ผมขอแชร์ตามที่ได้ติดตามจากเว็ป
www.diyaudio.com ผิดถูกอย่างไรเพื่อน ๆ สมาชิกช่วยนำพาด้วยขอรับ
Nelson Pass คือหนึ่งในปรมาจารย์นักออกแบบเครื่องเสียงของอเมริกาครับ แต่ใจดีที่ชอบแชร์วงจรให้กับคนที่ชอบทำเครื่องเสียงไว้ใช้เองหรือ DIY นั่นเองครับ
มีอีกสองคนที่ชอบแชร์ความรู้ในเว็ป diyaudio.com เช่นกันครับคือ Charles Hansen วิศวกรจาก Ayre และ John Curl อดีตวิศวกรของ Mark Levinson เจ้าของวงจรแอมพ์ตระกูล JC (ย่อจาก John Curl นั่นเองครับ)
Grey - GRollins คือสมาชิกคนหนึ่งของ web diyaudio.com จากที่ผมติดตามผลงานนายนี้ เขาไม่ได้มีความสัมพันธ์กับ Nelson Pass แต่อย่างไรครับ ไม่เคยเจอกันด้วยซ้ำไป เผอิญเจ้า Aleph-X ที่เขาออกแบบนั้นมันไปใกล้เคียงกับ XA seires (รุ่นแรกคือ XA200) วงจรของ Grey ถูกโพสท์ก่อนเจ้า XA200 จะออกสู่ตลาดครับแต่ Nelson ใจดีที่ให้ Grey เอามาเผยแพร่ได้ (เนื่องจากวงจรป้อนกลับแบบ Super Symmetry ในวงจร Aleph-X ได้ถูกจดสิทธิบัติไว้ครับ)
Aleph-X ของ Grey เป็นวงจรไบแอสแบบ Pure Class A ครับ เช่นเดียวกับ XA series (XA30, 60, 100, 160, 200) สาเหตุที่กำลังขับลดลงครึ่่งหนึ่งเมื่อต่อลำโพงจาก 8 ohm เป็น4 ohm ถ้าจำไม่ผิด Nelson เคยอธิบายไว้ว่า เนื่องจากเป็นข้อจำกัดของการต่อแบบ balanced โดยใช้ Aleph CCS กระแสไบแอสมันจะไม่พอเวลาโหลดลดลงส่งผลให้เกนลดลง แต่ถ้าอยากให้กำลังขับเพิ่มขึ้นเมื่อลำโพงโหลดลดลงก็ต้องเพิ่มกระแสให้ Aleph-X ครับ

ส่วน XA.5 series ล่าสุด เป็นคลาส A ปรับปรุงกำลังขับให้เพิ่มขึ้นเมื่อโหลดลดลงเหมือนพาวเวอร์แอมพ์ทั่วไปแล้วครับ (XA30.5, 60.5, 100.5, ...) คาดว่าใช้การต่อ cascode ทั้งภาคดิฟและเอ้าพุตเพื่อแก้ปัญหากำลังขับลดเมื่อโหลดต่ำลงของ XA series รุ่นแรกครับ
สำหรับการพัฒนา Aleph-X ของ Grey ให้ใกล้เคียงกับ XA.5 seires เห็น Ian Macmillan โพสท์วงจรไว้หลายเดือนแล้วแต่ยังไม่มีคนเวิร์คต่อเลยครับ

รุ่นที่เป็นคลาส AB ของ Passlabs ก็จะเป็น X series X.5 series ครับ ตัวแทนในเมืองไทย (KSSON) นำเข้ารุ่น X250, X250.5 ครับ