ยินดีที่เสียตังค์ด้วยครับพี่หมอ� ฮิอิ อย่าลืมบัตร ATM อีกนะพี่
�
คุณ Glassear ยังไงต้นทางก็มีส่วนแน่นอนครับ คล้ายเปรียบเทียบกับการไหลของน้ำในท่อน้ำประปาครับ
มาอธิบายง่ายๆ� นึกภาพตาม
....ต้นทางเข้าท่อน้ำประปามีขนาดใหญ่ปลายแต่ปลายทางน้ำเล็ก� � แรงดันน้ำก็จะมาก� ก็คล้ายกับเสียงเช่นเดียวกันครับ�
� � �ปริมาณ� เบสจะฉับพลันขึ้น ต้นๆเบส� และช่วงเสียงกลางต่ำคล้ายจะเหมือนดีขึ้น� แต่ลึกๆเบสลึกนี่ซึจะจางหายลง� และอาจถึงหายไปเลยแต่ถ้าคุณใช้ลำโพงเล็กคุณก็จะไม่ได้ยินมันอยู่แล้ว� �
� � �ส่วนกลางแหลมกับจะชัดเจนขึ้นด้วย และเป็นตัวๆเป็นต้นขึ้น� คงต้องแล้วแต่งบประมาณ� และความเหมาะสม ความชอบอีก
ส่วนในทางกลับกันนี้ซิ ครับ
.....� ถ้าต้นทางน้ำเล็กปลายทางน้ำใหญ่� แรงดันจะเหมือน� ผู้ชายแก่ที่ไปปัสาวะในห้องน้ำแต่ไม่มีแรงทำให้น้ำพุ้งไกลๆได้เหมือนหนุ่มๆเมื่อเข้าห้องน้ำ ครับ( ใครอยากไม่แก่เวลาเข้าห้องน้ำอย่างผม จะยืนห่างสักนิดแล้วทำมือประคองไว้ว่าท่อใหญ่ฮิฮิ เพื่อลีลาว่าเรายังไม่แก่แน่นอนแล้วไม่เล็กฮิฮิครับ ไปทะลึ่งอีกแล้วเรา )� อันนี้บานเลย�
การควบคุมไดนามิกจะไม่ได้ และ balance เสียงถึงลงนรกเลย ถ้าเล่นลำโพงใหญ่อย่างพี่หมอ� และหูเซียนอย่าพี่หมอ� รับรองผมไม่ได้ตังค์พี่เค้าแน่
.......ส่วนที่ดีสุด อย่างพี่หมอทำคือ ทำมันให้เหมือนกัน� โดยเข้า 1 ออก 1 นั้นแหละคือความเหมาะสม� �ที่สุด
แต่บางครั้งอาจไม่ใช้ว่าถูกเสมอไป� อย่างในกระบอกปืน� ซึ่งอาขจะมีเกลียวภายในลำกล้องช่วยทำให้แรงดันดีขึ้นอีกก็ได้� นี่แหละคือ color
ส่วนเรื่องความยาวของสายก็เช่นกัน� จิตตอบปัญหานี้บ่อยมาก�
โดยส่วนใหญ่หลายคนชอบเล่นสาย� แต่อาจคิดว่าการประหยัดโดยตัดสายให้สั้นก็ถือว่าเราได้ใช้.... ( นั้นคุณได้ใช้สายเหมือนคนอื่นแต่เสียงไม่ใช่แน่นอนครับ ) เพราะ โดยการลดขนาดความยาวลง� เปรียบเทียบเช่น
คุณ ลองนึกถึงภาพตามผม� �ปืนยาว กับปืนสั่น� ความแม่นยำอันไหนดีกว่าครับ� ตอบได้เลยว่าปืนยาว� แต่ถ้ายาวไป ก็กลับทำให้มันมีความผิดพลาดได้เช่นกัน คงต้องขึ้นอยู่กับการออกแบบด้วย� �เช่นเดียวกัน� ผู้ออกแบบสายไฟต่างๆส่วนใหญ่ใช่มาตราฐาน 5 ,6 ,7 ft ครับ