http://www.patchra.net/minerals/etc/amethyst.php Amethyst เป็นพลอยในตระกูลควอทซ์ที่มีค่ามากที่สุด มีคววามโปร่งใส สีม่วงอ่อนจนถึง สีม่วงเข้ม หรือ ม่วงแดง หลายคนเรียกอะเมทิสต์ว่า พลอยสีดอกตะแบก หรือพลอยจำปาศักดิ์
คำว่า Amethyst มาจากภาษากรีกว่า Amethystos แปลว่าไม่ทำให้มึนเมา หรือปราศจาก ความมึนเมา เป็นพลอยที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายเป็นเวลากว่า 7,000 ปีมาแล้ว มีเรื่องเล่า ในนิยายกรีกว่า เทพแบคคลัส (Bacchus) ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งเหล้าองุ่น โกรธแค้นที่ เทพธิดาไดอานา (Diana) สลัดรัก จึงตัดสินใจที่จะแก้แค้น และได้สาบานว่า ใครก็ตาม ที่เขาพบ เป็นคนแรกในกองคาราวาน จะต้องถูกจับให้เสือกิน ในคราวนั้น มีสาวใช้ผู้เคราะห์ร้าย ชื่อ Amethyst ได้ออกเดินทาง เพื่อไปสักการะที่วิหารของเทพธิดาไดอานา จึงถูกเสือ ของเทพเจ้าแบคคัส ตะโดดเข้าตะปบ นางอะมิทิสต์ ตกใจร้องเรียกให้เทพธิดาไดอานาช่วย เทพธิดาไดอานาจึงแปลงร่าง ของนางอะเมทิสต์ให้กลายเป็นก้อนหิน ใสสะอาดก้อนหนึ่ง เพื่อให้รอดพ้น จากการเป็นเหยื่ออันโอชะของเสือ เทพเจ้าแบคคัสได้เห็นเหตุการณ์ดังนั้น รู้สึกเสียพระทัยเป็นอันมาก จึงเทเหล้าองุ่นลงบนร่างก้อนหิน ของนางอะเมทิสต์ จนกลายเป็น ก้อนหินสีม่วง นับแต่นั้นเป็นต้นมา นอกจากนี้ยังเล่าสืบต่อกันมาอีกด้วยว่า หากใครได้ดื่ม เหล้าองุ่น จากถ้วยที่เจียระไนจากอะเมทิสต์แล้ว จะไม่รู้สึกมึนเมา และชาวกรีกยังเชื่ออีกด้วยว่า หากนำก้อนอะเมทิสต์มาวางไว้ใต้ลิ้น ก็จะให้ผลเช่นเดียวกับ การดื่มไวน์จากแก้ว อะเมทิสต์เจียระไน คือ จะไม่มึนเมา หรือหากมีพิษ ก็จะปราศจากความรู้สึกเป็นพิษใดๆ
ชาวอียิปต์โบราณจะสวมใส่อะมิทิสต์ เพื่อช่วยให้กระทำการรบได้สำเร็จ และช่วยป้องกันให้รอดปลอดภัย จากอันตรายต่างๆ ได้ พลังอำนาจของอะมิทิสต์ สามารถช่วยลดอาการปวดศีรษะ และปวดฟันได้ โดยการนำอะมิทิสต์ ไปแช่ในน้ำร้อน 2 - 3 นาที แล้วจึงนำมาสัมผัสตรงบริเวณที่ปวด ก็จะช่วยทุเลา ความปวดลงได้
อะมิทิสต์เป็นพลอยทางศาสนาอีกด้วย เชื่อว่าจะช่วยดลบันดาล ให้เกิดความเที่ยงธรรมแก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ เพื่ออุดมคติอันสูงส่ง จะเห็นได้ว่าแหวนประดับ ของพระในคริสตศาสนา จะใช้อะมิทิสต์ แม้ในปัจจุบันก็ยังคงสวมใส่กันอยู่
อะมิทิสต์เป็นเครื่องประดับของพระมหากษัตริย์ เช่น ฟาโรห์ในอียิปต์ และโมเสสใช้ประดับที่หน้าอก อีกทั้งยังเป็นพลอยที่นักบุญวาเลนไทน์สวมใส่ โดยนำมาทำแหวนรูปกามเทพ
อะมิทิสต์เป็นพลอยประจำเดือนเกิดของผู้ที่เกิดเดือนกุมภาพันธ์
http://www.nakhonunyamanee.com/product.detail.php?id=607301 อะมิทิสต์ (Amethyst) หรือ พลอยสีดอกตะแบก หรือ พลอยจำปาสัก
รายละเอียด: อะมิทิสต์ (Amethyst) หรือ พลอยสีดอกตะแบก หรือ พลอยจำปาสัก
เป็นพลอยโปร่งใส มีสีม่วง ม่วงอมน้ำเงิน และม่วงอมแดง การเผาอะมิทิสต์ จะทำให้ได้ซิทรินและควอรตซ์สีเขียว สีเกิดจากจุดศูนย์กลางสี ร่วมกับธาตุ Fe
อะมิทิสต์ (Amethyst) หรือ พลอยสีดอกตะแบก หรือ พลอยจำปาสัก
จัดอยู่ในกลุ่มของ ควอรตซ์ (Quartz) เป็นแร่ที่มีความหลากหลายในแง่ของการเกิดและชนิดมากที่สุด พบทั้งในหินอัคนี หินตะกอน และหินแปร การที่มีความแข็งเท่ากับ 7 ไม่มีแนวแตกเรียบ และมีเสถียรภาพทางเคมี ไม่ทำปฏิกิริยากับสารเคมีทั่วไป จึงเป็นแร่ที่ทนทานต่อการผุกร่อน และทนต่อการทำลายทางเคมีมาก ทำให้ควอรตซ์ยังคงสภาพอยู่ได้ในรูปของกรวดทรายตามตะกอนทางน้ำและชายทะเล
ควอรตซ์ ที่เป็นอัญมณี แบ่งได้ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มีผลึกหยาบ คือ โคซลิคริสตัลไลน์ (Coarsely Crystalline) และกลุ่มที่มีผลึกละเอียด คือ คริปโตคริสตัลไลน์ (Crypto crystalline) ทั้ง 2 กลุ่มมีส่วนประกอบทางเคมีและโครงสร้างเหมือนกัน ต่างกันที่การเกิด ขนาดผลึก มลทินที่ทำให้เกิดสี และรูปแบบของสี (pattern) เท่านั้น
อะมิทิสต์ (Amethyst) หรือ พลอยสีดอกตะแบก หรือ พลอยจำปาสัก
จัดอยู่ใน กลุ่มที่มีผลึกหยาบ คือ โคซลิคริสตัลไลน์ (Coarsely Crystalline)
มีความแข็ง (Hardness) = 6.5-7 โมฮส์ (Mohs)
ส่วนประกอบทางเคมี (Chemical Formula) = SiO2 , Silicon dioxide
ดัชนีหักเหของแสง (Refractive Index) = 1.54-1.55
ความถ่วงจำเพาะ (Specific gravity) = 2.65
http://www.thaisilvergem.com/index.php?lay=show&ac=cat_showcat&l=1&cid=16129 อเมทิสต์
มีคุณสมบัติช่วยคุ้มครองให้พ้นจากภยันตราย กระตุ้นประสาทสัมผัส ขจัดความคิดที่ชั่วร้ายและชำระล้างจิตใจให้บริสุทธิ์
ทางด้านความรัก คนโบราณเชื่อกันว่า ถ้านำอะมีทิสต์รูปหัวใจประดับบนเรือนทองคำหรือเงิน และบ่าวสาวมอบให้แก่กันและกัน ทั้งคู่จะมีชีวิตรักที่มีความสุขตลอดไป