หัวข้อ: การเลือกใช้ความต้านทาน

[คนไกลบ้าน]

ไหนๆ ก็คุยถึงตัว R แล้วผมขอขยายความถึงผลกระทบต่อเสียงอีกสักนิดนะครับ
ตัว R มีผลต่อดุลย์เสียงค่อนข้างมาก แต่จะฟังความแตกต่างออกได้มากน้อยแค่ไหนนั้น ขึ้นกับคุณภาพของลำโพงที่ใช้และซิสเต็มที่เล่นอยู่ รวมถึงความคุ้นเคยกับแผ่นเพลงที่ใช้ทดสอบ ลำโพงความไวสูง กับลำโพงจู้จี้ขี้ฟ้อง (ลำโพงมอนิเตอร์) มักจะฟังผลต่างได้ชัดเจนกว่าครับ

บุคลิกเสียงของตัว R จะแปรเปลี่ยนไปตามวัสดุที่ใช้ทำ เช่น
-R metal film ถ้าเอาไปใช้ในตำแหน่งทางเดินเสียง มักจะได้เสียงที่ชัดเจน สด คม เสียงเครื่องเคาะโลหะจะเด่น+ออกจะกัดหูนิดๆ และ R ชนิดนี้บางยี่ห้อที่ราคาถูก (มากๆ) จะให้เนื้อเสียงที่บาง รีบ เรียว หากคิดจะเล่น R metal film กับทางเดินเสียงต้องยอมจ่ายแพงหน่อยครับ
-R carbon film เมื่อนำไปใส่ที่ทางเดินเสียง จะได้โทนเสียงที่อุ่น เนื้อเสียงหนา โดยรวมแล้วดุลย์เสียงออกมาดีครับ แต่คุณสมบัติของคาร์บอน จะมีน็อยส์ที่สูงสักนิด และค่ามันจะแปรเปลี่ยนตามอุณหภูมิ แต่ก็ไม่มีผลกระทบกับคุณภาพเสียงมากนัก R ชนิดนี้ ราคามักจะเป็นตัวกำหนดคุณภาพ ซึ่งส่วนใหญ่ R ราคาแพงจะได้รายละเอียดในเนื้อเสียงที่ดีขึ้น
-R carbon composition กับทางเดินเสียงเป็นของคู่กันครับ เสียงที่ออกมาจะครบเครื่องและมีบรรยากาศที่ดี แต่เนื่องจาก R ชนิดนี้ทำจากผงคาร์บอนอัดแท่ง ทำให้มีน็อยส์เยอะสักนิด ไม่เหมาะที่จะเอาไปใช้ในวงจร NFB ... เมื่อคิดจะเล่นกับ R carbon composition ไม่จำเป็นต้องจ่ายแพงนะครับ ขอแค่วัดค่าก่อนใช้ก็พอ

[korn2531]

ขอบคุณครับ 

[remus]

-แอมป์หลอด R 1% เหมาะสำหรับภาคควบคุมไฟ เช่น วงจรเรคกูเลเตอร์มากกว่าครับ ถ้าเอาไปใส่ในส่วนของวงจรขยายจะทำให้กลิ่นอายและบรรยากาศของเสียงแบบหลอดหายไป
-R Carbon film ผมว่าเป็น R ที่เหมาะกับแอมป์หลอดครับ ถ้างบประมาณมีจำกัด ผมแนะนำให้จัด R ชนิดนี้ลงไปทั้งเครื่อง ยกเว้นภาคจ่ายไฟที่ต้องใช้ R wire wound วัตต์สูง
-R Carbon composition เป็นของคู่กันกับแอมป์หลอด ถ้างบประมาณมากพอก็จัดลงทั้งเครื่องได้เลย โดยรวมมันให้เสียงที่น่าฟังกว่า R carbon film แต่ถ้าต้องการเสียงดีแบบประหยัดให้ใช้ R Carbon composition เฉพาะทางเดินเสียง เช่น R-grid ก็ได้ แต่ R ชนิดนี้บางยี่ห้อค่ามักไม่ค่อยตรง ควรวัดค่าก่อนใช้งานครับ
-R wire wound เหมาะสำหรับทำภาคจ่ายไฟ เช่น R drop ไฟต่างๆ แต่ R ชนิดนี้ส่วนใหญ่จะทำให้คุณภาพเสียงลดลง ต้องเลือกยี่ห้อให้ดี

 

[Eak-tubeamp]

 

-แอมป์หลอด R 1% เหมาะสำหรับภาคควบคุมไฟ เช่น วงจรเรคกูเลเตอร์มากกว่าครับ ถ้าเอาไปใส่ในส่วนของวงจรขยายจะทำให้กลิ่นอายและบรรยากาศของเสียงแบบหลอดหายไป
-R Carbon film ผมว่าเป็น R ที่เหมาะกับแอมป์หลอดครับ ถ้างบประมาณมีจำกัด ผมแนะนำให้จัด R ชนิดนี้ลงไปทั้งเครื่อง ยกเว้นภาคจ่ายไฟที่ต้องใช้ R wire wound วัตต์สูง
-R Carbon composition เป็นของคู่กันกับแอมป์หลอด ถ้างบประมาณมากพอก็จัดลงทั้งเครื่องได้เลย โดยรวมมันให้เสียงที่น่าฟังกว่า R carbon film แต่ถ้าต้องการเสียงดีแบบประหยัดให้ใช้ R Carbon composition เฉพาะทางเดินเสียง เช่น R-grid ก็ได้ แต่ R ชนิดนี้บางยี่ห้อค่ามักไม่ค่อยตรง ควรวัดค่าก่อนใช้งานครับ
-R wire wound เหมาะสำหรับทำภาคจ่ายไฟ เช่น R drop ไฟต่างๆ แต่ R ชนิดนี้ส่วนใหญ่จะทำให้คุณภาพเสียงลดลง ต้องเลือกยี่ห้อให้ดี

[คนไกลบ้าน]

-แอมป์หลอด R 1% เหมาะสำหรับภาคควบคุมไฟ เช่น วงจรเรคกูเลเตอร์มากกว่าครับ ถ้าเอาไปใส่ในส่วนของวงจรขยายจะทำให้กลิ่นอายและบรรยากาศของเสียงแบบหลอดหายไป
-R Carbon film ผมว่าเป็น R ที่เหมาะกับแอมป์หลอดครับ ถ้างบประมาณมีจำกัด ผมแนะนำให้จัด R ชนิดนี้ลงไปทั้งเครื่อง ยกเว้นภาคจ่ายไฟที่ต้องใช้ R wire wound วัตต์สูง
-R Carbon composition เป็นของคู่กันกับแอมป์หลอด ถ้างบประมาณมากพอก็จัดลงทั้งเครื่องได้เลย โดยรวมมันให้เสียงที่น่าฟังกว่า R carbon film แต่ถ้าต้องการเสียงดีแบบประหยัดให้ใช้ R Carbon composition เฉพาะทางเดินเสียง เช่น R-grid ก็ได้ แต่ R ชนิดนี้บางยี่ห้อค่ามักไม่ค่อยตรง ควรวัดค่าก่อนใช้งานครับ
-R wire wound เหมาะสำหรับทำภาคจ่ายไฟ เช่น R drop ไฟต่างๆ แต่ R ชนิดนี้ส่วนใหญ่จะทำให้คุณภาพเสียงลดลง ต้องเลือกยี่ห้อให้ดี

[AnalogLism]

ลองอ่านเล่นดูครับ 

http://www.thaidiyaudio.net/index.php/topic,5802.0.html

[auddyauddy]

อยากขอความรู้เกี่ยวกับการเลือกความต้า้นทาน
- ค่า%ความผิดพลาด R ในปรีหลอด ส่วนไหนจะใช้ R 1% 5% เช่นตรง เพลท กริด คาโถด ส่วนไหนต้องการความเที่ยงตรงสูง หรือใช้ได้ตามสบาย
- ชนิดของ R ควรเลือกแบบไหนดี composition, carbon film, metal oxide ,wire wound ที่นิยมใช้กันใช้แบบไหน หรือเลือกใช้ตามงบ
ขอความรู้หน่อย ขอบคุณ