สรุป
1.c ภาคจ่ายไฟผมใช้ 10000mfd เพื่อเพิ่มไฟสำรองให้เหลือกินเหลือใช้ครับ

(ความจริงใช้4700mfd ก็พอครับ ใช้ 10000mfd กว่ามันจะหยุดดังก็ปาเข้าไปอีกครึ่งนาทีหลังจากถอดปลั๊ก

)
2. อุปกรณ์ไม่ต้องไปไขว่คว้าหาของดีอะไรมากเลยครับ ใช้ของเท่าที่มีอยู่ก้อพอครับ ผมไม่ได้ใช้ของดีอะไรเลย อุปกรณ์ทุกตัวหาได้ตามบ้านหม้อทั้งหมดครับ

(จากวงจรนั้นตัวที่ดีที่สุดคือ vollume ที่เป็นของ alps และสายไฟภาค powerใช้สายลำโพง (canarae) ครับ และตะกั่วที่ใช้ wbt( เหตุผลที่ใช้เพราะบัดกรีง่ายกว่า ultracore บานเบอะ และกลิ่นไม่ค่อยเหม็น
แถมมีมอสเจอร์ไรเซอร์ไว้ช่วยบำรุงผิวไม่ให้ผิวนัก diy แห้งกร้าน

)
3. c10 mfd ไม่ต้องไปหาของดีอะไรหรอกครับผมว่า bennic pmt ก็ได้เสียงอย่าง work แล้วอะ ส่วน c 4700 mfd ซึ่งเป็น c output หา samwha ครับ ผมว่าเสียงกลางแหล่มดีไม่แห้งด้วยแหละ ถ้าท่านไปใช c switching ตัวดำๆๆ ทนความร้อนสูง อาจจะได้เสียง digital แหบๆๆแห้งๆๆก็ได้นะ

4. ถ้าอยากลองหลายๆๆหลอดอะทำแบบผมก็ได้นะครับ แต่ละหลอดจะได้เสียงดังนี้ครับ
4.1 el34 รายละเอียดครบสุดครับ เสียงค่อนข้างเร็ว แต่เสียงจะไปในแนวทาง ss เลยครับ ถ้าอยากได้ hybrid เสียงแบบหลอดหลีกเลี่ยงไปได้เลยเพราะเสียงที่ฟ้งนี่มันเป็น ss เลยครับ

4.2 6l6 เสียงจะออกแนวนุ่มละมุนเสียงกลางมาเลยครับ มีหมอกให้เคลิ้มๆๆครับแหลมจะไม่ค่อยมี (ปล. ถ้าใช้หลอดตราดาว หรือน้าชู เนี่ยท่านจะประสบปัญหาเสียงบางจ๋องและแห้งด้วยครับ อาจเป็นเพราะว่ามันใช้กับไฟต่ำอะครับ เลยออกมาเป็นแนวนี้

แต่พอเอาไปใช้กับหลอดรัสเซียกับไม่เป็นครับ)
4.3 ef80 ผมฟังแล้วผมชอบตัวนี้ที่สุดแล้วครับ ได้อารมณ์แบบหลอดเลยครับ มีหมอกให้เคลิ้มๆๆ เสียงสดหน่อยๆๆ

5.แท่นรวมหม้อแปลงแล้วหนักมากๆๆครับ 20 โล เห็นจะได้แต่มีข้อดีเหมือนกันครับ คือคุณไม่ต้องไปหาน้องอ่างศิลามาัทับหม้อแปลงครับ

6. ถ้ากลับทิศใส่ฟิวส์เสียงที่ได้อาจจะดีขึ้นครับ

มาเล่าสู่กันฟังเ่ท่านี้แหละจ้าเพื่อเป็นประโยชน์แ่ก่คนทำใหม่ไม่มากก็น้อย

ปล.ขอขอบคุณพี่ dekdek ที่ให้ผมไถ ef80มาดื้อๆๆเลยครับ พร้อมกับหลอดที่เป็นของแถมอีอก ต้องขอบคุณจริงๆๆครับ ตอนนี้ทำ หลอด ef80 พี่ให้มันร้องเพลงได้แล้วจ้า
ขอขอบคุณ อ.แม็คที่ได้นำเสนอทฤษฎีบ้านบนเนิน law มาให้เหล่าสมาชิกได้ทำความรู้จักครับทำให้การลง g เนี่ยทำได้ง่ายขึ้นเยอะเลยครับ ไม่มี ground loop เงียบสนิท 
