ถ้าชอบ เสียงที่ detail� รายละเอียด� ปลายเสียงระเมียด+หยุมหยิม
คงต้องยกให้ Ayre CX-7 fully-balanced,
http://www.ayre.com/products_detail.cfm?productid=2&field=specsในท้องตลาดเมื่องไทย� �fully-balanced� ทีดีในราคา120,000� class a
ผมฟันธงได้เลยคงหนี้ไม้พ้นตัวนี้ครับ� เอาเงินอีก 30,000 บาทมาหาเป็นค่าสายสัณณาณดีๆ+สายไฟดีๆๆ ได้เลยครับ�
( ส่วนสนใจยินดียกเครื่องไปลองกันถึงที่ได้เลยครับ� เพราะ เจ้า ProAc Response 1 SC ผมเคยเล่นอยู่ ตอนนี้ตกไปอยู่กับอจ.มัง� แต่พี่ท่านเสียชีวิตไปแล้วครับ กับเหตุการณ์ไม่น่าจะเกิดเลยครับ� พึ่งเถียงกันในเรื่อง 2 แชลแนลเองครับ ฮึมๆ)
จริงๆในท้องตลาดเมื่อนอก� fully-balance มีมากมายแต่สำหรับเมื่องไทย คงต้องยกให้ตัวนี
http://www.ayre.com/PDF/Reprint-PDF_Ayre_Balgalvis.pdfhttp://www.audio-teams.com/อ้างอิง
เครื่องเล่น ซีดี "Ayre CX - 7"
โดย "เด็กวัด"
--------------------------------------------------------------------------------
นับเป็นช่วงคาบเกี่ยวที่ติดพันชั่วเวลาสั้นๆ หลังจากที่ผมได้ลองฟังอินทิเกรตแอมป์ Ayre AX-7 แล้วเสร็จไม่นานนัก เครื่องเล่นซีดีรุ่นนี้ก็ถูกส่งตามมา เมื่อได้ลองฟังไปถึงระดับหนึ่ง พอจะได้ประเด็นบ้าง ต่อมาผมก็รับได้เครื่องเล่นรุ่นเดียวกันนี้อีกเครื่อง ซึ่งถือเป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดของ CX-7 ที่วางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบันครับ
เครื่องเสียงอเมริกายี่ห้อนี้ไม่ใช่ชื่อใหม่สำหรับนักเล่นนักฟังบ้านเรา เคยสำแดงศักยภาพที่กระฉ่อนเลื่องลือมาก่อนนี้หลายปี นั่นเห็นจะเป็นเพาเวอร์แอมป์ Ayre V3 นี่เอง ซึ่งแม้จะตกรุ่นไปนานแล้วแต่วันนี้ก็ยังคงคมขลังเป็นเพาเวอร์แอมป์ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวโดดเด่นไม่สร่างซารุ่นหนึ่ง
สำหรับ Ayre ที่นำเสนอในรูปลักษณ์อัพเดตล่าสุด ด้วยเทคโนโลยีต่างๆ สำหรับ Ayre Acoustics ก็ดี ได้ก้าวล้ำไปตามกาลเวลา ไม่ได้ต่างไปจากเครื่องเคราอื่นๆ ร่วมสมัย ซึ่งต้องพัฒนาคุณภาพของตนเองเพื่อส่วนแบ่งการตลาดและยกระดับคุณค่าของแบรนด์เนมของตนเองอีกด้วย
ลองมาดูในรายละเอียดพอเป็นสังเขป เพื่อเป็นแนวทางสำหรับท่านที่สนใจ หรือกำลังเล็งเครื่องเล่นซีดีในงบประมาณนี้สักเครื่อง ได้พิจารณาตามสมควร
รูปลักษณ์และการใช้งาน
หากนำเอาเครื่องเล่นซีดี Ayre CX-7 ซ้อนกับอินทิเกรตแอมป์ Ayre AX-7 ็ก็ยากที่จะจำแนกในทันทีทันใดได้ว่า เครื่องไหนเป็นอะไร ทั้งนี้เพราะตัวถังเป็นบล็อกเดียวกัน ขนาดสัดส่วนลงตัวกันพอดี แถมหน้าตาบนแผงหน้าปัดเครื่องเมื่อไม่ได้ใช้งาน ก็แลมองไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด
ถ้าจัดวางเข้าชุดทั้งอินทิเกรตแอมป์และเครื่องเล่นซีดี น่าจะถูกใจนักเล่นฯที่ให้ความสำคัญในแง่ทัศนีย์ภาคมุมมองของเครื่อง เป็นความสุขทางสายตานอกเหนือจากโสตสัมผัส
การจัดแบ่งแผงหน้าปัดของเครื่องก็มีสัดส่วนเช่นเดียวกัน วางจอดิสเพลย์ไว้กึ่งกลาง ซึ่งเป็นจุดเดียวกับถาดรับแผ่นที่จัดวางไว้กึ่งกลางตอนล่างของจอ ด้วยสีตัวถังที่เป็นอลูมิเนียมสีเงินสะอาดตา ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยข่มให้หน้าปัดเครื่องในส่วนของการแสดงข้อมูลตัวเลขต่างๆ โดดเด่นหรือชัดเจนขึ้นมาอีก โดยเฉพาะตัวเลขที่แสดงแทร็คและเวลานั้น ก็มีขนาดใหญ่มากพอที่จะมองเห็นได้ชัดเจนจากที่ไกล
รุ่นที่ผมได้ลองฟังคาบแรก, ลิ้นชักหรือถาดรับแผ่น(สีขาวหรือครีม)ค่อนข้างบอบบาง ไม่นิ่มนวล ดูจะกระด้างกว่าลิ้นชักถาดรับแผ่นของ Stage 2 ที่ที่ผมใช้งานเป็นประจำ ทั้งที่ชุดแมคานิคข้างต้นก็ล้วนพัฒนามาจากฟิลิปส์ด้วยกันทั้งนั้น
แต่รุ่นใหม่ในคาบที่สองซึ่งเป็นรุ่นปัจจุบันที่วางจำหน่ายในขณะนี้ มีการปรับปรุงลิ้นชักในส่วนนี้ขึ้นมาใหม่ มีความหนักแน่นแม่นยำในการดึงถาดรับแผ่นเข้าออกได้อย่างมั่นคง และมีความเสถียรที่ดีกว่ามาก แล้วที่น่าแปลกใจในฐานะที่ได้ลองฟังทั้งสองเวอร์ชั่นในคราวเดียวกัน กรรมเดียวกัน พบว่า รุ่นที่ได้ทำการปรับเปลี่ยนถาดรับแผ่นใหม่(สีดำ) กลับให้คุณภาพที่ดีขึ้นอีกมากชนิดที่ฟังออกกันเลยทีเดียว !
เช่นเดียวกับอินทิเกรตแอมป์, บนแผงหน้าด้านขวามือ จะเป็นปุ่มควบคุมการทำงานของเครื่องเล่นฯ ออกแบบเป็นปุ่มแท่งเหลี่ยมเล็กๆ เรียงกันเป็นหมวดหมู่ (ฟังก์ชั่นการสั่งงานเครื่อง มีอยู่ในรีโมทไร้สายเช่นกัน) ซึ่งจะว่าไปแล้ว เครื่องเล่นซีดี Ayre CX-7 ไม่ได้เน้นลูกเล่นอะไรที่นอกเหนือไปจากการใช้งานหลักๆ ซึ่งบางครั้งหรือบ่อยครั้งที่ฟังก์ชั่นอเนกประสงค์เหล่านี้ กลับเป็นส่วนบั่นทอนคุณภาพลึกๆ อย่างน่าเสียดาย แถมบางครั้งก็ไม่ได้ใช้งานฟังก์ชั่นพวกนี้เลยตลอดอายุการใช้งานเครื่อง
ด้านหลังของเครื่องเล่นฯ, Ayre CX-7 ให้ช่องสัญญาณอนาลอคขาออกสองรูปแบบคือ ทั้งRCA สำหรับอันบาลานซ์ และ XLR สำหรับการต่อเชื่อมสัญญาณบาลานซ์ เช่นเดียวกับช่องสัญญาณดิจิตอลขาออก (Digital Output) ก็ออกแบบให้ใช้ได้เพียงรูปแบบเดียวคือ AES/EBU ชนิดบาลานซ์ XLR เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ขอแนะนำให้ต่อเชื่อมสัญญาณจากเครื่องเล่นซีดีเครื่องนี้ ออกทางช่องบาลานซ์ ซึ่งจะได้คุณภาพสูงสุดเท่าที่ปรากฏมีอยู่ในเครื่องเล่นรุ่นนี้
ในกรณีที่แอมป์หรือปรีแอมป์ที่เข้าชุด ไม่มีช่องอินพุทบาลานซ์ (XLR) แนะนำให้เลือกใช้อะแดปเตอร์ลดรูปของ Cardas (RCA-XLR) เป็นตัวต่อผ่านสัญญาณสำหรับสายสัญญาณอันบาลานซ์
พึงสังเกตว่า บริเวณที่ใกล้เคียงกับขั้วต่อเชื่อมสัญญาณที่ว่าไว้ข้างต้น จะมีสวิทซ์โยกตัวเล็กๆ สองจุด ซ้ายมือนั้นเป็นสวิทช์สำหรับเปิดปิดสัญญาณดิจิตอลเอาท์พุทในกรณีที่เลือกใช้งาน Ayre CX-7 ให้ทำหน้าที่เป็นซีดีทรานสปอร์ต โอนถ่ายข้อมูลไปปรับแปลงเป็นอนาลอคกับเครื่องภายนอก
ส่วนสวิทช์โยกชนิดเดียวกันด้านขวามือ (วางตำแหน่งใกล้ชิดกัน) แต่ทำหน้าที่สลับเลือกได้สองทาง, สวิทช์ไปด้านหนึ่ง จะเป็นโหมด Listen และสวิทช์โยกไปฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นโหมด Measure ซึ่งปกติเครื่องจะตั้งสวิทช์ที่ว่านี้เอาไว้ที่โหมดแรก แต่ผู้เล่นสามารถเลือกปรับสวิทซ์ได้ตามต้องการ แน่นอนครับ, สองโหมดสวิทซ์นี้ ให้ผลที่แตกต่างด้านน้ำเสียงและรายละเอียดที่ใครๆ ก็ฟังออก เพราะเป็นส่วนหนึ่งของวงจรกรองสัญญาณดิจิตอลที่ออกแบบไว้อย่างพิถีพิถัน
Ayre CX-7 ไม่มีสวิทซ์ปิดเปิดไฟเมนเข้าเครื่องใดๆ เพียงต่อสายไฟเอซีเข้าเบ้าเสียบซ็อคเก็ตด้านหลังของเครื่อง ก็ทำงานได้ทันที หากไม่ต้องการใช้งานเครื่องชั่วคราว ก็เพียงกดปุ่มปิดไฟเครื่องเพื่อเขาสู่โหมดสแตนด์บาย ซึ่งจะมีดวงไฟแอลอีดีปรากฏให้เป็นที่หมาย และเท่ากับเป็นวอร์มหรืออุ่นวงจรของเครื่องเอาไว้ ในกรณีที่ไม่ได้ใช้งานเครื่องต่อเนื่องคราวละนานๆ แนะนำให้ถอดสายไฟเอซีออกจากปลั๊ก
ไม่ว่าจะเป็นอินทิเกรตแอมป์หรือเครื่องเล่นซีดี Ayre ภายในได้ออกแบบความเสถียรมั่นคงของภาคจ่ายไฟทั้งหมด ด้วยขั้นตอนที่ละเอียดอ่อน เสมือนหนึ่งภายในเครื่องเล่นเหล่านี้ มีอุปกรณ์เครื่องควบคุมและกรองกระแสไฟฟ้าอยู่ภายใน จึงมั่นใจได้กับสภาพการทำงานตามปกติ นอกจากนั้น ความแตกต่างในด้านน้ำเสียงที่ปรากฏ ก็เป็นหลักฐานที่บ่งบอกถึงการเอาใจใส่ระบบการจ่ายไฟภายในวงจรได้เป็นอย่างดี
Ayre CX-7 ตอบสนองความถี่ตั้งแต่ DC ถึง 20,000 เฮิร์ตซ ระดับสัญญาณขาออก 2.25 โวล์ต สำหรับช่องสัญญาณอนาลอคอาร์ซีเอ และ 4.50 โวล์ต สำหรับช่องบาลานซ์เอาท์พุท กินกระแสไฟฟ้า 30 วัตต์ ขนาดสัดส่วนตัวเครื่องกว้าง 44 ลึก 35 และ สูง 12 เซนติเมตร น้ำหนักสุทธิ 11.5 กิโลกรัม
ห้างเดโค โฮมเอนเตอร์เทนเมนต์ ผู้จัดจำหน่าย
ราคาขายไม่เกิน 150,000 บาท (สิงหาคม 2546)
Naim CD5x� ไม่เคยฟังจริงจัง
แต่จากโทย์ตัวปรี Sonic Frontier SFL-2.� � � � ผมไม่แน่ใจว่าเป็น fully-balanced� � ถ้าใช้ก็คงไม่พ้น
แต่Amp� � � � � � � � Krell KSA 300S.� น่าจะเป็น� fully-balanced
Cary Audio 303/300 มีดีตรงที่ un- balanced ถ้าสนใจจริงก็น่าจะยืมไปลองกันแบบ A+B เทสกันดีกว่าเล่นในเงื่อไขเดียวกันเลยครับ�
ส่วนถ้าเน้น Dynamic ก็ตงตัวนี้แต่� ว่าฟังเพลงแนวไหนมากกว่าครับ
.อีกตัวคงไปดู Accuphase 65V� ,Accuphase55V