มาต่อดูรูปสิงคโปร์ วันที่ 2 (3 ก.พ.ป กันดีกว่า วันนี้ไปดูงานรถไฟฟ้าโมโนเรลที่วิ่งให้บริการจากตึก Vivo City เป็นศูนย์การค้าใหม่ย่าน waterfront วิ่งไปยังฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นเกาะ Sentosa โมโนเรลขบวนนี้เป็นของบริษัท Hitachi จากญี่ปุ่น ตัวถึงทำจากอลูมินั่มขึ้นรูปทั้งคัน (กันสนิมจากไอน้ำเค็ม) ระบบเครื่องยนต์และตัวขับเคลื่อนรถเป็นของ Hitachi เองทั้งหมด มีระยะทางวิ่งยาว 2.5 กิโลเมตร มีสถานีขึ้นลง 4 แห่ง คือ Sentosa Station at Vivo City >> Water Front Station (อันนี้เป็นที่ลงไปสู่โรงแรม,กาสิโน และยูนิเวอร์เซิล สตูดิโอ) >>> Imbiah Station (เป็นสถานีลงไปดูพิพิธภัณฑ์และขึ้นยอดหัวสิงโต Merlion ตัวยักษ์บนยอดเขา)>>>> Beach Station (เป็นสถานีสำหรับลงายังชายหาดเทียม - ถมทะเลเอาทรายมาถมทำเป็นชายหาด มีสนามกีฬาสำหรับชายหาดให้มาเล่นได้ เช่น วอลเลย์บอล ฟุตบอล ฯลฯ รวมทั้งมีลานแสดงดนตรีและกิจกรรมแคมป์ไฟ และเป็นที่จัดงาน Full Moon Party แข่งกับเมืองไทยด้วย)
รถโมโนเรลของเกาะ Sentosa นี้ เป็นต้นแบบที่เมืองพัทยาสนใจจะมาพัฒนาสร้างขึ้นบ้างสำหรับบริการนักท่องเที่ยวตลอดแนวชายหาดของพัทยา ตั้งแต่พัทยาเหนือ จนถึงพัทยาใต้ (ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร) 

โรงซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าโมโนเรล ซึ่งวิ่งวันละ 18 ชั่วโมง 365 วัน ทุกขบวนที่เขามี การบำรุงรักษาจึงจำเป้นมากๆ ภายในโรงซ่อมบำรุงนี้สะอาดจริงๆ เห็นของการรถไฟไทยที่มักกะสันแล้วเศร้า


สำนักงานใหญ่ของ Hitachi Singapore 


หลังจากดูงานเสร็จก็มาทานอาหารกันเป็นร้านอาหารจีนชื่อดังอยู่ที่ศูนย์การค้า Vivo City อร่อยมากๆ
จานแรกเป็นอาหารพิเศษประจำเทศกาลตรุษจีน เพื่อความเจริญรุ่งเรื่องของกิจการร้านค้าและความสามัคคีของผู้บริหารหรือหุ้นส่วนเจ้าของกิจการ ทำจากแครอท เผือก ไชเท้า มันฝรั่ง หอมแดง มีฝักทองทอดและถั่วบดโรยด้านบน ใส่เนื้อปลาแซลมอนลงไป ราดด้วยน้ำมันงา น้ำผึ้ง เสร็จแล้วให้ผู้ร่วมโต๊ะใชตะเกียบไม้ยาวๆ ช่วยกันคลุกเคล้าให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน (เหมือนกับการช่วยลงแขก จะได้มีความสามัคคีกัน) แต่พอทานแล้วก็ไม่ได้อร่อยอะไรออกหวานๆ ส้มตำเราอร่อยกว่าเยอะ อิอิ

จานที่สองนี่อร่อยสุดๆ หูฉลามตุ๋นในซุปฝักทอง (คล้ายๆ กับร้านอายัดที่โรงแรมแม่น้ำเลย)

จานที่สามตามธรรมเนียม ปลาบู่นึ่งซีอิ้ว
รูปนี้เฉพาะส่วนหัว

รูปนี้เฉพาะเนื้อที่แบ่งมาให้ทาน ที่แปลกกว่าบ้านเราเขาไม่ได้โรยต้นหอมซอยมาเขาใช้เมล็ดถั่วสีเขียวแทน

จานต่อมาเป็นเป็ดปักกิ่ง ห่อมาให้เสร็จสรรพ

เลยจับแก้ห่อให้ดูภายในซะเลย

เนื้อเป็ดปักกิ่งเอาไปทำเมี่ยง

หมูทอดผัดเปรี้ยวหวาน

ผัดผักกวางตุ้งกับเป๋าฮื้อสด

ปิดด้วยข้าวผัดกังเปาและเป๋าฮื้อ อันนี้ก็อร่อย

ของหวานคล้ายๆ กับสามแซ่ของเรา แต่อันนี้เป็นลูกตาล ลำใย ลูกแพ ลูกพลับ ใส่ผิวส้มอร่อยและแก้เลี่ยนดีมากๆ

สรุปมื้อนี้อิ่มพุงกางเลย ทานกัน10 คนพอดีหมดไป 1.2 หมื่นบาท  

ตอนบ่ายไปดูงานที่โรงงานผลิตน้ำดื่มจากน้ำใช้แล้ว reused water ที่ชื่อว่า NewWater ซึ่งเป็นระบบ Reverse Osmosis ตั้งขึ้นสมัย ลีกวนยู เพราะสิงคโปร์ไม่มีแหล่งน้ำจืดเป็นของตัวเอง ทุกวันนี้ต้องอาศัยจากมาเลและอินโด เขาจึงหาวิธีนำน้ำที่ใช้แล้วมาใช้ใหม่ แต่อันนี้เอามาให้เป็นน้ำดื่มบรรจุขวดขายเลยด้วย ตอนนี้ขายได้ถึงเดือนละ 5 ล้านขวดแล้ว เขาตั้งเป้าไว้ 10 ล้านขวดในอีก 2 ปีข้างหน้า ขณะนี้มีโรงผลิตน้ำ NewWater ทั้งหมด 3 โรงงาน น้ำที่ผลิตออกมาสะอาดจริงๆ ขนาดน้ำพุและบ่อปลาคาร์ฟรอบๆ โรงงานยังมาจากน้ำ New Water ทั้งน้นเลย เรียกว่าพิสูจน์กันให้เห็นเลยว่าปลาคาร์ฟยังอยู่ได้  (คราวนี้ถูกบังคับให้ดื่มน้ำ newwater ไปด้วย เอิ๊ก  

)





ตอนเย็นคิวว่างเลยเดินมาที่ใต้ตึก Raffles City Center มาทานอาหารค่ำ (คนเดียวเลยนะเชื่อหรือไม่) เป็นร้านเบียร์ดำสด Guiness มีขาหมูเยอรมันอร่อยดี

ร้านขายกล้องใกล้ๆ Raflles City

พระอาทิตย์ตก ถ่ายจากสถานี Beach Station บนเกาะ Sentosa
