เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความเสี่ยงสูงที่ไฟจะรั่วมาอันตรายได้ก็มี ตู้เย็น กับเครื่องทำน้ำอุ่น
การป้องกันก็คือต่อสายดินจากตัวถังเครื่อง ถ้าไฟรั่วก็จะได้ลงกราวด์ไปไม่ทำอันตรายกับผู้ใช้
แต่ต้องพึงระวัง การต่อสายดินอาจมีผลทางด้านลบตามมา
ถ้าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต่อสายกราวด์ไว้ เกิดชำรุดบกพร่องมีไฟรั่ว
มันจะรั่วลงกราวด์ตลอดเวลา เหมือนมีโหลดต่ออยู่กับระบบไฟฟ้า
เคยมีกรณีศึกษา ว่ามีบ้านนึงร้องเรียนว่าค่าไฟฟ้าแพงมาก ๆ
เครื่องใช้ไฟฟ้าก็มีอยู่แค่ไม่กี่อย่าง ก็เลยนัดกันไปตรวจสอบ
ให้ปิดไฟแสงสว่างทั้งหมด พัดลม ทีวี วิทยุ ถอดปลั๊กออกหมด
แล้วไปดูที่ตัวมิเตอร์ พบว่ามิเตอร์ยังคงหมุนอยู่
ก็เข้าตรวจสอบในบ้านอีกที พบตู้เย็นยังไม่ได้ถอดปลั๊ก
ก็ให้ลองถอดปลั๊กออก แล้วไปดูที่ตัวมิเตอร์ไฟฟ้า ตอนนี้มิเตอร์หยุดหมุน
ก็เป็นว่าปกติดี กำลังเก็บเครื่องมือขึ้นรถจะเดินทางกลับ และจะทำเรื่อง
นำมิเตอร์อีกตัวมาติดตั้งเปรียบเทียบเผื่อว่ามิเตอร์ที่ติดตั้งอยู่เดิมอาจจะทำงานผิดปกติ
เป็นโชคดีที่เจ้าของบ้านเดินมาเรียกบอกว่า ตู้เย็นที่ทางร้านมาติดตั้งให้
ได้เดินสายดินป้องกันไฟรั่วไว้ให้ด้วย ก็เลยให้เสียบปลั๊กตู้เย็นแล้วกดสวิทช์
ละลายน้ำแข็ง ซึ่งจะทำให้ตัวคอมเพลสเซอร์หยุดทำงาน แล้วไปดูที่ตัวมิเตอร์
ปรากฎว่ามิเตอร์หมุน ชัดเลย อย่างนี้ตู้เย็นมีไฟรั่วแน่นอน
กลับเข้าไฟในบ้าน ตรวจสอบละเอียดที่ตัวตู้เย็น ปรากฎว่ามีไฟฟ้ารั่วมาที่ตัว
โครงเหล็กของตู้เย็น เป็นโชคดีของเจ้าของบ้านและทุกคนที่มาใช้ตู้เย็นนั้น
ไฟฟ้าที่รั่วมาได้ผ่านลงกราวด์ไปโดยสายดินที่ช่างของทางร้านติดตั้งไว้ให้ ไม่รั่วมาทำอันตรายคนในบ้าน
แต่โชคร้ายคือไฟฟ้าที่รั่วลงดินไปนั้นมันเหมือนกับมีเครื่องใช้ไฟฟ้าเปิดใช้งานอยู่
จึงทำให้มิเตอร์หมุนและเลขหน่วยเดินหน้าไปเรื่อย ๆ ทำให้ต้องเสียค่าไฟฟ้าแพง
ก่อนจะลากลับ ได้แนะนำเจ้าของบ้านว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีการต่อสายดินไว้
และสงสัยว่าจะมีไฟฟ้ารั่วออกมา แบบเดียวกับตู้เย็นหรือไม่ ก็ให้ใช้ไขควงเช็คไฟ
ที่มีขายทั่วไป อันละสิบกว่าบาท มาลองจิ้ม ๆ ส่วนที่เป็นโลหะของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ถ้ามีไฟสว่างที่ด้ามของไขควง แสดงว่ามีไฟรั่ว แต่สายดินที่ต่อไว้จะทำให้ไฟที่รั่ว
วิ่งลงกราวด์ไป แทนที่จะมาดูดคนที่ไปจับมัน และต้องส่งเครื่องใช้ไฟฟ้านั้นให้ช่าง
ที่ชำนาญงานทำการแก้ไขต่อไป