ผมขอแถมเกล็ดเล็กๆ ของลำโพงฮอร์นให้อีกนิดนะครับ ลำโพงแบบฮอร์นมันมีดีกว่าลำโพงทั่วๆ ไปอย่างไร? (แต่ข้อเสียของมันก็มีเหมือนกันนะ จะไม่ขอเอามาคุยให้คนใช้ฮอร์นเสียใจ หรือหมดกำลังใจทำกันซะเปล่าๆ นะครับ เพราะผมก็ใช้ลำโพงฮอร์น และก็มีลำโพงเกือบจะทุกชนิดลำโพงใช้อยู่เหมือนกันแหละครับ)
การที่ลำโพงฮอร์นได้เปรียบและทำได้ดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นลำโพงแบบตู้ปิด หรือตู้เปิด หรือทานสมิทวั่นไลน์ หรือลำโพงแบบอีเล็กโตสะแตตริก
ก็คือ Voice Coil มันขยับเพียงนิดเดียวเท่านั้นเอง (ดอกลำโพงเสียงแหลมคงขยับกันไม่เกินเศษเสี้ยวของมิลลิเมตร ส่วนดอกลำโพงเสียงเบสตอนที่มันทำให้พื้นบ้านสะเทือนนั้น มันก็ขยับเข้าออกเพียง 2-3mm ได้ละมั้ง ขณะที่ลำโพงทั่วๆ ไป ขยับกันเป็นหลายเซนต์ติเมตรถึงจะทำเบสให้สะเทือนพื้นบ้านได้) มันก็ให้ได้เสียงที่ดังแรงมากกว่าเพื่อนที่กล่าวมาแล้วเป็นสิบเท่า ก็ลองคิดดูง่ายๆ ว่า การวิ่งกลับไปมา หรือระยะของวิ่งไปและกลับของ Voice Coil มันก็จะสั้นกว่าลำโพงทั่วๆ แต่มันก็ให้เสียงดังเท่าๆ กัน หรือดังมากกว่าซะด้วยซ้ำไปนะครับ เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ก็คือมันพุ่งมาข้างหน้า และกลับไปข้างหลังได้เร็วกว่าลำโพงประเภทอื่นๆ ใช่ไหมครับ? ดังนั้นเสียงมันจึงชนะเลิศในด้านของ ความสดของเสียง ความไวของเสียง และอิมแพ็กของเสียงครับ (ในทุกย่านความถี่ด้วยนะครับ ถ้าทั้งระบบเป็นฮอร์น คือหมายถึงเราใช้ทั้งตู้เบสแบบฮอร์นด้วยนะครับ ไม่ใช่ใช้แค่ปากเสียงแหลมอย่างเดียว ถ้าเป็นแบบนี้ เสียงแหลมกับเสียงเบสมันจะไม่ทันกันได้ ขอยกตัวอย่างเช่น JBL หลายๆ รุ่นที่ใช้เสียงกลางเป็นฮอร์น เสียงเบสเป็นแบบตู้เปิดกันดูนะครับ ลองฟังกันให้ดีๆ เสียงเบสมันออกมาไม่ทันเสียงสูงๆ นะครับ) จากที่ผมประทับใจมากๆ ของลำโพงแบบนี้ก็คือเสียงหัวกลองเร็วมากๆๆๆๆๆ เท่าเสียงของกลองจริงๆ มากที่สุดเท่าที่ผมเคยได้ฟังจากลำโพงแบบอื่นมาแล้ว เสียงของมันใกล้ของจริงมากที่สุด (พอผมฟังมันครั้งแรก ผมคิดเลยว่าต้องหามันมาใช้ให้ได้) ขณะที่ลำโพงทั่วๆ ไป เมื่อเทียบความเร็วของเสียงกับมันก็คือ เหมือนความเร็วของเต่ากับกระต่ายครับ ถ้าจะให้เต่าเดินเร็วๆ ก็ต้องอัดฉีดมันด้วยแอมป์วัตต์สูงๆ และใช้แม่เหล็กทำลำโพงที่ดีๆ กับกรวยลำโพงที่เบาที่สุด (แต่ลำโพงฮอร์นมันก็ใช้แม่เหล็กชนิด อัลนิโก้(?) ที่ดีสุดยอดอยู่แล้วนะครับ) การได้มาซึ่งความเร็วเสมอเหมือนมันจึงต้องจ่ายกันแพงแบบสุดๆๆๆๆ แต่อย่าลืมว่าแอมป์วัตต์น้อยที่เหมาะกับการขับฮอร์นก็มีเสียงที่ดีกว่าแอมป์วัตต์มากๆ ที่เหมาะกับลำโพงทั่วๆ ไปอีกด้วย
การหาฟังลำโพงฮอร์นทั้งระบบดีๆ ถึงกับมีบางคนไม่ยากไปฟังลำโพงพวกกันนี้ เพราะกลัวว่ามันจะทำให้พวกเค้าเสียหูของเค้ากันเลยละครับ (ผมเคยเจอคนที่พูดแบบนี้มาหลายคนแล้ว) ตอนนี้ผมพบว่ามันเป็นลำโพงแพงที่สุด เพราะมันใช้ดอกอยู่ไม่กี่ดอก ถ้าเราคิดจำนวนดอกต่อตู้แล้วละก็มันเป็นลำโพงที่แพงที่สุดในโลกได้เลยละครับ คือคือมันมีราคาคู่ละ 320,000 USD ครับ เป็นลำโพงที่ทำในอังกฤษ ผมก็เพิ่งเห็นมันออกมาโฆษณาขาย
(ผมก็เคยเห็นลำโพงคู่ละล้านเหรียญ แต่มันก็ใช้ดอกลำโพงหลายสิบดอกต่อข้าง และข้างละก็มีหลายๆ ตู้ต่อติดรวมกันไว้เป็นตู้เดียว (เหมือนการ Stack ลำโพงหลายคู่เข้าด้วยกัน) คนที่จะซื้อมันไปใช้ได้ ก็ต้องมีห้องใหญ่ขนาดโบสถ์ละครับ
อ้อ! ลืมบอกว่าไป จากที่ผมลำมีลำโพงที่ใช้ฟังอยู่ 3 ชนิดในตอนนี้ ณ วันนี้ (วันหน้าผมอาจมีรสนิยมเปลี่ยนไป อาจไปชอบตัวอื่นก็ได้นะครับ) ผมได้ค้นพบแล้วว่า ผมชอบลำโพงฮอร์นในการฟังเพลงเป็นที่สุดครับ ผมมี ALTEC VOT อยู่สองชุด (อีกชุดยังไม่ได้ทำตู้ให้มัน แค่คู่เดียวก็สุดยอดได้แล้วละครับ) แล้วผมก็มีลำโพงแบบอีเล็กโตสะแตร์ติกคือ QUAD ESL 63 อีกสองคู่ ผมก็จับมันฟังแบบ Staked กัน เป็นลำโพงที่ชอบระดับสองลองลงมาจาก VOT ครับ และชอบที่สามของผมก็คือ FOCUS FS 68 Sign. อีกสองคู่ที่จับมา Stacked กันฟังอีกเช่นกันละครับ แต่มันก็ยังอยู่ตำแหน่งที่โหล่ของความชอบของผม ก็ลองคิดดูกันง่ายๆ ว่าทำไมลำโพงฮอร์นถึงขายกันแพงถึงขนาด สามแสน กว่าเหรียญสหรัฐกันได้? ขณะที่อเล็กซานเดียร์ของ วินสัน แบบตู้เปิด ยังมีราคาค่าตัวแค่ หกหมื่น กว่าเหรียญเท่านั้นเองละครับ ลำโพงที่มีกรวยลำโพงวิ่งแบบเต่าราคาต่างกัน 5 เท่าเชียวละครับ