แอมป์ SE 2A3 เครื่องนี้ เป็นเครื่องที่ให้เสียงดีที่สุดสำหรับผม ตั้งแต่ผมสร้างแอมป์ SE 2A3 มาทั้งหมด 4 เครื่อง "น่าจะดีเสียงดีจริง ๆ เพราะไปเกิดที่ภาคเหนือ" ดูตับ ไต ไส้ พุง ซิครับ ใช้อุกรณ์ง่าย ๆ C อิเลตโตไล้ท์ธรรมดา R ใช้ของ โรยัล สายไฟก็พลุง พลัง หยุ้งเหยิงไปหมด เห็นแล้วเวียนหัว แล้วฟลุ๊กเสียงไปดีได้ยังไง งง... 
"พี่มุมคนรักหลอด" กรุณาช่วยชี้แนะกลเม็ดเคล็ดลับจากประสพการณ์ของพี่ในการสร้าง Amp 2A3 se ทั้ง 4 เครื่อง ครับ ... อาทิเช่น การเลือกใช้หลอด Driver , ความแตกต่างของวงจรที่พี่เลือกใช้ Aikido : SRPP : Mu Stage : R Load : Choke Load , ผลแตกต่าง Direct Coupling : C Coupling : Interstage ตลอดจนเทคนิคเด็ดๆที่พี่ใช้ในภาคจ่ายไฟครับ
ขอบคุณครับ ... อนัตตา โทร.081-8786618
ก่อนที่เน็ทบ้านผมจะหลุดลอยไปในห่วงอากาศ ผมโทรศัพท์ไปต่อว่าศูนย์ ฯ บ.นี้มาเป็น ๆ ปีแล้ว ให้แก้ปัญหาให้หน่อย เน็ทมันเล่นไม่ได้ ในเวลากลางวัน จะเล่นได้ช่วงประมาณ 1 ทุ่มกว่า ๆ แล้วก็หลุด จะได้อีกทีตอนตี 3 ถึง 6 โมงเช้า เงินก็เสียทุกเดือน แต่เล่นเน็ทไม่ได้ พอเน็ทจะติดหน่อยก็เล่น 2-3 นาที ก็หลุด ก็ไม่รู้ด่า บ.นี้อย่างไร โมโหจริง ๆ ลูกชายจะสมัครงานส่งเอกสารทางเน็ท ก็ต้องนั่งรอไปช่วงตี 3 บ้าง 6 โมงเช้าบ้าง เวรกรรมจริง ๆ สงสัยต้องร้องเรียนไปที่สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคเสียแล้วครับ เพราะร้องเรียนไปที่บริษัทฯ ก็แจ้งว่าเดี๋ยวให้ช่างไปดู ช่างมาดูตั้งแต่ต้นปีแล้ว 4-5 คน ก็มาดูจริง ๆ ครับ ก็เป็นอย่างนี้อีก เศร้าจริง ๆ ประเทศไทย
ขอขอบคุณน้องอนัตตามากครับ ที่ให้ความสนใจเจ้า SE 2A3 ครับ หลอดเบอร์นี้เป็นหลอดสุดโปรดของผมที่มีทั้งหมด เป็นหลอดที่ให้เนื้อ หนัง มังสา ดีจริง ๆ สำหรับผม ฟังเมื่อไหร่ก็รู้สึกดี ๆ เสมอครับ แต่ระยะหลัง ๆ ไปบ้าหลอดใหญ่ ยังเหลืออีกหลายเบอร์ที่ยังไม่จับมาร้องเพลง เพราะเริ่มกลัวความใหญ่ และหนัก ของอุปกรณ์โดยเฉพาะเจ้าหม้อแปลงไฟแรงดันสูงทั้งหลาย หนักจริง ๆ เมื่อคืนได้พูดคุยกับ อาจารย์ Mr.Tube ว่าจะหยุดทำแอมป์ยักษ์แล้ว เพราะอายุมากแล้ว เจ็บหลัง เจ็บเอวไปหมด กว่าจะ
ปรับจูนได้ ช่วงวันที่ 14 -15 ธันวาคม 2551 ที่ผ่านมาได้ยกเจ้า SE 854 RCA ไปร่วมงานฯ กับ พี่ ๆ น้อง ๆ ที่เชียงใหม่ จัดงานกันบนดอยสุเทพฯ กันเลย พี่ ๆ น้อง เห็นผมมาร่วม งาน ทุกคนต่าง พากันลงมาที่รถผม เพราะรู้ว่า งานนี้ต้องได้มาหามกันแน่ ๆ ก็จริงครับ ตัว SE 845 หนักประมาณ ร่วม ๆ 30 กก. แยกเพาเวอร์ซับพลาย เฉพาะเพาเวอร์ซับพลาย น่าจะ 40 กก. เล่นพากันหามหน้าแดง กัยเลย
เรื่องของหลอด 2A3 มีเทคนิกส์พิเศษครับ อาจารย์วีระศักด์ ซึ่งถาวร เคยกล่าวไว้ในบทความ ถ้าพี่ ๆ น้อง ท่านใดติดตามผลงานของท่าน ท่านเคยพูดเรื่องหลอดหลักอยู่ 2 เบอร์ครับ ก็คือหลอด 211 และหลอด 2A3 ครับ และอีกท่านหนึ่งผมให้ความเคารพท่านเป็นอาจารย์ผม คือก็ "เฮียแปะ" ท่านได้เปิดเผยบางสิ่งบางอย่างให้แก่ผม โดยไม่หวงวิชา สิ่งเหล่านี้ผมได้ถือปฏิบัติตนเองเสมอมาคือ รู้อะไรแล้ว นำมาเผยแพร่ เพื่อเป็นวิทยาทานความรู้ ซึ่งหลาย ๆ สิ่งที่ผมได้ทดลองจริง ทำจริง ผมมักจะบอกกล่าวเสมอครับ
หลอด 2A3 นั้น มีเทคนิกสน์อย่างหนึ่งก็คือ เรื่องแรงดันไฟที่จ่ายให้หลอด ต้องมากกว่า 350 โวลล์ครับ ถ้าต่ำกว่า 350 โวลล์ หลอด 2A3 จะเฉือย เหมือนหลอดที่ไม่มีเรี่ยว มีแรง แม้ว่าหลอดจะให้วัตต์สูงสุดเพียง 3.5 วัตต์ แต่อย่าลืมนะครับ 3.5 วัตต์ที่แรงดันมากกว่า 350 โวลล์ เรื่องการแกว่งของสัญญาณ หมดไปเลย และอีกอย่างหนึ่งครับ ค่า DCR ของ OPT ก็เป็นปัญหากับหลอดเบอร์นี้ แม้ว่าหลอด 2A3 จะมีเพลทรีซิสเต็นท์เพียง 800 โอร์ม แต่อาจารย์วีระศักดิ์ ซึ่งถาวร บอกว่า การนำไปใช้งานจริง ต้องหาโหลดมาใช้กับหลอด 2A3 มากกว่า 2-3 เท่า แต่ที่เราเอามาเล่นกันเรามักจะใช้ OPT เพียง 2.5 กิโลโอร์มเท่านั้น และที่ 2.5 กิโลโอร์มนั้น ก็บอกว่าหม้อแปลง OPT ขนาด 10 วัตต์ ก็เหลือเฟือแล้ว คิดผิดแล้วครับ นั้นคือ ทฤษฎี แต่ในทางปฏิบัติจริง OPT ตัวเล็ก ๆ เขาก็ต้องใช้ลวดเส้นเล็กพัน และจากการคำนวนรอบของขดลวดที่ 2.5
กิโลโอร์ม จำนวนรอบที่พันบนป๊อบปริ้นของเอ้าพุท ประมาณ 1,800 รอบ ขอให้ไปทดลองวัด DCR ดูซิครับ จะสูงขนาดไหน ก็คงไม่ต้องบอกนะครับ ว่าขณะนี้หลอดต้องเผชิญกับอะไรบ้าง และที่นี้เรามาดูที่ OPT สำหรับหลอด 2A3 ขนาด 40 วัตต์ บ้าง (ใครจะว่าเว่อก็ช่าง) เส้นลวดรอบเท่ากัน ต้องใช้เส้นใหญ่ขึ้นแน่นอน เมื่อเราพันเสร็จวัดค่า DCR ของหม้อแปลงขนาด 40 วัตต์ คงจะต่ำกว่า 100 โอร์ม ผมเคยพันหม้อแปลงเอ้าพุทมาใช้กับหลอด 2A3 ที่สามารถลดค่า DCR ได้ประมาณ 40 กว่าโอร์ม ที่ 3 กิโลโอร์ม เมื่อเอามาใช้กับหลอด 2A3 แล้ว ปรากว่าจากเสียงของหลอด 2A3 แบบอรวี กลายเป็นแบบ เสียงแบบดาวมหาวิทยาลัย ผมตั้งชื่อว่า SE 2A3 ดุ เรื่องนี้ผมเคยเขียนไว้หลายปีแล้ว ถ้าใครติดตามอ่านผลงานผม คงจะได้เทคนิกส์ตรงนี้ไปเล่นแล้วครับ
หลังจากว่าเรื่องแรงดัน หม้อแปลงเอ้าพุท พอเป็นแนวทางไปแล้ว ก็มาว่าเรื่องหลอดไดเวอร์กันบ้างครับ หลอด 2A3 เป็นหลอดที่ขับง่าย ใช้งานง่าย ผมเคยเอาหลอด 2A3 มาทำเป็นปรีแอมป์ เพื่อหวังเสียงหวาน ๆ ของหลอดเบอร์นี้ เสียงดีครับ แต่ก็นั้นแหละประเภทขี่ช้างไล่จับตักกระแตน ผมทำเล่นบ่อยมาก ล่าสุดก็เอาหลอด 211 มาเป็นปรีแอมป์ เสียงดีมาก ๆ ครับ และท้ายที่สุด ผมจับหลอด 211 ไปขับหลอด 845 เสียงดีทีเดียว แต่ยังไม่เคยเอาหลอด 2A3 ไปขับหลอด 845 หรือ 211 ดู เลย สังสัยต้องมีการเจ็บหลังอีกแน่ ๆ ครับ

อาจารย์แปะเคยพูดกับผมบ่อย ๆ เรื่อง การพิจารณาหลอดไดเวอร์มาใช้กับหลอดเพาเวอร์ ท่านพูดว่า "เสียงนุ่มอยู่แล้ว เอาเสียงนุ่มไปเจอกัน มันก็ไปกันใหญ่" สิ่งเหล่านี้ก้องอยู่ในหัวผมเสมอครับ หลอด 2A3 ของผม ไม่มีโอกาสได้เจอกับหลอด 6SN7 หรือ 12AU7 กับผมแน่ ๆ ครับ หรือหลอดเพาเวอร์เบอร์อื่น ๆ เพราะตรงนี้ก็เหมือนอาจารย์แปะได้กล่าวไว้ข้างต้นครับ
สำหรับการเลือกภาคขับภาคหน้า หรือ หลอดไดเวอร์ นั้น อยู่ที่ผู้สร้างเครื่องจะชอบแนวไหนครับ ถ้าประเภทเรียบง่าย ๆ ไม่พิถีพิถันมากนักก็เพลทฟอลโลเออร์ธรรมดา ใช้ คอนเดนเซอร์ดี ๆ เป็นตัวคลับปริ้ง ก็ให้เสียงดี เป็นธรรมชาติครับ ส่วนอากิโด ก็สดขึ้นมาหน่อย รายละเอียดดีมาก ๆ ผมชอบอากิโด แต่ก็นั้นแหละเปลืองหลอด และภาคจ่ายไฟของอากิโด ต้องดีมาก ๆ จึงจะได้เสียงดีจากอากิโดครับ ส่วนมิวสเตจก็ดีครับ เสียงเบสได้ลึกดีพอสมควรครับ ถ้าแบบเสียงดีและง่าย ผมเลือกแบบมิวสเตจครับ เพราะค่อนข้างจะสมบูรณ์ในรูปแบบวงจรง่าย ๆ ส่วนโช๊คโหลดนั้น ถ้าจัดหลอดไดเวอร์ในลักษณะนี้ หลอด 2A3 รู้สึกกระชุ่ม กระชวยขึ้นมาอีกเยอะครับ ผมว่าจะออกมาทางสด ๆ ประเภทสดใส ร่าเริง อะไรทำนองนี้ครับ และที่สุดของที่สุดก็คือหม้อแปลงคลับปริ้งครับ ผมว่าในขบวนการวงจรที่เล่นทั้งหมด หม้อแปลงคลั๊บปริ้ง คือ ที่สุด ของ ที่สุด แล้ว ครับ เครื่องของผมรุ่นหลัง ๆ ผมใช้หม้อแปลงคลั๊ปปริ้งแทน คอนเดนเซอร์คลั๊บปริ้งทั้งหมดครับ อ้อยังมีการคลั๊บปริ้งอีกรูปแบบหนึ่งก็คือ ไดนามิกคลั๊บปริ้ง ซึ่งผมได้ทดลองเอาใช้กับหลอด 450 TL ในคลาสเอ 2 ก็ให้เสียงดีครับ