HTG2.club

ขอวงจรdac dual แบบที่เล่น sacd dvd audio ได้

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ BANJOB

  • ****
    • กระทู้: 258

Ads: ฝากรูป สอน seo condo

DAC เล่นอยู่ตัวเดียวครับ เนื่องจากใช้แบต 12 V ได้ ทำเองก็ยากเกินไป ซื้อสำเร็จรูปเลยดีกว่า

พวกโปรแกรมก็เล่นไม่เยอะหรอกครับ เล่นเท่าที่หาได้ และ ไม่ยากเกินไปครับ


ออฟไลน์ measan

  • *****
    • กระทู้: 902
    • เพศ:ชาย
  • D.I.Y in room ^^"
กำลังนั่งหาทางต่อ dacอยู่ แล้วไปค้นเจอพวก ic src dir อ่านกระทู้นี้เริ่มมีข้อคิดอีกละครับ ว่าแต่ท่าน BANJOB อธิบายได้ดีครับสงสัยจะเล่นพวกนี้มาเยอะครับผมมือใหม่เริ่มคิด
ยังไม่ได้ลงมือครับ ผมเริ่มเข้าใจบ้างละครับ  O0 O0 ขอบคุณครับผม



 d_d d_d d_d :drunk
http://www.htg2.net/index.php?topic=35554.0



งาน D.I.Y. มันน่ารักจริงๆ "Why So Serious" ดูซิน่ารักปะ อิอิ


ออฟไลน์ พี่ดุ้น

  • เบื่อ
  • ผู้สนับสนุน web
  • *
    • กระทู้: 436
    • เพศ:ชาย
DV-610AV-S ถ้าใช้ DAC กับ opamp ในตัว บอกได้คำเดียวว่า อย่างเน่า เสียงอื้อๆ มีแต่ noise
ผมว่า DVD ทุกตัวต้องใช้ DAC ข้างนอกแบบดีๆสถานเดียวอะครับ
เบื่อ


ออฟไลน์ BANJOB

  • ****
    • กระทู้: 258
เนื่องจากใช้ EXTERNAL DAC ครับ เรื่องเสียงไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆคือ

1 ใช้ external DAC เล่นจาก เครื่องเล่น DVD SOKEN กับ DVD PIONEER เสียงไม่เหมือนกันครับ
2 DVD PIONEER คุณสามารถกดเสียง virtual Surround on/off ได้ ฉนั้นเสียงที่มาไม่ออกมาตรงๆ มันต้องผ่านอะไรบางอย่างมาแน่ๆ
3 ส่วนตัวผมว่า PIONEER แต่ละรุ่นคงไม่ต่างกันมากครับ ต้องใช้คำว่า เชื่อว่าใช้ CHIP ตัวเดียวกัน อาจเพิ่มนั่น ลดนี่ เล็กน้อย (CAP ที่ใช้ใน DV610S เห็นใช้ RUBYCON ตัวดำๆหมดเลย)


ออฟไลน์ xthaix

  • Superstar...
  • ****
    • กระทู้: 4,924
    • เพศ:ชาย
  • *** ความกลมกลืนของสิ่งที่แตกต่าง ***
ผมใช้ Pioneer DV-655A ครับ มันเล่นได้ทั้ง DVD-Audio และ SACD ไม่ทราบว่าตัวนี้เทียบกับ Pioneer DV-610AV-S เป็นอย่างไรบ้างครับ
Pioneer DV-655A ซื้อมาตอนที่มันจะโล๊ะรุ่นนี้ออกจากตลาด ราคาหมื่นกว่าๆ ลดเหลือ 6-7 พัน (จำไม่แม่นแล้ว) เลยถอยมา (ผมคิดว่าคุณภาพ/ราคาขาย มันอั้น รุ่นเล็กกว่าเลยไม่ได้เกิด) หลังจากนั้นรุ่นใหม่ๆ ออกมาตรึม แต่ดูภายนอกแล้วสู้ Pioneer DV-655A ไม่ได้เลย (แต่ก็สงสัยในคุณภาพเสียงแระครับ ว่ามันดีหรือไม่อย่างไร)


ออฟไลน์ BANJOB

  • ****
    • กระทู้: 258
แต่ทำใมในคู่มือบอกว่า (ในหัวข้อ down sampling - COAX) อะไรที่เกิน 96 KHZ จะ down โดย AUTO แต่ในช่องที่ปิด down sampling เขียนแค่ 96 ออก 96 แค่นั้น แล้วไอ้ที่เกิน 96 ละ???

ลองบันทึกลงแผ่นที่ 88 กับ 176 KHZ ฟังไม่ออกครับ ถ้าตั้งใจฟังจริงๆ ที่ 176 จะมีความเป็น 3D มากกว่า นิดดดดดดดดดดดดดดเดียว (ลองนั่งฟังไปเรื่อยดดยไม่ดู track แยกไม่ออกครับ แต่อาจเป็นเพราะผม remaster ใหม่ เลยทำให้ไม่มีข้อแตกต่างมากนัก)



ออฟไลน์ พี่ดุ้น

  • เบื่อ
  • ผู้สนับสนุน web
  • *
    • กระทู้: 436
    • เพศ:ชาย
Pioneer DV-610AV-S เล่น DVD audio digital out จะออก 24bit 192k ได้ทั้ง caoxial และ HDMI ถ้าเป็น SACD digital out จะออกทาง HDMI อย่างเดียวโดยถูกแปลงมาเป็น PCM ออกแค่ 88.2k ครับ

ตัวนี้ถือว่าคุ้มค่าเกินตัวเมื่อเทียบกับราคา 
เบื่อ


ออฟไลน์ BANJOB

  • ****
    • กระทู้: 258
อ้างถึง
ดังที่กล่าวมาข้างต้น แสดงว่าเครื่องบันทึกเสียง ไม่มีแบบnos ใช่ไหมครับ มีแต่dac nosเป็นตัวplay back อย่างเดียว
สำหรับงานบันทึกต้นฉบับต้องใช้sampling อยู่เหมือนเดิมใช้ไหมครับ

เริ่มลึกแล้ว ตอบไปกลัวผิดครับ เอาเป็นว่าต้องลองหาอ่านใน web ต่างประเทศ เกี่ยวกับเรื่อง dithering, oversampling ดูครับ เท่าที่อ่านก็โต้เถียงกันไปมา หลักก็จะอ้างถึง เชิงทฤษฎี กับ การได้ยินหรือการรับรู้ ไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดครับ แต่เท่าที่อ่านๆมา  ยืนยันได้อย่างหนึงคือ ที่ bit rate และ sampling สูง พวกฝรั่งใช้คำว่า better (แต่การยอมรับว่าต้องฝึกฟังเช่น ที่ 16 bit 44.1 khz เป็นเวลา 1 เดือน แล้วเปลี่ยนเป็น 24 หรือ 32 bits sampling 96 หรือ 192 เป็นเวลา 1 เดือน กลับมาที่ 16 bit 44.1 อีกครั้ง โดยรวมก็สรุปกันว่า รู้สึกถึงความแตกแต่ง) ถึงแม้ทั้งสอง condition จะ decode playback ที่ 16 bit 44.1 ก็ตาม

นอกนั้นก็เถียงกันใช้เชิง ทฤษฎี ถึง ความไม่สะดวก ผลข้างเคียง ฯลฯ ไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัด

จากการทดลอง ผมเห็นด้วยว่า ที่ bit และ sampling สูงๆ better ครับ แต่ผมว่ามันก็ไม่ได้เพราะกว่า  16 bit 44.1 khz ครับ แต่ถ้าฟังพวก bit และ sampling rate สูงๆ แล้วกลับมาฟัง format มาตราฐาน จะรู้สึกว่ามันขาออะไรไปบางอย่าง คงต้องเปรียบเทียบว่าเหมือน ทานอาหารรสไม่จัด แล้วไปทานรสจัด บางท่านอาจรับไม่ได้ แต่พอทานรสจัดไปสักพัก กับมาทานรสไม่จัด จะรู้สึกจืดๆไป ไม่เต็ม feel ซึ่งมันไม่เกี่ยวกับว่า อะไรอร่อยกว่ากัน

มันเป็นเรื่อง ความรู้สึก ความชอบ ความเคยชิน ๆล้วน (เหมือนหลอด โซลิด สเตจ เลยมีประเภท HYBRID เกิดขึ้น อิอิ)


ออฟไลน์ bahamu

  • ***
    • กระทู้: 208
อ้างถึง
แสดงว่าที่เราupsampling ก็ไม่มีประโยชน์ถ้า dac แปลงสัญญาณไม่ได้ใช่ไหมครับ

เสริมอีกนิดเดียว ถ้ามันไม่มีประโยชน์จริงๆ การทำ master คงไม่มีใครทำที่  24 หรือ 32 bit (บางโปรแกรมตอนนี้ internal process ที่ 64 bit แล้ว) และ sampling ที่มากกว่า 44.1 > 48 > 96 > 198 หลอกครับ เพราะตอนที่ทำแผ่น CD ก็ต้องลดลงมาที่ 16/44 อยู่ดี
ดังที่กล่าวมาข้างต้น แสดงว่าเครื่องบันทึกเสียง ไม่มีแบบnos ใช่ไหมครับ มีแต่dac nosเป็นตัวplay back อย่างเดียว
สำหรับงานบันทึกต้นฉบับต้องใช้sampling อยู่เหมือนเดิมใช้ไหมครับ


ออฟไลน์ BANJOB

  • ****
    • กระทู้: 258
อ้างถึง
แสดงว่าที่เราupsampling ก็ไม่มีประโยชน์ถ้า dac แปลงสัญญาณไม่ได้ใช่ไหมครับ

เสริมอีกนิดเดียว ถ้ามันไม่มีประโยชน์จริงๆ การทำ master คงไม่มีใครทำที่  24 หรือ 32 bit (บางโปรแกรมตอนนี้ internal process ที่ 64 bit แล้ว) และ sampling ที่มากกว่า 44.1 > 48 > 96 > 198 หลอกครับ เพราะตอนที่ทำแผ่น CD ก็ต้องลดลงมาที่ 16/44 อยู่ดี


ออฟไลน์ BANJOB

  • ****
    • กระทู้: 258
เนื้อหาเริ่มไม่เกี่ยวกับหัวข้อแล้ว อิอิ

อ้างถึง
แสดงว่าที่เราupsampling ก็ไม่มีประโยชน์ถ้า dac แปลงสัญญาณไม่ได้ใช่ไหมครับ

อืมมม สำหรับ PIONEER ผมยังไม่แน่ใจว่า ปิด function down sampling แล้ว มันจะออกเต็มๆ หรือ แค่ 96 เพราะในคู่มือก็ไม่ได้อธิบายรายละเอียด (อ่านแล้วไม่รู้เรื่อง)

เท่าที่อ่านเรื่องของการ upsampling มีประโยชน์เรื่อง การลด noise (จำไม่ได้ว่าอ่านจาก web ไหน) ซึ่งโดนรวมจะให้ความสดใสและรายละเอียดของเสียงที่ดีกว่า (ชอบไม่ชอบอีกเรื่อง เหมือน แผ่นเสียง กับ แผ่น CD หรือ oversampling กับ nonsampling ใน DAC ละครับ) อันนี้แล้วแต่ชอบ

จากที่ทดลองอยู่ตอนนี้ ส่วนตัวถึงแม้เทียบ ตอน rip file มาเป็น 16 bit 44.1 khz กับ แปลงเป็น 32 bit 174 khz แล้วต่อผ่าน sound card ไปที่ DAC ออกแค่ 16 bits 48 KHZ คงต้องตอบว่า IMPACT กับรายละเอียดเสียงต่างกันครับ แปลงเป็น bit สูงๆ ถึงเแม้ play back ที่ Bit ต่ำกว่า IMPACT ของเสียงดีกว่าครับ UPSAMPLING สูงๆ แล้ว play back ที่ต่ำกว่า รายละเอียดดีดว่านิดหน่อยครับ

อันนี้ไม่ได้บอกว่า การ up bit หรือ up sampling จะไม่ไมีประโยชน์ก็ไม่น่าใช่ คงต้องทดลองดูว่าจากอุปกรณ์ที่เรามีอยู่ เห็นความแตกต่างหรือเปล่า และจะชอบแบบใหนเป็นอีกเรื่องครับ

ถือว่ามันเป็นการทดลองครับ ชอบแบบใหนใช้แบบนั้นครับ หนุกๆ


ออฟไลน์ นายบัดกรี

  • **
    • กระทู้: 62
อ๋อเข้าใจแล้วครับแสดงว่ามันจะบีบข้อมูลจนอ่านข้อมูลได้นี่เอง
แสดงว่าที่เราupsampling ก็ไม่มีประโยชน์ถ้า dac แปลงสัญญาณไม่ได้ใช่ไหมครับ


ออฟไลน์ BANJOB

  • ****
    • กระทู้: 258
ถ้าเล่นกับคอมผ่าน USB เบื้องต้นต้องบอกว่าถึงแม้ file จะเป็น 24 หรือ 32 bit sampling สูงกว่า 96 KHZ ก็ออกไม่เต็มครับ มันจะทอนโดยอัตโนมัต เนื่องจาก

1 ความสามารถในการถอดระหัสของ SOUNDCARD
2 เท่าที่อ่านเจอ USB ถ่ายสัญญานได้สูงสุดแค่ 24 bit 96 KHZ

ซึ่งอย่างที่ผมใช้ notebook ไฟล์ ที่ 32 bit 174 khz ส่งผ่าน soundcard ของ notebook ไปที่ dac ทางช่อง USB ได้แค่ 16 bits 96 khz แค่นั้นเอง แต่ก็ส่งเสียงครับ

Pioneer DV-610AV-S ในคู่มือบอกคร่าวๆว่าเหมือนว่าช่อง coax ออกได้ แค่ 96 KHZ เล่นกับแผ่นบรรทึก 174 KZH ก็ยังทำงาน ดังนั้น ถ้าจริงๆแล้วมีการลดข้อมูลบ้างผมว่าก็ช่างมันเถอะครับ มิฉนั้นอาจต้องเสียตังอีกหลายหมืน และฟังความแตกต่างออกแค่หลักพัน อาจจะไม่คุ้ม


ออฟไลน์ bahamu

  • ***
    • กระทู้: 208
ผมใช้ dvd ที่อ่านแผ่น dvd audioได้ แล้ว ใส่แผ่น upsampling แล้วเล่นผ่าน  dac sound stream dta1 (dac รถยนต์)มันก็อ่านออกนะครับ ผมยังงงอยู่เลย
ไม่ทราบว่าคุณ bahamu ลองใช้dac ธรรมดาต่อดูหรือยัง


dac เครื่องบ้าน ราคาหมื่นต้น อ่านไม่ได้ในอัตรา 24/192 จะมีการลดข้อมูลลง เพื่อให้อ่านได้ ยิ่งsacd โซนี่กันท่าไว้ ต้องผ่านทาง 1394 หรือโคแอ็ก ถึงจะได้ข้อมูลเต็ม

ถ้ามีวิธีที่ทำได้ง่าย ราคาไม่แพง และอ่านไฟล์ได้เต็มแบนวิด ช่วยแนะนำด้วยครับ เพราะใช้คอมอ่าน ถอดรหัส ราคาถูกกว่าซื้อเครื่องเล่นเยอะ แต่โมไม่ได้


ออฟไลน์ นายบัดกรี

  • **
    • กระทู้: 62
ผมใช้ dvd ที่อ่านแผ่น dvd audioได้ แล้ว ใส่แผ่น upsampling แล้วเล่นผ่าน  dac sound stream dta1 (dac รถยนต์)มันก็อ่านออกนะครับ ผมยังงงอยู่เลย
ไม่ทราบว่าคุณ bahamu ลองใช้dac ธรรมดาต่อดูหรือยัง



ออฟไลน์ BANJOB

  • ****
    • กระทู้: 258
อ้างถึง
เวลาแปลงใช้คอมใช่ไหมครับ แล้วplay back ด้วยไพโอเนีย เครื่องเล่นโมยากจะใส่หลอดลงไม่ได้ จึงอยากทำเป็นdac เพื่อความสะดวก และยังใช้กับเครื่องอื่นๆได้
ถ้าใช้กับ sacd มีไหมครับ

ถูกต้องครับ ผมใช้ตัว pioneer เป็นแค่ transporter ครับ แล้วต่อสัญญาณ ทาง coax เข้า DAC - SUPER PRO 707 ครับ ไม่ได้ใช้ DAC ในตัวของ PIONEER แต่มันคงไม่ใช่สัญญาณที่ออกมาโดยตรงเพราะ มันมีการปรับ surround ก่อนออกช่อง COAX ราคาขนาดนี้ ไม่คิดมากครับ ปิด surround ก็พอได้ครับ

อ้างถึง
ทำไมหรือแต่ละขั้นตอนทำเพื่ออะไรครับ เพราะ โปรแกรมบางตัวสามารถทำได้เลยตามที่ต้องการไม่ใช่หรือครับเช่น CirlincaDVD-Audio Solo

ฮา กะแล้วต้องมีคนสงสัยว่าไปทำอะไรให้มันยุ่งยาก คืออย่างนี้ครับ ตัว SAMPLITUDE ก็เหมือนพวก WAVELAB ADOBE AUDITION SOUND FORGE ละครับ ผมใช้ remaster โดยใช้ VST plug-in เช่นของ SOUNDHACK, NOMAD FACTORY, CRYSONC

SoundHack is a program that has been used in sound design for music and film for the last 12 years.
It is a collection of spectral filters which emphasize the creative manipulation of sound. SoundHack has been used on many films – from “The Matrix” to “The City of Lost Children” – and by many recording artists – from Nine Inch Nails to Ry Cooder to J Lesser.

จากหลายๆ stodio web site, ก็มีการ comment เรื่อง SRC กับ MBIT+ ซึ่งโดยรวมแล้ว ก็ให้ credit IZOPTE RX ADVANCE อยู่พอสมควร ดังนั้นผมจึงใช้จากการ UPSAMPLING 88>174 แล้ว dither MBIT+ จาก 32>24 ครับ ส่วน HQ UNIVERSAL SAMPLING กับ POR-R dithering ใน SAMPLITUDE ก็แจ่มครับ โดยเฉพาะการทำ MASTER ที่ 32 bit 96KHZ แล้ว write ลง CD ได้เลย โดยมีการทอนรูปให้เหลือ 16 bit 44.1 Khz ตาม auido redbook แต่เสียงดีกว่าครับ โดยเฉพาะ impact โจ๊ะจริงๆ แต่ IZOTOPE จะนุ่มนวลกว่าแล้วแต่ชอบครับ

CirlincaDVD-Audio Solo การ upsampling ทำได้ครับ ลองแล้ว เสียงเป็น analog ดีครับ อันนี้แล้วแต่ชอบครับ แต่รายละเอียดเมื่อเทียบกับ IZOTOPE แล้วยังไม่ได้ครับ

รวมแล้วมันเป็นการทดลองครับ แล้วแต่ชอบครับ เพราะต้นฉบับเหมือนกัน write ลงแผ่น DVD หรือ CD ต่างยี่ห้อเสียงยังไม่เหมือนกันเลยครับ และ ถึงแม้จะเป็นยี่ห้อเดียวกัน แผ่น R กับ RW เสียงยังไม่เหมือนกันเลย แต่ผมว่าเสียงจาก RW เสียงดีกว่า



ออฟไลน์ NEWHANDS

  • ****
    • กระทู้: 340
 ???

[ตอนนี้แปลงไฟล์เพลงเป็น 24 bits 174 khz เล่นได้แล้ว ใช้ MAGIX SAMPLITUDE ทำการ remaster เป็น 32 bits 88 KHZ แล้ว UP SAMPLING เป็น 174 KHZ (SRC)  แล้ว Dithering เป็น 24 bits (MBIT+) โดย IZOPTOPE RX AVANCE  แล้วแปลงเป็น DVD AUIDO โดย CirlincaDVD-Audio Solo ก็เป็นประสพการณ์ใหม่ๆในการฟังเหลงครับ/b]

ทำไมหรือแต่ละขั้นตอนทำเพื่ออะไรครับ เพราะ โปรแกรมบางตัวสามารถทำได้เลยตามที่ต้องการไม่ใช่หรือครับ

เช่น CirlincaDVD-Audio Solo

รบกวนช่วยแนะนำด้วยครับ (ใช้ DVD Player Pioneer DV-610AV-S เล่น DVD-Audio กับ SACD อยู่เหมือนกันครับ)


ออฟไลน์ bahamu

  • ***
    • กระทู้: 208
ครบสูตรขนาดนี้มันจะมีหรือ?

1 SACD & DVD AUDIO มันจะถอดระหัสกันคนละระบบ ไม่น่าจะรวมกันได้ ถึงรวมได้ คาดว่าจะได้แค่ SACD compatible เท่านั้น
2 ถอดระหัส 32 bits น่าจะยังไม่มี เพราะผมก็หาอยู่เหมือนกัน
3 พวงได้ทั้ง coax opti usb ตอนนี้ที่เห็น (รวมถึงใช้อยู่ และ ราคาไม่แพง) ก็ต้อง super pro 707
4 ง่ายสุดเลยคือไปถอย DVD Player Pioneer DV-610AV-S ราคา 4200 สามารถเล่นแผ่น DVD/DVD-Audio/SACD/SACD Multi ช่องต่อ USB สำหรับเล่นไฟล์ JPEG/WMA/MP3/MPEG4 AAC จากอุปกรณ์หน่วยความจำแบบ USB โอนเพลง CD ลงอุปกรณ์ USB ช่องต่อสัญญาณเสียงดิจิตอลแบบโคแอคเชี่ยลและออปติคอล เพิ่งไปถอยมาเหมือนกัน ตอนนี้แปลงไฟล์เพลงเป็น 24 bits 174 khz เล่นได้แล้ว ใช้ MAGIX SAMPLITUDE ทำการ remaster เป็น 32 bits 88 KHZ แล้ว UP SAMPLING เป็น 174 KHZ (SRC)  แล้ว Dithering เป็น 24 bits (MBIT+) โดย IZOPTOPE RX AVANCE  แล้วแปลงเป็น DVD AUIDO โดย CirlincaDVD-Audio Solo ก็เป็นประสพการณ์ใหม่ๆในการฟังเหลงครับ
เวลาแปลงใช้คอมใช่ไหมครับ แล้วplay back ด้วยไพโอเนีย เครื่องเล่นโมยากจะใส่หลอดลงไม่ได้ จึงอยากทำเป็นdac เพื่อความสะดวก และยังใช้กับเครื่องอื่นๆได้
ถ้าใช้กับ sacd มีไหมครับ


ออฟไลน์ BANJOB

  • ****
    • กระทู้: 258
ครบสูตรขนาดนี้มันจะมีหรือ?

1 SACD & DVD AUDIO มันจะถอดระหัสกันคนละระบบ ไม่น่าจะรวมกันได้ ถึงรวมได้ คาดว่าจะได้แค่ SACD compatible เท่านั้น
2 ถอดระหัส 32 bits น่าจะยังไม่มี เพราะผมก็หาอยู่เหมือนกัน
3 พวงได้ทั้ง coax opti usb ตอนนี้ที่เห็น (รวมถึงใช้อยู่ และ ราคาไม่แพง) ก็ต้อง super pro 707
4 ง่ายสุดเลยคือไปถอย DVD Player Pioneer DV-610AV-S ราคา 4200 สามารถเล่นแผ่น DVD/DVD-Audio/SACD/SACD Multi ช่องต่อ USB สำหรับเล่นไฟล์ JPEG/WMA/MP3/MPEG4 AAC จากอุปกรณ์หน่วยความจำแบบ USB โอนเพลง CD ลงอุปกรณ์ USB ช่องต่อสัญญาณเสียงดิจิตอลแบบโคแอคเชี่ยลและออปติคอล เพิ่งไปถอยมาเหมือนกัน ตอนนี้แปลงไฟล์เพลงเป็น 24 bits 174 khz เล่นได้แล้ว ใช้ MAGIX SAMPLITUDE ทำการ remaster เป็น 32 bits 88 KHZ แล้ว UP SAMPLING เป็น 174 KHZ (SRC)  แล้ว Dithering เป็น 24 bits (MBIT+) โดย IZOPTOPE RX AVANCE  แล้วแปลงเป็น DVD AUIDO โดย CirlincaDVD-Audio Solo ก็เป็นประสพการณ์ใหม่ๆในการฟังเหลงครับ


ออฟไลน์ bahamu

  • ***
    • กระทู้: 208
ขอวงจรdac dual แบบที่เล่น sacd ,dvd audio 24-32bit ได้ พวกak bb แบบnos ก็ได้ oversamblingก็ดี
แบบที่หาอะไหล่ตามบ้านหม้อได้ ไม่ต้องสั่งจำนวนมากๆ ต่อพ่วง coax optic usb
ใช้ชิป2-4 ตัว ใช้หลอดภาคสุดท้ายได้ หรือตัวไหนที่เพื่อนๆคิดว่าเสียงดี รบกวนแจ้งด้วยครับ