HTG2.club

Output Transformer แบบมี tap ด้าน primary เพือต่อกับ screen grid, % การ tap...

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ นิ่ม

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,142
    • เพศ:ชาย
  • หาหลอดถูกๆเสียงดีๆ ของฟรียิ่งชอบ
ขอแจมหน่อยครับ ลอกจากหนังสือ WHAT HI FI ไม่ทราบฉบับเพราะฉีกบางหน้าเก็บไว้ หลอดtriode ที่ขยายแบบPUSH-PULL มีปัญหาคืออัตราขยายต่ำ (ข้อดีคือความเพี้ยนต่ำ) ทำให้ต้องการภาคDRIVER ที่ให้กำลังขับสูงๆหรือต้องมีหลายSTAGESต่อมาเมื่อมีการผลิตหลอด TETRODEและPENTODEขึ้นปัญหานี้ก็หมดไป
หลอดTETRODและหลอดPENTRODให้กำลังได้มากกว่าแบบTRIODEมากแต่ข้อเสียคือความเพี้ยนมากกว่าจนนักฟังบางคนไม่ยอมรับ จึงมีคนปรับปรุงของวงจรขยายกำลังPUSH-PULLที่ใช้หลอดTETRODหรือPENTODEโดยนำscreen grid ไปต่อกับPlateทำให้หลอดทำงานในแบบTriode และมีความเพี้ยนน้อยลงให้เสียงคล้ายกับหลอดTriodeเป็นที่ยอมรับได้สำหรับนักฟังที่ไม่ชอบความเพี้ยน แต่อัตราการขยายและกำลังที่ได้ลดลงไปกว่าครึ่งของที่เคยได้ ถือเป็นการใช้งานหลอดTETRODEและPENTODEที่ไม่คุ้มค่า หลอดในกลุ่ม6L6 el34 6550 KT88 มีscreen grid ที่ทนแรงดันไฟฟ้าได้พอๆกับPlateจึงทำให้หลอดพวกนี้ทำงานในการต่อแบบTRIODEได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อหลอด
วงจรขยายกำลังPUSH-PULLแบบUltra-linear
หนังสือมีกราฟให้ดู1รูป เป็นการTrapขดลวดสำหรับSceen grid โดยทำขึ้นหลายๆตัวให้มีจุดTrapที่ RSL ต่างกันไปจาก 0 ถึง 1 นำหม้อแปลงเหล่านี้มาใส่ในวงจรขยายแล้ววัดค่า มีข้อที่น่าสังเกตดังนี้
1� Maximum Power Output จะลดลงช้าๆ(ตอนที่ RSL น้อยๆ)และจะลดลงอย่างเร็ว(เมื่อRSLมากๆ)
2� High Level Distrotion ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจาก Intermodulation� Distrotion จะลดลงไปต่ำสุดแล้วเพิ่มอย่างรวดเร็ว
3� Low Level Distrotion จะลดลงอย่างเร็วจากนั้นค่อยลดช้าลง
4� Internal Impedance จะลดลงอย่างเร็วจนเกือบต่ำสุดจากนั้นค่อยลดช้าลง
จากกราฟที่เค้าให้มา พบว่าตรงจุดที่ RSL ประมาณ 0.18 (หรือเรียกเป็น18%)นั้นเป็นตำแหน่งที่ Maximum Power Outputลดลงจากระดับของการต่อแบบTetrodเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่มีLow Level Distrotion ลดลงอย่างมาก แม้ว่ายังมากกว่าการต่อแบบ Triode ก็ตามแต่ก็มี High Level Distrotionต่ำสุด ถือว่าเป็นจุดประณีประนอมที่ดีที่สุด ดังนั้นวงจรที่ใช้หม้อแปลงเอ้าพุทที่มี RSLตรงจุดนี้(เรียกว่าจุด Ultra-linear)จะให้กำลังขับได้มากเกือบเท่ากับการต่อแบบTetrodแต่จะมีความเพี้ยนต่ำมากเกือบเท่ากับการต่อแบบTriode
จุดUltra-linerนี้ไม่ได้อยู่ที่ประมาณ18%เสมอไป แต่จะเปลี่ยนไปตามขนาดรูปร่างของหม้อแปลง เหล็กที่ใช้และคุณสมบัติของหลอดด้วย ยังไม่มีใครคิดหาวิธีคำนวณหาจุดนี้ออกมาได้จึงต้องได้มาจากการทดลองเท่านั้น มีแต่บริษัทใหญ่ๆที่มีทุนทำ researchของตัวเอง จึงจะสามารถหาจุด Ultra-linear ที่ถูกต้องของหม้อแปลงเอ้าพุทที่ผลิตได้ ข้อมูลเหล่านี้จะถูกปกปิดเป็นความลับทางการค้าและเขาจะพยายามสร้างหม้อแปลงให้แกะออกมาทำเลียนแบบไม่ได้
ไม่รู้จะตรงกับที่คุณ PONG ถามหรือเปล่า
ขอแค่นี้ครับผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12 ตุลาคม, 2005, 10:31:08 pm โดย นิ่ม »


ออฟไลน์ Help !!!

  • Guest (บุคคลทั่วไป)
  • Superstar...
  • *
    • กระทู้: 5,866
  • Please Help Thanks
ขอขอบคุณ คุณ surasakp และคุณ "มุมคนรักหลอด" ที่กรุณาให้ความกระจ่างกับผมในเรื่องนี้ ผมมีคำถามเพิ่มเติมครับ คือ การที่จะกำหนดว่าจะ tap กี่% นั้น ขึนอยู่กับอะไร(เพื่อให้ การทำงานของหลอดมีความเป็นเชิงเส้นมากที่สุด) ขอบคุณครับ

pong
กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่เพื่อนๆที่ยังไม่ได้สมัครสมาชิกฝากถามมา ก็ขอความอนุเคราะห์จากเพื่อนๆสมาชิก ช่วยตอบให้ด้วยนะคร๊าบผม...ขอบคุณมั่กๆครับ...


ออฟไลน์ Help !!!

  • Guest (บุคคลทั่วไป)
  • Superstar...
  • *
    • กระทู้: 5,866
  • Please Help Thanks
......................................................................
จากกระทู้เก่าๆ จับใจความได้ว่า ที่ B+ ที่ไฟเข้าคิดเป็น 0% จากนั้นก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆครับ จนกระทั่งที่เพลทคิดเป็น 100% ครับ ทีนี้จะ tab ที่กี่เปอร์เซ็นต์ก็ตามสบายครับ
.....................................................................
ถูกต้องครับ ตามที่คุณ surasakp ว่ามาครับ ผมขอเสริม อีกนิดครับ
    - การกำหนด ratio of sgreen load (มีชื่อย่อว่า RSL)
เป็นอัตราส่วนระหว่าง load ที่ sgreen grid กับ plate ซึ่งการต่อดังกล่าวเป็นการนำคุณสมบัติของหลอด tetrode มาทำงานเป็นแบบ tetrode กับ triode ถ้าเรานึกถึงภาพเครื่องเสียงหลอดแบบโบราณ เข้ามักจำนำ screen gride ต่อเข้าโดยตรงกับ power supply การต่อ screen gride  ไปผูกที่แรงดันไฟโดยตรงในลักษณะเช่นเพื่อต้องการกำลังสูงสุดของการทำงานหลอด การต่อดังกล่าวเราจะมองเห็น screen gride มีค่าเป็นศูนย์ (0) หรือ RSL = 0 และเมื่อมีการเลื่อนจุดต่อของ screen gride  ไปจนถึง plate กลายเป็นการต่อแบบ triode หมายความว่าเรานำ screen gride ไปต่อโดยตรงที่ plate ซึ่งหลอดเปลี่ยนการทำงานเป็น triode ทันที ซึ่ง ณ จุดนี้ เราเรียกว่า RSL เป็น 1 เมื่อ screen gride  แตะที่ plate จึงเท่ากับ 1 เมื่อ ลดจุดต่อในแทปหม้อแปลง opt ลงมาเรื่อย ๆ จนถึง แทปกลาง ซึ่งเป็นจุดไปที่แรงดันศูนย์ (0) แต่ละจุดซึ่งเริ่มจาก plate ลงมาที่จุดศูนย์ (0) ค่ากำหนดการแทปจะลดลงเป็น 1-0.9-0.8-0.7-0.6-0.5-0.4-0.3-0.2-0.1-0 (ณ จุดศูนย์ (0) นี้หลอด tetrode เป็นหลอด tetrode อย่างสมบูรณ์) เมื่อเลื่อนขึ้นไปที่ 0.1 หลอด tetrode  เริ่มเป็นหลอด triode ที่ละนิด (มองภาพออกหรือไม่ครับ) ใน 0.1 ยังแบ่งสเกลออกอีก 10 ส่วน ณ ส่วนตรงนี้ก็คืออัตราเปอร์ของแทปครับ เช่น เราเลื่อนจุดแทปไปที่ 0.1 ค่าตรงนี้คือ 10 เปอร์เซ็น ของอัตราการคำนวณ RSL ครับ ไม่ได้คิดจากอัตราส่วนร้อยละเปอร์เซ็นเหมือนกับสูตรคณิตศาสตร์ ครับ ดังนั้นเราต้องสร้างสเกลก่อนการกำหนดจุพอทเอง แล้วจึงไปคำณวนหาอัตรารอบตามสูตรการคำนวณหม้อแปลง opt ครับ


มุมคนรักหลอด
กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่เพื่อนๆที่ยังไม่ได้สมัครสมาชิกฝากถามมา ก็ขอความอนุเคราะห์จากเพื่อนๆสมาชิก ช่วยตอบให้ด้วยนะคร๊าบผม...ขอบคุณมั่กๆครับ...


ออฟไลน์ สุรศักดิ์

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,234
    • เพศ:ชาย
จากกระทู้เก่าๆ จับใจความได้ว่า ที่ B+ ที่ไฟเข้าคิดเป็น 0% จากนั้นก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆครับ จนกระทั่งที่เพลทคิดเป็น 100% ครับ ทีนี้จะ tab ที่กี่เปอร์เซ็นต์ก็ตามสบายครับ


ออฟไลน์ Help !!!

  • Guest (บุคคลทั่วไป)
  • Superstar...
  • *
    • กระทู้: 5,866
  • Please Help Thanks
Output Transformer แบบมี tap ด้าน primary เพือต่อกับ screen grid, % การ tap นับจากด้าน center tap ไปด้าน plate หรือจากด้าน plate ไป center tap

Pong
กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่เพื่อนๆที่ยังไม่ได้สมัครสมาชิกฝากถามมา ก็ขอความอนุเคราะห์จากเพื่อนๆสมาชิก ช่วยตอบให้ด้วยนะคร๊าบผม...ขอบคุณมั่กๆครับ...