HTG2.club

มองน้ำท่วมในด้านสร้างสรรค์ โดย อาจารย์ระพี สาคริก

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ PR

  • ****
    • กระทู้: 357
อาจารย์ระพี เป็นผู้น้อมความคิดมาสอนเราอย่างลึกซึ้ง เรียบง่ายแต่ลึกซึ้งครับ ผมอ่านแล้วนึกขอบคุณผู้นำข้อความของอาจารย์มากโพสต์ไว้ ณ ที่นี้ และผมขออนุญาตส่งต่อให้แก่คนที่รักใคร่ได้ซึมซับความรู้ ความเข้าใจและความอ่อนโยนของอาจารย์ที่แฝงไว้ในบทความสั้นๆนี้ สั้นแต่ทรงคุณค่าเหลือเกิน ถึงบางท่านว่ายากจะปฏิบัติซึ่งผมก็คล้อยตามนั้น แต่ยังคิดว่าอย่าพึงรีบปฏิเสธ หมั่นขูดกิเลสเข้าไว้แล้วจะทำได้อย่างอาจารย์เมตตาบอก


ออฟไลน์ ราศีธนู

  • Freshy
    • กระทู้: 15
"เงินทองเป็นของมายา ข้าวปลาเป็นของจริง" (หม่อมเจ้าสิทธิพร กฤดากร (2426-2514) บิดาแห่งการเกษตรไทย)

ผมคิดว่ายังไม่สายที่เราจะหันมาให้ความสำคัญกับภาคการเกษตรให้พอๆ กับการลงทุนภาคอุตสาหกรรม


ออฟไลน์ gai

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,318
    • เพศ:ชาย
น้อมรับคำสั่งสอนของอาจารย์ครับ ผมนับถีอความคิดความเห็นของอาจารย์ตลอดมา  ถึงแม้ผมจะไม่เคยได้ร่ำเรียนกับอาจารย์มาก่อนเลย

แต่ในครั้งนี้ ถ้าอยู่ใกล้ผมก็จะขอเรียนอาจารย์ว่า แนวคิดของอาจารย์เรื่องการอนุรักษ์เป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่ยากจะปฏิบัติ เนื่องจากสภาพสังคมที่เปลี่ยนไป จำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น เป็นตัวบังคับให้เราพัฒนากันในรูปแบบนี้  มันคงจะเป็นไปได้ยาก ถ้าเรามีประชากร 70 ล้านคนแล้วยังมีวิถีชีวิตแบบเดิมเมื่อครั้งยังมีประชากรไม่ถึง 10 ล้านคน  อีกทั้งสถานะสังคมที่เมื่อสมัยนั้นเป็นสังคมเกษตรกรรม แต่ยุคนี้เป็นสังคมอุตสาหกรรม  ในยุคนั้นคนอยู่กับไร่นา เรือกสวนเป็นส่วนใหญ่ วิถีชีวิตอยู่กับน้ำ น้ำท่วมยังสามารถดำรงชีพอยู่ได้อย่างเดือดร้อนไม่มาก แต่สังคมอุตสาหกรรม ที่คนห่างธรรมชาติ คนต้องพึ่งพาการผลิตที่ให้ประสิทธิภาพสูงเพื่อรองรับจำนวนประชากรที่มีมาก มันเป็นการยากที่คนจะรับมือกับอุทกภัยในรูปแบบเดิมครับ

ในแง่มุมของความอดทน ผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง แต่กระนั้น มันก็ยังยากที่จะให้คนที่มักจะพัฒนาเพื่อความสุขสบายเพิ่มขึ้น ยังอยากที่จะอยู่อย่างลำบากแบบเดิม ผมว่ามันสวนทางกันในทางความคิดครับ  อย่างไรก็ตาม ตัวกระผมเองก็มีแนวคิดเช่นอาจารย์ ผมจะไม่เกษียณตัวเอง แม้จะอายุเลยเลข 6 นี่เป็นความตั้งใจของผม ในช่วงชีวิตผม ผมคิดว่าผมได้ทำอย่างที่อาจารย์สั่งสอนมาไม่น้อย และผมก็จะพยายามหาทางทำงานที่ยังทำได้ เพื่อส่วนรวมต่อไปจนชีวิตจะหาไม่ครับ


ออฟไลน์ ราศีธนู

  • Freshy
    • กระทู้: 15

ผมขอข้อเดียวครับ ระวังน้ำ + กับไฟ (ไฟฟ้า) ที่ๆ ยังไม่ได้ตัดไฟ - น้ำ + กับ ไฟฟ้า พึงระวังครับ เราไม่มีทางรู้เลยว่าน้ำที่เรากำลังยืนอยู่ใกล้ๆ มีไฟรั่วอยู่รึปล่าว ?

ดูแลตัวเองกันเยอะๆ และมี "สติ" ด้วยนะครับ


ออฟไลน์ nuummie

  • *****
    • กระทู้: 850
ดูรูปสวยๆวิถีไทยๆตอนน้ำท่วมกันครับ ผมได้ share จาก facebook อีกที

in my memory 29/10/2011
โดย Art of Aud ( อัลบั้ม ) · อัพเดทเมื่อ 14 นาทีที่แล้ว · ถ่ายที่ท่าพระจันทร์ สะพานพุทธ บางรัก

"หลังเสร็จงานวันนี้ ที่โบสถ์อัสสัมชัญ บางรัก ผมกับพี่ eddie ก้อเดินถ่ายรูปเล่นกัน นั่งสามล้อตะลอนไปจากบางรัก สะพานพุทธ ท่าพระจันทร์ เป็นภาพที่น่าจดจำและผมคิดว่า น้องๆควรหาเวลาไปเก็บประวัติศาสตร์น้ำท่วมครั้งนี้นะครับ/ Leica M9+28f2 + 90f2 เดินถ่ายช่างมีความสุขจริงๆ"

http://www.facebook.com/media/set/?set=a.210027489070104.51639.120510108021843&type=3


ออฟไลน์ MorBoi

  • Superstar...
  • ****
    • กระทู้: 6,095
ผมว่าคราวนี้คนแตกตื่นตกใจกลัว ส่วนหนึ่งผมให้ความผิดกับสื่อมวลชล ตอนนี้เราได้รับข่าวกันง่ายเหลือเกิน
และให้กันบ่อยให้กันจนมัน overload ไปหมดแล้ว บ้านเรานํ้าท่วมกันมากี่ครั้งแล้ว กทม จมนํ้ามาไม่รู้กี่ครั้ง เมื่อก่อนบ้านผมอยู่
ลาดพร้าว จมเป็นประจำ สุขุมวิทก็นํ้าท่วมเสียจนไม่เห็นจะเป็นแรื่องน่าตื่นเต้นอะไร
แต่หนนี้กลับสังเกตุว่าคน panic กว่าเดิมเยอะ เริ่มซื้อของกักตุนกันเป็นว่าเล่น เมื่อก่อน นํ้าท่วมโรงรียนปิดไปเดือนนึง
ก็เห็นยังมีนํ้ากิน ของกิน ไม่ขาดแคลนไม่ต้องแย่งกันซื้อเลย ทำไมยิ่งทำเยอะ มีระบบมีการช่วยเหลือดีขึ้น แต่คนกลับ
ยิ่งกลัวกันขึ้นไปอีก ฟังข่าวมากๆแล้วรู้สึกประสาทเสีย

หนังสือพิมพ์บางฉบับ พาดหัวข่าวอยู่ได้ทุกวันมาเป็นอาทิตย์แล้วว่า กรุงเทพล่มมั่งจมนํ้ามั่ง นี่เขารายงานข่าวให้คนได้ข้อมูลหรือ
ขู่ให้คนกลัวเล่นกันแน่เนี้ย

ตอนนี้เลยแค่เตรียมตัวไว้ว่า worse case scenario เรามีนํ้ามีอาหารพอตัวเตรียมใจเดรียมตัวไว้ให้ดี แล้วใจเย็นๆค่อยๆดูกันต่อไปดีกว่า
ขี้เกียจฟังทั้งไอ้พวกที่ชอบขู่ กะ ไอ้พวกที่ได้แต่พูดผักชีโรยหน้า โกหกไปวันๆ ไม่รู้จะมีใครหน้าเชื่อถือให้ฟังมั่ง




ออฟไลน์ ลำน้ำ

  • >> Voodo SilverMica Cable <<
  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,211
    • เพศ:ชาย
อ่านแล้วรู้สึกดีครับ ได้คิดอะไร ต่อมิอะไร เพิ่ม  เลยอยากรู้จักท่านครับ

WIKI

โปรดดู ข้อมูลส่วนตัวผมครับ.... ของที่มีอยู่แล้วไม่มีปัญญาทำให้เสียงถูกใจได้ ไม่ต้องหวังจะซื้อมาเพิ่ม ต่อให้ของชั้นเทพ ... มันก็ช่วยอะไรไม่ได้ถ้าไร้ความพยายาม...ว่าแล้ว htg2 ไม่ได้ดั่งใจ เป็น ebay เลยดีกว่าหมดตัวเร็วดี


ออฟไลน์ ราศีธนู

  • Freshy
    • กระทู้: 15
มองน้ำท่วมในด้านสร้างสรรค์ โดย อาจารย์ระพี สาคริก

       
       เธอที่รักทุกคน ความจริงแล้วสิ่งที่มันเกิดขึ้นทุกวันนี้ ถ้าเธอหวนกลับไปมองสู่อดีต ฉันพูดไว้นานแล้วว่า เหตุการณ์ต่างๆ ที่มันเกิดขึ้นในบ้านเมืองเราก็เพราะคนไทยหลงอยู่กับความสบาย จนกระทั่งรากฐานจิตใจอ่อนแอ เห็นอะไรที่มิใช่ของตัวก็อยากได้คอรัปชั่นก็เต็มบ้านเต็มเมือง เศรษฐกิจย่ำแย่ก็แก้ไม่ตก การจัดการศึกษาก็ไม่ได้ทำให้คนเป็นมนุษย์ ถ้าฟังเสียงจากภายนอก ต่างชาติเขาพูดกันว่าคนไทยไม่รู้จักความยากลำบาก
       
       ความจริงน้ำท่วมครั้งนี้ ถ้าเธอไม่ใช่คนลืมง่าย เมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๕ มันก็เกิดไม่น้อยไปกว่านี้ เว้นไว้แต่ว่าคนไทยสมัยนั้นไม่ได้สร้างวัตถุมากมาย เหมือนปัจจุบันจึงไม่เดือดร้อนเช่นทุกวันนี้ ฉันจำได้ว่า เมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๕ น้ำมันท่วมถึงชั้นที่สองของบ้าน แต่คนไทยก็ยังอยู่กันได้ถึงหนึ่งเดือนเต็มๆ ขณะนั้นฉันมีอายุ ๒๑ ปี
       
       แต่ทุกวันนี้เรากลับทำลายธรรมชาติ ภูเขาหินปูนลูกใหญ่ๆ ในจังหวัดสระบุรี ลพบุรี และที่ปากช่อง เป็นต้น หายไปเยอะ เปลี่ยนไปเป็นตึกสูงๆ แม้แต่มหาวิทยาลัยก็มีการก่อสร้างกันอย่างเอิกเกริก การศึกษาที่ทำลายสิ่งแวดล้อมนี่ เองที่ได้ทำลายจิตใต้สำนึกของมนุษย์ ทำให้สังคมแย่ลงไปทุกที ยิ่งแก้ไขก็ยิ่งตกต่ำ ไม่อย่างนั้นคงไม่เกิดการจัดการ ศึกษาทางเลือก
       
       การศึกษาที่จัดให้คนนั่งอยู่ในตึกสบายๆ แล้วจะหวังให้ลูกศิษย์จบไปแล้วลงทำงานติดดินมันก็คงเป็นไปได้ยาก ยิ่งกว่านั้นตัวผู้ใหญ่เองซึ่งเป็นผู้บริหารก็เช่นกัน หากรักแต่จะประชุมอยู่แต่ในตึกอยู่ในห้องแอร์ ลูกศิษย์จะได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพได้อย่างไร เพราะถ้าหัวไม่ส่าย หางมันจะกระดิกได้อย่างไร
       
       ฉันคิดว่าน้ำท่วมครั้งนี้มันน่า จะสอนให้เธอทั้งหลายรู้จักอดทนเพราะถ้าเธอต่อสู้กับใจตนเองไม่ ได้แล้วจะไปสู้กับอะไรที่ไหน ฉันขอฝากเรื่องนี้เอาไว้ให้เธอกลับไปนอนคิด ฉันไม่รู้ว่าเหตุการณ์แบบนี้มันจะเกิดขึ้นอีกสักกี่ครั้ง ถึงจะช่วยให้เธอรู้จักตัวเองดีขึ้นและไม่ไปทำลายธรรมชาติ เช่นเดียวกับเรื่องความพอเพียงที่พูดกันแต่ปาก หากไม่รู้จักทำ มีแต่การพูดกันไปต่างๆนาๆ โดยหาจุดจบได้ยาก
       
       ฉันอายุ 90 ปีแล้ว ฉันขอเป็นกำลังใจให้เธอทุกคนได้เรียนรู้กับความยากลำบากและอดทนทำงานหนัก เพราะการทำงานหนักคือความสุขที่แท้จริง
       
       ขอให้ชีวิตจงมีความสุขเพราะการทำงานให้แผ่นดิน โปรดอย่าคิดว่าการทำงานให้แผ่นดินนั้นจะต้องทำให้กับส่วนรวมเสมอไป แม้แต่การประกอบอาชีพอย่างดีที่ สุดโดยมีความซื่อสัตย์สุจริต ก็ถือได้ว่าคือการทำงานให้แผ่นดินเช่นกัน
       
       
วันที่ 27 ตุลาคม 2554
       กาญจนบุรี