หัวข้อ: สอบถามเรื่อง วิทยุ Receiver ในอดีต ที่เป็น OTL ที่มี C ที่ภาค O/P

[gob]

เป็นธรรมชาติของวงจรขยายแบบ OTLครับ

ว่าตอนเปิดครั้งแรก Cจะถูกชาร์จ ทำให้มีแรงดันที่เรียกว่า transient ออกไปยังลำโพง

ซึ่งถ้าเอามิเตอร์วัดแรงดันที่ลำโพงช่วงนี้จะมีแรงดันค่าหนึ่งแต่จะหายไปในระยะเวลาสั้นๆ

 ถ้ามีการต่อลำโพงไว้จะได้ยินเสียง "ตุ๊บ"

ขอบคุณทุกๆท่านมากๆครับ ทำให้ได้ความรู้เพิ่มขึ้นครับ

[praneet]

เป็นธรรมชาติของวงจรขยายแบบ OTLครับ

ว่าตอนเปิดครั้งแรก Cจะถูกชาร์จ ทำให้มีแรงดันที่เรียกว่า transient ออกไปยังลำโพง

ซึ่งถ้าเอามิเตอร์วัดแรงดันที่ลำโพงช่วงนี้จะมีแรงดันค่าหนึ่งแต่จะหายไปในระยะเวลาสั้นๆ

 ถ้ามีการต่อลำโพงไว้จะได้ยินเสียง "ตุ๊บ"

[gob]

ให้หา R 5-20R มาต่อที่ Output ของแอมป์แล้วค่อยวัดครับ ถ้าได้ต่ำกว่า 0.1V ก็อยู่ในช่วงปลอดภัยที่จะต่อลำโพงครับ กรณีที่ไม่มี Load อะไรเลยหลัง C เป็นไปได้ที่จะวัดได้ค่าแรงดันไฟตรงที่ Output ครับ เพราะว่าขา C มันลอยอยู่ครับ 

ขอบคุณมากๆครับ
ดังนั้นผมจะใช้วิธีนี้ในการเช็คครับ และขา c มันลอยจริงๆครับ เวลาวัดตอนเปิดเครื่องใหม่ๆ จะมีค่า v ครับ แต่พอเสียบลำโพงก็จะหายไปครับ
ขอบคุณ ทุกๆท่านมากๆครับ ที่ชี้ทางสว่าง เพราะอาการแบบนี้ผมตีเป็นเครื่องเสียทั้งหมด ทำให้เข้าใจผิดมาตลอดครับ

[Mr. Tube]

ให้หา R 5-20R มาต่อที่ Output ของแอมป์แล้วค่อยวัดครับ ถ้าได้ต่ำกว่า 0.1V ก็อยู่ในช่วงปลอดภัยที่จะต่อลำโพงครับ กรณีที่ไม่มี Load อะไรเลยหลัง C เป็นไปได้ที่จะวัดได้ค่าแรงดันไฟตรงที่ Output ครับ เพราะว่าขา C มันลอยอยู่ครับ 

[gob]

ไม่ใช่ครับแรงดันจะประมาณ 1/2 vcc ตลอดเวลา หลังซีจะไม่มีแรงดันถ้ามีแสดงว่าซีเสีย

พี่ปราณีตครับ ผมลองเปลี่ยน c แล้ว มันก็ยังมีครับ แต่จะมีตอนแรกที่เปิดเครื่อง
พอต่อลำโพงจะหายไปทัน เป็นแบบนี้เกือบทุกๆเครื่องที่เป็นเครื่องโบราณในอดีตครับ
เหมือน v โดนเก็บใน c แล้วคายออกมาครับ มีพี่ HJ ได้บอกว่ามันจะมี V ในช่วงแรกตอนเปิดเครื่อง เลยอยากจะทราบข้อเท็จจริงครับ เพื่อความกระจ่างแจ้งครับ
ขอบคุณมากๆครับ

[praneet]

ไม่ใช่ครับแรงดันจะประมาณ 1/2 vcc ตลอดเวลา หลังซีจะไม่มีแรงดันถ้ามีแสดงว่าซีเสีย

[gob]

จะมีไฟ dc เป็น 1/2 ของแหล่งจ่ายไฟถ้าวัดได้ตามนี้ปกติครับและจุดที่สังเกตูอีกอย่างวงจรOTLจะใช้ภาคจ่ายไฟชุดเดียวคือซีกบวกจึงจำเป็นต้องใช้ c มาต่อคั่นเพื่อให้สามารถมีเอาพุทออกมาทั้งซีกบวกและลบจะคล้ายจุดไบแอสของหลอดทั้งๆที่ใช้ไฟชุดเดียวแต่ทำงานได้ทั้งซีกบวกและลบแต่ถ้าเป็นแบบแหล่งจ่าย2ชุดไม่ต้องใช้ c เพราะสามารถทำงานได้ทั้งซีกบวกและลบอยู่แล้ว

ขอบคุณครับ งงดีครับ
แสดงว่าที่ขั้วลำโพง เวลาเปิดเครื่องใหม่ จะมีไฟออกนะครับเป็น 1/2 ของไฟ dc
และพอเสียบลำโพง ค่า v จะหายไปนะครับ ยกเว้น c รั่วนะครับ

[sathiya]

จะมีไฟdcเป็น1/2ของแหล่งจ่ายไฟถ้าวัดได้ตามนี้ปกติครับและจุดที่สังเกตูอีกอย่างวงจรOTLจะใช้ภาคจ่ายไฟชุดเดียวคือซีกบวกจึงจำเป็นต้องใช้cมาต่อคั่นเพื่อให้สามารถมีเอาพุทออกมาทั้งซีกบวกและลบจะคล้ายจุดไบแอสของหลอดทั้งๆที่ใช้ไฟชุดเดียวแต่ทำงานได้ทั้งซีกบวกและลบแต่ถ้าเป็นแบบแหล่งจ่าย2ชุดไม่ต้องใช้cเพราะสามารถทำงานได้ทั้งซีกบวกและลบอยู่แล้ว

[gob]

วัดไฟDCก่อนออกจะได้ไฟครึ่งหนึ่งของไฟเลี้ยงวงจรครับ

หมายถึงวัดไฟที่ไหนครับ ของผมลองวัดที่ขั้วลำโพงเลย พบว่ามี vdc ที่ขั้วลำโพง ประมาณ 11 v , 22v ,30v. บ้างแล้วแต่เครื่อง
เป็น dc เลยครับ แต่พอต่อลำโพงแล้ว dc จะหายไปครับ มีเสียงตุ๊บที่ลำโพงเล็กน้อย คล้ายๆกับว่า v ที่เกิดขึ้นเกิดจาก c คายประจุ
ใช่ไหมครับ จะเป็นอันตรายต่อลำโพงมากไหมครับ มีสมาชิกในเวปบอกว่าหากเป็นเครื่องราคาแพงๆเขาจะมีวงจรหน่วงและทำการคายประจุ
c ก่อนในช่วงที่เปิดเครื่องครับ ตกลงตอนเปิดเครื่องวัดไฟมี dc ออกเป็นปกติใช่ไหมครับ(กรณีที่ c ไม่รั่ว)

[BLUEKITE]

วัดไฟDCก่อนออกจะได้ไฟครึ่งหนึ่งของไฟเลี้ยงวงจรครับ

[ลูกหมู]

ทางทฤษฎี มีซีเพื่อกันไฟตรง ซึ่งเท่ากับครึ่งของไฟเลี้ยงวงจร ไม่ให้ไปทำลายลำโพง
ยอมให้แต่ไฟสลับผ่านได้ คือสัญญาณเสียงนั่นเอง
แต่ไม่เคยวัดซักทีครับ ต่อแต่แอมป์ ocl

[gob]

พอดีมีเครื่อง Receiver หลายๆเครื่องครับ แต่สงสัยว่าเครื่องที่เป็น OTL แล้วมี C ที่ภาค O/P นี่ เวลาวัดไฟ DC ที่ขั้วลำโพง มันจะมี Volt ใช่ไหมครับ และหากต่อลำโพงเข้าไป V จะหายไปทันที แบบนี้ถูกต้องใช่ไหมครับ

1) เปิดเครื่อง วัดไฟที่ขั้วลำโพง จะมี Volt แล้วแต่เครื่อง บางที 11 , 21 ,30 v เป็นเรื่องปกติใช่ไหม
2) หากมี v ดังกล่าว ทำอันตรายลำโพงไหม เห็นช่างบอกว่าเป็นเรื่องปกติ มี v เนื่องจาก c เก็บไว้ กระแสน้อยไม่มีทำลายลำโพง
3) ผมลองเปลี่ยน c ใหม่ ก็ยังคงมี volt แต่พอต่อลำโพง v กลับหายไป
ขอคำอธิบายด้วยนะครับ ว่าจริงๆแล้วหลักการเป็นอย่างไรครับ ขอบคุณมากๆครับ