วันอาทิตยย์ที่ผ่านมา ผมไปทันเริ่มบรรยายพอดี มีคนเข้านั่งฟังเต็มและทยอยมายืนฟังจนเต็มแน่นพอควร ขอเข้ามาเล่าเท่าที่พอจะจำได้
คุณธีฯ ย้ำหลายครั้ง เพราะมีคนทยอยเข้ามาฟังใหม่เรื่อยๆ ว่า "ระบบไฟฟ้าไม่ได้เป็นเรื่องยากหรือวุ่นวาย เพียงแต่เราชอบทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ เรื่องง่ายๆให้เป็นเรื่องยุ่งยากครับ ระบบไฟฟ้าคิดให้ง่าย คิดให้ไม่ยาก มันก็จะออกมาดีครับ"
คุณธีฯจะเปิดเพลงจาก แผ่นซีดีที่เตรียมมาให้ฟังกับชุดเดิมในห้อง แล้วค่อยเปลี่ยนสายไฟที่ทำเองแบบต่างๆ ด้วยต้นทุนที่ไม่แพง แล้วเปิดเพลงเดิมเทียบให้ฟังเสียง ถามความเห็นชอบไม่ชอบของคนเข้าฟัง (เริ่มจากเปลี่ยนเต้ารับปลั๊กไฟพร้อมสายไฟทำเองแบบถูกๆ แทนชุดกล่องรางไฟตัวใหญ่ของ VIBEX ยังใช้สายไฟท้ายแอมป์และซีดีของเดิม เสียงก็เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน จึงย้ำกับผู้เข้าฟังว่า ดังนั้นการจะฟังคำวิจารณ์เครื่องเสียงใดว่าเสียงเป็นยังไง แม้เครื่องเดียวกัน ก็เห็นต่างกันได้ สาเหตุก็เพราะใช้สายไฟต่างกันด้วย จากนั้นมีการเปลี่ยนเพลงใหม่ให้ฟัง เพื่อไม่ให้เบื่อ แล้วค่อยเปลี่ยนสายไฟที่ ซีดี และแอมป์ตามลำดับ ด้วยสายไฟที่คุณธีฯทำเอง แบบต่างๆ ทุกครั้งที่เปลี่ยนลงไป เสียงก็เปลี่ยนไปทางดีขึ้นน่าฟังขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นหันกลับมามีการเปลี่ยนเต้ารับไฟที่ใช้สายมีคุณภาพขึ้น เสียงก็น่าฟังขึ้นไปอีก (สายเต้ารับตัวแรกที่ถอดออก ที่ใช้สายไฟเดี่ยวแกนแข็งสีขาวเดินตามบ้าน ได้แจกฟรีให้ใครก็ได้ที่อยากได้ไปลองใช้ดู มีการแนะเทคนิคการใช้สายว่าอันไหนต้องเบิ้ลสาย เบิ้นแค่ไหนพอ สาบควรใช้ขนาดไหน และใช้สายเดี่ยวแกนแข็ง หรือสายฝอยแค่ไหนพอ ไว้จะเล่าตอนท้าย) เมื่อเปลี่ยนครบสามจุดแล้ว คุณธีถามผู้ฟังว่าพอใจเสียงแค่นี้แล้วหรือยัง ถ้ายังสามารถทำให้เสียงดีขึ้นไปอีก ก็เริ่มเปลี่ยนสายไฟที่แอมป์ ที่ดีขึ้นไปอีก พบว่าให้เสียงดีขึ้นไปอีก คุณธีฯไม่ได้บอกชื่อสายที่เปลี่ยนลงไป คาดเดาเอาว่าน่า สายเส้นผอมลงพันเทปสีดำ (หัวท้ายวัตต์เกตรุ่นถูก) น่าจะเป็นรุ่นสั่นสะเทือนลือลั่นไปทั้งบาง ส่วนสายที่เอาออกไปคือสายที่หุ้มเปลือกสีส้ม น่าจะเป็นสายรุ่นเพื่อนช่วยเพื่อน(เห็นเส้นหนึ่งใช้หัว C3 ท้ายวัตต์เกตทอง) จากนั้นได้บอกว่ายังสามารถทำให้เสียงแผ่กว้างออกไปสุดขอบของได้อีก โดยแนะนำ ตัวกรองไฟ ดีซี VIBEX รุ่น DCF (ราคา 55,000 บ. ของหมดแล้วต้องสั่งจองใหม่) ที่ใส่เพิ่มเข้าไปต้นทาง โดยบอกว่าตอนเช้าใช้มิเตอร์วัดไฟในห้องนี้มีไฟดีซีรั่วมาไม่มาก แต่ผลที่ได้ พบว่าเสียงดีขึ้นไปอีกมาก เสียงน่าฟังขึ้นไปอีก จับได้ว่าความเป็นดนตรีน่าฟังมากขึ้น ทำให้ฟังไพเราะยิ่งขึ้น เสียงเปิดขึ้น รายละเอียดเสียงยิบๆฟังออกชัดขึ้น แต่ไม่ใช่ขอบตัวโน้ตแข็งขึ้นจัดขึ้น จากนั้นได้ลองเปลี่ยนสายต้นทางจากปลั๊กไฟของโรงแรมก่อนเข้าตัวกรองไฟดีซีซึ่งเป็นสายหุ้มสีส้ม ไปเป็นสายไฟของ Vibex สีเทาๆ ที่มีตัวหุ้มสายลดแรงสั่นสะเทือน ( ราคา 65,000บ. ยาว 1.8 ม.) เสียงกระจ่างขึ้น เหมือนม่านหมอกหายไป ความน่าฟังดีขึ้นไปอีกแบบพอเพียงเลย ดีมากๆแล้ว จากนั้นได้เอาตัวกรองดีซี กับรางเต้วรับสายไฟรุ่นทำเองออก ลองเปลี่ยนกลับไปใช้กล่องรางปลั๊กไฟชนิดหลายรูเสียบ VIBEX ตัวเดิม ที่มีตัวกรองไฟดีซีอยู่ด้วย คุณธีฯว่าชอบแบบแรกมากกว่า ได้ความดิบกว่า คุณโจ้ ร้าน soundbox บอกว่า ข้างในตัวกล่องปลั๊กรางใส่ชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์จำนวนน้อยกว่าตัวกรองเพียวๆ คุณฯธี แนะนำให้ ลงทุนตัวกรองดีซีร่วมกับสายไฟรุ่นถูก ว่าให้ผลดีกว่า เสียงดีกว่าการใช้ตัวกรองไฟ Ac. แพงๆครับ
ผิดตกยกเว้นต้องขออภัย พิมพ์เท่าที่พอจะนึกออกตอนนี้ ปล. สำหรับผู้อยากทำสายไฟใช้เอง คุณธีฯ ว่าให้ใช้สายเดี่ยวแกนแข็ง ขนาด 2.5 หรือ 4 พอ โดยเบิ้ล คู่ไม่เกินสองที่ L หรือ N อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น อย่าใช้สายขนาด 6 หรือ 8 สู้ใช้สายขนาดเล็กแต่เบิ้ลสองไม่ได้ ถ้าอยากได้เสียงเบสแข็งๆ แรงปะทะดีให้ใช้สายขนาด 4 เบิ้ลสอง ปกติให้ใช้ แค่ 2.5 แต่เบิ้ลสอง และถ้าต้องการเสียงนุ่มนวลขึ้น ให้เปลี่ยนไปใช้สาย N เป็นสายฝอยแทน อีกข้อหนึ่ง เวลาให้ช่างเดินสายแกนเดี่ยวในท่อตามบ้าน อย่าเดินแยกสาย L, N คนละท่อ อย่าให้ L,N อยู่ห่างกัน เพราะ N ต้องหาทางอ้างอิง L ด้วยเสมอ ส่วนสาย G ไม่มีผลเท่าไร จะเดินหรือไม่เดินระบบไฟ ใหม่เพิ่มก็ได้ เพราะเดี๋ยวนี้เครื่่องรุุ่นใหม่ๆ มักจะทำเป็นไฟแบบสองขากันแล้ว ขอเพียงให้ที่ไฟเมนใหญ่ต้นทางจั๊มสายไฟของชุดเครื่องเสียงที่เบรคเกอร์ย่อยตัวแรก และตัวท้ายสุดให้ใช้กับเครื่องที่กินไฟมากที่สุด คือ แอร์ เครื่องทำน้ำอุ่น ฯลฯ ระบบแสงสว่าง ไล่ย้อมมาตามลำดับ
ตอนท้ายหลังจบสาธิตผมได้ถามคุณธีฯว่า เวลาทำสายได้มีการเช็คทิศทางด้วยไหม คุณธีฯบอกว่า เขาใช้วิธีอัดแรงดันไฟสูงเข้าไปในสายเพื่อกำหนดทิศทางครับ