ไม่เห็นมีผู้ผลิตรายใดบอกแน่ชัดแต่เราก็พอจะต่อ จิกซอมาเป็นคำตอบคร่าวๆได้ ผมพยายามอธิบายง่ายๆจะไม่เอาลงลึกมากๆในทฏษฎี
ข้อมูลที่ผู้ผลิตแจ้งให้ทราบ เมื่อซื้อ XE-20 คือ ทำงานสูงสุดได้ 20W ซึ่งหมายความว่า เผื่อเหลือเผื่อขนาดเอาแบบพอประมาณ ควรให้มันทำงานไม่ควรเกิน 60% มิฉนั้น Coreจะ Saturate
แกนแม่เหล็กจะอิ่มตัว เสียงก็ไม่ดี ผลตอบสนองของความถี่ จะแย่ลง และอุปกรณ์ทางไฟฟฟ้าไม่สามารถที่ 100% มันได้แล้วแต่คุณภาพ อาจจะเป็น 50-60-70% นอกนั้นเป็นความสูญเสีย ในรูปความร้อน
ถ้าเราใช้งานมันหนักมากเกินไป ความร้อนในตัวหม้อแปลงสูงมาก ฉนวนของลวดก็มีอายุน้อยลง หม้อแปลงจะเสียง่ายขึ้น
ข้อมูลที่สองที่ผู้ผลิตหม้อแปลงให้มาเสมอคือ ค่ากระแสที่แนะนำว่าถ้าที่กระแสประมาณนี้ หม้อแปลงเสียงนี้ จะมีผลต่อสนองความถี่เสียงดีมี่สุด ที่ Impedance แต่ละอันเช่น 3K 5K 10K ในกรณีย์ XE-20
=80mA และกระแสสูงสุด ประมาณ 130mA 80mA คือกระแสแนะนำปกติใน ClassA เมื่อไม่มีสัญญาณเสียงเข้า แต่เมื่อทำงาน กระแสนี้จะแปรเปลี่ยนตามความแรงของสัญญาณที่เข้ามาและกำลงที่ออก
ตามกฎของ โอมห์ ทางไฟฟ้า กำลัง (watts )= ระดับไฟ ( Volt) x (คูญ) กระแสที่ไหลผ่าน ถ้าเราแทนที่ด้วยค่าที่รู้ในสมการ กระแส =80mA = 0.08 A , Watt = 12W (เอาแบบ 300B เลย)
watt = VxI = IxI/R = 80mA x 80mA /5K Impedance = 30W แสดงว่า XE-20 ที่เขาบอกว่า 20W ได้เผื่อไว้แล้วที่เหลือเป็นความร้อน แต่ถ้า จ่ายไฟคร่อมหม้อแปลงอันนี้ ที่ 800V (ผมไม่รู้ว่าฉนวนลวดทนไฟเท่าไร)และหลอดภาคสุดท้ายมีสัญญาณเสียง (Vac) สวิงประมาณ 400Vac(ที่ปกติอาจมากกว่านี้)บนกระแส 80mA จะเท่ากับ 32W เกินการทำงานของหม้อแปลง อาจจะทำได้โดย
ลดกระแสไหลผ่านจาก 80mA เป็น 60mA 40mA แต่เราอาจเสียความตอบสนองของความถึ่ไป เสียงก็อาจจะไม่ดี เพราะการเหนียวนำระหว่างขดลดลง จึงไม่ค่อยเห็นใครใช้ หม้อแปลง 5K 20W
ทำงานที่ 80mA กับไป 1000V แต่ถ้าหม้อแปลงอันนั้นใช้ลวดใหญ่ขึ้น (วัตถ์มากขึ้น เช่น 50W)และเราสามารถใช้งานที่กำล