HTG2.club

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Mr. Tube

  • Admin
  • Super Star.
  • *****
    • กระทู้: 2,847
พวก DACพวกนี้ดูตาม Datasheet ของเขาดูก็ต่อไม่ยาก ผมถามนิดครับว่า จะทำ DAC ให้ดี เคล็ดลับคือ อะไรครับ  :secret

ไม่มีเคล็ดลับหรอกครับ ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องว่าใครศึกษามากหรือศึกษาน้อยน่ะครับ ถ้าว่ากันตั้งแต่การออกแบบ ประเด็นสำคัญคือการเลือกเทคโนโลยี การเลือกชิป และการเข้าใจพื้นฐานของชิปที่เลือก เพื่อจะให้ใช้งานได้ถูกต้องครับ

อย่างเรื่องเทคโนโลยี ก็เช่น Multi-bit / Single-bit ใน Multi-bit เอง ก็ยังมี OS / Non-OS ให้เลือก ส่วน Single-bit ถ้าว่าตามชนิดของ Modulator ก็มี Pulse Width Mod (PWM), Pulse Lenght Mod (PLM), Pulse Density Mod (PDM/Bitstream) ให้เลือกกัน เฉพาะ PWM ก็ยังมีตัวเลือกสำหรับ Digial Filter, Interpolation ซ้อนลงไปอีก พวกนี้เป็นเรื่องเทคโนโลยีที่เราต้องเลือกเป็นลำดับแรกครับ อย่างใน HTG2 โดยมากก็คุยกันแต่เรื่อง Non-OS อันที่จริงแล้วยังมีอีกมากมายเลยครับ แต่ละเทคโนโลยีก็จะมีข้อดี-ข้อเสียให้เลือกกัน

พอเลือกเทคโนโลยีเสร็จ ก็จะเหลือชิปให้เลือกอยู่ไม่กี่ตัว ทีนี้ก็ต้องเปรียบเทียบแล้วว่าจะเลือกตัวไหน อันนี้มีประเด็นให้เปรียบเทียบมากมาย ประเด็นต่างๆ ถูกระบุใน Datasheet อยู่แล้ว ก็อยู่ที่ใครจะศึกษารายละเอียดลึกกว่ากัน คนที่ศึกษามากกว่าก็จะรู้มากกว่า และย่อมใช้งานชิบได้ดีกว่าด้วยครับ

สุดท้ายก็เรื่องการใช้งานชิปนี่แหล่ะครับ ในบทความของคุณ ST / YB2006 มีอธิบายไว้แล้วว่าการใช้งานเป็นเรื่องสำคัญมากและมีประเด็นที่ต้องพิจารณาอย่างไรบ้าง บางทีเราดูจาก Datasheet เห็นสเป็คสวยๆ ซึ่งค่าเหล่านั้นไม่ได้มากจากชิปแต่ลำพัง แต่มาจากสิ่งแวดล้อมรอบๆ ชิปด้วย ซึ่งบางทีไม่ได้แสดงไว้ในวงจรตัวอย่างเสมอไป แต่มักจะระบุเป็นข้อความอยู่ใน Datasheet ครับ ถ้าดูแค่หน้าที่เป็นวงจรและเอาไปทำตาม อาจจะเป็นที่สงสัยว่า Dynamic Range 150dB มันแค่นี้เองเหรอ ทำไมรายละเอียดไม่เห็นมากเท่าอีกตัวที่น้อยกว่าตั้ง 30dB ล่ะ ชิปเป็นแค่อุปกรณ์ตัวหนึ่งในวงจรครับ เป็นส่วนสำคัญแต่ไม่ใช่ทั้งหมดครับ

ถ้าคุณ Mr. One  มีประเด็นที่สงสัยในเรื่องการออกแบบ ก็ยกมาคุยอภิปรายกันเป็นประเด็นได้ครับ ผมว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการเล่นของพวกเรามาก แต่สูตรสำเร็จหรือเคล็ดลับความอร่อยพวกนั้น ผมยังนึกไม่ออกครับ  ;)


ออฟไลน์ Mr. One

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,226
พวก DACพวกนี้ดูตาม Datasheet ของเขาดูก็ต่อไม่ยาก ผมถามนิดครับว่า จะทำ DAC ให้ดี เคล็ดลับคือ อะไรครับ  :secret


ออฟไลน์ Mr. Tube

  • Admin
  • Super Star.
  • *****
    • กระทู้: 2,847
ให้อธิบายแบบละเอียด กระผมก็คงไม่ไหวเหมือนกัน เพราะไม่ใช่วิศวกรคับ แต่ปัจจุบันชิปมีคุณภาพสูงมาก เช่น ชิป 24บิทของเบิรน์บราวน์รุ่นใหม่ ให้สัญญาณรบกวนต่ำมาก ถึง 120 กว่าดีบี (พวก1541 ยังแค่ 89 ดีบีเอง) จึงไม่มีความจำเป็นต้องขนานกันเหมือนสมัยก่อนแล้ว แต่แอคคิวเฟส ก็ยังทำ นัยว่า ให้โก้กว่าของถูก ว่างั้น

ขอบคุณมากครับ ไม่เป็นไรครับ คุณ AMP150 ทราบมาจากไหนว่าหักล้าง Noise / Jitter ได้จากการขนาน DAC ครับ ผมจะลองไปสอบถามกับต้นทางดูครับ ผมว่าถ้าเราได้หลักคิดก็จะประยุกต์กับการออกแบบได้ครับ

ถ้ามองเทียบกันระหว่าง Technology เก่ากับใหม่ ผมก็เห็นด้วยกับคุณ AMP150 ว่าไม่จำเป็นต้องขนาน DAC แต่เมื่อเราจะวัดอะไรๆ กันด้วยตัวเลขแล้ว จะหาจุดสิ้นสุดได้อย่างไรครับ ถ้าการขนาน DAC ทำให้อะไรๆ ทางตัวเลขดีขึ้น มันก็ยังน่าศึกษาและทดลองครับ อย่างที่คุณ ST กล่าวไว้ใน YB2006 ว่า Technology ระดับสูงสุดของ DAC เมื่อ 10 ปีก่อน ก็เพียงแค่เท่ากับระดับพื้นฐานของปัจจุบัน ผมคิดว่าอีก 10 ปีข้างหน้ามันก็จะยังคงเป็นเช่นนี้เช่นกันครับ ขอบคุณมากครับ  :)


ออฟไลน์ AMP150

  • *****
    • กระทู้: 841
ให้อธิบายแบบละเอียด กระผมก็คงไม่ไหวเหมือนกัน เพราะไม่ใช่วิศวกรคับ แต่ปัจจุบันชิปมีคุณภาพสูงมาก เช่น ชิป 24บิทของเบิรน์บราวน์รุ่นใหม่ ให้สัญญาณรบกวนต่ำมาก ถึง 120 กว่าดีบี (พวก1541 ยังแค่ 89 ดีบีเอง) จึงไม่มีความจำเป็นต้องขนานกันเหมือนสมัยก่อนแล้ว แต่แอคคิวเฟส ก็ยังทำ นัยว่า ให้โก้กว่าของถูก ว่างั้น


ออฟไลน์ Mr. Tube

  • Admin
  • Super Star.
  • *****
    • กระทู้: 2,847
DAC ระดับ Top of the line ในยุคหนึ่ง จะเป็นแบบขนาน DAC ทั้งนั้นครับ เช่นของ Mark Levinson, Esoteric เป็นต้น พวก CDP ระดับ Top of the line ของ Accuphase, Proceed ก็เช่นกันครับ

ในเอกสาร EVM ของ PCM1702 ระบุว่า Performance ของ DAC จะเพิ่มขึ้นจากการขนาน Chip มันก็เลยกลายเป็นประเพณีของระดับ Top of the line ว่าต้องขนาน DAC เท่านั้นครับ ส่วนจะขนานกี่ตัวก็แล้วแต่จะลงทุนครับ ของ Mark รุ่นหนึ่ง จำได้ว่าเป็น PCM63P x4 ที่เห็นเยอะๆ ก็ของ Kondo san รุ่นเก่านี่ใช้ถึง 16 ตัวครับ

ถึงปัจจุบันจะเป็นยุค Single bit แล้ว แต่ความเชื่อเรื่องขนาน DAC แล้วดีกว่า ก็ยังคงอยู่ครับ  :)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02 กุมภาพันธ์, 2008, 01:04:22 pm โดย Mr. Tube »


ออฟไลน์ Mr. One

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,226
ถามเพิ่มครับ แล้วพวก DAC ที่ขาทำขายแพงๆ เขาขนานใหมครับ :)


ออฟไลน์ Mr. Tube

  • Admin
  • Super Star.
  • *****
    • กระทู้: 2,847
โห  :o

ช่วยเดานะครับพี่ ปกติสัญญาณรบกวนมันขี่กันมากับสัญญาณจริง ถ้าถือว่าสัญญาณรบกวนเป็น random noise คือเมื่อจับสัญญาณรบกวนมารวมกันขนาดของสัญญาณรบกวนจะไม่เพิ่มขึ้นเลย การเอา 1543 หลายๆตัวมาขนานกันน่าจะทำให้สัญญาณจริงมีขนาดใหญ่ขึ้นแต่ได้สัญญาณรบกวนขนาดเท่าเดิม เป็นการเพิ่ม signal / noise ratio นั่นเอง (ใช่ป่าวน้อ)  :headphone

ส่วน jitter มาจาก digital signal ไม่น่าลดได้นะครับ  :black_eye

อ้าว คุณ AMP150 หายไปเลย ผมถามเพราะผมก็ไม่ทราบนะครับ ถ้าผมทราบว่าไม่ถูกต้องผมก็แย้งไปแล้วครับ ไม่ได้คิดจะลองภูมิครับ ผมเห็นว่าคุณชี้แจงผลได้ ผมก็อยากทราบเหตุครับว่ามันหักล้าง Noise และ Jitter ได้อย่างไรครับ

ส่วนที่ผมทราบคือ THD และ Dynamic Range ที่จะดีขึ้นจากการขนาน DAC อันนี้มีอธิบายไว้ในเอกสาร EVM1702 ของ Burr-brown ส่วน Noise และ Jitter ก็รอคุณ AMP150 มาช่วยอธิบายครับ  :)

ส่วนที่คุณ nut_ty ถามตามกระทู้ ผมเคยขนานกันตั้งแต่ 8 ตัวขึ้นไป แต่เป็นอีก Concept หนึ่ง ไม่ได้ขนานกันเฉยๆ จึงไม่ได้ตอบครับ เพราะมันเทียบกันไม่แฟร์น่ะครับ  :bye1
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02 กุมภาพันธ์, 2008, 01:02:56 pm โดย Mr. Tube »


ออฟไลน์ analoque

  • Lifetime DIYer
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,833
  • Pro fide ablectus - Chosen for fidelity
โห  :o

ช่วยเดานะครับพี่ ปกติสัญญาณรบกวนมันขี่กันมากับสัญญาณจริง ถ้าถือว่าสัญญาณรบกวนเป็น random noise คือเมื่อจับสัญญาณรบกวนมารวมกันขนาดของสัญญาณรบกวนจะไม่เพิ่มขึ้นเลย การเอา 1543 หลายๆตัวมาขนานกันน่าจะทำให้สัญญาณจริงมีขนาดใหญ่ขึ้นแต่ได้สัญญาณรบกวนขนาดเท่าเดิม เป็นการเพิ่ม signal / noise ratio นั่นเอง (ใช่ป่าวน้อ)  :headphone

ส่วน jitter มาจาก digital signal ไม่น่าลดได้นะครับ  :black_eye
:headphone accipio conscientia propono molior partis liberum :headphone
analoque's project
analoque's download


ออฟไลน์ Mr. Tube

  • Admin
  • Super Star.
  • *****
    • กระทู้: 2,847
การขนานไอซีดิจิตอล มีข้อดี 2 ข้อ คือ หนึ่งสัญญาณมีความถูกต้องมากขึ้น เนื่องจากจะเกิดการหักล้างกันเองของจิทเตอร์และสัญญาณรบกวน สอง กระแสที่ไหลมากขึ้น เนื่องจากเป็นdac ที่มีเอาท์พุตเป็นแบบกระแส จึงได้กระแสที่มากขึ้นเสียงเข้มขึ้น แต่จะหวังว่าเสียงจะดีขึ้นไปทาบรัศมีกับ dac รุ่นสูงๆ นั้นคงยาก เพราะต้องคำนึงถึงตัวแปรด้านอื่นๆ ด้วย เช่น ไดนามิคเร้นจ์ ค่าความเพี้ยน ทางที่ดีเล่น dac รุ่นใหม่ๆ ดีกว่า รายละเอียดเสียงดีกว่าเยอะ

รบกวนสอบถามเพิ่มเติมหน่อยครับว่า การขนาน DAC แบบ Current หลายๆ ตัว จะช่วยลดสัญญาณรบกวน และลด Jitter ได้อย่างไรครับ รบกวนขอเป็นความรู้ด้วยครับ ขอบคุณครับ :)


ออฟไลน์ analoque

  • Lifetime DIYer
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,833
  • Pro fide ablectus - Chosen for fidelity
ถ้าจะเอาความดีของการขนานหลายๆตัว ต้องพยายามแมทช์มันครับ  :headphone
:headphone accipio conscientia propono molior partis liberum :headphone
analoque's project
analoque's download


ออฟไลน์ AMP150

  • *****
    • กระทู้: 841
การขนานไอซีดิจิตอล มีข้อดี 2 ข้อ คือ หนึ่งสัญญาณมีความถูกต้องมากขึ้น เนื่องจากจะเกิดการหักล้างกันเองของจิทเตอร์และสัญญาณรบกวน สอง กระแสที่ไหลมากขึ้น เนื่องจากเป็นdac ที่มีเอาท์พุตเป็นแบบกระแส จึงได้กระแสที่มากขึ้นเสียงเข้มขึ้น แต่จะหวังว่าเสียงจะดีขึ้นไปทาบรัศมีกับ dac รุ่นสูงๆ นั้นคงยาก เพราะต้องคำนึงถึงตัวแปรด้านอื่นๆ ด้วย เช่น ไดนามิคเร้นจ์ ค่าความเพี้ยน ทางที่ดีเล่น dac รุ่นใหม่ๆ ดีกว่า รายละเอียดเสียงดีกว่าเยอะ


ออฟไลน์ nut_ty

  • คนดีคือคนที่ไม่เอาเปรียบผู้อื่น ทั้งในทางตรงและทางอ้อม
  • ผู้สนับสนุน web 1ปี
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,901
    • เพศ:ชาย
ไม่ทราบว่าเคยมีใครนำมาขนานกัน 8 ตัวมั้งครับ  แล้วเสียงแตกต่างกับตัวเดียวอย่างไรครับ
นายวัชระ สลัดแก้ว
โทร 083 1214445