HTG2.club

ซีดี เสี่ยงเทีย น โดย ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Help !!!

  • Guest (บุคคลทั่วไป)
  • Superstar...
  • *
    • กระทู้: 5,866
  • Please Help Thanks
หาซื้อที่ไหนไม่ได้โปรดติดต่อที่ติดต่อ
คุณลออ
โทร       038-525661-3
E-mail  la-or@hovedk.com
HOVE DK CO., LTD
81/1 ม3 ต.เทพราช อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา 24140

เสี่ยงเทียน บทเพลงชุดนี้ บรรเลงโดย วงดุริยางค์ซิมโฟนีกรุงเทพ อำนวยเพลงโดย Mr. John Georggiadis
                                  Mr. John Georggiadis
 
และเป็นผู้ขยายและเรียบเรียงเสียงประสานสำหรับเพลง ควงดาวกับความรัก(Star and Love) เงาในน้ำ(Shadow in the Water) ความรักครวญหา(Love Lament) กลางสายชล(In the Middle of a
Stream) และ ยามสิ้นแสงตะวัน(Moment of Sunset) บันทึกและผสมเสียงโดย Mr.. Chris Craker
 Mr. Chris Craker
                                                                                             
บันทึก ณ ห้องประชุมมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉิมพระเกียรติ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๙
ขับร้องประสานเสียง :-
                 กลุ่มโซปราโน  :  ใจรัตน์  พิทักษ์เจริญ,          กษณา รัวพันธุ,                        วันวิสาข์ อยู่ทอง
                      กลุ่มอัลโต         :   วารุณี บุญหรั่ง,    ธนพร แวกประยูร,                  ปานทิพย์  ปัญจมะวัต
อำนวยการผลิตโดย ดร. กุลธร ศิลปบรรเลง (บุตรอาจารย์ ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง และหลานของหลวงประดิษฐ์ไพเราะ(ศร ศิลปบรรเลง)
..
                ข้อมูลย่อย่อของ อาจารย์ ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง (๑๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๕๕ ถึง ๐๔ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๒) จากอนุสรณ์การพระราชทานเพลิงศพ นายประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปการแสดง(นักแต่งเพลง) ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๔๑ ณ เมรุวัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพมหานคร ๑๗ ธันวาคม ๒๕๔๒)
ปกสีแดงเรื่อภาพท้องฟ้ายามต้องแสงอัสดง เป็นฉากหลังภาพถ่ายหน้าตรง อ.ประสิทธิ์,พิมพ์ที่ หจก.วชิรินทร์สาส์น ๔๔-๔๖6 ซอยอ่อนนุช ๔๖ ถนนสุขุมวิท ๗๗ แขวงสวนหลวง กรุงเทพฯ  ๑๐๒๕๐ ,โทร.๐๑ ๗๒๑๔๔๔๔, ๐๒ ๗๒๑๔๖๗๑- ๗,โทรสาร.๐๒ ๓๒๒๑๖๑๑, ๒๕๑ หน้า
อ.ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง เกิดเมื่อวันที่ ๑๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๕๕ ที่บ้านหน้าวังบูรพาภิรมย์ ริมคลองโอ่งอ่าง เป็นบุตรคนที่ ๖ จางวางศร หรือหลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) และนางโชติ (หุราพันธุ์) ประดิษฐไพเราะ
                เรียนหนังสือชั้นมัธยมที่โรงเรียนเทพศิรินทร์และโรงเรียนจักรเพชร ก่อนที่จะสำเร็จการศึกษาภาคบังคับที่กระทรวงธรรมการ ค่าที่เกิดในบ้านนักดนตรีมีบิดาเป็นครู จึงถูกปลูกฝังถ่ายทอดภูมิรู้อีกหนทางบรรเลงเล่นเครื่องดนตรีต่างๆจนเป็นที่เชี่ยวชาญ ทั้งบิดายังมองการไกล จึงได้ส่งลูกชายไปศึกษาดนตรีสากลที่โรงเรียนดนตรีวิทยาสากล
 โรงเรียนดนตรีเอกชนแห่งแรก ซึ่งอำนวยการสอนโดยพระเจนดุริยางค์
                ปี พ.ศ. ๒๔๗๗ อ.ประสิทธิ์ ได้ติดตามคณะนาฏศิลป์ ดนตรีของโรงเรียนนาฏดุริยางค์ กรมศิลปากร ได้สัญจรเปิดการแสดงที่ญี่ปุ่น และได้ตัดสินใจหาทุนศึกษาวิชาดนตรีสากลต่อที่ อิมพีเรียล อคาเดมี ออฟ มิวสิค มหาวิทยาลัย เกได เป็นเวลา ๔ ปี ในวิชาเอกด้านดนตรี สาขา การประพันธ์เพลงและการอำนวยเพลง ได้ร่ำเรียนกับ Prof. .Klaus Pringsheim ศิษย์เอกของ Gustav Mahler และ Richard Strauss
 คีตกวีเอกของโลก ซึ่งนับเป็นคนไทยคนแรกที่สำเร็จการศึกษาด้านนี้ ทั้งยังเป็นคนไทยคนแรกเช่นกันที่แต่งเพลงระดับคลาสสิคใน รูปแบบซิมโฟนี ชื่อ Siamese Suit และออกทำการแสดงในยุโรป
                ช่วงระหว่างสงครามหาเอเซียบุรพา อ.ประสิทธิ์ ซึ่งในขณะนั้นรับราชการอยู่ที่กองดุริยางค์สากล กรมศิลปากร ได้รับเชิญไปเป็นล่ามภาษาญี่ปุ่นในกองทัพบกถึง 4 ปี หลังจากที่ออกจากราชการ ไปเป็นอาจารย์พิเศษที่โรงเรียนการเรือน (สถาบันราชภัฏสวนดุสิต) ประกอบกับบ้านเมืองอยู่ในช่วงเศรษฐกิจติดขัดซบเซา ไม่ใครนำเอาภาพยนตร์ต่างประเทศเข้ามาฉาย
 อ.ประสิทธิ์ อีกมิตรสหายพี่น้องพร้อมด้วย อ.ลัดดา สารตายน คู่ชีวิต จึงได้ตั้งคณะละคร "ศิษย์เก่าศิลปาก" เปิดการแสดงเรื่อง "ผก" ขึ้นที่โรงละครเก่าศิลปากร เป็นที่นิยมชมชอบถึงต้องจัดการแสดงรอบสอง โดยแสดงถวายหน้าพระที่นั่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอาันทมหิดล และสมเด็จเจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดชฯ ซึ่งหลังจากทอดพระเนตรจบ ทรงพระกรุณาให้
 หลวงประดิษฐไพเราะ และ อ.ประสิทธ์เข้าเฝ้าฯเป็นการส่วนพระองค์ นับเป็นมหามงคลแก่ตระกูลศิลปบรรเลงหาที่สุดมิได้
                จากนั้น คณะละคร "ศิษย์เก่าศิลปาก" จึงเปลี่ยนชื่อคณะเป็น "ผก" โดยอ.ประสิทธิ์ มีหน้าที่ดูและด้านดนตรีประกอบซึ่งได้สร้างความชื่นชอบประทับใจให้ผู้ชมมากมายหลายสิบเพลง เช่น เสียแรงรัก (เรื่อง ผกาวลี),อยากจะลืม (เรื่อง เกียรติศักดิ์รักของข้า),เงาในน้ำ (มนต์นาคราช),โอ้ยอดดวงใจ(เรื่อง ความพยาบาท),ภาวนารัก (เรื่องเงือกน้อย),รักแท้
 (เรื่อง เงาะป่า) เป็นต้น นอกจากนั้น ยังแต่งเพลงให้ "อิง" ในละครเรื่อง ดรรชนีนาง (ดรรชนีนาง,กลางสายชล) อีกด้วย
                นอกจากบทเพลงไพเราะมากมายที่เกิดขึ้น "ผก" ยังเป็นเวทีเปิดตัวสร้างชื่อของนักร้องนักแสดงลือนามต่อมาอีกหลายท่าน เช่น สวลี ผกาพันธุ์,ชูศรี โรจนประดิษ์,อุโฆษ จันทร์เรือง,อดิเรก จันทร์เรือง เป็นอาทิ
ในวัย ๗๗ ปี อ.ประสิทธิ์ ได้ประพันธ์เพลงในลักษณะ Symphonic Poem ชื่อ "เสี่ยงเทียน" ซึ่งได้นำเพลงลาวเสี่ยงเทียนของบิดามาเรียบเรียงขึ้นใหม่ ทำให้ชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับทั้งในระดับชาติ และได้รับประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นักแต่งเพลง) ปี พ.ศ. ๒๕๔๑
ภายในหนังสืออนุสรณ์เล่มนี้ประกอบไปด้วย
                ภาพถ่ายงานสวดพระอภิธรรม ๔-๑๑ กันยายน ๒๕๔๒, ภาพถ่ายชีวิต และประสบการณ์ดนตรีสำคัญมากมาย จากนั้นจึงเป็นบทความต่างๆ เริ่มจาก สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ (ลัดดา ศิลปบรรเลง,กุลธร-ยาหยีศรีเฉลิม ศิลปบรรเลง,พลเอกโชคชัย-วัลย์ลดา หงส์ทอง)
                ประวัติชีวิตและผลงานนายประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปการแสดง(นักแต่งเพลง) ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๔๑ ,คำประกาศเกียรติคุณนายประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปการแสดง(นักแต่งเพลง) ,คำไว้อาลัย (นายอาทร จันทรวิมล เลขาธิการคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ),คำระลึกถึง (สมเด็จพระวันรัต เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส)
                คุณประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง ศิลปินแห่งชาติ (พระญาณวโรดม วัดเทพศิรินทราวาส), "สายสัมพันธ" ด้วยสุดรัก สุดอาลัย จากใจของลัดดา ศิลปบรรเลง(สารตายน), "อาลัยพี่...ผู้เสมือนพ"(สนั่น ศิลปบรรเลง ตุลาคม ๒๕๔๒),ไว้อาลัยแด่พี่บง (นาวาเอกสมชาย ศิลปบรรเลง),ด้วยรักและผูกพัน (มาลินี สาคริก เลขาธิการมูลนิธิหลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง), ๒๘ ตุลาคม
 ๒๕๔๒),คุณประสิทธิ์ที่ผมรักและนับถือ (ศาสตราจารย์นายแพทย์สุนทร ตัณฑนันทน์),อาลัยคุณลุงบุง (สันติเทพ ศิลปบรรเลง)
            In memory of Prasidh Silapabanleng (Christopher Blasddel),With Deepest Sympathy (Mr..John Georgiadis),คณะผกาวลีที่เกิดของ สวลี ผกาพันธุ์ (เชอร์รี่ สวลี ผกาพันธุ์ ),คำไว้อาลัย "ครูประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง (สุเทพ วงศ์กำแหง, ๑ ตุลาคม ๒๕๔๒),กราบคุณพ่อที่เคารพรักและอาลัยยิ่ง (รศ.ดร.กุลธร ศิลปบรรเลง,วัลย์ลดา หงส์ทอง),ศิษย์ระลึกถึง ท่านอาจารย์ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง หนึ่งในอมตดุริยกวีสยาม(เกษม สุวงศ์),วันวาน (อัปสร
 กูรมะโรหิต,บ้านพญาไท ๒๑ ตุลาคม ๒๕๔๒) สกอร์เพลง ดำเนินทราย,ถึงอาจารย์ผู้เป็นที่รักยิ่ง (ภาธร ศรีกรานนท์),ไว้อาลัย (ใจรัตน์ พิทักษ์เจริญ, ๑๙ ตุลาคม  ๒๕๔๒),คิดถึงคุณปู่(หลานโป่ง-หลานบอน),คิดถึงคุณตา(หลานป้อง-หลานปัด),SIANG TIAN ROMANCE BASED ON A THEME BY MY FATHER (กุลธร ศิลปบรรเลง ๑๗ ตุลาคม ๒๕๔๒)
            Piano Conductor เพลงเชิดใน "Prelude of Thailand" ผลงานการประพันธ์และเรียบเรียงชิ้นสุดท้ายของประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง ที่ได้เรียบเรียงจากการประพันธ์ครั้งแรกเมื่อท่านอายุได้ ๖๐ ปีเศษ เพื่อการเทิดพระเกียรติในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนม์พรรษา ๖ รอบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
จดหมายถึงอาจารย์แประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง จาก ศ.นพ.วราวุธ สุมาวงศ์ (วราห์ วรเวช)Hearing it in a new light (Neil SORREL University of York :บทวิจารณ์เชิงวิชาการเพลง "เสี่ยงเทียน" )
รวมบทเพลงบางส่วน (โน้ตสากล บทร้อง ๔๐ เพลง)ของ ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง ในละครเวที เช่น ลมหนาว เห็นใจสักครั้ง เสียแรงรัก โอ้รักชื่นใจ ดวงใจ โอ้ความรัก อยากจะลืม ดำเนินทราย แขกสาหร่าย โฉมงาม เงาในน้ำ งามเพียงจันทร์ ดรรชนีไฉไล เป็นต้น
                นอกจากหนังสือที่ระลึกแล้ว ยังมีแถบบันทึกเสียงและซีดีอีกอย่างละชุดที่แจกเป็นที่ระลึก จึงขอบันทึกรายละเอียดไว้ด้วยเช่นกัน
แถบบันทึกเสียง ผลงานการประพันธ์ในบทละคอนเพลงของ อ.ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง (บรรเลงโดยวงดนตรีคณะผกาวลี ควบคุมโดย อ.ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง) เช่น รักพยาบาท (สุเทพ),เงาในน้ำ(สวลี),โฉมงาม (อดิเรก),ความรักครวญหา(สวลี),ดรรชนีไฉไล(อดิเรก,สวลี),โสมสวาท(สวลี),รักแท้ (อดิเรก,สวลี),หลงคอย(อดิเรก),กลางสายชล
 (ทนงศักดิ์,ดาวใจ),ภาวนารัก(อดิเรก,สวลี),โอ้จันทรา(อดิเรก),เสี่ยงเทียน(อดิเรก),จันทราพาฝัน(สวลี),สายสัมพันธ์(สุเทพ,สวลี),งามเพียงจันทร์(อดิเรก,สวลี),ยามสิ้นแสงตะวัน(ครูลัดดา),บุปผาบาน(ครูลัดดา),ยามสิ้นแสงตะวัน(เพลงบรรเลง)

๑ เสี่ยงเทียน(Siang Tian) เพลงนี้ได้รับการประพันธ์ไว้หลายรูปแบบโดย  อาจารย์ ประสิทธิ์  ศิลปบรรเลง ผู้ซึ่งมีความชื่นชมและยกย่องบทเพลงไทยเดิมบทนี้ของ ท่านครู หลวงประดิษฐ์ไพเราะ(ศร  ศิลปบรรเลง)ผู้เป็นบิดาเป็นอย่างมาก  ท่านครู หลวงประดิษฐ์ไพเราะ(ศร  ศิลปบรรเลง)ได้ประพันธ์ขึ้นจากเพลงเก่าชื่อ "ลาวเสี่ยงเทียน" ซึ่งเดิมอยู่ในจังหวะ ๒ ชั้น
 มาปรุงจนครบเป็นเถา และเป็นเพลงที่นิยมเล่นกันมากสำหรับนักดนตรี อาจารย์ ประสิทธิ์  ศิลปบรรเลง ได้นำท่อนหนึ่งของ"ทางเปลี่ยน" ของท่านบิดามาเรียบเรียงเสียงประสานใหม่สำหรับบรรเลงด้วยดนตรีสากลเป็นครั้งแรกให้กับคณะละครผกาวลี สำหรับละครเรื่อง "ธิดาจ้าวราชบุต" (บทละครโดย อบ  ไชยวสุ) ประมารปี พ.ศ. ๒๔๙๒ โดยใช้เครื่องดนตรี ๑๔ ชิ้น
 และขับร้องโดยนักร้องชาย   ท่านอาจารย์ ประสิทธิ์  ศิลปบรรเลง ได้เรียบเรียงเพลงนี้อีกครั้งในลักษณะ String Quartet และหลังจากนั้นได้ประพันธ์ขึ้นมาใหม่สำหรบหมู่นักร้องโซปราโนและอัลโต ร่วมกับวงดุริยางค์ซิมโฟนี ผลคือ เป็นเพลงที่มีความสง่างามประสานกับความอ่อนหวานซาบซึ้ง อันเป็นงานรังสรรค์ร่วมกันระหว่างบิดาและบุตร
 
๒ ความรักครวญหา(Love Lament)
 
๓ ดวงดาวกับความรัก(Stars and Love)
 
๔ เงาในน้ำ(Shadow in the water) อาจารย์ ประสิทธิ์  ศิลปบรรเลง ประพันธ์เพลงนี้ไว้สำหรับการแสดงละครเรื่อง "มนต์นาคราช"(บทละครโดย  กุมุท  จันทร์เรือง) โดยคณะละคร ผกาวี  ซึ่งตามเนื้อร้องในละครบรรยายเกี่ยวกับนางเอกที่เห็นเงาตัวเองในน้ำเป็นครั้งแรก นับว่าเป็นบทเพลงที่มีท่วงทำนอง(Melody)อ่อนหวานและไพเราะ มีความกลมกลืนกัน(Harmony) อย่างสมบูรณ์
 
๕ ดำเนินทราย ประพันธ์ขึ้นจากเพลงไทยเดิมทางเปลี่ยนของท่านบิดา (ท่านครู หลวงประดิษฐ์ไพเราะ) สำหรับการแสดงละครของคณะผกาวลี  เรื่อง"เวียงฟ" (บทละครโดย "อิง" หรือ ศักดิ์เกษม  หุตาคม) สำหรับขับร้องคู่ชาย-หญิง โดยจำกัดเครื่องดนตรีไว้ ๑๔ ชิ้น หลังจากนั้นก็นำมาเขียนเป็นบทเพลงในลักษณะเล่นโดยเครื่องสาย ๔ ชิ้น(String Quartet)
 และต่อมาได้ดัดแปลงให้เป็นเพลงบรรเลงโดยใช้ส่วนของเครื่องสายทั้งหมด(String Section) ของวงดุริยางค์ซิมโฟนี
 
๖ กลางสายชล(In the Middle of a Stream)
 
๗ ยามสิ้นแสงตะวัน(Moment of Sunset)
 
๘ ไซมีสสวีท(Siamese Suite) ได้รับการประพันธ์ขึ้นมาเมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๗และได้รับการแสดงครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๘ ในงานประชุม Southeast Asian Music Conference ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ บทประพันธ์สำหรับวงดุริยางค์ซิมโฟนีชิ้นนี้ประกอบด้วย ๔ Movementได้แก่
                 Moon over the Temple
                 In the Grand Palace
                 Siamese Lament
                 In the Bangkok's China Town
 
bso music director

Up until 1994, in my conducting career, I has enjoyed the position of Music Director with the London Virtuosi since 1972 and the Bristol Sinfonia, 1982 to 1984.
Then came the BSO........?
No, not Berlin Symphony, not Boston Symphony, not even Bournemouth Symphony, but the Bangkok Symphony, Thailand's leading orchestra! At first, when approached, in 1992, to consider this position, I didn't really think it was serious, but after a short stay in Bangkok to check out the possibilities, I was delighted to find a competent and truly enthusiastic group of musicians, so I didn't hesitate to accept the position.
Imagine the opportunity to take a talented set of players and work through the major works of the orchestral repertoire, "for the first time". To be able to bring the delights of playing Beethoven's fifth to keen musicians "for their first go at it"! What a gift! What a luxury! Extraordinary first performances by the BSO of symphonies by Brahms, Tchaikovsky, Rimsky Korsakov's Scheherazade, Elgar's Enigma Variations, and many others.
 
Recordings as Conductor
 Pickwick
"Evening of Strauss"-" Evening in Vienna"-"Strauss Magic" with LSO
Chandos
"Johann Strauss in London" with LSO
Marco Polo
Josef Stauss waltzes and polkas
Naxos
Albinoni Oboe Concertos with the LV
Weber Symphonies with the QPO
Milhaud and Faur? CDs
Other
"Siang Tian", music by Prasidh Silapabanleng
with Bangkok Symphony Orchestra
(includes five arrangements by John Georgiadis)

อาจารย์ ประสิทธิ์  ศิลปบรรเลง(พ.ศ. ๒๔๕๕-๒๕๔๒) เป็นบุตรของท่านครู หลวงประดิษฐ์ไพเราะ(ศร  ศิลปบรรเลง)อดีตบรมครูที่มีชื่อเสียงและผลงานเป็นเลิศมาตั้งแต่สมัยรัชการที่ ๖ ได้รับการศึกษาทางด้านดนตรีไทยในเบื้องต้นจากท่านบิดาต่อได้ศึกษาวิชาดนตรีสากลที่ Tokyo Academy of Music, Gei-Dai  University, ประเทศญี่ปุ่น จนจบปริญญาตรี เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๗
 ทางด้านการประพันธ์และการอำนวยเพลงในสมัยนั้นสถาบันการศึกษาดนตรีของญี่ปุ่นอยู่ในระยแรกก่อตั้งมาได้ประมาณ ๑๐ ปี และดำเนินการสอนโดยอาจารย์ชาวยุโรป อาจารย์ที่เป็นหัวห้าสอนการประพันธ์ คือ ศาสตราจารย์ ดร. Klauss Pringsheim ชาวเยอรมันผู้ซึ้งเป็นศิษย์องนักดนตรีผู้มีชื่อเสียง ๒ ท่าน คือ Gustav Mahler (Klaus Pringsheim ได้ศึกษาวิชาดนตรีจาก Gustav Mahler (1860-1911)
 
(Gustav Mahler in 1909)
 
ที่  กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียแลอีกท่านหนึ่งที่ ศาสตราจารย์ ดร. Klauss Pringsheim ได้ศึกษาวิชาดนตรีด้วย ตือ Richard Strauss
                ศาสตราจารย์ ดร. Klauss Pringsheim ตายในโตเกียวเมื่ ๗ ธันวาคม พ.ศ.  ๒๕๑๕ ท่านอาจารย์ ประสิทธิ์  ศิลปบรรเลง เป็นลูกศิษย์ชาวไทยเพียคนเดียวของ ศาสตราจารย์ ดร. Klauss Pringsheim จึงได้รับการปลูกฝังการประพันธ์และการอำนวยเพลงอย่างใกล้ชิด
ใน พ.ศ. ๒๔๘๑ ท่านได้กลับมารับราชการ ณ กองดุริยางค์สากล กรมศิลปากร เมื่อเกิดสงครามมหาเอเชียบูรพาขึ้น  ท่านได้รับมอบหมายจากรัฐบาลไทยให้ปฏิบัติหน้าที่เป็นล่ามภาษาญี่ปุ่นและผู้ประสานงานจนสงครามสงบ และได้ลาออกจากราชการโดยยึดอาชีพสอนดนตรีให้แก่สถานศึกษาต่างๆ อยู่ระยะหนึ่งจนกระทั้งตัดสินใจจัดตั้งคณะละค"ผก"  กับภริยา(ลัดดา สารตายน
 ศิลปบรรเลง) ร่วมกับบิดา ท่านครู หลวงประดิษฐ์ไพเราะ(ศร  ศิลปบรรเลง) และพี่สาว(คุณหญิงชิ้น  ศิลปบรรเลง) ในช่วงนี้เองที่ได้ประพันธ์เพลงประกอบละครทั้งเพลงขับร้องและเพลงบรรเลงซึ่งล้วนแต่ไพเราะมีลักษณะไปทางแนวโรแมนติกคลาสสิค  เมื่อภาพยนตร์ต่างประเทศเริ่มหลั่งหลเข้ามาในประเทศไทย บรรดาโรงละครจึงเปลี่ยนเป็นโรงภาพยนตร์
 คณะละครผกาวลีจึงต้องยุติไปในที่สุด
 
(หมายเหตุ:-          ประวัติย่อย่อ ของ ศาสตราจารย์ ดร. Klauss Pringsheim แปลเอาเองนะครับผมแปลไม่ออก
This article was published in Chord and Discord Vol. 2, No. 8, pp.
114-116, 1958. It is published here with the kind permission from
                        Mr. Charles Eble of the Bruckner Society of America.
 
Prof. Klaus Pringsheim sen.

Klara (Lala) Koszler
 
Geb. 24 7 1883, Feldafing
Beru. Dirigent und Komponist, 1931-37 Direktor an der Kaiserlichen Musikakademie in Tokio, Kapellmeister
AusB.
Rel.
Td. 7 12 1972, Tokio (get.)
Brd.
(หมายเหตุ:- ประวัติย่อย่อ ของ ศาสตราจารย์ ดร. Klauss Pringsheim  แปลเอาเองนะครับผมแปลไม่ออก
 
This article was published in Chord and Discord Vol. 2, No. 8, pp.
114-116, 1958. It is published here with the kind permission from
Mr. Charles Eble of the Bruckner Society of America.
 
Klaus Pringsheim, conductor, teacher, music critic and composer,
was born in Munich on 24 July 1883. His father was Alfred Israel
Pringsheim (b. 1850). Klaus Pringsheim studied music under
Gustav Mahler (1860-1911) in Vienna. In 1931 he left Germany for
Japan where he became a professor at the Ueno Academy of
Music. From 1941-1946 he directed the Tokyo Chamber
Symphony Orchestra. After a brief period in the United States, he
returned to Japan in 1951. He was appointed director of the
Musashino Academy of Music. He composed an opera as well as
music for the piano and chamber music. Pringsheim was the
brother-in-law of Thomas Mann (1875-1955). He died in Tokyo on
7 December 1972.)
 
Klaus Pringsheim,  conductor, teacher, music critic and composer,
was born in Munich on 24 July 1883. His father was Alfred Israel
Pringsheim (b. 1850). Klaus Pringsheim studied music under
Gustav Mahler (1860-1911) in Vienna. In 1931 he left Germany for
Japan where he became a professor at the Ueno Academy of
Music. From 1941-1946 he directed the Tokyo Chamber
Symphony Orchestra. After a brief period in the United States, he
returned to Japan in 1951. He was appointed director of the
Musashino Academy of Music. He composed an opera as well as
music for the piano and chamber music. Pringsheim was the
brother-in-law of Thomas Mann (1875-1955). He died in Tokyo on
7 December 1972.)

อาจารย์ ประสิทธิ์  ศิลปบรรเลง
 
ท่านอาจารย์ประสิทธิ์  ศิลปบรรเลงและภริยาได้จัดตั้งโรงเรียนสอนนาฏศิลป์ และดนตรีขึ้นที่บ้านในนามโรงเรียนผกาวลีนาฏดุริยางค์  พร้อมทั้งจัดการแสดงนาฏศิลป์ไทยเพื่อเผยแพรวัฒนธรรมไทยแก่นักทัศนาจรชาวต่างประเทศ การแสดงเป็นที่ชื่นชอบชองชาวต่างชาติ จนมีการติดต่อให้ไปเผยแพร่ศลปะการแสดงนาฏศิลป์และดนตรีไทยทั้งในทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา
 และประเทศในแถบทวีปอเมริกาใต้  รวมทั้งมีโอกาสได้แสดงที่องค์การสหประชาชาติในการเฉลิมฉลองวัน Human Rights' Day ท่านอาจารย์ ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง "ด้รับเชิญเป็นผู้แทนจากประเทศไทยในการประชุม Se'ance Inaugurale des 'ENTRETIENS' du Consiel International de la Musique ณ Maison de L'UNE'ESCO, ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในเดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๑
 ท่านได้บรรยายเกี่ยวับดนตรีไทยและแสดงเดี่ยวระนาดเอกให้ผู้แทนจากชาติต่างๆได้ชม     
ในปี พ.ศ. ๒๔๙๗ ไดประพันธ์บทเพลงซิมโฟนีชื่อ  Siamese Suite ซึ่งได้รับการแสดงครั้งแรกในงาน Southeast Asia Music Conference ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งเมื่อจบการบรรเลงโดยวงดนตรี The National Symphony Orchestra of the Philippines แล้วบรรดาผู้ฟังทั้งหมดได้แสดงความชื่นชม และ ให้เกียรติด้วยการยืนปรบมือ (Standing Ovation) เป็นเวลานานนับเป็นเกียรติยศอย่างสูงแก่ตัวท่าน และ ในฐานะตัวแทนศิลปินจากประเทศไทย
ใน พ.ศ. ๒๕๓๑  ท่านอาจารย์ ประสิทธิ์  ศิลปบรรเลง มีอาการซึมเศร้า ศาสตราจารย์นายแพทย์สุนทร  ตัณฑนันทน์ นายกสมาคมศิษย์เก่าแพทยศิริราชขณะนั้นเป็นผู้ดูแลให้การรักษาบำบัดด้วยการให้กำลังใจโดยสนับสนุนแนะนำให้ท่านใช้เวลาในการประพันธ์เพลงและให้ท่านแต่งเพลง Symphony ใหม่เพื่อที่จะใช้บรรเลงในการเฉลิมฉลองมหารัชมังคลาภิเษก
 ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์ยาวนานยิ่งกว่าบุรพมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ ท่านจึงแต่งเพลง"เสียงเทียน" ในลักษณะ Symphonic Poem with Female Chorus ขึ้นโดยอาศัยพื้นฐานมาจากเพลงลาวเสี่ยงเทียน ทางเปลี่ยนซึ่งเป็นบทเพลงไทยเดิมอันเลื่องชื่อที่ ท่านครู หลวงประดิษฐ์ไพเราะ(ศร  ศิลปบรรเลง)บิดาของท่านได้ประพันธ์ไว้มาแต่งขึ้นใหม่แบบดนตรีสากล
 "เสี่ยงเทียน" ถือได้ว่าเป็นผลงานประพันธ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของท่าน และได้บรรเลงครั้งแรกที่โรงละครแห่งชาติ โดยวงดุริยางค์ซิมโฟนีกรุงเทพ เมื่อวันที่ ๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๑ ดุริยนิพนธ์ชิ้นนี้มีลักษณะพิเศษ คือ เป็นทั้งงานอนุรักษ์และงานสร้างสรรค์ขึ้นใหม่อย่างวิจิตรประณีตของสองดุริยกวีไทยผู้เป็นบิดาและบุตร เพลง"เสี่ยงเทียน"
 ซึ่งประพันธ์สำหรับวงซิมโฟนีขนาดกลางและขับร้องโดยนักร้องหญิงในกลุ่มโซปราโนและอัลโต ได้รับการบันทึกเสียงและผลิตเป็นแผ่นซีดีเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๙ เป็นการบรรเลงโดยวงซิมโฟนีกรุงเทพ และมี Mr. John  Geogiadis เป็นผู้อำนวยเพลง
ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๑  ท่านอธิการบดีมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (Dr. P. Martin  Komolmas, FSG) ขอให้ท่านประพันธ์บทเพลงสำหรับใช้ในกิจกรรมมหาวิทยาลัย ท่านจึงแต่งให้ ๒ เพลง คือ God Bless Assumption University และ  สามัคคีABAC  โดยมีการร้องประสาน ๔ เสียง  บทเพลงทั้งสองนี้ได้รับการนำมาบรรเลงในโอกาสที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
 ร่วมกับสมาคมศิษย์เก่าแพทย์ศิริราชได้จัดการแสดงดนตรีเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เมื่อ วันที่ ๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๑  ในโอกาสเดียวกันนี้ก็ได้มีการบรรเลงเพลง Siamese Romances ซึ่ง อาจารย์ ประสิทธิ์  ศิลปบรรเลง และ คุณ อัปสร  กูรมโรหิต
 ลูกศิษย์ของท่านได้ร่วมประพันธ์ในลักษณะชุดเพลงบรรเลงสำหรับวงดนตรีซิมโฟนี(Dramatic Suite for Orchestra) เป็นครั้งแรกอีกด้วย
อาจารย์ ประสิทธิ์  ศิลปบรรเลง ได้รับเกียรติยกย่องคัดเลือกให้เป็นศิลปินแห่งชาติ(นักแต่งเพลง)ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๔๑ ท่านมีความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะประพันธ์เพลงเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ดังนั้นในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๒  ท่านจึงได้นำผลงานประพันธ์ที่เคยทำไว้แต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยจัดทำในในลักษณะ Piano Conducuctor Score
 บทเพลงนี้เขียนไว้สำหรับเป็นเพลงโหมโรง (Overture) โดยใช้ทำนองเพลง"เชิด"ที่แต่งไว้โดยบิดาของท่านคือ ท่านครู หลวงประดิษฐ์ไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) เป็นโครงสร้างและท่านได้ตั้งชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า The Prelude of Siam
การปรับปรุง Score ของเพลง The Prelude of Siam ใช้เวลาหลายเดือ และสำเร็จลงด้วยความเหนื่อยยาก ทั้งนี้เพราะเมื่อท่านเริ่มลงมือทำก็เป็นเวลาเดียวกับที่เริ่มล้มป่วยด้วยโรคหวัดและกลายเป็นปอดอักเสบ ซึ่งต้องเข้า-ออกโรงพยาบาลหลายครั้ง และเมื่อทำ Score เสร็จก็หมดแรงไม่สามารถที่จะแยกเสียงประสานและขยายออกเป็น Scores สำหรับวงซิมโฟนีขนาดใหญ่ด้วยตนเองจึงสั่งให้ ดร.
 กุลธร  ศิลปบรรเลง บุตรชาย ติดต่อ  Mr. John Georgiadis อีกครั้งเพื่อให้ช่วเรียบเรียงเสียงประสานแทนท่าน โดยได้กำหนดหลักการไว้ให้พิจารณาทำตามรวม ๘ ข้อด้วยกัน

Chavapan Piriyapong   chavapan_1@yahoo.com
กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่เพื่อนๆที่ยังไม่ได้สมัครสมาชิกฝากถามมา ก็ขอความอนุเคราะห์จากเพื่อนๆสมาชิก ช่วยตอบให้ด้วยนะคร๊าบผม...ขอบคุณมั่กๆครับ...