HTG2.club

วงจรปรีหลอด 12AX7 ที่ใช้ 1 หลอดกับ 3 หลอด ต่างกันอย่างไร

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ DIY Man.

  • It's GOOD To Be...... Audio D.I.Y.
  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,363
    • เพศ:ชาย
  • Good day!
อันนี้แล้วแต่คนออกแบบครับ�หลักการคงคำนึงถึง Gain และ Impedance เป็นหลัก หรือเอาหลอดมาทำ ;D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26 กรกฎาคม, 2005, 11:26:44 am โดย DIY Man. »
*Theory doesn't satisfy my emotion sense !
THE HEART:   The output tubes.
THE SOUL:   The output transformers.
THE MUSCLE:   The power supply.
THE BONES:   The chassis.
THE BRAINS:  The circuitry.


ออฟไลน์ Mr. One

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,226
ผม Join ด้วยครับ
ท่าว่ากันด้วยเสียงแล้วละก้อ มันมีองค์ประกอบหลายอย่าง ครับ การใช้มากหลอดการ Match กันยาก ต้องมีการปรับ Bias รายหลอดถึงจะเท่ากันได้ ส่วนการใช้หลอดเดียวปรับแต่งง่ายกว่า ที่แน่ๆ Save ค่าหลอดไปมาก เราอาจใช้หลอดที่ Gain ซัก 20-30 ที่เห็นใช้ๆกันก็พวก ECC82,ECC88 ครับ

บางที่เราต้องการเล่นแหล่งพวก Turnable พวกนี้ต้องมีการขยาย 1 Stage ก่อนครับ สว่นใหญ่ใช้หลอด mu สูง เช่น 12AX7,หลอด Pentode เล็กๆ

บางครั้งเราต้องการลด Impedance หรือ ต้องการ Buffer ก็ใช้อีก 1 Stage ได้ มักใช้ mu 0 หรือตำๆ
สามหลอดพอดี
แต่ความเห็นผมนะครับ หลายหลอด
1.เปลืองค่าหลอด
2.เพี้ยนมาก ถ้าวงจรไม่ดี
3.ทำยาก เสียงรบกวนต่างๆ
4.กินไฟ ;D ;D ;D


ออฟไลน์ นกสีเหลือง

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,117
    • เพศ:ชาย
  • I love Phuket
อืมสงสัยผมคงอธิบายไม่เคลียร์ วงจร Single end single stage ก็คือมี stage เดียวถ้าเป็น preamp. ก็คือมี active element (Tube or Solid state)เพียง stage เดียวแต่อาจจะไม่ได้มีแค่ 1ตัวนะครับ ขึ้นกับวงจรเช่น มี 2 active element ตัวนึงอาจจะใช้เป็น constant current source ให้กับอีกตัวนึงก็ได้ กรณีนี้ตัวที่ขยายสัญญานก็จะมีแค่stage เดียว ก็เรียกว่าเป็น single end ได้เหมือนกัน เพราะงั้นจึงดูที่จำนวนหลอดอย่างเดียวไม่ได้ต้องดูวงจรด้วยครับ :) และข้อสำคัญวงจรที่มีหลายๆ stage ไม่ใช่เพื่อ linearity อย่างเดียว แต่เกี่ยวกับคุณภาพเสียงด้วยอย่างแรงครับ >:( ขึ้นกับผู้ออกแบบวงจร
ส่วนถ้าเป็น power amp. ยังไงก็คงต้องมี 2 stage up except triode-power pentode ในหลอดเดียวกัน ที่เค้าเรียกว่าพวกหลอดกระเทยนะครับ ;D ไม่รู้ใครคิดคำนี้ขึ้นมาเนาะ เอ ถ้ามี 2 stage แล้วทำไมเรียกเป็น SE ได้ละครับ งงมั้ยครับ :D อันนี้ตามความเข้าใจของผมคนเดียวนะครับ ก็คือเค้าคิดแยกกันนะครับ
คือ ปกติก็จะต้องมี input -> driver -> power stage จะเห็นว่ามีถึง 3 stage(แต่ละ stage อาจจะมีactive elementได้อีกหลายตัว) แต่ทีนี้ถ้าเป็น SE ก็คือจะยุบ input+driver เป็น stage เดียว(ตัวเดียวอันเดียว ;D) แล้วก็ไป power stage เลยส่วน power stage จะเป็น SE ก็ต้องตัวเดียวอันเดียวเช่นกัน(จริงๆมีหลายอันก็ได้ครับถ้าต่อแบบขนานเพี่อเพิ่มกำลัง) ไม่ใช่ push pull
ย้ำนะครับว่าตามความเข้าใจของผมคนเดียว ยังไงถ้าผิดตรงไหนรบกวนพี่ๆเพื่อนๆช่วยแก้ไขให้ด้วยนะครับ


ออฟไลน์ redbook

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,265
ขอบคุณคับ ผมว่าคำถามผมคงเป็นอย่างที่คุณนกสีเหลืองว่าลาคับ ผมไม่แน่ใจว่า single ended หมายถึงในภาคเอาพุตของพาว์เวอร์เท่านั้นหรือป่าว ในปรีแอมป์มีด้วยไหม ???

สรุปว่า multi-stage เพื่อให้อัตราขยายเป็น linear ไม่เกี่ยวกับเสียงถูกต้องไหม ผมเองพยายามหาวงจรดูแต่คว้าน้ำเหลว ไม่ทราบจะช่วยชี้แนะให้ไปดูที่ไหนได้คับ


ออฟไลน์ นกสีเหลือง

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,117
    • เพศ:ชาย
  • I love Phuket
ไม่ใช่คำถามเด็กๆหรอกครับ แต่คำถามค่อนข้างกว้างมากกก ถ้าให้ดีควรจะมีวงจรมาให้ดูด้วยครับ แต่เข้าใจว่าคุณred book คงหมายถึงวงจรที่มี 1 stage compare with multi stage อย่างไหนดีกว่ากัน ถ้าให้ตอบแบบตรงๆกวนโอ้ยหน่อยก็ต้องบอกว่า แล้วแต่หูใครหูมันครับ ;D  แฮะๆ ถ้าตอบอย่างเป็นวิชาการหน่อย การที่เค้าใช้หลายๆ stage เพื่อ linearity ก็เป็นได้ครับ ซึ่งโดยมากก็ใช้ negative feedback นั่นเองครับ การใช้ multi stage ข้อดีอย่างหนึ่งก็คือช่วยลบข้อด้อยบางอย่างของหลอดแต่ละเบอร์ลงได้ส่วนหนึ่ง ซึ่งต่างกับ Single end ลักษณะเสียงแน่นอนว่าขึ้นอยู่กับบุคลิกของหลอดเบอร์นั้นๆ เป็นส่วนใหญ่ครับ ส่วนเสียงที่ได้ก็อย่างที่บอกครับ หูใครหูมัน  ;D


ออฟไลน์ redbook

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,265
รบกวนขอถามคำถามเด็กๆอันนึงคับ วงจรปรีหลอด 12AX7 ที่ใช้ 1 หลอดกับ 3 หลอด (บางอันมีมากกว่านี้อีก) ต่างกันอย่างไร� ถ้าเป็นหลอด 6922 จะเป็นเหมือนกันไหม� เพื่อนผมอธิบายว่าหลายหลอดอาจเอามาทำให้การขยายเป็น linear ไม่เพี้ยนในวอล์ลุ่มเบาและดังมากๆ ที่อยากรู้คือผลต่อเสียงลาคับ ยิ่งหลอดมาก ยิ่งแพง (อุปกรณ์มากชิ้นกว่า) เสียงน่าจะดีกว่าใช่ไหมคับ�เกี่ยวกับจำนวน line stage ยิ่งเยอะเสียงยิ่งดี ??� หรือว่า 12AX7 หลายหลอดเสียงจะไม่กร้าวคับ� :-\
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 กรกฎาคม, 2005, 01:25:25 pm โดย redbook »