เอาภาพที่ไปถ่ายที่ฮ่องกงมาให้ดูละครับ. (ภาพถ่ายแบบ Jpg Fine นะครับ. ไม่ได้ตกแต่งอะไรเลยครับ แค่ย่อส่วนมา 15%, 72dpi แล้วก็แปะเลยครับ)

นี่คือรูปปั้นเจ๊ด ลี เอ๊ย! บรู๊ซ ลี ครับ. ตั้งอยู่ที่โรงแรมอะไรผมก็จำชื่อไม่ได้แล้วอ่ะครับ รู้แต่ว่าทางเดินจะมีผ่ามือของพวกคนดังๆทั้งหลาย เหมือนของฮอลลีวู้ดสตรีทครับ. (ผมไปลองวัดมือกับเฮียเหลียงเฉาเหว่ยมาแล้ว พบว่ามือผมยังใหญ่กว่ามือเฮียแกอีกครับ)

พอดีว่ามาถ่ายภาพที่นี่ตั้งแต่เช้าครับ ดันมีหมอกลง ภาพตึกสวยงาม ชัดๆก็เลยไม่ได้ถ่ายกับเค้าหรอกครับ.

พูดถึงโรงแรมเนี่ย รู้มั๊ยครับว่าโรงแรมอะไรแพงที่สุดในฮ่องกงครับ. ติ๊ก ตีอก ติ๊ก ตีอก คำตอบคือ โรงแรมเพนนิซูลาครับ. เป็นโรงแรมระดับสิบเอ็ดดาว (จริงๆหกดาวแต่บวกดาวบนธงชาติจีนในโรงแรมไปอีกห้าดวงครับ) ราคาค่าที่พักต่อคืน ถูกที่สุดคือ 20000 เหรียญฮ่องกงครับ. (เอา4.5 คูณดูนะครับ)

รู้เรื่องอดีตนายกทักษิณมาซื้อบ้านที่ฮ่องกงหรือเปล่าครับ. ข่าวที่เมืองไทยไม่ค่อยจะชัดเจนเท่าไร แต่ที่ฮ่องกง คนฮ่องกงเค้ารู้ทั้งนั้นว่าซื้อบ้านที่แถววิคตอเรียพีคครับ. (เป็นโซนที่ที่ดินราคาสูงที่สุดในฮ่องกงแล้วครับ) ราคาบ้านที่ซื้อไปแค่ สองร้อยล้านเหรียญฮ่องกงเท่านั้นเองครับ.

ชวนคุยเรื่องโน่นเรื่องนี้ เพราะว่าภาพมันไม่ค่อยจะชัด ผมเองก็ไม่รู้วิธีทำให้ถ่ายได้ดีกว่านี้ซะด้วยครับ ก็ได้แต่กดๆถ่ายไปก่อนครับ อุตส่าห์มาแล้ว...

เสร็จจากไปถ่ายแถวอนุสาวรีย์บรู๊ซ ลี ก็ไปนั่งเรือดูภัตตาคาร Jumbo (เค้าบอกกันว่าเจมบอนด์เคยมาถ่ายที่นี่ภาคหนึ่ง) นี่คือทรรศนียภาพรอบๆภัตตาคารครับ. (หมายเหตุ Jumbo เป็นภัตตาคารลอยน้ำนะครับ ทันสมัยหรือเปล่าก็ไม่รู้นะครับ เพราะผมก็ไม่ได้เข้าไปครับ)

รูปเรือยอร์ชของพวกคนฮ่องกงระดับมหาเศรษฐีครับ. ค่าเช่าจอดเรือแค่เดือนละห้าหมื่นเหรียญฮ่องกงเท่านั้นเองครับ. (แหม ระดับนี้เค้าขนหน้าแข้งไม่ร่วงครับ (สงสัยติดกาวตราช้างไว้))

ผมก็พยายามถ่ายวิวตึกไปเรื่อยๆครับ. (จริงๆไม่รู้ว่าควรจะถ่ายตึกยังงัยให้ดูสวยเลยครับ ก็พยายามถ่ายจากหลายๆมุมเอา แต่มันถ่ายจากบนเรือ ก็ขยับไปมาไม่ได้มากครับ)

ดูตึกพวกนี้แล้วก็รู้สึกว่า คนเค้าอยู่กันอย่างแออัดนะครับ. อย่างว่าครับ ที่ดินมันน้อยและแพง. (ขายกันเป็นตร.ฟุตครับ คิดดู) แต่รัฐบาลเค้าก็ดีนะครับ ไม่ต้องออกค่าเล่าเรียนจนถึงเรียนจบม.สาม. (เห็นได้ข่าวว่าอนุบาลก็จะไม่ต้องเสียเงินแล้วด้วยครับ)

ตีกที่นี่ส่วนมากก็จะเหมือนๆกันเยอะนะครับ. ดูแล้วก็เป็นหมวดเป็นหมู่ ดูเป็นระเบียบดีครับ.

มาถึงแล้วครับ ภัตตาคารลอยน้ำ Jumbo. เห็นมังกรที่กำลังพ่นน้ำอยู่มั๊ยครับ ใครรู้บ้างว่ามันเกี่ยวอะไรกับเกาลูนครับ. ติ๊ก ต๊อก ติ๊ก ต๊อก คำตอบคือ เกาลูน อ่านภาษาฮ่องกงว่า เก๋าหลง แปลว่า เก้ามังกรครับ. เพราะฉะนั้น เก้ามังกรก็คือสัญลักษณ์ของเกาะเกาลูนนั่นเองครับ.

ขึ้นจากเรือก็ไปไหว้รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมครับ. คนไทยส่วนใหญ่ไปถึงก็ไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมทันที ส่วนคนฮ่องกงเนี่ย เค้าไปขอโชคลาภก่อนครับ. (วิธีไหว้คือ ให้ไปเหยียบกระเบื้องแล้วค่อยไหว้ครับ. (มีกระเบื้องแค่แผ่นเดียวนะครับ ต้องไปต่อคิวเอา. ที่นี่เค้าไหว้ไม่ใช่ธูปนะครับ (นัยว่า ฝรั่งรวยๆที่พักอยู่แถวนั้นไปร้องเรียนว่า ธูปทำให้อากาศแถวนั้นไม่ดีครับ ก็เลยกลายเป็นไหว้แบบไม่ต้องใช้ธูปไปครับ))

สะพานทีมีความเชื่อว่า คนที่ข้ามมาจะอายุยืนไปหนึ่งปีต่อการข้ามหนึ่งครั้งครับ. (ผมก็ไม่เห็นมีใครเดินข้ามมาแล้วข้ามกลับไปนะครับ. เค้าให้เดินอ้อมลงมาครับ (ขืนข้ามกลับไป อายุที่ยืนขึ้นก็คงสั้นลงไปเท่าเดิมมั๊งครับ))

เสร็จจากไหว้เจ้าแม่กวนอิม ก็มาที่โอเชี่ยนปาร์คครับ. (ค่าเข้า ผู้ใหญ่ 208 เหรียญ) เข้ามาแล้ว ก็ต้องนั่งกระเช้าไปที่โซนด้านในครับ. (ด้านนอกไม่ค่อยมีอะไรให้เล่นเลยครับ)

ผมมาโอเชี่ยนปาร์คคราวนี้ก็เพราะ คุณลูกอยากดูโชว์ปลาโลมาครับ. ก็เลยรีบมาดูก่อนเลย พอดีว่าเป็นวันอาทิตย์ เลยมีโชว์สึ่ครั้งครับ (ปกติจะมีสองครั้งต่อวัน) คนเยอะมากครับ. ทางเดินไปโชว์ก็ชันมาก (ผมยังงงเลยว่า อาม่า อากง ทั้งหลายจะเดินขึ้นทางเดินชันๆพวกนี้ไหวได้อย่างไร ยังไม่นับเด็กๆอีกครับ คนสร้างน่าจะปรับพื้นผิวให้เรียบมากกว่านี้ครับ. (แต่อย่างว่า มันเป็นที่บนเขาครับ))

ปลาโลมาที่นี่ ทำท่าทำทางได้เยอะกว่าปลาโลมาที่ซาฟารีเวิล์ดเราเยอะครับ. คนฝึกคงจะรู้ทริ๊กอะไรสอนมากกว่าครับ.

ปลาโลมาโดดได้สูงมากครับ. (สูงกว่าที่ผมคิดเยอะมากเลยครับ. เห็นแล้วตะลึงไปเลยครับ)

ภาพนี้ถ่ายที่โรงแรมก่อนวันกลับครับ. ผมพยายามถ่ายให้ได้ไฟเป็นทางยาว แต่ก็ทำไม่ได้ครับ. (คงต้องศึกษาเทคนิกอีกเยอะ) อุตส่าห์ดีใจที่ได้อยู่ชั้นสิบห้า ชั้นบนสุดของโรงแรม คิดว่าจะถ่ายวิวทิวทัศน์ไฟตึกตอนกลางคืนของฮ่องกงครับ แต่มาพบว่าหน้าต่างเปิดไม่ได้ เป็นกระจกบานใหญ่ทั้งบานไปเลย. ก็ต้องถ่ายผ่านกระจกเอาครับ. ด้านที่ผมพักอยู่ก็มีตึกบังซะมิดเลยครับ เศร้า...

ไม่มีอะไรทำก็เลยลองถ่ายตึกด้านตรงข้ามโรงแรมดูครับ.