0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สงสัย อยากรู้จังครับ ทำไมหม้อแปลงตัวนี้ เขาใช้ Squre wave ทดสอบ ทำไมเขาไม่ใช้ Sine wave ทดสอบในการตอบสนองความถึ่ครับhttp://www.audiohobbyist.com/projects/diymc.htm
หายไปนานเลยนะครับ ท่านเจ้าของกระทู้
อ่านแล้วไม่เข้าใจ เดี๋ยวขอไปดูตัวเป็นๆ เลยดีกว่า ขอบคุณมากครับ
ยาวตัด สั้นต่อ ไม่พอรื้อ
ลุยโลดเลยครับ ถ้าพันให้ได้แรงดันได้ 23.5 แจ๋วเลยครับแล้วได้กระแสกี่แอมป์ครับ
แล้วพวกแกน EI อย่าง H14 หรือ RG หรือ เหล็ก M6 วัดแบบนี้ เอาจากประสบการณืผลเป็นอย่างไรบ้างครับ เอาที่ผ่าน ๆ มา มาเล่าให้ฟังนะครับ
อ้างจาก: dekdek ที่ 18 มีนาคม, 2011, 03:27:39 pmอ้างจาก: prasan ที่ 17 มีนาคม, 2011, 08:17:13 pmผมมีแกน C core ขนาดเท่ากัน เข้าใจว่ามาจากโช๊ค บางคู่ก็ใช้งานเป็น OPT ได้ดี บางคู่ก็เหมาะจะทำหม้อแปลงเพาเวอร์อย่างเดียวทำโช๊คในภาคจ่ายไฟก็ยังไม่เหมาะครับ ทำไมเหมาะทำหม้อไฟแต่ไม่เหมาะทำโช็คครับพี่ ผมพิจารณาจากการตอบสนองความถี่ และพิจารณาจากลักษณะของ Choke หรือ OPT ว่าเป็น SE หรือ PP- แกนเหล็กของ Choke, SE OPT ต้องมีแอร์แก็ป- แกนเหล็กของ PP ไม่ต้องมีแอร์แก็ปหรือมีก็ได้การพิจารณาจากการตอบสนองความถี่- เหล็กที่ดีต้องตอบสนองความถี่ได้ตั้งแต่ 20Hz-20kHz นั่นหมายถึงค่า L จากขดลวดที่พันอยู่บนแกนนั้นต้องมีค่าเกือบเท่ากันตลออดย่านความถี่ หรือ ที่ความถี่สูงขึ้นเรื่อยๆ ค่า L ก็ควรจะสูงขึ้นเรื่อยๆ- ผมมีเครื่องทดสอบ LCR ที่ใช้ในการพิจารณา ผมทดสอบที่ 100/120Hz กับ 1kHz- ตอนที่ไม่มีแก็ป ถ้าแกนเหล็กที่ใส่ลวดแล้วให้ค่า L ที่ 20Hz ได้แต่พอความถี่ที่ 1kHz ค่า L ลดลงมาก บางทีลงเหลือไม่กี่ mH ลองใส่แอร์แก็ปถ้าค่า L ที่ความถี่สูงไม่ยอมขึ้นมา -> อย่างนี้ SE ก็ไม่ได้ PP ก็ไม่ได้ เหลือแต่เอาไปทำหม้อแปลงเพาเวอร์ได้เท่านั้นครับ ยังดีที่ไม่เอาไปทำที่ทับกระดาษ
อ้างจาก: prasan ที่ 17 มีนาคม, 2011, 08:17:13 pmผมมีแกน C core ขนาดเท่ากัน เข้าใจว่ามาจากโช๊ค บางคู่ก็ใช้งานเป็น OPT ได้ดี บางคู่ก็เหมาะจะทำหม้อแปลงเพาเวอร์อย่างเดียวทำโช๊คในภาคจ่ายไฟก็ยังไม่เหมาะครับ ทำไมเหมาะทำหม้อไฟแต่ไม่เหมาะทำโช็คครับพี่
ผมมีแกน C core ขนาดเท่ากัน เข้าใจว่ามาจากโช๊ค บางคู่ก็ใช้งานเป็น OPT ได้ดี บางคู่ก็เหมาะจะทำหม้อแปลงเพาเวอร์อย่างเดียวทำโช๊คในภาคจ่ายไฟก็ยังไม่เหมาะครับ
อ้างจาก: PINIJ ที่ 18 มีนาคม, 2011, 06:19:54 pmของพี่ที่ฝากไว้เข้าค่ายที่ว่ามาหลังนี้หรือเปล่า? ที่คุยๆ กันเหมือนมันจะไม่ค่อยดี จะได้ซื้อใหม่น่ะครับ เอาคู่นี้ทำหม้อแปลงไปเลย (แต่ซื้อมาแพงมากนะ แกนคู่นี้น่ะ)เย็นไว้พี่ เดี๋ยวจะแจ้งผลให้ทราบนะครับ
ของพี่ที่ฝากไว้เข้าค่ายที่ว่ามาหลังนี้หรือเปล่า? ที่คุยๆ กันเหมือนมันจะไม่ค่อยดี จะได้ซื้อใหม่น่ะครับ เอาคู่นี้ทำหม้อแปลงไปเลย (แต่ซื้อมาแพงมากนะ แกนคู่นี้น่ะ)
ส่วนปัญหา แสดงว่า ผมไม่ได้เจอคนเดียว แต่ ครั้งแรกก็ได้ประสบการณ์ อันแสนมหาศาลซะแล้ว
:Dเฮ้ยยยยยยยย ๆๆๆๆ ปวดกะโหลกกันแกน C - Core จริง ๆ ทำไมมันส่งผ่านความถี่ ไม่ค่อย สมูท เต็มย่านเสียง เหมือน พวก EI นะ สงสัยจัง แล้วไอ้พวกแกน Amorphous นี่มันจะตอบสนองเต็มย่านเสียงไหมหนอ
พอดีหัดเล่น C-Core มือ โปร ได้โปรดแนะนำหน่อยครับ พอดีผมพัน OPT แบบ 5K se โดยทำแบบ 2.5K + 2.5K ซึง ในแบบ 5 K ผมใช้ 2.5K 2 ขดมาต่ออนุกรมกัน แต่ปัญหาของผมคือ การตอบสนองเสียงสูงในช่วง 14 -20 K มันค่อยข้างมีปัญหา คือมันตอบสนองความถี่ได้ไม่ดี ส่วนเสียงย่านต่ำ นี่ มันออกดีเหลือเกิน ตอนนี้ลองกัน EL84 SE เสียง ต่ำ มันดันตอบสนองดีมาก ๆ เสียงเบส ตับ ๆๆๆๆๆๆ ยังกะฝังซัฟวูฟเฟอร์เลย แต่รู้สึกว่าเสียงช่วงสูงมันจะหม่น ๆ อย่างไงบอกไม่ถูก กำลัง งง ว่ามันมีคุณสมบัติที่ดีกว่า แต่ว่ามันทำไมไม่ได้ดีกว่าแกน EI แบบซังกะบ้วย เลย หรือว่าตัวผมทำอะไรผิดพลาดกันแน่ แกนเหล็ก แกะเอามาจากหม้อแปลงของ TAM Radio ครับ :cry2ท่านใดมีประสบการณ์ อย่างนี้บ้างครับ หรือ มีประสบการณ์ที่ประทับใจกับแกน C Core มั่งครับ เล่าให้ผมฟังหน่อยสิครับ
งั้นมันต้องทำอย่างไรบ้างครับ อย่างผมพัน 5K แล้ว หรือว่าจะพัน 5K 2 ขด ขนานคู่กันไป ดีละครับ เพราะเห็นว่าแกน C Core มันก็คงไม่มีการใส่แกนด้วยวิธีอื่น นอกจากมาประกบกันเฉย ๆ น่ะครับ ส่วนรูปแบบการวางขดลวด ก็ วางไม่ได้กี่วิธีเองครับ
อ้างจาก: Spacerider ที่ 26 กุมภาพันธ์, 2011, 08:48:05 pmสงสัยจะทำ Lundahl 5k ใช้ได้ทั้ง 5k SE กับ 5k p-p แบบนี้เราสามารถทำไว้ใช้เองได้ครับ อ้างจาก: Karin Preeda ที่ 26 กุมภาพันธ์, 2011, 09:56:42 pmเรื่องพันจริงนี่คงต้องให้คุณประสาน หรือ Mr.Tube มาแนะนำดีกว่าครับ ไม่ได้เข้ามาอ่านกระทู้ขอบคุณครับอาจารย์ แต่ผมมือสมัครเล่นครับอาจารย์ ผมจะลองพยายามครับ อ้างจาก: Rabbit-Hunter ที่ 11 มีนาคม, 2011, 11:51:13 pmการตอบสนองเสียงสูงในช่วง 14 -20 K มันค่อยข้างมีปัญหา คือมันตอบสนองความถี่ได้ไม่ดี ส่วนเสียงย่านต่ำ นี่ มันออกดีเหลือเกิน แกน C-core บางทีก็ดีแต่ชื่อก็มีครับ ต้องทดสอบก่อนนำมาใช้ครับวัดค่า L ที่ความถี่ 100/120Hz และที่ 1kHz ให้หน่อยครับ
สงสัยจะทำ Lundahl 5k ใช้ได้ทั้ง 5k SE กับ 5k p-p
เรื่องพันจริงนี่คงต้องให้คุณประสาน หรือ Mr.Tube มาแนะนำดีกว่าครับ
การตอบสนองเสียงสูงในช่วง 14 -20 K มันค่อยข้างมีปัญหา คือมันตอบสนองความถี่ได้ไม่ดี ส่วนเสียงย่านต่ำ นี่ มันออกดีเหลือเกิน
ถ้าแก้ปัญหาได้แล้ว เดี๋ยวจะเอาไปให้พันอีก 1คู่ c-core
ต่างกันนะครับ 5K แล้วมี tap 2.5K นี่ ถ้านึกถึงกฏกำลังสองแล้วZ/z = (N/n)^2sqrt(5000/8) = 25:1sqrt(2500/8) = 17.67:1output ทั้งสองซีกออกมาห่างกันพอควรเลย ถึงแม้มี center tap ที่ดึงออกมาตรงกลาง ด้วยกฏกำลังสองนี่แหละ หลอดจะเห็น impedance แค่ 1/4 ต่อซีกไม่รวมวิธีการพันที่ต่างกันของ SE กับ PP ครับ
ปกติเค้าวัดกันที่ Sine wave 1kHz ที่ 1watt และที่ Full watt ใช่หรือเปล่าครับ
เข้ามาเขียนว่าแม้แต่เวลาอ่านยังไม่ค่อยมีเลยในช่วง นี้ เอาไว้มีเวลาอ่าน จะมาคุยต่อนะครับ
คือ Square wave test มันอาจจะบอกอะไรไม่ได้มากนักครับ ยิ่งความถี่สูงๆอย่าง 10KHz square wave นี่ Harmonic แรกคือ 30KHz ซึ่งมันเลย audio frequency ไปแล้ว ถ้าที่ 1KHz อาจจะพอบอกเรื่อง frequency response ได้บ้าง Square wave จะมีแต่ Harmonic คี่เท่านั้น ผมเคยลองเอา square wave function มาผ่าน Fourier transform ด้วย MS Excel แล้วเลือกเอาความถี่ fundamental กับ Harmonic ที่ถึงประมาณ 20KHz กว่าๆมารวมกัน รูปคลื่นที่ได้ก็ไม่ได้เป็นเหลี่ยมเท่าไหร่ ลองตัดหลัง 15KHz ออกไป ผลลัพธ์ก็คล้ายๆกัน ต้องรวมไปถึงประมาณ 30KHz ถึงจะออกมาเป็นเหลี่ยมๆสวยงาม คือถ้า test 1KHz แล้วออกมาสวย ก็บอกได้ว่ามันน่าจะไปถึงประมาณ 30KHz ครับอีกอย่างที่พอบอกได้ก็เป็นพวก overdamp, underdamp ที่ความถี่ต่ำครับ แต่ก็ขึ้นอยู่กับ load ของมันด้วย คือต้อง Optimize มันก่อน แล้วค่อย test transformer ที่มี impedance ratio เท่ากัน ถึงจะบอกได้ว่าตัวไหนดีกว่า อีกเรื่องนึงก็เป็น transient response ที่มีตัวอย่างของผลลัพธ์ของ transformer ที่ดีให้เห็นอยู่บ้างแล้วการทดสอบด้วยเครื่องปกติแล้วแต่ละคน หรือแต่ละผู้ผลิตก็จะมีหลักเกณฑ์ที่ต่างกัน หัวข้อทดสอบบางอย่าง คนนึงอาจว่าสำคัญ แต่อีกคนนึงอาจจะไม่ก็ได้ แต่โดยทั่วไปก็จะมีหัวข้อพื้นๆที่ต้องทำให้ผ่านอยู่แล้วเช่นการตอบสนองความถี่ ความสามารถในการทนแรงดันและกระแส หรือ power output อะไรพวกนี้ ที่สำคัญคือต้องเข้าใจว่าผลลัพธ์ที่ได้หมายถึงอะไร และมีความหมายต่อผลลัพธ์สุดท้าย(การรับฟัง)แค่ไหนครับ