หัวข้อ: มาส่องดูข้างใน XO กันว่า มีอะไรมั่ง??? <--- มีมาเพิ่มอีก 3 ตัว

[พี่ดุ้น]

ขอ power supply ของ tent lab ด้วยนะ แค่เอามาดู ถ้ามี

ไม่รู้ขายไปได้ไง 39 URO ( ประมาณ 1500 บาท) ทั้งวงจรมีน่าสนใจแค่ diode ข้างๆ OPA2134 เดาได้เลยว่าเป็น high speed swicthing diode ของ philips อิอิ

[Artafact]

อ้อ ไอซีเลย ...เดี๋ยวกำลังหา tenlab ที่ขาหักอยู่ ถ้าเจอ จะกริ๊งไปบอกละกันนะครับ

[พี่ดุ้น]

ใช้กล้องที่ใช้ส่องดูดาวพลูโต

ปล.เกรนด์การด์ เห็น งานตัวจริง ที่เค้าเอามาชำแหละให้ดู เทียบราคากับงานแล้ว ท่าจะรับไม่ไหวนะ แต่เมื่อฟังเสียงแล้ว มีหลายคนอยากได้ตัวจริง แปลกดี  ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันครับ

นั่นมัน analog ความถี่ต่ำเทียบกันไม่ได้ครับ ไม่งั้นพวกหลอดที่ทำ hardwire กันก็ฟังกันไม่ได้แล้ว และลายวงจรถึงจะทำเละๆก็แค่ไม่สวย และทุกอย่างที่เขาทำมันสั้นอยู่ใน PCB แผ่นเล็ก

ทั้งนี้ทั้งนั้น แค่เอามาผ่าดูเล่นๆให้ดูความแตกต่างและ process การผลิตของแต่ละยี่ห้อ ยังรอคนบริจาค TCXO แบบชัวๆมาให้ผ่าอยู่นะครับ 

[Mr. Tube]

ขอบใจที่เอามาผ่าให้ดูตั้งหลายตัว เห็นด้วยว่าของจีนจุดอ่อนเพียบ อย่างน้อยถ้าแกะมาทำ Supply ใหม่ กับ Matching Output ให้เหมาะกับ Load ก็น่าจะได้คุณภาพที่ดีขึ้นนะ 

[Artafact]

http://shop35009600.taobao.com/

[Artafact]

ใช้กล้องอะไรส่อง ถึงเห็นขนาดนั้น น่ายื้มมาส่องพระที่บ้านหน่อย ครับ
ล้อเล่น นะ เราทำเรื่องเสียง มันคงต้องทดลองกันจากผลลัพท์ที่ออกมามากกว่านะครับ ไม่ว่าจะ ออกแบบมาแบบไหน คงสรุปว่าได้เสียง ที่ดีขึ้นกว่าเดิมไหม แต่ถ้าหากว่าสามารถปรับปรุง ให้มันดีขึ้น จากที่มันเป็นอยู่ ทดลองนำมาใช้เปรียบเทียบกับตัวเดิมแล้ว แหล่มขึ้น ก็เยี่ยมเลยครับ (ขอบคุณที่หามาผ่าให้ดูนะหลายตังค์เลยนะนั่น)พอดีมี ตัวแบบ จีน ใช้อยู่หลาย เบอร์ เดี๋ยวจะลอง โมตามคำแนะนำ ดูครับ กลับมาคราวนี้ เล่นของใกล้ตัวเลย อิจฉาคนมีเครื่องมือ แพง ๆ จัง วุ้ยยยย  
ปล.เกรนด์การด์ เห็น งานตัวจริง ที่เค้าเอามาชำแหละให้ดู เทียบราคากับงานแล้ว ท่าจะรับไม่ไหวนะ แต่เมื่อฟังเสียงแล้ว มีหลายคนอยากได้ตัวจริง แปลกดี  ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันครับ

[พี่ดุ้น]

ขายได้อะ รวยด้วย

[Dash]

จีนใช้หลักการของหยูครับ  พอ(ขยะ)ทุกอย่างรวมกันเป็น 1  สิ่งที่ไม่เคยเกิดก็เกิดขึ้นได้  
ประเทศจีนน่าทึ่งตรงนี้จริงๆ, แถมขายดีด้วย.
 

หลักการของจีนฟังดูเหมือนโง่ๆ แต่แฝงด้วยแนวคิดอันลึกล้ำ ข้าน้อย ด้อยปัญญา ขอคารวะ

[Sarawut]

จีนใช้หลักการของหยูครับ  พอ(ขยะ)ทุกอย่างรวมกันเป็น 1  สิ่งที่ไม่เคยเกิดก็เกิดขึ้นได้   
ประเทศจีนน่าทึ่งตรงนี้จริงๆ, แถมขายดีด้วย.
 

[พี่ดุ้น]

ถ้าดูจากวงจรที่เกะมาได้ง่ายๆ ก็จะเห็นได้ว่า ถูกจีนต้มซะเปื่อย
clock ปกติ ชาวบ้านใช้ 5V มันก็ทำ 5V ออกมาให้ ซึ่ง clock สมัยใหม่เนี่ย ใช้ไฟแค่ 3.0-3.6V มันก็เลยต่อวงจรแบ่งแรงดันจาก 5V ลงมาเป็น 3V ให้ซะเลย
ไปหาไปเอา regulator 5V ไฮโซ แค่ไหน ไปจ่ายให้ ผมมีความรู้สึกว่ามันจะสูญเปล่าเพราะไฟคงนิ่งที่ ขา 5V ที่เดียว หลัง R 200 โอห์มแล้วแกว่งได้เรื่อยตามอารมณ์ของ load ว่าเวลาไหนอยากกันเท่าไหร่
ยังไม่พอยังแบ่งแรงดันจากตรงที่แบ่งมาแล้วไป bias เพื่อจูนให้ ให้ได้ความถี่ที่ต้องการ จริงๆเขาก็ทำถูกนะครับแต่ที่ผิดคือ ไปเอาไฟมาจากหลัง R 200 โอห์ม แถมที่สำคัญไม่มี C bypass ตรงขา Vcontrol ซักตัวลง ground 2 อย่างตรงนี้ ต้นตอของ jitter เลยครับ
o/p จาก oscillator ออกมา ใช้ ac coupling เหมือนเอาไปเข้าวงจรขยายทั่วไปแล้วอัดไส่อะไรซักอย่างนึง คิดว่าไม่ไช่ IC logic เดาว่าน่าจะเป็น comparator ที่ supply rail 5V ... ไม่รู้อะฮะ ผมไม่ได้เอา scope จับ ขี้เกียจ
รูปที่ล่าง ground ก็ไม่ดี ไม่รู้จะทำไปทำไม

เนื่องจากไม่มีเวลาถ้ามีเวลาคราวหน้าจะจับยัดเข้าตู้วัด -40 กับ 80องศา อยากรู้เหมือนกันว่าไอ้ 1ppm ที่ว่า ppm อะไร

สรุปลื้ออกมาทำใหม่ท่าจะดีกว่า ของจีนตัวนี้ เขาว่าเสียงดี
ผมไม่รู้เรื่องเสียงนะครับถ้าว่ากันโดยหลักการแล้ว คนออกแบบนี่ ไม่ไหวเลยครับ

[พี่ดุ้น]

อันสุดท้าย Clock ของจีน
เกะง่าย ดูข้างในแล้วน่าตาไม่น่าคบเท่าไหร่ พี่แกเล่นเอา อะไรก็ไม่รู้ซักเดาได้ 2-3 อย่าง คือ 1. VCXO ไม่ก็ 2. VC-TCXO 3.VCO(VCO คิดว่าไม่น่าใช่แต่ก็ยังสงสัย)
แต่ที่แน่แน่ มี Vcontrol แล้วเวลาปรับค่า R ความถี่จะเปลี่ยนไปในทศนิยมหลักที่ 3 ถึง 4 เอง

[พี่ดุ้น]

ตัวยี่ห้อต่อไป ตัวถังสี่เหลี่ยมเล็ก มุกเดิมเหมือนอันข้างบน ใช้ crystal กับ IC อะไรก็ไม่รู้

[พี่ดุ้น]

Rasco (ต่อ)
zoom เข้าไปหน้าตาเป็นแบบนี้ transistor มีเป็น 100 ดูไม่รู้เรื่อง

[พี่ดุ้น]

Rasco plus (ต่อ)
ตัว clock ตัวนี้ ใช้ die แบบไม่มี package โดยใช้ลวดทอง wirebond ขนาด 1mil เชื่อมเอา และทำ die attach โดย silver epoxy กัน รูปที่ 1 จะเห็นว่า wirebond บี้และ die แตกขอบล่างนิดหน่อย เนื่องจากผมทำรุนแรงไปหน่อย ก็เลยเตะเอาลวดออกซะ

[พี่ดุ้น]

อันนี้เป็น clock low jitter รุ่น Rasco plus ซึ่งเปิดฝาดูข้างในแล้วใช้ chip เป็นของ motolora จะเห็นได้ว่าบน crystal ได้ sputtering ด้วยทองลงไป ตรงฐานก็ใช้ silver expoxy อีกเช่นกัน จะเห็นว่าเกร็ดเงินเพียบ

[Artafact]

กลับมาแล้วเหรอ 
เดี๋ยวไปค้น รุ่นอื่นที่บ้านมาให้ผ่าดูนะ
http://www.analog2go.com/literature/00924b.pdf

[Dash]

ขอตอบหน่อยนะครับ เนื่องจากเดยทำงานด้านนี้มานิดหน่อยก่อนอื่นขอชมว่า เก่งมากเลยนะครับที่เจียรเปิดฝาได้ มันเปิดยากมากๆ โดยที่มันไม่พัง
ปกติที่ผมเคยทำจะเจียรตรงขอบแล้วใช้คัทเตอร์คมๆ แงะออก ต้องใช้ฝีมือและความอดทนสูง จำได้ว่าเคยนั่งแกะแบบนี้หลายสิบตัวต่อวัน
ที่แกะมาให้ดู มันออกจะโบราณไปหน่อย
ที่ผมเคยทำนะเป็น TCXO Temperature Compensated Crystal Oscillators คือมีค่าความผิดพลาดต่ำมากๆ ประมาณ 0.xx ppm (จำไม่ค่อยได้แล้ว )
แล้วไม่เปลี่ยนแปลงค่าความถี่ตามอุณหภูมิ ปกติ Crystal ทั่วไปความถี่จะเปลี่ยนแปลงตามอุณหภูมินะครับ แต่ตัวกำเนิดความถี่แบบนี้จะใช้ crystal ร่วมกับวงจรอิเล็กทรอนิคส์
ในการควบคุมความถี่จึงมีค่าความผิดพลาดต่ำ วงเป็นแผ่นซิปอยู่ด้านหลังที่เทเรซินทับไว้นะครับ

ยังมีอีกหลายแบบที่ดีกว่านี้นะครับ ถือว่าเล่าสู่กันฟังครับ

[พี่ดุ้น]

แบบที่ 2)

[พี่ดุ้น]

แบบที่ 1 ต่อ

[พี่ดุ้น]

รูป dale แบบที่ 1)

[พี่ดุ้น]

พอดีมี clock 18.432 ที่ใช้กับ 48, 96, 192kHz ยี่ห้อ Dale กับยี่ห้อธรรมดา ทั่วไปมา เลยเอาไปเจียฝาออกหวังจะดู die ข้างในเพราะที่เคยใช้เครื่อง milling ผ่าฝาออกมาเจอ bare die ที่มี wire bond มาที่ lead frame หวังว่าเจอแบบนั้น จะได้ใช้กล้อง 500 1000 เท่าส่องมาให้ดู

จากรูปทั้งสองจะเห็นว่าเจียผิด ทำ รุ่นแรงไปหน่อย crystal แตกกระจายกลายเป็นผุยผง เหลือไว้ให้แต่ component ข้างในให้มาดูกัน แล้วก็ผิดหวังอย่างแรง ไม่มี bare die เลยใช้กล้องความระเอียดต่ำส่องให้ดูแทน

1) จากรูปแรกจะเป็น ของ daleตัวถังแบบใหญ่ จะเห็นได้ว่า crystal แตกไปแล้ว เหลือแต่ซากติดอยู่กับตัวฐานรองที่เป็นโลหะชุบทองทางด้านขวา ส่วนโลหะชุลทองทางด้านซ้ายก็กระเด็นกระดอนหายไปแล้ว จากรูปจะเห็นได้ว่าใช้อุปกรณ์ SMD ทั้งหมด โดยการผลิตเดาว่าใช้ solder reflow ก่อนเพื่อติด C กับ transistor แล้วก็ อะไรก็ไม่รู้ (T,Y,7) 3 ตัวเดาว่าน่าจะเป็น C แบบคุณภาพดี ซึ่ง T กับ Y จะเป็น C load สำหรับตัว crystal ซึ่งน่าจะใช้ตะกั่วเงิน

จะเห็นได้ว่า ฐานรองสีทอง จะใช้ silver epoxy เชื่อมเข้ากับ PCB แล้วก็ crystal
ส่วน สีดำๆนั่นคือ resistor ครับ ซึ่งวงจรจะถูกจูนแบบละเอียดด้วย Lazer ไม่รู้ว่าจูนตอนไหนแต่ขอเดาว่า จูนตอน test (ราคาน่าจะกว่าแบบที่สองอันถัดไป).

ดูลวกๆแล้วก็น่าจะวงจรใช้มุกมาตรฐาน D3B เป็น oscilltor ส่วน D1J เป็น amp ทำงานที่ sat ให้สัญญาณสี่เหลี่ยมออกมา (แต่ไม่สวย) จากการเดา

2) XO สี่เหลี่ยมธรรมดา
ทำพังอีกเหมือนกัน แต่ดูแล้วก็ธรรมดาจริง เหมือน IC logic gate แบบ package ตัวเดียว กับ crystal แล้วก็ C bypass 1 ตัว สปริงสีทองนั่นเดาว่าเป็นฐานรอง crystal
ไม่มีการจูน process การทำง่ายมาก ซึ่งควรจะถูกว่าแบบแรกและความเม่นยำน้อยกว่า

-----------
ใครสงสัยของตัวเองส่งมาให้ดูได้นะครับ จะใช้วิธีที่ดีกว่านี้เปิดให้

สังเกตุดูจาก oscillator บางตัวทั่วไปจะมีรู แล้วเห็น บากกากบาทไว้ให้จูน ไอ้ตัวนั้นคือ C ค่าต่ำๆไว้สำหรับ find tune น่าจะเห็นผลที่ทศนิยาม 2-3 ตำแหน่ง เดาอะครับไม่เคยทำ ปกติหลังจูนเสร็จเขาก็ควรจะหล่ออะไรไว้กันคนมือบอนไปจูนเล่นหรือไม่ก็กันเลื่อนดันเผลือทำตก ถ้าซื้อ TCXO แล้วลองแงะดู ถ้าไม่เจอ thermistor กับ varactor diode ข้างในก็ถือเอาว่าโดนต้ม TCXO ทั่วไปผมเชื่อว่าเป็นแบบ direct compensation ไม่กล้าแงะครับแพงเหลือเกิน
ถ้าเป็น oscillator ใช้ package แบบมีรู ผมว่าแงะออกมาก็เจอ crystal แบบตัวถึงเหล็กข้างใน เอ แต่ว่าเราใช้กันถึงที่ -40 กับ 80 องศากันเลยเหรอครับ การทำ temperature compensation มันมาจากผลการวัดแล้วก็ปรับค่าให้มันได้ พอมา run เป็น production เขาก็น่าจะสุ่ม test ที่ over temperaature เอา ผมเองก็ไม่กล้าซื้อ TCXO ย่าน audio มาผ่าดู ตัวนึงแพงเหลือเกิน ผ่าไม่ลง