ผมได้ลองเครื่องกรองไฟมามากพอสมควร สำหรับชุดเครื่องเสียงผมพอสรุปได้ว่า ส่วนมากมักจะได้อย่างเสียอย่าง
หากเสียบต่อตรงผ่านเพาเวอร์แอมป์แทบจะร้อยท้งร้อยเกิดอาการอั้น เครื่องกรองไฟหลายเครื่องได้บางอย่างเสียบางอย่าง
ดังนั้นขึ้นอยู่กับเราที่จะเลือกใช้ เครื่องกรองไฟบางเครื่องได้ย่านเสียงบางย่านที่ดีขึึ้นแต่บางด้านไม่ได้ดีขึ้นตามอาจทำให้โทนบาล้านซ์
ของเสียงเสียไป แต่หากส่วนที่ดีขึ้นไปเสริมส่วนที่ขาดในชุดทำให้เสียงที่ได้พอดีก็จะลงตัว ในชุดเครื่องเสียงทั่วไปมักใช้เครื่องกรองไฟ
ราคาไม่สูงมากนักคุณภาพก็จะเป็นไปคามราคา แต่เรื่องความได้คุ้มเสียหรือไม่คุ้มเสีย ผมว่าขึ้นอยู่กับเราใช้เครื่องกรองไฟให้เหมาะสมหรือลงตัวหรือไม่
คำตอบของแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน เครื่องกรองไฟที่ผมใช้อยู่ในชุดเครื่องเสียงคือ Burmester 948 เครื่องกรองไฟยีห้อนี้ถ้าไม่มีคู่มือมาดู
ประกอบ แล้วใช้เหมือนเครื่องกรองไฟทั่วไป ผมว่าเสียของครับ อาจจะรู้สึกว่าได้ไม่คุ้มราคา แต่หากใช้อย่างถูกต้องจะพบว่าเสียงที่ได้
จะดีขึ้นทุกย่านไม่ได้ทำให้ตื่นตาตื่นใจ แต่ฟังไปสักพักจะรู้สึกว่าขาดไม่ได้ และเขามีวงจรป้อนไฟดีซีย้อนกลับไปสำหรับเพาเวอร์แอมป์ที่เสียบคู่กับ
ปลั๊กไฟของเครื่องกรองไฟด้วย หากถามผมว่ายี่ห้อนี้คุ้มไหม ผมว่ามีได้ทุกอย่างเว้นแต่เสียตังค์เยอะ หากไม่ใช้เมื่อไหร่รู้สึกขาดอะไรไปบางอย่าง
จุดที่อยากให้สังเกตคือ หากจะลองเครื่องกรองไฟจริงๆ เวลาเอาเครื่องกรองไฟเสียบที่เต้ารับก็มีผลถึงระบบเสียงแล้วหากมีสวิทช์ก็เปิดสวิทช์ด้วย
แม้ว่าไม่เสียบอุปกรณ์ผ่านก็ตามก็มีผล ยิ่งชุดที่ใช้ดีเท่าไหร่ก็ยิ่งฟังออก ดังนั้นว่างๆลองดูก็ได้ครับ แค่เสียบไปที่เต้ารับข้างๆ ไม่ต้องเสียบผ่านก็มีผลแล้ว
( พอมีผลแล้วพอเสียบผ่านเทียบกันเลยทำให้คิดว่ามีผลเพิ่มอีกนิดเดียว หากจะเทียบให้ชัวร์ต้องดึงเครื่องกรองไฟออกจากเต้ารับไปก่อน)
สำหรับผมจะเน้นใช้เครื่องกรองไฟสำหรับเสียบ source ต่างๆเท่านั้น ว่างๆเพื่อนๆลองดูครับ
แต่ขอยืนยันอีกเสียงหนึ่งครับว่าหากเปลี่ยนสายไฟดีๆจะมีผลฟังออกได้ชัดกว่า แต่ก็ต้องเป็นสายไฟที่ราคาสูงหน่อยนะครับผลจะชัดเจนทีเดียว
แต่ผมว่าบางครั้งเราก็เหมือนโลภ พอได้คุณภาพที่ดีจากสายไฟ เต้ารับดีๆมาแล้ว จะเริ่มคิดว่าหากเครื่องกรองไฟดีๆมาอีกก็จะยิ่งดี
เลยพาลหาเครื่องกรองไฟดีๆมาลองเพิ่ม งานนี้ตาดีได้ตาร้ายเสียครับ