HTG2.club

ถามเรื่อง R หน่อยขอรับ

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ EaGLEViEW

  • ****
    • กระทู้: 466
    • เพศ:ชาย
ที่ผมเรียนมาเค้าบอกว่าพวก wirewound ก็ noise น้อยที่สุดนะครับเมื่อเปรียบเทียบกับพวก carbon-comp หรือ carbon-film   เพียงแต่ที่ความถี่สูงๆอาจจะเกิด Resonance ได้ครับ
ข้อมูลส่วนตัวครับ

http://www.htg2.net/index.php?topic=53520.0


ออฟไลน์ remus

  • ***
    • กระทู้: 208
แล้วถ้าเกิดว่า ความไวของลำโพง ไม่เท่ากัน มันมีสูตรมั้ยครับ ว่า ถ้า จะดรอปความไว ลง 2db  จะต้อง ใช้ค่าที่เท่าไหร่ครับ   

ใช้ตามนี้ก็ได้ครับ สะดวกดีมาก เห็นน้า Malako เอามาแปะไว้อีกกระทู้นึง http://www.diyaudioandvideo.com/Calculator/LPad/

การใช้ R ลดความไวเสียงหลมในทางปฏิบัติจริงต้องปรับจูนด้วยการฟังอีกทีครับ ปรับค่าจนกระทั่งเสียงกลาง-แหลม สมดุลย์กันที่สุด ผมมักใช้ R ตัวเดียวอนุกรมกับวงจรเน็ตเวอร์คของเสียงแหลม (โดยต่อไว้ก่อน C) แล้วปรับเปลี่ยนค่าจนได้เสียงที่ลงตัว แต่ในการออกแบบลำโพงที่ดีควรเลือกความไวของลำโพงเสียงทุ้มกับเสียงแหลมให้ใกล้ๆกัน เพื่อที่เวลาทำเน็ตเวอร์คจะได้ไมต้องใช้ R มาลดความไว ซึ่งมันจะทำให้ความสดใสของเสียงแหลมลดลงครับ
c) c) c) c) c) c)


ออฟไลน์ คนไกลบ้าน

  • *****
    • กระทู้: 786
    • เพศ:ชาย
แล้วถ้าเกิดว่า ความไวของลำโพง ไม่เท่ากัน มันมีสูตรมั้ยครับ ว่า ถ้า จะดรอปความไว ลง 2db  จะต้อง ใช้ค่าที่เท่าไหร่ครับ   

ใช้ตามนี้ก็ได้ครับ สะดวกดีมาก เห็นน้า Malako เอามาแปะไว้อีกกระทู้นึง http://www.diyaudioandvideo.com/Calculator/LPad/

การใช้ R ลดความไวเสียงหลมในทางปฏิบัติจริงต้องปรับจูนด้วยการฟังอีกทีครับ ปรับค่าจนกระทั่งเสียงกลาง-แหลม สมดุลย์กันที่สุด ผมมักใช้ R ตัวเดียวอนุกรมกับวงจรเน็ตเวอร์คของเสียงแหลม (โดยต่อไว้ก่อน C) แล้วปรับเปลี่ยนค่าจนได้เสียงที่ลงตัว แต่ในการออกแบบลำโพงที่ดีควรเลือกความไวของลำโพงเสียงทุ้มกับเสียงแหลมให้ใกล้ๆกัน เพื่อที่เวลาทำเน็ตเวอร์คจะได้ไมต้องใช้ R มาลดความไว ซึ่งมันจะทำให้ความสดใสของเสียงแหลมลดลงครับ


ออฟไลน์ orosmanson

  • **
    • กระทู้: 92
แล้วถ้าเกิดว่า ความไวของลำโพง ไม่เท่ากัน มันมีสูตรมั้ยครับ ว่า ถ้า จะดรอปความไว ลง 2db  จะต้อง ใช้ค่าที่เท่าไหร่ครับ   

ที่อยู่ค้าบบบบบบบบบบบ 
 http://www.htg2.net/index.php?topic=48174.0


ออฟไลน์ พี่ดุ้น

  • เบื่อ
  • ผู้สนับสนุน web
  • *
    • กระทู้: 436
    • เพศ:ชาย
ขอบคุณมาก ๆ เลยครับได้ความรู้อีกแล้ว ^_^     O0

แล้วถ้าอย่างทำครอสโอเวอร์เน็ตเวริุค ตำแหล่งการใส่ R ระหว่าง ก่อนหน้า C และ วาง หลังC ก่อนวิ่งเข้า ลำโพง เสียงแตกต่างกันมั้ยคั้บ

แล้วค่า โอมห์ ที่ได้ต่างกันรึป่าวครับ

สำหรับความคิดเห็นของผมนะครับ การทำ cross over network ทำให้ดีจริงๆไม่ไช่เรื่องง่าย จริงๆคือต้องรู้คุณสมบัติของแต่ละดอกด้วยว่าจะติดกันยังไง cross over แบบ high level (อยู่ระหว่าง power amp กับ ดอกลำโพง) ผมเองก็ยังไม่เคยทำ ถ้าจำทำจริงๆมันต้องวัดนะครับ ถ้าใครได้เรียนอิเล็กทรอนิกส์มาคงต้องทราบว่า ผมตอบสนองของวงจร filter ที่ออกแบบมันขึ้นอยู่กับ impedance ของ source คือ o/p impedance ของ power amp และ load คือ ดอกลำโพงแต่ละดอกนั้นเอก พอเอา filter 3 ตัวมาต่อรวมกัน มันก็เหมือนวงจร แยกความถี่ หรือ demultiplexer นั่นเอง ทำให้ดีต้องทำไปวัดไป ผลมันก็ขึ้นอยู่กับสายและชนิดของ ampifier ด้วย จะเห็นได้ว่าคนที่เชี่ยวๆอย่างเจ้าของร้านขายที่เขาเล่นอยู่ประจำเขาจะต่อแล้วก็ฟังเขาจะรู้ว่า amp ยี่ห้อนี้ match กับสายนี้ กับลำโพงยี่ห้อนี้่ เขาก็ หำะ ไว้ให้เรียบร้อย สบายลูกค้า ทำลำโพงจริงๆทำยากครับต้องทำไปวัดไปปรับไปแล้วก็ใช้หูฟังช่วย ถ้าขึ้นอยู่กับความชอบก็ปรับกันตามสบายคอยแก้กันไปตามเพลงที่เอามาเล่นด้วย อย่างที่บอกมาข้างต้น o/p impedance ของ power amp นี่ขึ้นอยู่กับ o/p power ด้วย เพราะฉะนั้น ไม่มีอะไร perfect เขาก็พยายามทำให้มันอยู่ที่จัด optimum ซักที่นึง กว่าจะได้มาก็คงไม่ไช่เรื่องง่าย

นอกเรื่องแล้ว กลับมาที่ R ดีกว่า ความเห็นผม noise ของ R เนี่ยน่าจะมีผลน้อยกับสัญญาณที่ออกมาทาง o/p ของ power amp เพราะว่าระดับ noise มันต่ำเมื่อเทียบกับขนานสัญญาณที่ออกจาก power amp มา แต่ก็มไม่แน่พอเบาเพลงลงอาจจะได้ยินก็ได้ (ร้อนจี๋)  จริง noise ของ R จะมีผลที่ front end ของวงจร ที่เรื่องจาก o/p DAC เลย แล้วก็ i/p ของ pre amp สิ่งที่น่ากังวลของ R หลังจาก power amp น่าจะเป็นค่าสัมประสิทธิ์ทางอุณหภูมิต่างๆ แล้วก็ ถ้าเป็นพวก wirewound นี่คงต้องระวังเรื่องสนามแม่เหล็กค้างซึ่งเป็นตัวทำให้เกิด distortion สำหรับวัสดุ composit ไม่รู้จะมีผลนี้ป่าวแต่ noise เยอะแน่นอนเพราะ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าทำมาจากวัสดุผสมไม่รู้ยำอะไรกันเข้าไปมั่ง noise ของ วัสดุ composit กำเนิดจาก ค่า galvanic จากวัสดุที่แตกต่างกันนั่นเอง spec ที่น่าสนใจ อย่างเช่นพวก thermal EMF เป็นต้น C ก็ตัวดีเหมือนกัน 

ซื้อของแพงครับ ของดีดีมันก็เลยแพงๆ

เรื่องไส่ก่อนไส่หลังนี่ไม่รู้อะครับ ถ้าให้ผมไส่ผมก็ไส่ก่อนละครับ ผมก็ไม่รู้วงจรเป็นไงถ้ามองกันแบบง่ายๆทั่วไปก็เป็นการลด damping เนื่องจาก capacitive โหลด

เบื่อ


ออฟไลน์ คนไกลบ้าน

  • *****
    • กระทู้: 786
    • เพศ:ชาย
ขอบคุณมาก ๆ เลยครับได้ความรู้อีกแล้ว ^_^     O0

แล้วถ้าอย่างทำครอสโอเวอร์เน็ตเวริุค ตำแหล่งการใส่ R ระหว่าง ก่อนหน้า C และ วาง หลังC ก่อนวิ่งเข้า ลำโพง เสียงแตกต่างกันมั้ยคั้บ

แล้วค่า โอมห์ ที่ได้ต่างกันรึป่าวครับ

ถ้าเป็นเน็ตเวอร์คชนิดออเดอร์ที่ 1 แล้วไม่มีวงจรชดเชยอิมพีแดนซ์ที่ตัวลำโพงเสียงแหลม เสียงไม่ต่างครับ
แต่ถ้าเป็นแบบออเดอร์ 2 ขึ้นมาหรือมีการใส่วงจรชดเชยอิมพีแดนซ์ การใส่ R แต่ละตำแหน่งเสียงจะต่างกัน ผมมักจะเลือกใส่ R ก่อน C เสียงที่ได้ส่วนมากจะสดใสกว่า


ออฟไลน์ orosmanson

  • **
    • กระทู้: 92
ขอบคุณมาก ๆ เลยครับได้ความรู้อีกแล้ว ^_^     O0

แล้วถ้าอย่างทำครอสโอเวอร์เน็ตเวริุค ตำแหล่งการใส่ R ระหว่าง ก่อนหน้า C และ วาง หลังC ก่อนวิ่งเข้า ลำโพง เสียงแตกต่างกันมั้ยคั้บ

แล้วค่า โอมห์ ที่ได้ต่างกันรึป่าวครับ
ที่อยู่ค้าบบบบบบบบบบบ 
 http://www.htg2.net/index.php?topic=48174.0


ออฟไลน์ Sarawut

  • **
    • กระทู้: 98
    • เพศ:ชาย
ผมเข้าใจผิดมานาน ว่า R แบบ Carbon-composite มี noise น้อยสุด ขอบคุณคุณ rflover ครับ

http://www.electronics-tutorials.ws/resistor/res_1.html

http://www.aikenamps.com/ResistorNoise.htm
ข้อมูลที่อยู่ครับ.  http://www.htg2.net/index.php?topic=32909.0


ออฟไลน์ พี่ดุ้น

  • เบื่อ
  • ผู้สนับสนุน web
  • *
    • กระทู้: 436
    • เพศ:ชาย
R แบบ Carbon-composite มี noise เยอะสุดนะครับ (noise ห่วยสุด) คงให้เสียงเหมือน analog มากสุดพราะ noise เยอะ

Thin film มี noise ต่ำสุดครับในบรรดา ที่กล่าวมาทั้งหมด หาซื้อยากชิบเป๋งผมนิยมเอามาทำ Vtune ของ VCO ในวงจร PLL และเอามาใช้กับ R ที่ใช้ปรับ vout สำหรับregulator แบบปรับค่าได้ด้วย

การเลือกใช้ R ก็ขึ้นกับวงจรด้วยครับ ไม่ใช่พอบอกว่าพอเป็น R dale แบบ axial  แล้วจะสุดยอด เอาไปใช้กับวงจร digital หรือ ความถี่สูง ได้ดี
เบื่อ


ออฟไลน์ Sarawut

  • **
    • กระทู้: 98
    • เพศ:ชาย
ลืมอีกแบบที่ใช้กันมากที่สุดครับ R แบบ Metal Film มีหลากหลายรุ่นและเกรด ดูได้จากที่นี่ครับดียวกับ
ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นอันเดียวกับ Metal Oxide

http://www.vishay.com/resistors-discrete/

คุณสวัสดิ์ รวมไว้ครับ.
http://wathienddiy.blogspot.com/2010/06/resister-for-audio.html



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 กันยายน, 2010, 09:01:58 am โดย Sarawut »
ข้อมูลที่อยู่ครับ.  http://www.htg2.net/index.php?topic=32909.0


ออฟไลน์ คนไกลบ้าน

  • *****
    • กระทู้: 786
    • เพศ:ชาย
ว่ากันเฉพาะตัวยอดฮิตที่พอหาซื้อกันได้ไม่ยากนะครับ
-Cabon film 5% (Royal Ohm) เสียงนุ่มนวล เรียบง่าย เนื้อเสียงหนาใช้ได้
-Metal film 1% (Royal Ohm) เสียงออกคม ใสพอประมาณ เนื้อเสียงออกแนวนางแบบ (ผอมเพรียว)
-Metal film (Dale RN60, RN65) เสียงคมชัด เคลียร์ เนื้อเสียง+รายละเอียดอยู่ในขั้นดี
-Cabon composition ผมเคยลองแต่ใส่ตามอินพุตของเส้นทางเสียง ผลออกมาจัดว่าดีมาก หากต้องการจะใช้ R ชนิดนี้ ต้องระวังเรื่องค่าผิดพลาดด้วย

นอกจากนี้ R แต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อ ก็ให้แนวเสียงไม่เหมือนกัน ว่ากันไปตามชอบของแต่ละคนครับ ที่สำคัญการฟังความแตกต่างของ R นั้นต้องใช้สมาธิสักหน่อย อาจไม่ได้ยินกันจะๆ แบบพวก C
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 กันยายน, 2010, 08:54:04 am โดย คนไกลบ้าน »


ออฟไลน์ pansak

  • *****
    • กระทู้: 616
ขอแสดงความคิดเห็นนะครับ
R แบบ Carbon-composite ค่าไม่ค่อยเที่ยงตรงใช้ไปมีการเปลี่ยนแปลงได้  TC สูง แต่ Noise ต่ำสุด เหมาะสำหรับทางผ่านเสียงและจุดที่ต้องการ Noise ต่ำ ไม่เหมาะกับส่วน Feedback (gain control) หรือส่วนการควบคุมใดๆ
R แบบ Carbon-Film ใช้งานทั่วไป ราคาถูก
R แบบ Metal Oxide-Film ใช้แทน Carbon Film ดีกว่า Carbon-Film ทุกด้าน ยกเว้น Noise แพ้นิดหน่อย
R แบบ WW เป็นลวดความต้านทานพัน ทนกำลังได้สูง คุณสมบัติขึ้นอยู่กับลวดที่ใช้
R แบบ Thick Film มีความเที่ยงตรงสูง TC ต่ำ ทนกำลังสูง ราคาแพง เหมาะกับส่วนการควบคุมกระแส
R แบบ Thin Film  มีความเที่ยงตรงสูง TC ต่ำ ทนกำลังต่ำ ราคาไม่แพงมาก เหมาะกับส่วน Feedback (gain control)
รบกวนครับ มีรูปของ R แต่ละแบบให้ดูบ้างไหม ขอบคุณครับ

     พันธุ์ศักดิ์


ออฟไลน์ Sarawut

  • **
    • กระทู้: 98
    • เพศ:ชาย
ขอแสดงความคิดเห็นนะครับ
R แบบ Carbon-composite ค่าไม่ค่อยเที่ยงตรงใช้ไปมีการเปลี่ยนแปลงได้  TC สูง แต่ Noise ต่ำสุด เหมาะสำหรับทางผ่านเสียงและจุดที่ต้องการ Noise ต่ำ ไม่เหมาะกับส่วน Feedback (gain control) หรือส่วนการควบคุมใดๆ
R แบบ Carbon-Film ใช้งานทั่วไป ราคาถูก
R แบบ Metal Oxide-Film ใช้แทน Carbon Film ดีกว่า Carbon-Film ทุกด้าน ยกเว้น Noise แพ้นิดหน่อย
R แบบ WW เป็นลวดความต้านทานพัน ทนกำลังได้สูง คุณสมบัติขึ้นอยู่กับลวดที่ใช้
R แบบ Thick Film มีความเที่ยงตรงสูง TC ต่ำ ทนกำลังสูง ราคาแพง เหมาะกับส่วนการควบคุมกระแส
R แบบ Thin Film  มีความเที่ยงตรงสูง TC ต่ำ ทนกำลังต่ำ ราคาไม่แพงมาก เหมาะกับส่วน Feedback (gain control)
ข้อมูลที่อยู่ครับ.  http://www.htg2.net/index.php?topic=32909.0


ออฟไลน์ Audio Boy

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,148
    • เพศ:ชาย
  • สังคมจะดีกว่านี้ ถ้ามี "ผู้ให้" มากกว่า "ผู้รับ"
มันก็แล้วแต่ว่าใช้งานตรงส่วนไหนของวงจร  ถ้าใช้ตรงจุดที่มีสัญญาณเสียงผ่าน  ก็จะมีผลต่อเสียงอย่างชัดเจน  อยากให้ลองเองมากกว่าครับ   เพราะสิบปากว่า ยังไม่เท่าไหร่สัมผัสด้วยตัวเอง

ชนิดไหนชอบไม่ชอบอย่างไร  จะได้เป็นแนวทางไว้สำหรับโมต่อ  ได้ประสบการณ์หูอีกตังหากขอรับ  ;)


ออฟไลน์ orosmanson

  • **
    • กระทู้: 92
คือว่า R หรือตัวต้านทาน  แต่ละชนิด มันให้คาแร็กเตอร์ทางเสียงที่ต่างกันใช่มั้ยขอรับ

แล้วแต่ละแบบมีคาแร็กเตอร์ยังไงบ้างขอรับ จะได้มีเอาไว้เลือกตามความต้องการเสียงที่อยากได้ขอรับ

ขอบคุณมากๆ ขอรับ

ที่อยู่ค้าบบบบบบบบบบบ 
 http://www.htg2.net/index.php?topic=48174.0