เอ่อ กระทู้สอนทำของ อ.กระริน ก็บอกไว้อยู่นะครับ
ถ้าเป็น SE class A หลอดจะเห็น impedance ของ OPT เป็นครึ่งหนึ่ง
ถ้าเป็น PP class AB หลอดจะเห็น impedance ของ OPT เป็นหนึ่ง ในสี่
ผมจะตั้งกระทู้ใหม่ก็แล้วกัน ถามมาเยอะ ผมก็รู้ไม่จริงหรอดครับ ก๊อปเขามาไปทั่วครับ
ผมเข้าไปอ่านกระทู้เก่าๆๆที่อ. กลิน สอน ออกแบบแอมปืหลอด เจอในส่วนของpp ดังนี้ครับ
จากรูป 1 สมมติว่าหลอดแต่ละหลอดให้ voltage 200V และมีกระแสไหลผ่าน 20mA ผ่าน transformer แบบ pushpull ซึ่งทำให้มี voltage รวมเท่ากับ 400V และมีกระแสไหล 20mA เพราะหลอดทั้งสองอนุกรมกัน จากสูตร R = V/I ทำให้เราได้ impedance รวมทั้งหมดเท่ากับ 20K ohm ซึ่งนี่คือ plate to plate impedance ของหลอด
รูปที่ 2 เมื่อแบ่ง load ออกเป็นสองส่วน เห็นว่าแต่ละแต่ละหลอดมองเห็น impedance ครึ่งหนึ่งของ primary impedance จากสูตรเดิม เท่ากับ 200V/20mA = 10Kohm
รูปที่ 3 เนื่องจาก power supply มี impedance ต่ำ ดังนั้น equivalent circuit ของ output transformer สามารถมองได้ เทียบเท่ากับด้าน primary สองขดต่อขนานกันสองชุด กรณีรูปที่ 3 นี้ เปรียบเทียบได้กับ output ที่เป็น Pushpull class A คือหลอดทั้งสองนำกระแสตลอดเวลา ตัวละ 20mA ซึ่งทำให้แต่ละหลอดมองเห็น primary impedance เท่ากับ 10Kohm
รูปที่ 4 เมื่อเรา bias หลอดให้เป็น class B หมายความว่าจะมีหลอดทำงานเพียงหลอดเดียวในแต่ละครั้งและหลอดเพียงหลอดเดียวจะต้องทำงานในส่วนของอีกหลอดนึงที่หายไปด้วย ดังนั้น กระแสที่ไหล ซึ่งเท่ากับ 20mA + 20mA (รับภาระของหลอดที่ไม่ได้นำกระแส) ดังนั้น หลอดจะมองเห็น load เท่ากับ 200V/40mA เท่ากับ 5K ohm
เพราะฉนั้น loadline ที่เราใช้ใน poweramp pushpull class A จะมี Impedance เท่ากับ 1/2 ของ primary ในขณะที่ class B หรือ AB จะเห็นเป็น 1/4 ส่วนse ผมอ่านแล้วหาไม่เจอครับ ช่วยบอกทีครับว่ากระทู้ไหนครับ