พาเมียกับน้องเมียไปดูมา หนังก็ OK ครับ แต่ถ้าจะให้ผมวิจารณ์โดยอ้างอิงเกณฑ์การให้ดาวของ Leonard Maltin (ความสามารถของผมไม่ได้สัก 1 ใน 1000 ของเขาหรอกครับ ขอยืมเกณฑ์ของเขามาเฉย ๆ) สำหรับเรื่องนี้ ผมให้ 2 ดาวสำหรับบทหนัง แต่จะให้เป็น 3 ดาวก็ได้ครับ หากพิจารณาถึงความสามารถของโจดี้ ฟอสเตอร์
เกณฑ์ของแมนตินคือ สูงสุด 4 ดาว ถือเป็นหนังยอดเยี่ยม ต้องหามาดูให้ได้ก่อนที่จะตายจากโลกนี้ไปว่างั้นเถิด ซึ่งหนังสมัยใหม่นี่ยากมากที่ได้จะสี่ดาว โดยมากมักเป็นหนังคลาสสิค แต่ไม่แน่นะครับ หนังอย่างคลีโอพัตรา (ปี 1964) ที่เอลิซาเบธ เทยเลอร์ แสดงเมื่อสมัยสาว ๆ นั้น ได้แค่สองดาวเท่านั้น เนื่องจากเป็นหนังฟอร์มใหญ่ ใช้เงินเยอะ แต่เรื่องทั่วไปคล้ายลิเกฝรั่ง (เขาว่านะครับ ไม่ใช่ผม) รองลงมาคือ 3 ดาวครึ่ง และ 3 ดาว ซึ่งถือว่าดี ควรหามาดู ถ้าเป็น 2 ดาวถือว่าปานกลางหรือพอใช้ได้ ดูไปก็ไม่เสียดายเงิน ไม่ดูก็ไม่เป็นไร ส่วนที่แย่หน่อยคือ 1 ดาวครึ่ง (เขาไม่ใช้ 1 ดาว เนื่องจากอะไรจำไม่ได้แล้วครับ ต้องไปรื้อหนังสือของเขามาดูก่อน) พวกนี้ดูแล้วอาจเข้าข่ายเสียดายเงิน และที่แย่ที่สุดก็คือ BOMB ย่อมาจากอะไรจำไม่ได้แล้วครับ ต้องกลับไปดูตำราเหมือนกัน พวกนี้เป็นประเภทแมนตินเตือนท่านแล้ว แต่ถ้าเราอยากดูก็ถือเป็นความชอบส่วนบุคคล เซียนไม่ชอบก็ช่าง ฉันอยากดูนี่หว่าอะไรทำนองนั้น เสียดายที่เป็นภาษาอังกฤษ ต้องมานั่งแปลกันอีก หนังสือออกเป็นรายปี อ่านดูแล้วก็ขำ ๆ ไปกับสำนวนเหน็บแนมหนังที่เขาไม่ชอบแบบเจ็บ ๆ คัน ๆ
ไฟลท์แพลนถือเป็นหนังดูสนุก ลุ้นตลอดเครียดเสมอ ไปผ่อนเอาตอนจบ ผู้ร้ายแพ้ไปตามระเบียบ ผมว่ามันไม่สมจริงอย่างเดียวคือ ตอนที่ผู้ร้าย (อีตา Carson ซึ่งเป็นตำรวจประจำเครื่อง หรือที่ฝรั่งเรียกว่า Marshal แต่ในเรื่องนี้กลายเป็นผู้ร้าย) กำลังลงจากเครื่อง ทิ้งให้นางเอกโดนจับ พอนางเอกพูดอะไรบางอย่างไล่หลังมาจากบันไดรับผู้โดยสาร ก็เดินกลับขึ้นมาใหม่ ซึ่งถ้าผมเป็นผู้ร้ายก็คงรีบจ้ำอ้าวหนีไป เงินที่หลอกให้สายการบินโอนให้ก็ได้แล้ว จะย้อนกลับไปอีกทำไม รีบลงมาแล้วกดระเบิดเครื่องบินทำลายหลักฐานตามแผนที่ตัววางไว้ก็สิ้นเรื่อง หรือผมดูไม่ละเอียดก็ไม่ทราบครับ ที่ผมให้สองดาวก็คือความสมจริงของบทนี่ล่ะครับ
ส่วนความสามารถของโจดี้ ฟอสเตอร์นั้น No doubt ครับ ผมดู Bugsy Malone (ปี 1976) และ Silence of the Lamb (ปี 1990) ซึ่งเรื่องหลังนี้ผมว่าเข้าขั้นคลาสสิคได้สบาย ๆ ถือเป็นหนัง (ค่อนข้าง) ใหม่ ที่ต้องดูให้ได้ ส่วนเรื่องไฟลท์แพลนนี้ เจ๊แกเด่นมากครับ เข้าใจว่าคงกำกับเองด้วย แต่ที่น่าปลงก็คือสังขารครับ รอยเหี่ยวย่นตีนกานี่เพียบเลย สิบห้าปีเองนับจากบทนักสืบหญิงที่ต้องเผชิญหน้ากับ ดร.ฮันนิบาล ในไซเลนส์ออฟเดอะแลมบ์ สมัยแกยังสาว ๆ เรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัย (จำได้เลา ๆ ว่าเป็น Yale ไม่รู้ว่าผิดหรือเปล่า) ถึงขนาดมีคนไปยิงประธานาธิบดีเพื่อจะพิสูจน์ตนเองให้เธอประทับใจ คงได้ผลล่ะครับ เพราะได้ข่าวว่าเธอมีลูกโดยไม่ใช้วิธีธรรมชาติ ขอรับบริจาค sperm มา นี่ถ้าผู้หญิงเขาทำอย่างนี้กันมากเข้า ผู้ชายอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ นี่คงต้องเหี่ยวแห้งหัวโตกันบ้างกระมัง ไม่เป็นไรครับ ไปเล่นเครื่องเสียงกันดีกว่า ฮึ่ม แฮ่