เคยไปทำมา และก็แนะนำให้รุ่นน้องไปทำเหมือนกัน ค่าใช้จ่ายประมาณ 3000-4000 บาท ขึ้นกับโรงพยาบาล ถ้าเป็น Package ก็อาจจะได้ราคาถูกหน่อย คิด ๆ ดูแล้ว ยังอยากจะไปทำทุกปีเหมือนกัน อย่างน้อยก็พอรู้ว่ามีความเสี่ยงกับเส้นเลือดหัวใจตีบมากน้อยขนาดไหน
ข้อมูลเบื้องต้น
Stress test หรือบางทีเรียกว่า treadmill test (ทดสอบบนสายพานวิ่ง) หรือ exercise test ช่วยให้นายแพทย์รู้ว่าหัวใจของคนที่เข้าทดสอบทำงานได้ดีขนาดไหน เมื่อร่างกายต้องทำงานหนักในระหว่างการทดสอบ ก็ต้องการออกซิเจนมากขึ้น ดังนั้นหัวใจก็จะเต้นแรงเพื่อสูบฉีดโลหิตไปให้เร็วขึ้น การทดสอบนี้สามารถรู้ได้ว่าเส้นเลือดใหญ่ที่เข้าสู่หัวใจทำงานดีหรือตีบตัน และยังช่วยให้นายแพทย์รู้ว่าชนิดหรือระดับการออกกำลังเหมาะสมกับคนไข้หรือคน ทั่วไป
บุคคลที่รับการทดสอบ
- จะได้รับการติดตั้งสายต่างๆ ตามหน้าอกเพื่อตรวจดูการทำงานของหัวใจ
- เดินอยู่กับที่บนสายพานที่เคลื่อนไหว จากนั้นความเร็วก็จะเพิ่มขึ้นและระดับความเอียงก็สูงขึ้นเพื่อเลียนแบบการวิ่งหรือเดินขึ้นเขา
- บางทีก็อาจจะหายใจเข้าหลอด 2-3 นาที
- สามารถหยุดได้ทุกเวลาที่ต้องการ (กดปุ่มแดง)
- หลังจากทดสอบเสร็จแล้วจะนั่งหรือนอนลงเพื่อวัดความดันเลือด (แต่การทดสอบที่กรมอนามัยจะมีการวัดตลอดเวลาที่ออกกำลังโดยสวมปลอกแขน)
ใน ระหว่างการทดสอบ ระดับการเต้นของหัวใจ การหายใจ ความดันโลหิต ECG (electrocardiogram) คือเส้นกราฟไฟฟ้าของหัวใจ และระดับความเหน็ดเหนื่อย
คน ที่แข็งแรงปกติที่ทำการทดสอบจะมีความเสี่ยงหรืออันตรายน้อยมาก เพราะมันก็ไม่ต่างกับการเดินเร็วๆ หรือจ้อกกิ้งขึ้นเขา แต่ควรมีบุคลากรแพทย์อยู่ด้วยเผื่อเกิดกรณีฉุกเฉิน (ที่กรมอนามัยมีพร้อม)
แพทย์อาจแนะนำ exercise test ด้วยเหตุผลต่างๆ เช่น
- เพื่อตรวจหาโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดใหญ่หัวใจ
- เพื่อหาอาการเกี่ยวกับหัวใจที่ทำให้เกิดเจ็บหน้าอก หายใจตื้นๆ หรือวิงเวียน
- เพื่อแนะนำระดับการออกกำลังที่ปลอดภัย
- เพื่อตรวจหาวิธีที่ได้ผลในการทำให้เลือดหล่อเลี้ยงหัวใจดีขึ้นสำหรับคนป่วยโรคหัวใจ
- เพื่อทำนายระดับความเสี่ยงจากภาวะโรคหัวใจต่างๆ เช่นหัวใจวายเฉียบพลัน
ดูได้เพิ่มเติม จาก
www.perfectheart.co.th/PDF/cardio_EST.pdf ( อาจจะเป็นวิชาการไปหน่อย )
รอพี่หมอ betteheart ผู้เชี่ยวชาญตัวจริงมาตอบเพิ่มเติมครับ