนธรรมชาติเฉพาะตัว(resonance)อยู่การสั่นนี้ก็มีผลด้วย
-วัสดุที่ใช้ทำ ก็มีผลเยอะ ยิ่งคนละยี่ห้อไม่ต้องพูดถึง สมบัติการนำไฟฟ้า (เมื่ออุณหภูมิเปลี่ยน-สัมประสิทธิเชิงอุณหภูมิ) การเคลือบสารที่ให้อิเล็กตรอนหลุดง่ายๆในคาโทด(thermionic emission) การทนความร้อนสูงๆ และเอฟเฟ็กต่างที่เกิดขึ้นที่จุดเชื่อมต่อเช่น ค่าCแฝง การเกิดเเรงดันไฟฟ้าจากการที่วัสดุต่างชนิดกันมาแปะกัน(seebeck effectที่มาทำเป็นthermocouple)
-ความดันในหลอด มีผลอย่างมากต่อการวิ่งของอิเล็กตรอน(mean free path) ถ้าไม่ต่ำพอมีโมเลกุลอากาศเยอะอิเล็กตรอนมีโอกาสชนเยอะก็วิ่งไม่สะดวก ในแต่ละหลอดจะสามารถทำให้ความดันต่ำพอและเท่ากันเป๊ะได้หรือไม่ ยิ่งพวกหลอดก๊าซด้วยยิ่งแล้ว
-ชนิดและความหนาของแก้ว ก็มีส่วนด้วยเช่นกัน เกี่ยวกับการระบายความร้อนออกจากภายใน อาจทำให้อุณหภูมิภายในแตกต่างกันได้
เท่าที่นึกได้ตอนนี้ครับ  ;D ;D ;D
ทั้งหมดที่กล่าวๆมานี้หูผมฟังไม่ค่อยจะออกหรอกครับ ขอให้เป็นหลอดเพราะหมด.... :headphone :headphone :headphone
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 กันยายน, 2007, 02:48:47 pm โดย WIM »
อารมณ์สร้างดนตรี......ดนตรีสร้างอารมณ์... :)
http://www.htg2.net/index.php?topic=54247.msg647885


ออฟไลน์ DIY Man.

  • It's GOOD To Be...... Audio D.I.Y.
  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,363
    • เพศ:ชาย
  • Good day!
ขอความเห็น ในเชิงทฤษฏี หน่อย ว่า ทำไม เวลาเรา เปลี่ยน หลอด เบอร์ ต่างกัน แล้ว เสียงที่ได้ เปลี่ยนไป ไม่เหมือน กัน มันเป็น คุณสมบัติ ด้านไหนของ ปริมาณทางด้าน อิเลคทรอนิคส์ หรือ วงจร ครับ
เท่าที่ฟังมา เราสรุปกัน ว่า เมื่อ เปลี่ยนหลอด จะได้เสียงที่ ต่างไป แต่ไม่เคยได้ยินการวิเคราะห์ เหตุผล ทาง วงจร ครับฝากผู้รู้ ช่วย ออกความเห็น อธิบายหน่อย
                     
                เอาง่ายๆ....เอาแค่ยี้ห้อเดียวกันเบอร์เดียวกัน....แต่ต่างรุ่นต่างปีที่ผลิด ยังเสียงไม่ค่อยจะเหมือนกันเลยครับ :nonono เหตุผล....ว่ากันในมุมมองทฤษฏีเชิงกายภาพ......คิดว่าหูคนเรานั่นแหละมีปัญหาดันฟังแล้วแยกความแตกต่างออก......55555 
                 ;Dจริงๆ ผมคิดว่าเกิดจากหลอด(Same Brand and No.)มันถูกผลิตขึ้นมาต่อเนื่องและยาวนานมากกว่าครับ วัสดุต่างๆ ที่ใช้ในแต่ละ Lot ของการผลิดในแต่ละรุ่นปี.....น่าจะผิดเพิ้ยนไปได้บ้างเสียงจึงต่างๆ กัน แถมหลอดบางเบอร์ยังมีพัฒนาการปรับปรุงคุณสมบัติของหลอดเบอร์นั้นๆอีก (W,GT,GTA,GTB.....) ทีนี้พอพวกเราเป็นคนรุ่นหลังๆ เกิดมาก็เจอหลอดแทบทุกรุ่นปีผลิดที่เราสามารถจะหาได้มาวางกองอยู่ตรงหน้า พอจับมาเสียบฟังเทียบกัน (@ Same Working Point)จึงเป็นเหตุผลทำให้หูคนเราสามารถแยกความแตกต่างได้  ที่นี้ยังไง......ความซวยก็จะมาเยือนครับ เนื่องจากหูที่ได้ยินความแตกต่าง....จะไปสั่งให้สมองเราไปสั่งมือเราอีกทีให้ควักตังค์ซื้อมันมาครอบครองอ่ะครับ  :D :D :D   
                ฉะนั้นการวิเคราะห์เหตุผลความแตกต่าง(ทางเสียง)ของหลอดนั้นๆๆๆ ผมว่าอยู่ที่ใจและความรู้สึกของคนเรานี่แหละครับ ไปจัด Classify มัน ไม่ใช่ Object อย่างหลอด!!!!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 กันยายน, 2007, 08:09:09 am โดย DIY Man. »
*Theory doesn't satisfy my emotion sense !
THE HEART:   The output tubes.
THE SOUL:   The output transformers.
THE MUSCLE:   The power supply.
THE BONES:   The chassis.
THE BRAINS:  The circuitry.


ออฟไลน์ รักหลอด

  • ****
    • กระทู้: 438
หลอดเปรียบเหมีอน wine ครับ ยี่ห้อเดียวกันต่างปีกัน ต่างยี่ห้อกัน เสียงก็เปลี่ยนกันถึงแม้ปัจจัยอื่นๆไม่เปลี่ยน แต่เครื่องของเราต้อง reference ได้นะครับ


ออฟไลน์ alexdiy

  • *****
    • กระทู้: 884
  ขอมั่วด้วยคนดังนี้ครับ
    คำถามคือหลอดต่างเบอร์กันเสียงน่าจะแตกต่างกันไหม อันนี้ต่างกันแน่ครับ แม้จะเป็นหลอดในตระกูลเดียวกัน เช่น ผมทดลองปรีแอมป์ ด้วยหลอด Aa, Ba , Ce โดยใช้เครื่องเดียวกัน อุปกรณ์เดียวกันหมด 2 แบบ คือแบบแรกปรับแต่งจุดทำงานตามที่ recommend ของแต่ละหลอด , และอีก config หนึ่งคือจุดทำงานเดียวกันเลยซึ่งเป็นจุดพอดีของ Aa , Ba แต่ค่อนข้างกระแสต่ำของ Ce ผลของทั้ง 2 config เสียงไม่เหมือนกันเลย เพราะทั้ง 3 เบอร์ มีค่าทางไฟฟ้าต่างกัน ที่ชัดๆเลยคือ plate resistance และ amplification factor ซึ่งมันคงมีค่าอื่นอีกหลายค่าที่ต่างกัน แต่เนื่องจาก datasheet ของหลอดยุโรปมันจะไม่ค่อยละเอียดนักซึ่งผลต่างของเสียงที่ชัดเจนของกรณีนี้น่าจะมาจาก plate resistance
    ทีนี้ในกรณีที่เป็นหลอดเบอร์เดียวกัน แต่คนละยี่ห้อ ล่ะ คราวนี้ spec ทางไฟฟ้าน่าจะเหมือนกัน ใช่ไหมครับ แต่เสียงมันก็ยังดันต่างกัน อยู่ดี เพราะบางทีโครงสร้าง plate ต่างกัน หลอดคนละทรงกันเช่น balloon กับ ST เท่าที่ผมลองฟังดู ผมว่ามันต่างกันแต่็ไม่มากเหมือนหลอดคนละเบอร์ แต่ถ้าหากเบอร์เดียวกัน แต่ใส้หลอด หรือ plate ใช้วัสดุต่างกัน อันนี้ก็ฟังความแตกต่างออกได้ง่ายขึ้น เช่น PTT2S ยี่ห้อ RT กับ SIF ของฝรั่งเศสเหมือนกัน แต่โครงสร้างต่างกัน เสียงต่างกันแบบพอฟังออกง่ายเลยครับ ทั้งๆที่ค่าทางไฟฟ้ามันน่าจะเหมือนกันเพราะเป็นหลอดเบอร์เดียวกัน 
     แล้วทีนี้หลอดเบอร์เดียวกัน โครงสร้างเหมือนกัน อุปกรณ์เหมือนกัน แต่คนละบริษัท ทำไมเสียงดันไม่เหมือนกัน ผมคิดว่าในกรณีนี้มาตราฐานการผลิตมันน่าจะต่างกัน สารเคมี ที่ใช้ไม่เหมือนกัน แม้ค่าทางไฟฟ้าอาจใกล้เคียงกันมันก็ยังมีผลต่อเสียงเหมือนกัน แต่ผมว่าความต่างน่าจะน้อยกว่า 2 ข้อบนครับ


ออฟไลน์ tewmax

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,759
    • เพศ:ชาย
ข้อความนี้เป็นคำตอบจากคนขาย amp ที่ตอบลูกค้า หลังจากซื้อไปแล้วก็อยากเปลี่ยนหลอดเป็นยี่ห้ออื่นทีดังๆแต่เสียงสู้หลอดเดิมไม่ได้ เลยเขียน mail ถามว่าจะต้องปรับ bias ใหม่หรือเปล่าจะต้องปรับไว้ที่เท่าไหร่อะไรทำนองนี้ คำตอบที่ได้รับ

"... just enjoy your amp while it sounds good, and then ,when you have more money, go and buy one of the new ones from us ..."

ก็น่าจะบอกอะไรได้บางอย่างว่าเขาคงออกแบบวงจรขึ้นมาให้ใช้กับหลอดที่เขานำมาใช้มาอย่างดีแล้ว ผ่านการทดสอบจนแน่ใจแล้วค่อยทำออกมาขาย พอเรานำหลอดยี่ห้ออื่นมาเสียบเลยจึงทำให้เสียงไม่ดี แต่ถ้าเราปรับแต่งแก้ไขวงจรหรือออกแบบใหม่ให้กับหลอดใหม่เลยเสียงอาจจะดีกว่าเดิมหรือเท่าเดิมก็เป็นไปได้ เพราะฉะนั้นอาจจะเปรียบไม่ได้เลยว่าหลอดนี้เสียงดีกว่าหลอดนั้นเมื่อนำมาเปรียบเทียบกันลักษณะนี้ และคงไม่ยุติธรรมกับหลอดยี่ห้ออื่นๆที่ไม่ค่อยดังนักเมื่อเรานำเสียบแทนเลย แล้วบอกว่าเสียงไม่ดี ทั้งที่จริงอาจจะไม่ใช่จุดที่ทำงานได้ดีของหลอดนั้นๆก็เป็นได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 กันยายน, 2007, 07:08:05 am โดย tewmax »
ที่อยู่ครับ http://www.htg2.net/index.php?topic=41722.0


ออฟไลน์ หลอดกาแฟ

  • ****
    • กระทู้: 437
    • เพศ:ชาย
  • นกน้อยทำรังแต่พอตัว
 :)ผมเองก็เคยลองเปลี่ยนแต่เป็นเบอร์เดียวกันต่างยี่ห้ออุปกรณ์อย่างอื่นเหมือนกันหมดทุกอย่างก็มีข้อแตกต่างของเสียงเหมือนกันแต่ไม่มาก(คิดไปเองหรือเปล่าไม่รู้)แต่เดาว่าการสร้างหลอดมาใช้งานคงจะมีการกำหนดว่าเบอร์นี้จะนำไปใช้งานอะไรโครงสร้างทางกายภาพเป็นแบบใหนและกำหนดพารามิเตอร์ที่สำคัญๆเท่านั้นส่วนวัสดุที่ใช้กับโครงสร้างภายในขึ้นอยู่กับผู้ผลิตแต่ละยี่ห้อเลยอาจจะทำให้หลอดที่ผลิตออกมาต่างยี่ห้อจะไม่เหมือนกันซะทีเดียวแต่ก็ยังอยู่ในมาตรฐานเดียวกันเสียงที่ได้ก็เลยไม่ค่อยเหมือนกัน  ต้องรอผู้รู้จริงๆมาช่วยอธิบายดีกว่าครับ  :drive1 :drive1


ออฟไลน์ Tube Collector

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,690
    • เพศ:ชาย
  • มีความสุข ในการที่จะเป็นผู้ให้
ไม่แน่เสมอไป แต่ถ้าเป็น หลอดสมัยเก่าๆ มีกมีโอกาศเสียงนุ่มนวล กว่าปีหลังๆ (หลังปี 1970 )  เบอร์เดียวกันผู้ผลิตต่างกัน มีมีชื่อเสียงด๊ ก็ดูเหมือนคุณภาพเสียงดีกว่า
ชีวิตนี้ต้องเรียนรู้ไม่รู้จบ พร้อมที่จะยอมรับความเห็นของผู้อื่น 
ยอมรับในความผิดพลาดของตัวเอง พร้อมที่จะให้โดยไม่มีความหวังใดๆ
ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย  ทำงานหนัก และมีความรับผิดชอบต่อตัว
เองและผู้อื่น เมื่อนั้นความสุขจะอยู่กับ เราตลอดเวลา และตลอดไป
และอย่าลืมรักษาสุขภาพด้วย


ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
การวัดทางไฟฟ้าจะมุ่งไปในเรื่องของ distortion ครับ หลอดแต่ละเบอร์ก็ให้ distortion ต่างกัน ถึง distortion รวมเท่ากัน แต่รูปร่างของ spectrum ต่างกัน ก็มีแนวโน้มว่าจะให้เสียงต่างกันด้วยครับ


ออฟไลน์ LOUIS

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,091
ด้วยลักษณะทางกายภาพที่เปลี่ยนไป ยากเหมือนกันนะครับที่จะบอกได้ ว่าทำไมเสียงเปลี่ยน :-\


ออฟไลน์ pongsakorn50

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,593
    • เพศ:ชาย
  • GUENG...lS3/5A
ขอความเห็น ในเชิงทฤษฏี หน่อย ว่า ทำไม เวลาเรา เปลี่ยน หลอด เบอร์ ต่างกัน แล้ว เสียงที่ได้ เปลี่ยนไป ไม่เหมือน กัน มันเป็น คุณสมบัติ ด้านไหนของ ปริมาณทางด้าน อิเลคทรอนิคส์ หรือ วงจร ครับ
เท่าที่ฟังมา เราสรุปกัน ว่า เมื่อ เปลี่ยนหลอด จะได้เสียงที่ ต่างไป แต่ไม่เคยได้ยินการวิเคราะห์ เหตุผล ทาง วงจร ครับฝากผู้รู้ ช่วย ออกความเห็น อธิบายหน่อย
เคยเปลี่ยนครับเป็นเบอร์เดียวกันแต่ต่างยี่ห้อ เปลี่ยนต่างเบอร์ใม่เคยลองครับกลัวหลอดเสียหาย ต้องดูดาต้าให้แน่ใจก่อนนะครับว่าสามารถเสียบแทนกันใด้ สำหรับต่างยี่ห้อกันก็แตกต่างครับมากน้อยใม่เท่ากัน ต้องตั้งใจฟังพอสมควร แล้วแต่ความชำนาญของแต่ละท่าน มันน่าจะมาจากวัสดุที่ทำนะผมว่า....อย่าเพิ่งเชื่อผมนะ ลองฟังความเห็นท่านอื่นๆด้วยครับ.
ข้อมูลในการติดต่อ...http://www.htg2.net/index.php?topic=16810.msg168734#msg168734


ออฟไลน์ พริกไทย

  • ****
    • กระทู้: 457
ขอความเห็น ในเชิงทฤษฏี หน่อย ว่า ทำไม เวลาเรา เปลี่ยน หลอด เบอร์ ต่างกัน แล้ว เสียงที่ได้ เปลี่ยนไป ไม่เหมือน กัน มันเป็น คุณสมบัติ ด้านไหนของ ปริมาณทางด้าน อิเลคทรอนิคส์ หรือ วงจร ครับ
เท่าที่ฟังมา เราสรุปกัน ว่า เมื่อ เปลี่ยนหลอด จะได้เสียงที่ ต่างไป แต่ไม่เคยได้ยินการวิเคราะห์ เหตุผล ทาง วงจร ครับฝากผู้รู้ ช่วย ออกความเห็น อธิบายหน่อย