หัวข้อ: สอบถามเรื่่่องทำสายลำโพงครับ

[eak355]

ตอนนี้เครื่องไม่อยู่ให้เขาทำแท่นไม้ให้ยังไม่เสร็จเลยทำสายลำโพงไว้รอครับ
ได้เครื่องกลับมาจะถ่ายภายในให้ดูครับ
ตอนนี้ใช้ตามและไกล้เคียงวงจรน้าออเกือบทั้งหมดครับ

[โต้ง DIY]

เห็นด้วยครับ ผมเลิกทำสายเหตุผลส่วนหนึ่งคือ มาเล่น DIY ครับ ตอนซื้อสำเร็จไม่กล้าโม แต่พอเป็นเครื่อง DIY ทำเองกับมือ ปรับไฟ หรือ เพิ่ม ซี หรือ ไบแคป ทำง่ายกว่าและเห็นผลชัดเจนกว่ามากครับ

ทำสายเองวัสดุก็เอาเท่าที่หาได้ การควบคุมค่าต่างแถบเป็นไปไม่ได้ ทำแล้วเดาลูกเดียว กว่าจะมานั่งถัก นั่งต่อ burn in ....แล้วก็โยนทิ้ง


ผมพิสูจน์ ทดลองด้วยตัวเอง ยอมรับว่าสายมันมีผล ผมซื้อสายราคาที่ตัวเองยอมรับได้ แล้วก็หยุดเรื่องสายไว้แค่นั้นครับ....ไปเล่นตรงวงจรมันเลยสนุกกว่าเยอะครับ

.....DIY เครื่องทำสนุกๆ   ผมยังไม่ได้ขนาดว่าดีกว่าที่ผมใช้ซื้อเค้าเลย .....หวังว่าจะมีสักวันหนึ่ง

[ohm]

อย่างที่บอกครับ ลองCภาคจ่ายไฟดูครับ รึจะลองc คาโถดด้วยก็ได้ 

ถ้าชอบคล้ายๆผมคือเบสอิ่มๆหนักๆ  ลองเปลี่ยนดูครับ 

มีผลกับโทนเสียงพอสมควรครับ   ตอนนี้ใช้ยี่ห้ออะไรอยู่ครับ

พอทำเสร็จนี่ล่ะถึงจะรู้ว่าต้องจูนไปทางไหน    

ถ้าอยากได้แหลม  หันไปหา  nichicon ครับ  2 ยี่ห้อนี้ผมว่าตรงกันข้ามกันเลย

c คัปปลิ้งก็มีผล  แต่ผมยังไม่เจอยี่ห้อที่ เสียงอิ่มๆแต่แหลมไม่กุด  เลยมักเลือกเสียงกลางๆไว้

[eak355]

ผมจะใช้แอม5881Seทีืทำเสร็จ

[eak355]

ขอคำแนะนำหน่อยครับ

[ohm]

เพิ่มเบส สำหรับ DIY ผมว่ามันมีทางเลือกอื่นมากมายกว่าสายลำโพงครับ

ลอง C ภาคจ่ายไฟเป็น nippon chemicon ดูครับ  สำหรับเบสยืนยันจากการใช้โดย Krell

จริงๆดูจากความต้องการนี่ไม่น่าถูกโฉลกกับสายถัก(+-อยู่ด้วยกัน)นะครับ 

[eak355]

สำหรับคู่บนผมชอบฟังครับมันเป็นสามทางตู้ปิดผมว่าฟังสบายๆแต่ถ้าเบสเพิ่มนิดนึงจะใช่เลย
ส่วนคู่ล่างยามาฮ่ารายละเอียดก็ดีแต่เบสเยอะฟังเพลงสู้คู่บนไม่ได้แต่ดูหนังละสุดยอด
แต่ก่อนใช้ร่วมกันกับแอมโซลิทA+B

ตอนนี้จะใช้กับแอมหลอดที่ทำเสร็จ5881seใช้กับตู้บนฟังอะคูสติก คลาสสิคสำหรับผมว่าดีเลย แต่ถ้าไปแนวมันๆหน่อย้ต้องมีเบสเพิีมอีก

[ohm]

ถ้าถามผม ผมใช้สายเทฟลอนครับ  ทีนี้อยากเน้นแนวไหนว่ากันอีกที

อยากลองสาย C สูงๆ L ต่ำๆ  ถัก + -  หลายๆเส้น  หรือตีเกลียวเข้าด้วยกันเลยครับ

อยากลองสาย  C ต่ำ L สูง ถักหรือตีเกลียวแยก  + หลายๆเส้น ,  - หลายๆเส้นแยกกัน   ถักให้มันแบนๆ  L จะได้น้อยลงนิดหน่อย

มันจะไปยากตรงถักหรือตีเกลียวไงให้สม่ำเสมอที่สุดนี่ล่ะ   

[eak355]

คู่ล่างเป็นyamaha ns-777. ถ้าถอดจั้มเปอร์ทำไบไวร์ได้ครับ

Sent from my HUAWEI G7-L03 using Tapatalk

[eak355]

ถ้าอย่างนั้นผมขอคำแนะนำเลยละกันครับ
ผมจะทำสำหรับบำโพงสองคู่ครับ

Sent from my HUAWEI G7-L03 using Tapatalk

[ohm]

ถ้าฉนวนเทฟลอน ผมว่าอย่าหาสายแลนมาเลย  ยกเว้นจะได้สายแลนเทฟลอน ในไทยจะมีรึเปล่า

สายแลนธรรมดา ฉนวนด้อยกว่าเทฟลอนพอสมควรครับ

[eak355]

ของผมเป็นสายทองแดงชุบเงินฉนวนเทฟลอน. สายแลนยังไม่ได้หาแต่จะใส่ตรงกลางสองคู่

Sent from my HUAWEI G7-L03 using Tapatalk

[ohm]

เท่าที่ลองเล่นสายมา ระดับ DIY ผมจะเน้นฉนวนไว้ก่อน 

โดยปกติ สายคอมเมอเชี่ยลที่ขายๆกัน จะเล่นกันที่การปรับค่า  L  C ในสาย

ถ้าแบ่ง + -  ออกเป็นหลายๆเส้น จะถัก รึจะตีเกลี่ยวไปด้วยกัน  จะได้สายที่ C สูง L ต่ำ  ถ้า C สูงมากๆโทนก็ออกไปทางแหลม 

น้ำเสียงว่ากันที่คุณภาพฉนวนอีกที  ทำนองเดียวกับ C coupling  ฉนวนดี = เสียงดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

กลับกัน ถ้า + -  แค่อย่างละเส้น เดินกันห่างๆ รึแยกกันไปเลย  C ต่ำ L สูงแน่นอน  แหลมได้รับผลจากค่า L บ้างแน่นอน


ในรายละเอียด สายที่สุดโต่งไปทางใดทางนึง  มักจะต้องมีการแก้ปัญหาที่เป็นข้อด้อยของตัวเอง

อย่างสายถัก ต้องใช้ฉนวนดีๆที่มี dielectric constant ต่ำ เพราะขืนใช้ฉนวนที่มี dielectric constant สูง ค่า C จะยิ่งพุ่งสูง

พวกสาย L สูง อาจจะแก้ที่รูปหน้าตัดตัวนำ ให้เป็นแผ่นแบน หรือกระทั่งวงรี (L ต่ำกว่าหน้าตัดกลม) 

หรือเดินตัวนำหน้าตัดกลม 2 เส้น( ++ทั้งคู่ ) ให้ชิดติดกัน  เพื่อให้ L ลดลงกว่าหน้าตัดกลม

[wutnaja]

เก็บความรู้ด้วยคนครับ

[Warm]

 

[โต้ง DIY]

ต้องลองดูครับ ได้แค่คาดการณ์แนวเสียงได้แค่นั้น (บางทีก็ผิด)  นอกจากรูปร่างแล้ว วัสดุตัวนำ ตัวฉนวนก็เกี่ยว โดยมากที่ผมลอง จะได้อย่างเสียอย่าง ส่วนใหญ่จะได้เสียงเจียวจ้าวครับ ตอบสนองไม่เรียบ มิตง มิติ ไม่มีตีกันมั่ว สุดท้ายเลิก

ถ้าลองเล่นสายผมชอบ ทำสายไฟมากกว่า สนุกกว่า ง่าย ทำเส้นเดียวรู้เรื่อง  แต่ต้องต้องเพิ่มความระมัดระวัง เพราะอาจถึงตาย

[eak355]

ผมกะว่าจะลองทำแบบเอาสายแลน2คู่ไว้ตรงกลางแล้วเอาสายเงินฝอยมีฉนวน6เส้นพันเป็นเกลียวรอบสายแลนครับจะถักคงไม่ได้เพราะสายที่มีเส้นนึงยาวสองเมตรโดยประมาณ
แยกบวก,ลบแล้วรัดเป็นคู่ขนานกันไป ส่วนหัวดูสายอีกทีจะใหญ่ขนาดไหน

ถ้าแบบนี้จะได้ผลประมาณไหนครับ. ม่ด้ค่าแอลใช่ไหมครับคือหวังได้เบสจากทองแดงแกนเดี่ยวจากสายแลน,แหลมจากสายเงินฝอย6เส้น อาจจะถอดจั้มเปอออกแล้วแบ่งสายเงินไปต่อตรงสัก2เส้น

[โต้ง DIY]

เท่าที่ลองมาผมคิดว่า เป็นเพราะค่า R L C ในสายมันต่างกัน สายถักอย่าง Kimber  ค่า C ในสายมันสูง ค่า L มันต่ำ ความถี่ต่ำผ่านไปโดนลดทอน เลยฟังว่าแหลมจะเด่น  แต่ถ้าเป็นสายสองเส้นวางห่างๆ ขนานกัน ค่าจะ C ต่ำๆ L สูง อย่าง VDH Magnum มันมักจะเด่นทุ้ม

[Malako]

ต้องลองหามาต่อเล่นดูนะครับ ผมว่าน่าจะเกี่ยวกับชนิดสายไฟครับ
 
ผมลองเอาสาย  Lan อย่างเดียวมาลอง ได้   เสียงกลาง+แหลม เด่นกระจ่าง ดีมากแต่เบสบาง
 (อาจจะเป็นไปได้ว่าสาย Lan ถูกออกแบบมาสำหรับการส่งข้อมูลที่ความถึ่สูง)


 ถ้าเป็นสายไฟ (Yazaki)สายทองแดงสีเส้นขนาดเท่านิ้วโป้ มือ  เบสออกแนวหนา ครับ ( สายไฟใช้สำหรับไฟ AC 50 HZ เบสเลยตึ๊บๆ กว่าสาย Lan)


  ไม่น่าเชื่อลองต่อไบร์ไวร์ กัน เสียงก็ออกมาได้ครบดี  สำหรับเสียงดี ไม่ดี ไม่รู้ ผมว่า
พอรับได้นะ เพราะไม่ได้เสียตังค์็ ซักบาท 

เคยอ่านข้อมูลจากที่ไหนซักแห่งจำไม่ได้แล้ว  ความถี่สูงจะวิ่งที่พื้นผิวของตัวนำ ส่วนความถี่ต่ำจะวิ่งบริเวณตรงแกนกลางของตัวนำ  ไม่แน่ใจว่าจะเกี่ยวหรือป่าวที่สายหลายๆเส้นมาถักทำให้มีพื้นผิวของตัวนำมากกว่า จึ่งสามารถตอบสนองเสียงกลางและสูงได้ดีกว่า  สายแกนเดียวเส้นใหญ่ๆอย่างสายไฟ Yazaki

เป็นเรื่องของ Skin Effect 

ซึ่งปัจจุบันค้นพบว่า ความถี่สูงที่วิ่งบนผิว อยู้สูงกว้า ความถี่ ออดิโอ (20000 Hz ) มากๆ ครับ

[santi01]

ต้องลองหามาต่อเล่นดูนะครับ ผมว่าน่าจะเกี่ยวกับชนิดสายไฟครับ
 
ผมลองเอาสาย  Lan อย่างเดียวมาลอง ได้   เสียงกลาง+แหลม เด่นกระจ่าง ดีมากแต่เบสบาง
 (อาจจะเป็นไปได้ว่าสาย Lan ถูกออกแบบมาสำหรับการส่งข้อมูลที่ความถึ่สูง)


 ถ้าเป็นสายไฟ (Yazaki)สายทองแดงสีเส้นขนาดเท่านิ้วโป้ มือ  เบสออกแนวหนา ครับ ( สายไฟใช้สำหรับไฟ AC 50 HZ เบสเลยตึ๊บๆ กว่าสาย Lan)


  ไม่น่าเชื่อลองต่อไบร์ไวร์ กัน เสียงก็ออกมาได้ครบดี  สำหรับเสียงดี ไม่ดี ไม่รู้ ผมว่า
พอรับได้นะ เพราะไม่ได้เสียตังค์็ ซักบาท 

เคยอ่านข้อมูลจากที่ไหนซักแห่งจำไม่ได้แล้ว  ความถี่สูงจะวิ่งที่พื้นผิวของตัวนำ ส่วนความถี่ต่ำจะวิ่งบริเวณตรงแกนกลางของตัวนำ  ไม่แน่ใจว่าจะเกี่ยวหรือป่าวที่สายหลายๆเส้นมาถักทำให้มีพื้นผิวของตัวนำมากกว่า จึ่งสามารถตอบสนองเสียงกลางและสูงได้ดีกว่า  สายแกนเดียวเส้นใหญ่ๆอย่างสายไฟ Yazaki 

[Malako]

 การถักสายไฟ  น่าจะเข้าขายปกป้อง หรือสลาย คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มากวน
เอามาใช้กับสายสัญญาณ สายลำโพง  จะรู้สึกว่าได้ยินเสียงกลางเด่นขึ้น
อันที่จริงผมว่า มันทำให้เบสลดลงมากกว่า  เสียงกลางเลยฟังไม่มัว

ถ้าใช้แอมป์หลอด  ลองหาซื้อ ลวดทองแดงเยอรมัน เบอร์เดียวกับที่พันเอ้าท์พุต
มาทำสายลำโพงแทนครับ  เคยลองแล้ว
อิ่มอกอิ่มใจกว่า สาย MIT 750 ยาวสองเมตรมัีง  (จำชื่อรุ่นเต็มๆ ไม่ได้)

หรือ หาสายโทรศัพท์  ถ้าได้ยี้ห้อ WE  ละ อาจฟังเพลงได้ทั้งคืนไม่ง่วงสักนิดครับ
(เคยลองแต่สายอีริคสันจากนอก)

เรื่องสายลำโพงพันกันแน่นๆ  ผมเคยซื้อสาย 8TC ของคิมเบอร์  ฟังได้เดือนเดียว ฝันร้ายทุกคืน
เครื่องที่ใช้ตอนนั้น

CAT SL1 Reference II
Mark Levinson 331
Focus Audio 68 + ขาตั้ง TARGET  ผลิตพิเศษที่มากับ Proac Studio II
Magneplan MG1.5
Rega 3
Cards Golden Cross
MIT Shotgun 750
ห้องฟังปรับอคูสติก ขนาด 4X5.5 เมตร

[Warm]

ต้องลองหามาต่อเล่นดูนะครับ ผมว่าน่าจะเกี่ยวกับชนิดสายไฟครับ
 
ผมลองเอาสาย  Lan อย่างเดียวมาลอง ได้   เสียงกลาง+แหลม เด่นกระจ่าง ดีมากแต่เบสบาง
 (อาจจะเป็นไปได้ว่าสาย Lan ถูกออกแบบมาสำหรับการส่งข้อมูลที่ความถึ่สูง)


 ถ้าเป็นสายไฟ (Yazaki)สายทองแดงสีเส้นขนาดเท่านิ้วโป้ มือ  เบสออกแนวหนา ครับ ( สายไฟใช้สำหรับไฟ AC 50 HZ เบสเลยตึ๊บๆ กว่าสาย Lan)


  ไม่น่าเชื่อลองต่อไบร์ไวร์ กัน เสียงก็ออกมาได้ครบดี  สำหรับเสียงดี ไม่ดี ไม่รู้ ผมว่า
พอรับได้นะ เพราะไม่ได้เสียตังค์็ ซักบาท 

เข้าใจวิเคราะห์ครับ
ถ้าใช้สายแบตเตอรี่รถยนต์ จะให้ความถี่ต่ำลึกจนถึง 0Hz เลยทีเดียว

[ถม]

วิธีถักลอกเขามา

[LED]

ต้องลองหามาต่อเล่นดูนะครับ ผมว่าน่าจะเกี่ยวกับชนิดสายไฟครับ
 
ผมลองเอาสาย  Lan อย่างเดียวมาลอง ได้   เสียงกลาง+แหลม เด่นกระจ่าง ดีมากแต่เบสบาง
 (อาจจะเป็นไปได้ว่าสาย Lan ถูกออกแบบมาสำหรับการส่งข้อมูลที่ความถึ่สูง)


 ถ้าเป็นสายไฟ (Yazaki)สายทองแดงสีเส้นขนาดเท่านิ้วโป้ มือ  เบสออกแนวหนา ครับ ( สายไฟใช้สำหรับไฟ AC 50 HZ เบสเลยตึ๊บๆ กว่าสาย Lan)


  ไม่น่าเชื่อลองต่อไบร์ไวร์ กัน เสียงก็ออกมาได้ครบดี  สำหรับเสียงดี ไม่ดี ไม่รู้ ผมว่า
พอรับได้นะ เพราะไม่ได้เสียตังค์็ ซักบาท 

[eak355]

อยากถามน้าๆที่เคยฟังทั้งสายถักเปียและสายลำโพงแบบในรูป ต่างกันมากไหมในทางไหนครับ
ผมว่าจะทำคล้ายๆสายในรูปครับคือจับสายทั้งหมดมาตีเกลียว และแยก บวก ลบ ตามตัวอย่างสาย
หรือน้าๆมีรูปตัวอย่างเด็ดๆช่วยลงให้ดูหน่อย ว่ายี้ห้ออื่นแบบอื่นๆเขาทำกันอย่างไรครับ

Sent from my HUAWEI G7-L03 using Tapatalk

[Warm]

 

[eak355]

เลยอยากเห็นสายจริงที่ถักมาจากโรงงานเป็นแบบไหนครับ

Sent from my HUAWEI G7-L03 using Tapatalk

[eak355]

ยี่ห้อนี้ไม่ได้ถักแต่พันเป็นเกลียวครับ

Sent from my HUAWEI G7-L03 using Tapatalk

[eak355]

พอดีมีพี่ท่านนึงมาให้ซ่อมสายลำโพงเห็นแล้วสงสัยครับ

Sent from my HUAWEI G7-L03 using Tapatalk

[Warm]

 

[Nocturne]

http://www.venhaus1.com/diycatfivecables.html

ฝากสูตรของเมืองนอกแทนแล้วกันนะครับ ผมเองก็เพิ่งลอกการบ้านเขาไปหมาดๆ ครับ

ครั้งแรกร้อนวิชา ซื้อสายแลน AMP ของบ้านเรานี่ล่ะครับมาลองถักดู เสียงมันติดพุ่งๆ แหลมๆ เบิร์นไปพ้น 100 ชั่วโมงแล้วก็ยังไม่ค่อยโดนเท่าไหร่ เลยถอดใจไปนานเลยครับ

พอดีจังหวะที่บ้านไปไต้หวัน เลยฝากหิ้วสายแลน Belden ที่ฉนวนเป็น fluorpolymer (FEP) ตามสูตรในลิงค์ มาลอง ถักไปทั้ง 27 คู่ และ 9 คู่ ไปอย่างละชุด ใช้งานกับแอมป์หลอด ลำโพงฟูลเรนจ์ ตอนนี้เสียงโดนมากครับ รายละเอียดพริ้วดีมาก เบสมีพอสนุกเลยครับ แต่แอบถูกใจแบบ 9 คู่มากกว่า ดันไปถักแบบ 27 คู่เสร็จก่อน เหลือเศษเลยถักแบบ 9 คู่ทีหลัง ถ้าได้ฟังแบบ 9 คู่ก่อนน่าจะเหนื่อยน้อยกว่านี้ครับ 

มีข้อแนะนำว่า ระวังอย่าถักสายแน่นจนเกินไปนะครับลองดูครับ

ได้ยินเสียงแล้วหายเหนื่อย + ได้ความภูมิใจมาประดับระบบด้วยครับ

 

[เขียวหวาน]

เคยลองแบบถักเปีย เอาสายแลน มาถัก นานหล่ะ เสียงดีกว่าสายซื้อเมตรละร้อย แต่ตอนนี้ไม่ได้ใช้งานแล้ว มีสายอื่นมาแทน

[eak355]

สอบถามเรื่องการถักสายลำโพงครับ
น้าๆที่เคยทำแล้วได้ผลอย่างไรบ้างครับช่วยเล่าให้ฟังหน่อยครับ
ผมอยากรู้ว่าการถักแบบเปีย กับ การถักแบบพันเป็นเกลียว ผลออกมาเป็นอย่างไร หรือต้องถักอย่างไรครับ

เมื่อก่อนเคยอ่านเจอแต่จะทำดันหาไม่เจอชี้เป้าให้หน่อยครับ