HTG2.club

มี TDA1541a อยู่ 4 ตัว อยากเล่นแบบแยกช่องละ 2 ตัวครับ แนะนำด้วยครับ

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้


ออฟไลน์ Mr. Tube

  • Admin
  • Super Star.
  • *****
    • กระทู้: 2,849
อ้างถึง
Differential คือการต่อให้ DAC 2 ตัว (TDA1541A 1 ตัว มี DAC 2 ตัวนะครับ) ส่งสัญญาณช่องเดียวกันออกมา แต่สัญญาณกลับเฟสกัน 180 องศาครับ เราอาจจะส่งสัญญาณนี้ไปที่ Output แบบ Balance Output เลยก็ได้ หรือจะเอาสัญญาณมารวมกันก่อนเพื่อส่งออกแบบ Unbalance ก็ได้ จะได้สัญญาณแรงเท่ากับ Parallel แต่มีข้อดีกว่าตรงที่ Noise/Distortion จะหักล้างกัน ส่วน Parallel นี่ Noise/Distortion จะเพิ่มตามขึ้นไปครับ

ผมได้กลับไปอ่าน Year Book 2006 แล้วครับและสนใจแบบ Differential ครับ

ตามที่ผมเข้าใจ การ Differential TDA1541a 1 ตัวจากเดิมที่ Output ออกเป็น L กับ R จะกลายเป็น Output เป็น + กับ -  จึงทำให้ต้องใช้ TDA1541a

เข้าใจถูกแล้วครับ อันที่จริงจะให้ TDA ตัวที่ 1 ส่งสัญญาณ R+, L+ และ TDA อีกตัวหนึ่งส่งสัญญาณ R-, L- ก็ได้ครับ ทำง่ายกว่าให้ TDA 1 ตัวส่งสัญญาณ +/- ช่องเดียวกันครับ แค่กลับ Logic (Invert) SDATA ให้กับ TDA ตัวที่ 2 ก็ได้สัญญาณกลับเฟสแล้วครับ ในบทความก็มีเขียนไว้ครับ

อ้างถึง
พอมี Schematic ที่ระบุค่า หรือ ลายPCB ของ วงจรกลับเฟส กับ ภาค i/v แบบ Balance ไปเป็น Unbalance ไหมครับ

ขอบคุณครับ

Schematic ที่ระบุค่าด้วย ลองดูใน Datasheet ของ PCM1794 ดูครับ แต่ต้องดัดแปลงลดค่า R I/V ให้เหลือซักครึ่งหนึ่งครับ เพราะ Output ของ PCM1794 มันแรงกว่า TDA1541A หลายเท่าครับ ส่วน PCB ไม่มีครับ ผมไม่ได้ใช้ Opamp I/V ครับ แค่ลงรูปไว้ให้ผู้อ่านเอาไปต่อ Idea ครับ  :)


ออฟไลน์ s60ngage

  • ***
    • กระทู้: 203
อ้างถึง
Differential คือการต่อให้ DAC 2 ตัว (TDA1541A 1 ตัว มี DAC 2 ตัวนะครับ) ส่งสัญญาณช่องเดียวกันออกมา แต่สัญญาณกลับเฟสกัน 180 องศาครับ เราอาจจะส่งสัญญาณนี้ไปที่ Output แบบ Balance Output เลยก็ได้ หรือจะเอาสัญญาณมารวมกันก่อนเพื่อส่งออกแบบ Unbalance ก็ได้ จะได้สัญญาณแรงเท่ากับ Parallel แต่มีข้อดีกว่าตรงที่ Noise/Distortion จะหักล้างกัน ส่วน Parallel นี่ Noise/Distortion จะเพิ่มตามขึ้นไปครับ

ผมได้กลับไปอ่าน Year Book 2006 แล้วครับและสนใจแบบ Differential ครับ

ตามที่ผมเข้าใจ การ Differential TDA1541a 1 ตัวจากเดิมที่ Output ออกเป็น L กับ R จะกลายเป็น Output เป็น + กับ -  จึงทำให้ต้องใช้ TDA1541a

พอมี Schematic ที่ระบุค่า หรือ ลายPCB ของ วงจรกลับเฟส กับ ภาค i/v แบบ Balance ไปเป็น Unbalance ไหมครับ

ขอบคุณครับ



ออฟไลน์ Mr. Tube

  • Admin
  • Super Star.
  • *****
    • กระทู้: 2,849
"LE" Latch Enable นี่่ยังคงใช้ขา 11 ของ CS8414 เหมือนเดิมหรือเปล่าครับหรือว่าผมต้องดัดแปลงอะไรเิพิ่มเติมหรือเปล่าครับ

LE ใช่เหมือนเดิมได้ครับ ดัดแปลงแต่ SDATA ครับ

อ้างถึง
ส่วนของ Data R ผมย้าย สายที่มาจากขา 26 ของ CS8414 ไปที่ขา 4 ของ TDA1541a ได้เลยใช่ไหมครับ

ไม่ได้ครับ อย่างที่อธิบายไปแล้วว่าทำไมครับ

อ้างถึง
ผมได้อ่าน http://www.lampizator.eu/LAMPIZATOR/TDA1541 corner/TDA1541.html
but only parallel, not differential ผมเห็นข้อมความนี้ แล้วสงสัยว่า มันดีกว่ากันยังไง
ผมเข้าใจแค่คำว่า parallel ครับว่าคือขนานกันเฉยๆ แต่ Differential นี่ต่อยังไงครับ

Differential คือการต่อให้ DAC 2 ตัว (TDA1541A 1 ตัว มี DAC 2 ตัวนะครับ) ส่งสัญญาณช่องเดียวกันออกมา แต่สัญญาณกลับเฟสกัน 180 องศาครับ เราอาจจะส่งสัญญาณนี้ไปที่ Output แบบ Balance Output เลยก็ได้ หรือจะเอาสัญญาณมารวมกันก่อนเพื่อส่งออกแบบ Unbalance ก็ได้ จะได้สัญญาณแรงเท่ากับ Parallel แต่มีข้อดีกว่าตรงที่ Noise/Distortion จะหักล้างกัน ส่วน Parallel นี่ Noise/Distortion จะเพิ่มตามขึ้นไปครับ

อ้างถึง
และถ้าผมจะทำข้างละสองตัวควรจะทำแบบไหนครับ
และเรื่องการใช้ C Tantalum ด้วยค่า 220nf 470nf และเลยไปถึง 2.2uf ถ้าผมลองไปทำเล่นอันตรายต่อชิปผมไหมครับ และเขาให้นำขั้วบวกลงกราวนด์

รบกวนแนะนำด้วยครับ ถ้ามีอะไรผมเข้าใจผิดรบกวนชี้แนะด้วยครับ

ขอบคุณครับ

เรื่องต่อ C ที่คุณถามผมไม่ได้อ่านครับ แต่เดาว่าน่าจะหมายถึง Decoupling 14 ตัวข้างๆ TDA1541A ซึ่งค่าที่คุณระบุมาใช้ได้ครับ และที่ให้เอาขั้วบวกลง Gnd ก็ถูกต้องแล้วครับ  :)


ออฟไลน์ Mr. Tube

  • Admin
  • Super Star.
  • *****
    • กระทู้: 2,849
สรุปประเด็นแรกก่อนว่า Idea ที่คุณจะเอาขา 27 TDA1541A ต่อกับ -5V ทำไม่ได้ เพราะว่า Format ของ SDATA ไม่สอดคล้องกันระหว่างตัวส่งและตัวรับครับ การใช้ TDA1541A กับ CS8414 จึงเหลือทางเลือกเดียวคือต่อขา 27 กับ +5V เพราะ Format SDATA เป็น 2' Complement ตรงกันครับ

ประเด็นต่อมาคือ สัญญาณจากขา 26 (SDATA) ของ CS8414 มันเป็นแบบ Multiplex ครับ คือเอาช่องซ้ายกับช่องขวามาเรียงสลับกันไปเรื่อยๆ ทีละ Sample ครับ ดูรูปได้ใน Datasheet ของ CS8414 ครับ ถ้าคุณต้องการให้ DAC 1 ตัว Convert สัญญาณช่องเดียว ก็ต้องจัดรูปสัญญาณ SDATA ให้มันใหม่ครับ ผมแนบรูปมาให้ดูว่าเรามีอะไรอยู่ และเราต้องการอะไรครับ


ออฟไลน์ Mr. Tube

  • Admin
  • Super Star.
  • *****
    • กระทู้: 2,849
ถ้าใช้ CS8414 จะต่อตรงๆ แบบนี้ไม่ได้ครับ เพราะว่า SDATA Output ของ CS8414 เป็น Binary Two's Complement แต่ TDA1541A Mode นี้ (ต่อขา 27 ไป -5V) ต้องการ Offset Binary ครับ

Input data selection (see also Table 1)
When input OB/TWC input is connected to VDD1 the two channels of data (L/R) are input simultaneously via DATA L and
DATA R, accompanied with BCK and a latch-enable input (LE). With this mode selected the data must be in offset binary.
The converted samples appear at the output at the positive going transition of the latch enable signal.
The format of the data input signals is shown in Fig.5 and 6.

ผมแนบรูปให้ดูละกันครับว่า 2 Formats นี้ต่างกันยังไงครับ เอามาจาก YB2006 ครับ



ออฟไลน์ s60ngage

  • ***
    • กระทู้: 203
หลังจากไม่ประสบความสำเร็จจาการใช้ CS8416 แลัวหันกลับมาสบ CS8414 แทนแล้วโชคดีติดฟังเสียงได้ ก็เลยมีความคิดใหม่ขึ้นมาครับ
คือผมตอนนี้มี TDA1541a อยู่ 4 ตัว บวกกับอ่าน Datasheet มาหลายรอบ แต่มาคิดว่า "อยากลอง" เล่นแบบแยก ตามหลักการในหน้า 4 "Input Data Selection" และ หน้า 5 "Table 1 Input Data Selection"

Input data selection (see also Table 1)
When input OB/TWC input is connected to VDD1 the two channels of data (L/R) are input simultaneously via DATA L and
DATA R, accompanied with BCK and a latch-enable input (LE). With this mode selected the data must be in offset binary.
The converted samples appear at the output at the positive going transition of the latch enable signal.
The format of the data input signals is shown in Fig.5 and 6.

True 16-bit performance is achieved by each channel using three 2-bit active dividers, operating on the dynamic element
matching principle, in combination with a 10-bit passive current divider, based on emitter scaling. All digital inputs are
TTL compatible.

Table 1 Input data selection

OB/TWC*** MODE****** PIN 1*** PIN 2*** PIN 3****** PIN 4
−5V****simultaneous*****LE*****BCK****DATA L***** DATA R
0V****time MUX OB *****WS****BCK****DATA OB *** not used
+5V***time MUX TWC****WS****BCK****DATA TWC** not used



แต่เท่าที่ผมดูคือผมอยากจะดัดแปลงลาย PCB คุณ Wasin สักหน่อยครับ

เพราะ ขา 28 Vdd +5 กับขา OB/TWC ชนกันอยู่ อาจจะต้องเอา คัตเตอร์กีดและทำจัมเปอร์ เพื่อให้ ขา 26 Vdd1 -5
และต้องจัมพ์สายทีี่่ขา 4 Data R
เลยเกิดข้อสงสัยครับ ถ้าหากหลังจากผมทำ จัมเปอร์ ขา 26 Vdd1 -5v ไปที่ขา 27 OB/TWC แล้ว

"LE" Latch Enable นี่่ยังคงใช้ขา 11 ของ CS8414 เหมือนเดิมหรือเปล่าครับหรือว่าผมต้องดัดแปลงอะไรเิพิ่มเติมหรือเปล่าครับ
ส่วนของ Data R ผมย้าย สายที่มาจากขา 26 ของ CS8414 ไปที่ขา 4 ของ TDA1541a ได้เลยใช่ไหมครับ

ผมได้อ่าน http://www.lampizator.eu/LAMPIZATOR/TDA1541 corner/TDA1541.html
but only parallel, not differential ผมเห็นข้อมความนี้ แล้วสงสัยว่า มันดีกว่ากันยังไง
ผมเข้าใจแค่คำว่า parallel ครับว่าคือขนานกันเฉยๆ แต่ Differential นี่ต่อยังไงครับ
และถ้าผมจะทำข้างละสองตัวควรจะทำแบบไหนครับ
และเรื่องการใช้ C Tantalum ด้วยค่า 220nf 470nf และเลยไปถึง 2.2uf ถ้าผมลองไปทำเล่นอันตรายต่อชิปผมไหมครับ และเขาให้นำขั้วบวกลงกราวนด์

รบกวนแนะนำด้วยครับ ถ้ามีอะไรผมเข้าใจผิดรบกวนชี้แนะด้วยครับ

ขอบคุณครับ