HTG2.club

วงจร Full Balance แตกต่างกับ วงจร Bridge อย่างไร

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ นายป้อ

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,937
    • เพศ:ชาย
ถ้าต่อวงจรแบบนี้จะได้ไหมครับ

ดูแล้วไม่น่ามีปํญหาครับ

ขอบคุณมากครับ แบบนี้เรียกว่า gainclone pushpull ได้ไหมครับเนี่ย ;D ;D ;D





ออฟไลน์ maw

  • ****
    • กระทู้: 464
ผมลองต่อแล้วครับ ใช้วงจรbridge kitสำเร็จของ NPE Prokit แต่พอต่อใช้งานจริงมีเสียงดังดุบแล้วก็มีเสียงแปลกๆดังลั่นเลยลำโพงแทบพัง
ดีนะผมใช้ลำโพงตัวทดสอบ


ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
พอทำได้ครับ ที่ต้องทำมีสองอย่าง
1.แน่ใจว่า power supply จ่ายกระแสได้เต็มที่จริงๆ ถ้าได้ ผลลัพธ์คือจะได้ power เต็มๆ
2.ระบายความร้อนออกจากตัว LM3875 ให้เร็วที่สุด อาจใช้แผ่น heatsink ที่เป็นทองแดง มีครีบมากๆ หรือใช้พวก water cool หรือใช้พัดลมเป่าครับ  ^-^


ออฟไลน์ maw

  • ****
    • กระทู้: 464
จะว่าไปแล้ว bridge น่าจะเป็น subset ของ balance ครับ การ bridge เป็นการเอา poweramp สองตัวมาขยายสัญญาณชุดเดียวกัน แต่กลับ phase กัน เพราะฉนั้น voltage ที่คร่อมที่ลำโพงจะเป็นสองเท่าของการใช้ poweramp ตัวเดียว

ยกตัวอย่าง power 100W ถ้าคำนวน voltage คร่อมลำโพง 8 ohm ด้วยสูตร P = V2/R จะได้ voltage  เท่ากับ 28.3Vrms

คราวนี้ถ้าต่อ poweramp เป็นแบบ bridge จะทำให้ได้ voltage เป็นสองเท่า คือ 56.6Vrms ซึ่งเมื่อคำนวนกลับจากสูตรเดิม P = V2/R จะได้ power เท่ากับ 400W

ดังนั้น การต่อแบบ bridge จะทำให้ได้ power output มากขึ้นประมาณ 4 เท่า

แต่ข้อเสียก็มีครับ เพราะเมื่อมี voltage ตกคร่อมลำโพงมากขึ้น หมายความว่า current ก็ต้องมากขึ้นตามด้วย จากสูตร P=I2R

กรณีแรก เมื่อ poweramp ทำงานที่ 100W จะต้องจ่ายกระแสเท่ากับ 3.53A
แต่เมื่อ poweramp สองตัวทำงานที่ 400W จะต้องจ่ายกระแสเท่ากับ 7.07A

แต่เนื่องจากการต่อแบบ bridge การต่อจะเป็นแบบอนุกรมกับลำโพงตามรูป หมายความว่า poweramp แต่ละตัวต้องจ่ายกระแสเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับตอนที่ตัวมันทำงานเดี่ยวๆที่ 100W

ดังนั้น เมื่อต่อ poweramp แบบ bridge ต้องคำนึงถึงความสามารถในการจ่ายกระแสของตัวมันให้ดี ถ้าเอาไป bridge และต่อกับลำโพง 4 ohm จะทำให้เหมือนกับทำงานที่ load 2 ohm ครับ

ส่วนการต่อแบบ balance นั้น เป็นการกล่าวถึง topology ทั่วๆไป คือมีชุดขยายสองชุดขยายสัญญาณด้านบวกและลบที่กลับ phase กัน 180 องศา โดยประโยชน์ของมันก็มีหลายๆอย่างที่ทราบกันอยู่แล้วครับ

แล้วแบบนี้ LM3875 จะbridge ได้ยังไงครับ ต่อลำโพง8ohm แต่วงจรมองมาเป็น4ohm
ที่ผมหาข้อมูลมาคือ LM3875 ห้ามต่อ load 4ohm ให้ใช้8  K]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29 มีนาคม, 2009, 08:27:39 pm โดย maw »


ออฟไลน์ PowerOn

  • ***
    • กระทู้: 223
เสริมอีกนิดครับ

วงจร fully balanced แท้ๆ จะรับสัญญาณที่เป็น Balanced ใน 1 ch จะเสมือนมี ภาคขยาย 2 ชุด ชุดหนึ่งจะทำงานกับสัญญาณ hot อีกชุดจะทำงานกับสัญญาณ cold ในบางวงจร มีการนำการป้อนกลับทางลบ ไขว้กันระหว่างภาคขยายทั้งสอง เช่นใน aleph x.
Load จะต่อระหว่าง output ของชุดขยายสัญญาณ hot กับ output ของชุดขยายสัญญาณ cold ทำให้ Load เปรียบเทียบ สัญญาณ ที่ต่างเฟส กัน 180 องศา ผลลัพธ์ที่ได้ จะทำให้ Load มองเห็นแรงดันเป็น2เท่า ซึ่งจะได้ กำลังเพิ่มขึ้น เป็น 4 เท่า เมื่อเทียบกับการทำงานเพียง ซีกเดียว (hot หรือ cold)

ส่วนBridge เหมือนกิริยาที่พูดถึงการต่อ Load ระหว่าง สัญญาณ output สองoutput ที่เกิดจากสัญญาณเดียวกัน แต่ เฟสต่างกัน 180 องศา โดยไม่จำเป็นที่ว่าสัญญาณ output ที่ต่างเฟสกันนั้นจะได้มาจาก ระบบBalanced ทั้งระบบ (ตามที่ได้อธิบายข้างต้น) หรือ ได้จาก สัญญาณinput  ที่เป็น unbalanced แล้วต่อผ่าน bridge converter เหมือนอย่างที่นำ stereo power amp มาเพิ่มกำลังที่เรียกกันว่า bridge mono ก็ตาม  O0


ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
จะว่าไปแล้ว bridge น่าจะเป็น subset ของ balance ครับ การ bridge เป็นการเอา poweramp สองตัวมาขยายสัญญาณชุดเดียวกัน แต่กลับ phase กัน เพราะฉนั้น voltage ที่คร่อมที่ลำโพงจะเป็นสองเท่าของการใช้ poweramp ตัวเดียว

ยกตัวอย่าง power 100W ถ้าคำนวน voltage คร่อมลำโพง 8 ohm ด้วยสูตร P = V2/R จะได้ voltage  เท่ากับ 28.3Vrms

คราวนี้ถ้าต่อ poweramp เป็นแบบ bridge จะทำให้ได้ voltage เป็นสองเท่า คือ 56.6Vrms ซึ่งเมื่อคำนวนกลับจากสูตรเดิม P = V2/R จะได้ power เท่ากับ 400W

ดังนั้น การต่อแบบ bridge จะทำให้ได้ power output มากขึ้นประมาณ 4 เท่า

แต่ข้อเสียก็มีครับ เพราะเมื่อมี voltage ตกคร่อมลำโพงมากขึ้น หมายความว่า current ก็ต้องมากขึ้นตามด้วย จากสูตร P=I2R

กรณีแรก เมื่อ poweramp ทำงานที่ 100W จะต้องจ่ายกระแสเท่ากับ 3.53A
แต่เมื่อ poweramp สองตัวทำงานที่ 400W จะต้องจ่ายกระแสเท่ากับ 7.07A

แต่เนื่องจากการต่อแบบ bridge การต่อจะเป็นแบบอนุกรมกับลำโพงตามรูป หมายความว่า poweramp แต่ละตัวต้องจ่ายกระแสเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับตอนที่ตัวมันทำงานเดี่ยวๆที่ 100W

ดังนั้น เมื่อต่อ poweramp แบบ bridge ต้องคำนึงถึงความสามารถในการจ่ายกระแสของตัวมันให้ดี ถ้าเอาไป bridge และต่อกับลำโพง 4 ohm จะทำให้เหมือนกับทำงานที่ load 2 ohm ครับ

ส่วนการต่อแบบ balance นั้น เป็นการกล่าวถึง topology ทั่วๆไป คือมีชุดขยายสองชุดขยายสัญญาณด้านบวกและลบที่กลับ phase กัน 180 องศา โดยประโยชน์ของมันก็มีหลายๆอย่างที่ทราบกันอยู่แล้วครับ


ออฟไลน์ JUUD

  • *****
    • กระทู้: 840
-ข้อแตกต่างทางกายภาพ
ในแง่ทฤษฎีไม่แน่ใจว่าอธิบายอย่างไร  แต่ในทางปฎิบัติสังเกตง่ายๆ คือ fully balanced นั้น output เข้าลำโพงจะนำสัญญาน output จากด้าน Hot (non inverted)และด้าน Cold(Inverted)มารวมกันในลักษณะขนานเพื่อเพิ่มกระแสเอาท์พุต โดยขั้วต่อลำโพงด้าน  -  เมื่อเทียบกับกราวน์จะเป็น 0 โวลท์ตามปกติ

ส่วนแบบ Bridge นั้น output เข้าลำโพงจะนำสัญญาน output จากด้าน Hot (non inverted)และด้าน Cold(Inverted)มารวมกันในลักษณะ series เพื่อเพิ่ม output voltage โดยขั้วต่อลำโพงทัง + และ  -  เมื่อเทียบกับกราวน์จะไม่เป็น 0 โวลท์

ครับผม

ด้านคุณภาพเสียงหากเป็นวงจรคุณภาพเดียวกัน  Fully Balanced ดีกว่า วงจร Bridge อยู้แล้วเพราะลดสัญญานรบกวน ความเพี้ยนต่ำกว่า  ส่วน Bridge ได้เปรียบตรงวัตต์สูงกว่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11 มกราคม, 2009, 08:27:37 am โดย JUUD »


ออฟไลน์ Help !!!

  • Guest (บุคคลทั่วไป)
  • Superstar...
  • *
    • กระทู้: 5,866
  • Please Help Thanks
วงจร Full Balance แตกต่างกับ วงจร Bridge อย่างไร มีข้อเด่นข้อด้อยอย่างไร ข้อความรู้ด้วย

สุริยะ   suriyacsw@yahoo.com
กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่เพื่อนๆที่ยังไม่ได้สมัครสมาชิกฝากถามมา ก็ขอความอนุเคราะห์จากเพื่อนๆสมาชิก ช่วยตอบให้ด้วยนะคร๊าบผม...ขอบคุณมั่กๆครับ...