HTG2.club

บรรยายพิเศษในงาน BAV-11 เรื่องระบบไฟ สายไฟ เต้ารับ วันอาทิตย์นี้ โดยคุณ ธีรวัฒน์

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Lufee

  • ***
    • กระทู้: 122
     วันอาทิตยย์ที่ผ่านมา ผมไปทันเริ่มบรรยายพอดี  มีคนเข้านั่งฟังเต็มและทยอยมายืนฟังจนเต็มแน่นพอควร   ขอเข้ามาเล่าเท่าที่พอจะจำได้
คุณธีฯ ย้ำหลายครั้ง   เพราะมีคนทยอยเข้ามาฟังใหม่เรื่อยๆ  ว่า "ระบบไฟฟ้าไม่ได้เป็นเรื่องยากหรือวุ่นวาย  เพียงแต่เราชอบทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่  เรื่องง่ายๆให้เป็นเรื่องยุ่งยากครับ  ระบบไฟฟ้าคิดให้ง่าย คิดให้ไม่ยาก มันก็จะออกมาดีครับ"   
     คุณธีฯจะเปิดเพลงจาก แผ่นซีดีที่เตรียมมาให้ฟังกับชุดเดิมในห้อง แล้วค่อยเปลี่ยนสายไฟที่ทำเองแบบต่างๆ ด้วยต้นทุนที่ไม่แพง แล้วเปิดเพลงเดิมเทียบให้ฟังเสียง ถามความเห็นชอบไม่ชอบของคนเข้าฟัง  (เริ่มจากเปลี่ยนเต้ารับปลั๊กไฟพร้อมสายไฟทำเองแบบถูกๆ  แทนชุดกล่องรางไฟตัวใหญ่ของ VIBEX  ยังใช้สายไฟท้ายแอมป์และซีดีของเดิม  เสียงก็เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน   จึงย้ำกับผู้เข้าฟังว่า ดังนั้นการจะฟังคำวิจารณ์เครื่องเสียงใดว่าเสียงเป็นยังไง แม้เครื่องเดียวกัน ก็เห็นต่างกันได้ สาเหตุก็เพราะใช้สายไฟต่างกันด้วย      จากนั้นมีการเปลี่ยนเพลงใหม่ให้ฟัง เพื่อไม่ให้เบื่อ    แล้วค่อยเปลี่ยนสายไฟที่ ซีดี และแอมป์ตามลำดับ   ด้วยสายไฟที่คุณธีฯทำเอง แบบต่างๆ  ทุกครั้งที่เปลี่ยนลงไป เสียงก็เปลี่ยนไปทางดีขึ้นน่าฟังขึ้นเรื่อยๆ   จากนั้นหันกลับมามีการเปลี่ยนเต้ารับไฟที่ใช้สายมีคุณภาพขึ้น เสียงก็น่าฟังขึ้นไปอีก  (สายเต้ารับตัวแรกที่ถอดออก ที่ใช้สายไฟเดี่ยวแกนแข็งสีขาวเดินตามบ้าน ได้แจกฟรีให้ใครก็ได้ที่อยากได้ไปลองใช้ดู   มีการแนะเทคนิคการใช้สายว่าอันไหนต้องเบิ้ลสาย เบิ้นแค่ไหนพอ  สาบควรใช้ขนาดไหน และใช้สายเดี่ยวแกนแข็ง หรือสายฝอยแค่ไหนพอ ไว้จะเล่าตอนท้าย)    เมื่อเปลี่ยนครบสามจุดแล้ว คุณธีถามผู้ฟังว่าพอใจเสียงแค่นี้แล้วหรือยัง ถ้ายังสามารถทำให้เสียงดีขึ้นไปอีก    ก็เริ่มเปลี่ยนสายไฟที่แอมป์ ที่ดีขึ้นไปอีก  พบว่าให้เสียงดีขึ้นไปอีก  คุณธีฯไม่ได้บอกชื่อสายที่เปลี่ยนลงไป  คาดเดาเอาว่าน่า สายเส้นผอมลงพันเทปสีดำ (หัวท้ายวัตต์เกตรุ่นถูก) น่าจะเป็นรุ่นสั่นสะเทือนลือลั่นไปทั้งบาง ส่วนสายที่เอาออกไปคือสายที่หุ้มเปลือกสีส้ม น่าจะเป็นสายรุ่นเพื่อนช่วยเพื่อน(เห็นเส้นหนึ่งใช้หัว C3 ท้ายวัตต์เกตทอง)     จากนั้นได้บอกว่ายังสามารถทำให้เสียงแผ่กว้างออกไปสุดขอบของได้อีก  โดยแนะนำ ตัวกรองไฟ ดีซี  VIBEX รุ่น DCF (ราคา 55,000 บ. ของหมดแล้วต้องสั่งจองใหม่) ที่ใส่เพิ่มเข้าไปต้นทาง  โดยบอกว่าตอนเช้าใช้มิเตอร์วัดไฟในห้องนี้มีไฟดีซีรั่วมาไม่มาก  แต่ผลที่ได้ พบว่าเสียงดีขึ้นไปอีกมาก เสียงน่าฟังขึ้นไปอีก  จับได้ว่าความเป็นดนตรีน่าฟังมากขึ้น ทำให้ฟังไพเราะยิ่งขึ้น  เสียงเปิดขึ้น รายละเอียดเสียงยิบๆฟังออกชัดขึ้น แต่ไม่ใช่ขอบตัวโน้ตแข็งขึ้นจัดขึ้น   จากนั้นได้ลองเปลี่ยนสายต้นทางจากปลั๊กไฟของโรงแรมก่อนเข้าตัวกรองไฟดีซีซึ่งเป็นสายหุ้มสีส้ม    ไปเป็นสายไฟของ Vibex สีเทาๆ ที่มีตัวหุ้มสายลดแรงสั่นสะเทือน ( ราคา 65,000บ. ยาว 1.8 ม.)  เสียงกระจ่างขึ้น เหมือนม่านหมอกหายไป ความน่าฟังดีขึ้นไปอีกแบบพอเพียงเลย  ดีมากๆแล้ว     จากนั้นได้เอาตัวกรองดีซี กับรางเต้วรับสายไฟรุ่นทำเองออก   ลองเปลี่ยนกลับไปใช้กล่องรางปลั๊กไฟชนิดหลายรูเสียบ VIBEX ตัวเดิม ที่มีตัวกรองไฟดีซีอยู่ด้วย   คุณธีฯว่าชอบแบบแรกมากกว่า ได้ความดิบกว่า     คุณโจ้ ร้าน soundbox บอกว่า ข้างในตัวกล่องปลั๊กรางใส่ชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์จำนวนน้อยกว่าตัวกรองเพียวๆ     คุณฯธี แนะนำให้ ลงทุนตัวกรองดีซีร่วมกับสายไฟรุ่นถูก ว่าให้ผลดีกว่า เสียงดีกว่าการใช้ตัวกรองไฟ Ac. แพงๆครับ
    ผิดตกยกเว้นต้องขออภัย พิมพ์เท่าที่พอจะนึกออกตอนนี้    ปล. สำหรับผู้อยากทำสายไฟใช้เอง   คุณธีฯ ว่าให้ใช้สายเดี่ยวแกนแข็ง ขนาด 2.5 หรือ 4 พอ โดยเบิ้ล คู่ไม่เกินสองที่ L หรือ N อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น  อย่าใช้สายขนาด 6 หรือ 8 สู้ใช้สายขนาดเล็กแต่เบิ้ลสองไม่ได้    ถ้าอยากได้เสียงเบสแข็งๆ แรงปะทะดีให้ใช้สายขนาด 4 เบิ้ลสอง  ปกติให้ใช้ แค่ 2.5 แต่เบิ้ลสอง  และถ้าต้องการเสียงนุ่มนวลขึ้น ให้เปลี่ยนไปใช้สาย N เป็นสายฝอยแทน    อีกข้อหนึ่ง  เวลาให้ช่างเดินสายแกนเดี่ยวในท่อตามบ้าน อย่าเดินแยกสาย L, N คนละท่อ  อย่าให้ L,N อยู่ห่างกัน  เพราะ N ต้องหาทางอ้างอิง L ด้วยเสมอ    ส่วนสาย G ไม่มีผลเท่าไร   จะเดินหรือไม่เดินระบบไฟ ใหม่เพิ่มก็ได้   เพราะเดี๋ยวนี้เครื่่องรุุ่นใหม่ๆ มักจะทำเป็นไฟแบบสองขากันแล้ว  ขอเพียงให้ที่ไฟเมนใหญ่ต้นทางจั๊มสายไฟของชุดเครื่องเสียงที่เบรคเกอร์ย่อยตัวแรก  และตัวท้ายสุดให้ใช้กับเครื่องที่กินไฟมากที่สุด คือ แอร์  เครื่องทำน้ำอุ่น  ฯลฯ  ระบบแสงสว่าง ไล่ย้อมมาตามลำดับ
     ตอนท้ายหลังจบสาธิตผมได้ถามคุณธีฯว่า เวลาทำสายได้มีการเช็คทิศทางด้วยไหม  คุณธีฯบอกว่า เขาใช้วิธีอัดแรงดันไฟสูงเข้าไปในสายเพื่อกำหนดทิศทางครับ 
  โดยปกติทั่วไปแล้ว การเดินสายไฟฟ้าร้อยท่อก็ไม่เดินแยกกันนะครับ ระหว่างสาย L และสาย N เนื่องจากหากเดินแยกกันจะทำให้ยิ่งมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นไปอีกครับผม แต่หากมีการเดินสายไฟในจำนวนที่มากก็จะใช้ขนาดของท่อ ที่ใช้ในการร้อยสายให้มีขนาดใหญ่ขึ่นไปอีกครับ (ขอร่วมให้ความรู้เกี่ยวกับระบบไฟฟ้าภายในบ้านด้วยคน นะครับผม  Y])




ออฟไลน์ Bohonnet

  • ****
    • กระทู้: 268
ไปมาเหมือนกันครับ ไปช้าไปหน่อย คนเต็มห้องแบบเบียดอยู่หน้าๆประตูเลย   พี่ที่ไปด้วยกันเลยชวนออก :'(

เห็นบางท่านเอาสมุดไปจดด้วย  บางท่านก็เอากล้องมาอัดคลิป   ถ้าเอาคลิปมาปล่อยอย่าลืมมาบอกกันนะครับ จะได้โหลตมาดูบ้าง  d_d




ออฟไลน์ big

  • ****
    • กระทู้: 304
     วันอาทิตยย์ที่ผ่านมา ผมไปทันเริ่มบรรยายพอดี  มีคนเข้านั่งฟังเต็มและทยอยมายืนฟังจนเต็มแน่นพอควร   ขอเข้ามาเล่าเท่าที่พอจะจำได้
คุณธีฯ ย้ำหลายครั้ง   เพราะมีคนทยอยเข้ามาฟังใหม่เรื่อยๆ  ว่า "ระบบไฟฟ้าไม่ได้เป็นเรื่องยากหรือวุ่นวาย  เพียงแต่เราชอบทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่  เรื่องง่ายๆให้เป็นเรื่องยุ่งยากครับ  ระบบไฟฟ้าคิดให้ง่าย คิดให้ไม่ยาก มันก็จะออกมาดีครับ"   
     คุณธีฯจะเปิดเพลงจาก แผ่นซีดีที่เตรียมมาให้ฟังกับชุดเดิมในห้อง แล้วค่อยเปลี่ยนสายไฟที่ทำเองแบบต่างๆ ด้วยต้นทุนที่ไม่แพง แล้วเปิดเพลงเดิมเทียบให้ฟังเสียง ถามความเห็นชอบไม่ชอบของคนเข้าฟัง  (เริ่มจากเปลี่ยนเต้ารับปลั๊กไฟพร้อมสายไฟทำเองแบบถูกๆ  แทนชุดกล่องรางไฟตัวใหญ่ของ VIBEX  ยังใช้สายไฟท้ายแอมป์และซีดีของเดิม  เสียงก็เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน   จึงย้ำกับผู้เข้าฟังว่า ดังนั้นการจะฟังคำวิจารณ์เครื่องเสียงใดว่าเสียงเป็นยังไง แม้เครื่องเดียวกัน ก็เห็นต่างกันได้ สาเหตุก็เพราะใช้สายไฟต่างกันด้วย      จากนั้นมีการเปลี่ยนเพลงใหม่ให้ฟัง เพื่อไม่ให้เบื่อ    แล้วค่อยเปลี่ยนสายไฟที่ ซีดี และแอมป์ตามลำดับ   ด้วยสายไฟที่คุณธีฯทำเอง แบบต่างๆ  ทุกครั้งที่เปลี่ยนลงไป เสียงก็เปลี่ยนไปทางดีขึ้นน่าฟังขึ้นเรื่อยๆ   จากนั้นหันกลับมามีการเปลี่ยนเต้ารับไฟที่ใช้สายมีคุณภาพขึ้น เสียงก็น่าฟังขึ้นไปอีก  (สายเต้ารับตัวแรกที่ถอดออก ที่ใช้สายไฟเดี่ยวแกนแข็งสีขาวเดินตามบ้าน ได้แจกฟรีให้ใครก็ได้ที่อยากได้ไปลองใช้ดู   มีการแนะเทคนิคการใช้สายว่าอันไหนต้องเบิ้ลสาย เบิ้นแค่ไหนพอ  สาบควรใช้ขนาดไหน และใช้สายเดี่ยวแกนแข็ง หรือสายฝอยแค่ไหนพอ ไว้จะเล่าตอนท้าย)    เมื่อเปลี่ยนครบสามจุดแล้ว คุณธีถามผู้ฟังว่าพอใจเสียงแค่นี้แล้วหรือยัง ถ้ายังสามารถทำให้เสียงดีขึ้นไปอีก    ก็เริ่มเปลี่ยนสายไฟที่แอมป์ ที่ดีขึ้นไปอีก  พบว่าให้เสียงดีขึ้นไปอีก  คุณธีฯไม่ได้บอกชื่อสายที่เปลี่ยนลงไป  คาดเดาเอาว่าน่า สายเส้นผอมลงพันเทปสีดำ (หัวท้ายวัตต์เกตรุ่นถูก) น่าจะเป็นรุ่นสั่นสะเทือนลือลั่นไปทั้งบาง ส่วนสายที่เอาออกไปคือสายที่หุ้มเปลือกสีส้ม น่าจะเป็นสายรุ่นเพื่อนช่วยเพื่อน(เห็นเส้นหนึ่งใช้หัว C3 ท้ายวัตต์เกตทอง)     จากนั้นได้บอกว่ายังสามารถทำให้เสียงแผ่กว้างออกไปสุดขอบของได้อีก  โดยแนะนำ ตัวกรองไฟ ดีซี  VIBEX รุ่น DCF (ราคา 55,000 บ. ของหมดแล้วต้องสั่งจองใหม่) ที่ใส่เพิ่มเข้าไปต้นทาง  โดยบอกว่าตอนเช้าใช้มิเตอร์วัดไฟในห้องนี้มีไฟดีซีรั่วมาไม่มาก  แต่ผลที่ได้ พบว่าเสียงดีขึ้นไปอีกมาก เสียงน่าฟังขึ้นไปอีก  จับได้ว่าความเป็นดนตรีน่าฟังมากขึ้น ทำให้ฟังไพเราะยิ่งขึ้น  เสียงเปิดขึ้น รายละเอียดเสียงยิบๆฟังออกชัดขึ้น แต่ไม่ใช่ขอบตัวโน้ตแข็งขึ้นจัดขึ้น   จากนั้นได้ลองเปลี่ยนสายต้นทางจากปลั๊กไฟของโรงแรมก่อนเข้าตัวกรองไฟดีซีซึ่งเป็นสายหุ้มสีส้ม    ไปเป็นสายไฟของ Vibex สีเทาๆ ที่มีตัวหุ้มสายลดแรงสั่นสะเทือน ( ราคา 65,000บ. ยาว 1.8 ม.)  เสียงกระจ่างขึ้น เหมือนม่านหมอกหายไป ความน่าฟังดีขึ้นไปอีกแบบพอเพียงเลย  ดีมากๆแล้ว     จากนั้นได้เอาตัวกรองดีซี กับรางเต้วรับสายไฟรุ่นทำเองออก   ลองเปลี่ยนกลับไปใช้กล่องรางปลั๊กไฟชนิดหลายรูเสียบ VIBEX ตัวเดิม ที่มีตัวกรองไฟดีซีอยู่ด้วย   คุณธีฯว่าชอบแบบแรกมากกว่า ได้ความดิบกว่า     คุณโจ้ ร้าน soundbox บอกว่า ข้างในตัวกล่องปลั๊กรางใส่ชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์จำนวนน้อยกว่าตัวกรองเพียวๆ     คุณฯธี แนะนำให้ ลงทุนตัวกรองดีซีร่วมกับสายไฟรุ่นถูก ว่าให้ผลดีกว่า เสียงดีกว่าการใช้ตัวกรองไฟ Ac. แพงๆครับ
    ผิดตกยกเว้นต้องขออภัย พิมพ์เท่าที่พอจะนึกออกตอนนี้    ปล. สำหรับผู้อยากทำสายไฟใช้เอง   คุณธีฯ ว่าให้ใช้สายเดี่ยวแกนแข็ง ขนาด 2.5 หรือ 4 พอ โดยเบิ้ล คู่ไม่เกินสองที่ L หรือ N อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น  อย่าใช้สายขนาด 6 หรือ 8 สู้ใช้สายขนาดเล็กแต่เบิ้ลสองไม่ได้    ถ้าอยากได้เสียงเบสแข็งๆ แรงปะทะดีให้ใช้สายขนาด 4 เบิ้ลสอง  ปกติให้ใช้ แค่ 2.5 แต่เบิ้ลสอง  และถ้าต้องการเสียงนุ่มนวลขึ้น ให้เปลี่ยนไปใช้สาย N เป็นสายฝอยแทน    อีกข้อหนึ่ง  เวลาให้ช่างเดินสายแกนเดี่ยวในท่อตามบ้าน อย่าเดินแยกสาย L, N คนละท่อ  อย่าให้ L,N อยู่ห่างกัน  เพราะ N ต้องหาทางอ้างอิง L ด้วยเสมอ    ส่วนสาย G ไม่มีผลเท่าไร   จะเดินหรือไม่เดินระบบไฟ ใหม่เพิ่มก็ได้   เพราะเดี๋ยวนี้เครื่่องรุุ่นใหม่ๆ มักจะทำเป็นไฟแบบสองขากันแล้ว  ขอเพียงให้ที่ไฟเมนใหญ่ต้นทางจั๊มสายไฟของชุดเครื่องเสียงที่เบรคเกอร์ย่อยตัวแรก  และตัวท้ายสุดให้ใช้กับเครื่องที่กินไฟมากที่สุด คือ แอร์  เครื่องทำน้ำอุ่น  ฯลฯ  ระบบแสงสว่าง ไล่ย้อมมาตามลำดับ
     ตอนท้ายหลังจบสาธิตผมได้ถามคุณธีฯว่า เวลาทำสายได้มีการเช็คทิศทางด้วยไหม  คุณธีฯบอกว่า เขาใช้วิธีอัดแรงดันไฟสูงเข้าไปในสายเพื่อกำหนดทิศทางครับ 
O0



ออฟไลน์ Supot B

  • *****
    • กระทู้: 787
ตอนท้ายหลังจบสาธิตผมได้ถามคุณธีฯว่า เวลาทำสายได้มีการเช็คทิศทางด้วยไหม  คุณธีฯบอกว่า เขาใช้วิธีอัดแรงดันไฟสูงเข้าไปในสายเพื่อกำหนดทิศทางครับ 

คุณธีรวัฒน์ บอกว่า เป็นการ สปา สายไฟ

ส่วนเพื่อนๆพี่ๆถ้าใครสนใจสายไฟรุ่น สะเทือนเลื่อนลั่น ติดต่อคุณธีรวัฒน์ ได้ตามกระทู้ด้านล่างนี้ 

http://piyanas.com/forum/index.php?topic=3490.15
- Luxkit A3000 Mono Block
-CD Sony CDP-R3
-Turntable Pioneer PL 50Lii
-ลำโพง Altec A7



ออฟไลน์ zax

  • ****
    • กระทู้: 441
    • เพศ:ชาย
     วันอาทิตยย์ที่ผ่านมา ผมไปทันเริ่มบรรยายพอดี  มีคนเข้านั่งฟังเต็มและทยอยมายืนฟังจนเต็มแน่นพอควร   ขอเข้ามาเล่าเท่าที่พอจะจำได้
คุณธีฯ ย้ำหลายครั้ง   เพราะมีคนทยอยเข้ามาฟังใหม่เรื่อยๆ  ว่า "ระบบไฟฟ้าไม่ได้เป็นเรื่องยากหรือวุ่นวาย  เพียงแต่เราชอบทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่  เรื่องง่ายๆให้เป็นเรื่องยุ่งยากครับ  ระบบไฟฟ้าคิดให้ง่าย คิดให้ไม่ยาก มันก็จะออกมาดีครับ"   
     คุณธีฯจะเปิดเพลงจาก แผ่นซีดีที่เตรียมมาให้ฟังกับชุดเดิมในห้อง แล้วค่อยเปลี่ยนสายไฟที่ทำเองแบบต่างๆ ด้วยต้นทุนที่ไม่แพง แล้วเปิดเพลงเดิมเทียบให้ฟังเสียง ถามความเห็นชอบไม่ชอบของคนเข้าฟัง  (เริ่มจากเปลี่ยนเต้ารับปลั๊กไฟพร้อมสายไฟทำเองแบบถูกๆ  แทนชุดกล่องรางไฟตัวใหญ่ของ VIBEX  ยังใช้สายไฟท้ายแอมป์และซีดีของเดิม  เสียงก็เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน   จึงย้ำกับผู้เข้าฟังว่า ดังนั้นการจะฟังคำวิจารณ์เครื่องเสียงใดว่าเสียงเป็นยังไง แม้เครื่องเดียวกัน ก็เห็นต่างกันได้ สาเหตุก็เพราะใช้สายไฟต่างกันด้วย      จากนั้นมีการเปลี่ยนเพลงใหม่ให้ฟัง เพื่อไม่ให้เบื่อ    แล้วค่อยเปลี่ยนสายไฟที่ ซีดี และแอมป์ตามลำดับ   ด้วยสายไฟที่คุณธีฯทำเอง แบบต่างๆ  ทุกครั้งที่เปลี่ยนลงไป เสียงก็เปลี่ยนไปทางดีขึ้นน่าฟังขึ้นเรื่อยๆ   จากนั้นหันกลับมามีการเปลี่ยนเต้ารับไฟที่ใช้สายมีคุณภาพขึ้น เสียงก็น่าฟังขึ้นไปอีก  (สายเต้ารับตัวแรกที่ถอดออก ที่ใช้สายไฟเดี่ยวแกนแข็งสีขาวเดินตามบ้าน ได้แจกฟรีให้ใครก็ได้ที่อยากได้ไปลองใช้ดู   มีการแนะเทคนิคการใช้สายว่าอันไหนต้องเบิ้ลสาย เบิ้นแค่ไหนพอ  สาบควรใช้ขนาดไหน และใช้สายเดี่ยวแกนแข็ง หรือสายฝอยแค่ไหนพอ ไว้จะเล่าตอนท้าย)    เมื่อเปลี่ยนครบสามจุดแล้ว คุณธีถามผู้ฟังว่าพอใจเสียงแค่นี้แล้วหรือยัง ถ้ายังสามารถทำให้เสียงดีขึ้นไปอีก    ก็เริ่มเปลี่ยนสายไฟที่แอมป์ ที่ดีขึ้นไปอีก  พบว่าให้เสียงดีขึ้นไปอีก  คุณธีฯไม่ได้บอกชื่อสายที่เปลี่ยนลงไป  คาดเดาเอาว่าน่า สายเส้นผอมลงพันเทปสีดำ (หัวท้ายวัตต์เกตรุ่นถูก) น่าจะเป็นรุ่นสั่นสะเทือนลือลั่นไปทั้งบาง ส่วนสายที่เอาออกไปคือสายที่หุ้มเปลือกสีส้ม น่าจะเป็นสายรุ่นเพื่อนช่วยเพื่อน(เห็นเส้นหนึ่งใช้หัว C3 ท้ายวัตต์เกตทอง)     จากนั้นได้บอกว่ายังสามารถทำให้เสียงแผ่กว้างออกไปสุดขอบของได้อีก  โดยแนะนำ ตัวกรองไฟ ดีซี  VIBEX รุ่น DCF (ราคา 55,000 บ. ของหมดแล้วต้องสั่งจองใหม่) ที่ใส่เพิ่มเข้าไปต้นทาง  โดยบอกว่าตอนเช้าใช้มิเตอร์วัดไฟในห้องนี้มีไฟดีซีรั่วมาไม่มาก  แต่ผลที่ได้ พบว่าเสียงดีขึ้นไปอีกมาก เสียงน่าฟังขึ้นไปอีก  จับได้ว่าความเป็นดนตรีน่าฟังมากขึ้น ทำให้ฟังไพเราะยิ่งขึ้น  เสียงเปิดขึ้น รายละเอียดเสียงยิบๆฟังออกชัดขึ้น แต่ไม่ใช่ขอบตัวโน้ตแข็งขึ้นจัดขึ้น   จากนั้นได้ลองเปลี่ยนสายต้นทางจากปลั๊กไฟของโรงแรมก่อนเข้าตัวกรองไฟดีซีซึ่งเป็นสายหุ้มสีส้ม    ไปเป็นสายไฟของ Vibex สีเทาๆ ที่มีตัวหุ้มสายลดแรงสั่นสะเทือน ( ราคา 65,000บ. ยาว 1.8 ม.)  เสียงกระจ่างขึ้น เหมือนม่านหมอกหายไป ความน่าฟังดีขึ้นไปอีกแบบพอเพียงเลย  ดีมากๆแล้ว     จากนั้นได้เอาตัวกรองดีซี กับรางเต้วรับสายไฟรุ่นทำเองออก   ลองเปลี่ยนกลับไปใช้กล่องรางปลั๊กไฟชนิดหลายรูเสียบ VIBEX ตัวเดิม ที่มีตัวกรองไฟดีซีอยู่ด้วย   คุณธีฯว่าชอบแบบแรกมากกว่า ได้ความดิบกว่า     คุณโจ้ ร้าน soundbox บอกว่า ข้างในตัวกล่องปลั๊กรางใส่ชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์จำนวนน้อยกว่าตัวกรองเพียวๆ     คุณฯธี แนะนำให้ ลงทุนตัวกรองดีซีร่วมกับสายไฟรุ่นถูก ว่าให้ผลดีกว่า เสียงดีกว่าการใช้ตัวกรองไฟ Ac. แพงๆครับ
    ผิดตกยกเว้นต้องขออภัย พิมพ์เท่าที่พอจะนึกออกตอนนี้    ปล. สำหรับผู้อยากทำสายไฟใช้เอง   คุณธีฯ ว่าให้ใช้สายเดี่ยวแกนแข็ง ขนาด 2.5 หรือ 4 พอ โดยเบิ้ล คู่ไม่เกินสองที่ L หรือ N อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น  อย่าใช้สายขนาด 6 หรือ 8 สู้ใช้สายขนาดเล็กแต่เบิ้ลสองไม่ได้    ถ้าอยากได้เสียงเบสแข็งๆ แรงปะทะดีให้ใช้สายขนาด 4 เบิ้ลสอง  ปกติให้ใช้ แค่ 2.5 แต่เบิ้ลสอง  และถ้าต้องการเสียงนุ่มนวลขึ้น ให้เปลี่ยนไปใช้สาย N เป็นสายฝอยแทน    อีกข้อหนึ่ง  เวลาให้ช่างเดินสายแกนเดี่ยวในท่อตามบ้าน อย่าเดินแยกสาย L, N คนละท่อ  อย่าให้ L,N อยู่ห่างกัน  เพราะ N ต้องหาทางอ้างอิง L ด้วยเสมอ    ส่วนสาย G ไม่มีผลเท่าไร   จะเดินหรือไม่เดินระบบไฟ ใหม่เพิ่มก็ได้   เพราะเดี๋ยวนี้เครื่่องรุุ่นใหม่ๆ มักจะทำเป็นไฟแบบสองขากันแล้ว  ขอเพียงให้ที่ไฟเมนใหญ่ต้นทางจั๊มสายไฟของชุดเครื่องเสียงที่เบรคเกอร์ย่อยตัวแรก  และตัวท้ายสุดให้ใช้กับเครื่องที่กินไฟมากที่สุด คือ แอร์  เครื่องทำน้ำอุ่น  ฯลฯ  ระบบแสงสว่าง ไล่ย้อมมาตามลำดับ
     ตอนท้ายหลังจบสาธิตผมได้ถามคุณธีฯว่า เวลาทำสายได้มีการเช็คทิศทางด้วยไหม  คุณธีฯบอกว่า เขาใช้วิธีอัดแรงดันไฟสูงเข้าไปในสายเพื่อกำหนดทิศทางครับ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31 มกราคม, 2011, 08:06:44 pm โดย zax »


ออฟไลน์ hongkongface

  • *****
    • กระทู้: 756
  • อยากกินทีรามิสุ
 :'( ไปไม่ทัน ถึงงานก็จะบ่ายสามแล้ว เลยไปนั่งห้องปิยะนัสอีกรอบแทนครับ :D
http://www.htg2.net/index.php?topic=63083.0 HONGKONGROOM @ HTG2 / http://www.htg2.net/index.php?topic=53284.0 ฮ่องกงที่ผ่านไป




ออฟไลน์ ยิ้มละไม

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,553
    • เพศ:ชาย
พี่ ๆ เพื่อน ๆ ที่ได้ไปฟังบรรยายมาอย่างลืมมาแบ่งปันกันด้วยนะครับ.....

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า...



ออฟไลน์ ยิ้มละไม

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,553
    • เพศ:ชาย
ฝากคุณยิ้มรายงานผลด้วยครับ  ไม่มีโอกาสไปรอบ 2 แล้ว


ผมอยากไปมากครับ แต่ VISA ไม่ผ่าน  :cry2  :cry2  :cry2 

ไปได้แค่วันนี้วันเดี่ยว  :giveup  และก็ได้เฉพาะช่วงเช้า ยังดีที่เจอพี่วิรุฬ

ช่สงบ่าย ๆ พี่ ๆ เพื่อน ๆ นัดมากันตรึม......

เย็น ๆ มี MEETING กันอีกต่างหาก

เสียดายที่ไม่ได้อยู่เจอพี่ ๆ เพื่อน ๆ จริง ๆ



ออฟไลน์ zax

  • ****
    • กระทู้: 441
    • เพศ:ชาย
         ผมว่าจะไปฟังคุณธีนบรรยายในวันอาทิตย์ เหมือนกันครับ      c)
ใครอยากได้บัตรเข้าชมงาน BAV 2011 ผมได้มาเพิ่มหลายใบ ส่งไปรษณีย์คงไม่ทัน
 ในวันเสาร์ ที่ 29 นี้ ผมจะไปฟังคุณวิศัลย์ บรรยายเรื่อง  มาฟังดนตรี ณ สุดเขตเทคโนโลยี ซีดี ออดิโอ  เวลา 13-15 น.
และวันอาทิตย์ 30 นี้ ของคุณธีฯ ดังกล่าวด้วย   ผู้ใดต้องการบัตร  ขอให้ติดต่อผมทางโทรฯมือถือ เพื่อรับหน้า lobbyโรงแรงเลย  ช่วงก่อน13.00น.เล็กน้อย  :secret

        หมายเหตุให้คลิ๊กที่ชื่อ ดูที่รายละเอียด  ผมลงเบอร์โทรฯไว้ให้  หลังงานจะลบออกครับ  เวลาจะมารับช่วยแจ้งว่ามาจากเว็บไหน ใช้ชื่อว่าอะไร? เพื่อกันถูกหลอกครับ :cold
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29 มกราคม, 2011, 12:27:38 pm โดย zax »



ออฟไลน์ Mr.Big

  • ผู้สนับสนุน web 1ปี
  • Super Star.
  • *
    • กระทู้: 2,754

ออฟไลน์ ยิ้มละไม

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,553
    • เพศ:ชาย
ขอขอบคุณ คุณ WITS ที่ได้ช่วยเพิ่มเติมข้อมูลครับ ใครที่มักจะมีคำถามเกี่ยวกับไฟฟ้าหรืออยากแก้ไขระบบไฟให้ถูกต้อง น่าจะลองไปฟังบรรยายกันดูนะครับ

งานดี ๆ อย่างนี้ อย่าพลาดกันนะครับ  O0 O0




ออฟไลน์ WITS

  • ****
    • กระทู้: 363
ครับ คุณธี จะไปบรรยาย ที่ห้อง  SOUNDBOX ชั้น 7 ครับ
มีสายไฟ เอซี DIY ไปทดสอบให้ชมกันครับ รวมถึงคงมี
การกล่าวถึง กรองไฟ ดีซี สำคัญอย่างไร  อื่นๆ ตาม
พี่ยิ้มละไม  ได้กล่าวไว้ครับ เสียดายไม่ได้ไปอีก

 O0 ระบบไฟต้อง คุณธี เลยครับ ตอบคำถามในกระทู้
ปิยะนัส ละเอียดมากครับ :victory


ออฟไลน์ ยิ้มละไม

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,553
    • เพศ:ชาย
วันนี้ได้ทราบข่าวว่า คุณธีรวัฒน์ ซึ่งเป็นวิศวกรไฟฟ้า นักเล่นเครื่องเสียง และนักเขียนวิจารย์เครื่องเสียงและอุปกรณ์ต่าง ๆ ซึ่งรู้จักกันดีว่าเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ ความรู้ ในเรื่องการวางระบบสายไฟ เพื่อให้ได้เสียงที่ดีขึ้น จะมีมาบรรายายพิเศษ เกี่ยวกับการจัดระบบไฟฟ้าในบ้าน ไฟฟ้าในห้องดูหนังฟังเพลง ที่ถูกต้อง ควรทำอย่างไร วิธีการแก้ไขระบบไฟในบ้าน เพื่อให้ได้เสียงหรือภาพที่ดีขึ้น วิธีเลือกซื้อหรือใช้เครื่องกรองไฟหรือเครื่องคุมไฟ การทำสายไฟเล่นเอง มีเทคนิคอะไรบ้าง การทำปลั๊กรางแบบ DIY เพื่อให้ได้เสียงที่ดีขึ้น ฯลฯ โดยรวมแล้วเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าทั้งหมด เห็นว่าจะมีการทดสอบหรือเล่นของเล่นเกี่ยวกับไฟฟ้า ให้ผู้ที่เข้าฟัง ได้ยินและฟังกันจะ จะ ด้วย

คุณธีรวัฒน์จะมาบรรยายในงาน BAV นี้ วันอาทิตย์ เวลา 13.00-16.00 น. สำหรับห้องที่บรรยายจะเป็นห้องที่มีโชว์ลำโพง HARBETH ( ถ้าจำผิดขออภัยด้วยครับ แต่เวลาถูกต้องแน่นอน )

ผมคิดว่าเรื่องนี้ น่าจะเป็นประโยชน์แก่ พี่ ๆ เพื่อน ๆ ใน WEB นี้ จึงขออนุญาตคุณธีรวัฒน์ นำแจ้งให้เพื่อน ๆ ใน WEB นี้ทราบ ครับ