หัวข้อ: วูฟเฟอร์หลาย ๆ ดอก มีข้อดียังไงครับ

[Tryman]

คือถ้าเป็นในลักษณะที่ว่ามา
เราก็ควรจะเอาดอกลำโพงหน้าใหญ่ ๆ มาต่อขนานกันหลาย ๆ ดอกสิครับ จะได้ทั้งลึก ทั้งไว
ทำไมเห็นลำโพงส่วนใหญ่ ชอบเอาดอกลำโพงหน้าเล็ก ๆ มาขนานกัน ซึ่งก็ไวอยู่แล้ว และไม่ได้ความลึกเพิ่ม

ผมว่าอยู่ที่การออกแบบมากกว่าครับว่าเขาเน้นลูกค้าระดับไหน ก็มีที่เอาดอกใหญ่ และดอกเล็กด้วยมาเพิ่มเข้าไปแต่ลองดูราคาสิครับ 
เอาดอกเล็กมาขนานต้นทุนเพิ่มไม่มากแต่ได้ส่วนที่ฟังออกง่ายๆ (เสียงกลางฟังความเปลี่ยนแปลงง่ายมากกว่า)

[Mc]

คือถ้าเป็นในลักษณะที่ว่ามา
เราก็ควรจะเอาดอกลำโพงหน้าใหญ่ ๆ มาต่อขนานกันหลาย ๆ ดอกสิครับ จะได้ทั้งลึก ทั้งไว
ทำไมเห็นลำโพงส่วนใหญ่ ชอบเอาดอกลำโพงหน้าเล็ก ๆ มาขนานกัน ซึ่งก็ไวอยู่แล้ว และไม่ได้ความลึกเพิ่ม

ตู้บางยี่ห้อ ใช้ ระบบท่อภายในตู้ หรือ passive radiator ช่วย เพิ่มความถี่ย่านต่ำ ๆ ครับ บางยี่ห้อก็มี ซับวูฟเฟอร์ช่วย

[nutsaint]

คือถ้าเป็นในลักษณะที่ว่ามา
เราก็ควรจะเอาดอกลำโพงหน้าใหญ่ ๆ มาต่อขนานกันหลาย ๆ ดอกสิครับ จะได้ทั้งลึก ทั้งไว
ทำไมเห็นลำโพงส่วนใหญ่ ชอบเอาดอกลำโพงหน้าเล็ก ๆ มาขนานกัน ซึ่งก็ไวอยู่แล้ว และไม่ได้ความลึกเพิ่ม

[Tryman]

คือ มันแตกออกไปหลายประเด็นเหมือนกันครับ

ประเด็นหลักที่ผมถามทีแรกคือ

ลำโพง Woofer ชนิดเดียวกัน (ยี่ห้อเดียวกัน รุ่นเดียวกัน หน้าดอกเท่ากัน)
ตีตู้ใส่ไปดอกเดียว กับต่อพ่วงไปอีกดอกหนึ่ง ในกรณีที่กำลังและคุณภาพของแอมป์ไม่ใช่ปัญหา ปริมาตรตู้เหมาะสมทั้งคู่ และตีตู้ด้วยเทคนิคเดียวกัน
แต่ละแบบจะมีข้อดี ข้อเสียอย่างไรครับ

ประเด็นที่โดนแตกออกมา ก็มี ลำโพงคุณภาพธรรมดาหลายดอก VS ลำโพงคุณภาพดีดอกเดียว
หรือ ลำโพงหน้าดอกเล็กหลายดอก VS ลำโพงหน้าดอกใหญ่ดอกเดียว

ผมเองก็หลุดประเด็นเองไปเหมือนกันครับ เพราะได้รับความรู้ และสาระที่หลาย ๆ ท่านแชร์กันมาเพลินไปหน่อย
แต่ละประเด็น ก็กระตุ้นให้มีรอยหยักในสมองเพิ่มขึ้นได้อีกเยอะเลยครับ

เพิ่งเข้ามาอ่านเหมือนกัน เห็นท่านเจ้าของกระทู้สรุปตัวเองมาตามข้างบนก็ขอออกแนวคิดสักหน่อยครับ

ลำโพง Woofer ชนิดเดียวกัน (ยี่ห้อเดียวกัน รุ่นเดียวกัน หน้าดอกเท่ากัน)
ตีตู้ใส่ไปดอกเดียว กับต่อพ่วงไปอีกดอกหนึ่ง ในกรณีที่กำลังและคุณภาพของแอมป์ไม่ใช่ปัญหา ปริมาตรตู้เหมาะสมทั้งคู่ และตีตู้ด้วยเทคนิคเดียวกัน
แต่ละแบบจะมีข้อดี ข้อเสียอย่างไรครับ


ประเด็นนี้ ข้อดีคือเมื่อตู้ไม่ต้องคิด(เหมาะสมทั้งดอกเดี่ยวดอกคู่) สิ่งที่จะได้เพิ่มมาโดยที่ดีไซน์เหมือนกันทั้งสองแบบ
       คือความไวของลำโพงที่มากขึ้น ตามที่ Mr tube บรรยายเอาไว้แล้ว  ส่วนเรื่องความถี่ในการตอบสนองตัดไปได้เลยครับเพราะเบสลงได้ลึกเท่ากับดอกเดียวเท่านั้น(ดีไซน์เหมือนกันนะ)
       อีกอย่างเมื่อพื้นที่ดอกลำโพงมากขึ้นเป็นสองเท่า มันจะมีอย่างนึงที่เพิ่มขึ้นมาคืออาจจะต้องใช้ความรู้สึกสักนิด คือรู้สึกว่ามันมีพลังมากกว่าดอกเดียว เวลาที่เสียงพุ่งออกมาจากลำโพงมากระทบเรานะครับ เรียกว่าอะไรดีนึกคำไม่ออก 
       อ้อข้อดีอีกอันคือ distortion จะลดลงมากครับ เมื่อความไวเพิ่มขึ้น ใช้กำลังขับลดลงก็ได้ความดังมากตามต้องการ ดอกลำโพงก็จะทำงานแค่ครึ่งเดียวในกรณี 2 ดอก เทียบกับดอกเดียว distortion อาจลดลงมากกว่าครึ่งด้วยครับ
       จะเห็นว่าลำโพงที่ทำเป็น line source  จะให้ความรู้สึกต่างจากลำโพงดอกเดี่ยวมากๆ ทั้งความไวที่สูง และdynamicที่ มากมาย

มาที่ข้อเสียคือ เสียตังเพิ่ม อาจจมากขึ้นเป็น 2 เท่าของการทำลำโพง 2 ทาง เทีบกับลำโพงสองทาง วูฟเฟอร์สองดอก เพราะตู้ต้องใหญ่ขึ้นดอกเพิ่มขึ้น ต้องเพิ่มตังส์ทั้งนั้นครับ อ้อมีข้อเสียอีกอันคือต้องหาห้องที่เหมาะกับลำโพงไว้ด้วยครับ

[Mr. Tube]

คืออ่านแล้วมันขัด ๆ กันนิดหน่อยครับ

ลำโพง Hi end ยี่ห้อหนึ่ง ผู้ผลิตโฆษณาว่า ใช้ Subwoofer 8 นิ้ว 4 ดอก ไม่ใช้ 10 หรือ 12 นิ้ว เพื่อให้ลงได้ลึก และ Speed ยังดีอยู่
แต่ท่าน wat12(คุ้ม) บอกว่า ต้องยอมเรื่องความสามารถสนองย่านความถี่ต่ำของดอกเล็กที่ลงได้น้อยกว่าดอกที่ใหญ่กว่า
ตกลงการที่เบิ้ลดอก Woofer ไปหลาย ๆ ตัวนี่ มันช่วงขยาย Bandwith ให้ตอบสนองได้ลึกขึ้นหรือเปล่าครับ

ขนาดดอกกับความถี่ต่ำที่ลงได้ ไม่ได้สัมพันธ์กันเสมอไปครับ ขึ้นกับการออกแบบดอกลำโพงครับ Woofer 6 นิ้ว ตอบสนองได้ 35Hz ก็มี ในขณะที่ Woofer 12 นิ้วบางตัวตอบสนองได้แค่ 40Hz ก็มี แต่ถ้ามองภาพรวมๆ แนวโน้มเป็นเช่นนั้นครับ คือ Woofer ที่ใหญ่กว่ามีแนวโน้มจะตอบสนองความถี่ได้ต่ำกว่าครับ แต่ในระดับที่จะออกแบบลำโพงเอง เราไม่พูดถึงแนวโน้มครับ เอา Spec มาว่ากันเลย

[Mr. Tube]

เรื่อง Speed ครับ

ดอกใหญ่ๆดอกเดียว ถ้าแอมป์ไม่ถึงเบสจะหน่วง มาช้า ต้องใช้แอมป์ถึงๆมาขับ
ดอกเล็กหลายๆดอก เพิ่มสปีดเบสให้กลมกลืนกับช่วงบน ลดภาระในการหาแอมป์มาขับ

เห็นด้วยกับน้าจิ๊บจร้า

ดอกเล็ก ใช้แรงขับนิดเดียวก็ขยับ  แรงต้าน  แรงคืนตัวก็น้อยกว่า  เมื่อรู้จักคุณสมบัติของมันแล้ว  การควบคุมมันได้ย่อมทำได้ง่ายกว่า
แต่ก็ต้องยอมเรื่องความสามารถสนองย่านความถี่ต่ำของดอกเล็กที่ลงได้น้อยกว่าดอกที่ใหญ่กว่า

ดอกใหญ่กว่าก็ยิ่งตรงกันข้ามกัน  สิ่งที่ง่ายของดอกเล็กกลายเป็นยากขึ้นๆ
การคุมให้เด็ดขาดจึงยากไม่ใช่เล่น  ไม่ใช่ว่าแอ็มป์ที่ตัวเลขบอกกำลังวัตต์มากๆ  จะใช้ได้ดีทุกตัว

ไม่เสมอไปว่าจะเป็นเช่นนั้นครับ ขนาดดอกไม่ใช่ประเด็นครับ ประเด็นคือกำลังขับและกำลังต้านการขับครับ Driver ขนาดเล็กมีกำลังต้านการขับเล็ก แต่ชุด Motor ก็เล็กด้วยนะครับ ในขณะที่ Driver ขนาดใหญ่ กำลังต้านเยอะก็จริง แต่ชุด Motor ก็ใหญ่ตามไปด้วย ประเด็นคือสัดส่วนของใครดีกว่าระหว่างดอกเล็กกับดอกใหญ่ครับ ให้ลองเปรียบเทียบ Driver Model เดียวกันขนาด 5 นิ้วกับ 12 นิ้วดูสิครับ ความไว (Efficiency) ใครเยอะกว่า ยิ่งถ้ามองภาพรวมไม่ระบุยี่ห้อจะยิ่งเห็นว่า Driver 12-15 นิ้ว ความไวเฉลี่ยจะสูงกว่า Driver 5-8 นิ้วเสมอๆ ครับ

[Mr. Tube]

ประเด็นหลักที่ผมถามทีแรกคือ

ลำโพง Woofer ชนิดเดียวกัน (ยี่ห้อเดียวกัน รุ่นเดียวกัน หน้าดอกเท่ากัน)
ตีตู้ใส่ไปดอกเดียว กับต่อพ่วงไปอีกดอกหนึ่ง ในกรณีที่กำลังและคุณภาพของแอมป์ไม่ใช่ปัญหา ปริมาตรตู้เหมาะสมทั้งคู่ และตีตู้ด้วยเทคนิคเดียวกัน
แต่ละแบบจะมีข้อดี ข้อเสียอย่างไรครับ

ตัดความเห็นออกแล้วกลับมาดูที่ข้อเท็จจริงสิครับ ในทางกลพื้นที่ผลักอากาศเพิ่มขึ้นตามจำนวนดอกที่ใช้ครับ ในทางไฟฟ้า Imp จะเปลี่ยนไปจากการต่อดอกลำโพง แต่เราตัดประเด็นนี้ไปแล้วเพราะแอมป์มีกำลังและคุณภาพเพียงพอ จึงเหลือแต่เรื่องพื้นที่ผลักอากาศที่เพิ่มขึ้นซึ่งนับเป็นข้อดีครับ เพื่อให้เข้าใจยิ่งขึ้นลองนึกถึงการทำงานของลำโพงนะครับ สมมุติดอกลำโพงมีพื้นที่ผลักอากาศ 1 ตารางฟุต ที่ความถี่ 100Hz กรวยจะเคลื่อนที่เข้าและออก +/-1mm เกิดเป็นความดัง 90dB ผมตั้งตัวเลขนี้ไว้เป็นค่าเปรียบเทียบครับ ถ้าเราเพิ่มดอกลำโพงเข้าไป พื้นที่ก็จะเพิ่มเป็น 2 ตารางฟุต ความถี่ที่ป้อนเข้ายังคงเป็น 100Hz อยู่ ก็คือใน 1 วินาทีกรวยจะวิ่งเข้า-ออก 100 รอบ ถ้าเราต้องการความดังเท่าเดิม 90dB กรวยของ 2 ดอกย่อมเคลื่อนที่น้อยกว่า +/-1mm ครับ สมมุติเป็น +/-0.5mm ละกัน คุณว่าใครทำงานสบายกว่าครับ ลองเปรียบเป็นคนละกันครับ คน 1 คนต้องวิ่งส่งของระยะทาง 100m ไปกลับวันละ 100 รอบ กับคน 2 คนวิ่งคนละ 50m ไปกลับ 100 รอบเหมือนกัน ผมเลือกอยู่ทีมหลังดีกว่าครับ 

[wmm]

อันนี้ 9 ดอกเหมือนๆกัน


เสียงเป็นไงบ้างครับถ้าเทียบกับลำโพงดอกเดียว

[wat12(คุ้ม)]

เรื่องแอ็มป์นี่ก็มีงงเหมือนกัน (ตอนหาดูแต่ตัวเลขกำลังขับ)

ตัวนี้เลยจร้า
http://integrahometheater.jp/products/dta-7.htm
class D amplifier
capacitor  filter  35Vdc

เอาเข้าจริง  หาโหลดเหมาะๆ  ให้มันขับไดดี  ไม่ง่ายเอาซะเลย 

แต่ก็ต้องหากันต่อไปจร้า

[wat12(คุ้ม)]

เนื่องจากตัวเองมีใช้ดอกสิบนิ้ว Excel W 26 FX 001 ตามกระทู้นี้แหละจร้า http://www.htg2.net/index.php?topic=57808.60
จึงสนใจหาข้อมูล  หากันแบบตรงๆ แทบไม่เจอ  ต้องตามไปอ่านเนื้อหากันด้วย จึงพอแกะรอยได้บ้าง

ในนี้เขาก็บอกเช่นกันว่า  มี แปดนิ้วตัวถึงที่ทำอะไรๆ  ได้เทียบเคียงกับสิบนิ้ว
http://www.audiocircle.com/index.php?topic=7739.20

มันก็มีอยู่จร้าหากขนาดไม่ต่างกันมาก
แต่อะไรก็ตาม ที่จงใจสร้างขึ้นเฉพาะทาง  ย่อมเป็นไปได้ที่จะมีสเป็คที่พิเศษกว่าเพื่อนพ้องต่อไปได้อีกก๊อก


ด่านแรกคือการออกแบบให้ลงตัว  คนชอบ  รับได้ในเสียง  จากตู้นั้นๆ
ด่านสอง คือห้องที่จะใช้งาน
ด่านสามตือ แอ็มป์ที่จะใช้เข้าขากับมัน  ทำงานได้ดีในห้องนั้น
ซึ่งยังมีกองเชียร์อีกเพียบ  (สายสัญญาณ  ทุกช่วง  กระทั่งสายลำโพง  ไหนจะปลั๊ก ต่างๆ และมีสายไฟอีก)
จอมบงการ ซอร์ส/ปรี (และสายต่างๆข้างบน)
ท้ายสุดคือความพึงพอใจของเรา  ของคนที่ใช้งานมัน.........................ไม่ใช่แค่เสียงซะแล้ว  รูปลักษณ์  ชื่อชั้น  ตามมาอีก

การที่จะกลั่นกรองจนตกผลึกกลายเป็นความชอบได้นั้น  ตัวแปรแยะเหลือเกิน
หากเน้นกันที่คุณภาพองค์รวม  คงต้องพิจารณากันหลายอย่างมากมาย


กลับมาดูสิ่งที่ จขกท.อยากทราบ
ลำโพงที่มีวูฟเฟอร์หลาย ๆ ดอกอยู่ในตู้เดียวกัน ขับด้วยแอมป์ตัวเดียว มีข้อดีข้อเสียอย่างไรครับ
ถ้าเปรียบเทียบกับลำโพงแบบเดียวกัน แต่มีวูฟเฟอร์ตัวเดียว ขับด้วยแอมป์ตัวเดียวกันครับ


แบบแรก  ขึ้นอยู่กับการจัดการภายในจร้า   เป็นการแบ่งภาระโหลด
บางรุ่น  เอาดอก 8 ohms x2 = 4 ohms system
บางรุ่น เอาดอก  12 ohms x2  or 16 ohms x2 ขนานกันให้เป็น 6 or 8 ohms   แอ็มป์จะถูกแบ่งกระแสแยกขับลำโพงแต่ละดอก  ดังนั้นกำลังที่กระทำต่อโหลด ของแบบหลังจึงเต็มที่(ของแอ็มป์นั้นๆ)มากกว่า

ถ้าแอ็มป์เหลือๆ  ลำโพงเพียงพอสำหรับห้องนั้นๆ  แบบหลัง  จผ้มีสำรองมากกว่า

[nutsaint]

คือ มันแตกออกไปหลายประเด็นเหมือนกันครับ

ประเด็นหลักที่ผมถามทีแรกคือ

ลำโพง Woofer ชนิดเดียวกัน (ยี่ห้อเดียวกัน รุ่นเดียวกัน หน้าดอกเท่ากัน)
ตีตู้ใส่ไปดอกเดียว กับต่อพ่วงไปอีกดอกหนึ่ง ในกรณีที่กำลังและคุณภาพของแอมป์ไม่ใช่ปัญหา ปริมาตรตู้เหมาะสมทั้งคู่ และตีตู้ด้วยเทคนิคเดียวกัน
แต่ละแบบจะมีข้อดี ข้อเสียอย่างไรครับ

ประเด็นที่โดนแตกออกมา ก็มี ลำโพงคุณภาพธรรมดาหลายดอก VS ลำโพงคุณภาพดีดอกเดียว
หรือ ลำโพงหน้าดอกเล็กหลายดอก VS ลำโพงหน้าดอกใหญ่ดอกเดียว

ผมเองก็หลุดประเด็นเองไปเหมือนกันครับ เพราะได้รับความรู้ และสาระที่หลาย ๆ ท่านแชร์กันมาเพลินไปหน่อย
แต่ละประเด็น ก็กระตุ้นให้มีรอยหยักในสมองเพิ่มขึ้นได้อีกเยอะเลยครับ

[PINIJ]

คืออ่านแล้วมันขัด ๆ กันนิดหน่อยครับ

ลำโพง Hi end ยี่ห้อหนึ่ง ผู้ผลิตโฆษณาว่า ใช้ Subwoofer 8 นิ้ว 4 ดอก ไม่ใช้ 10 หรือ 12 นิ้ว เพื่อให้ลงได้ลึก และ Speed ยังดีอยู่
แต่ท่าน wat12(คุ้ม) บอกว่า ต้องยอมเรื่องความสามารถสนองย่านความถี่ต่ำของดอกเล็กที่ลงได้น้อยกว่าดอกที่ใหญ่กว่า
ตกลงการที่เบิ้ลดอก Woofer ไปหลาย ๆ ตัวนี่ มันช่วงขยาย Bandwith ให้ตอบสนองได้ลึกขึ้นหรือเปล่าครับ

กระทู้ที่ผ่านมา ผมตอบจากคำถามที่ท่านลบทิ้งไปแล้วนะครับ คำถามที่แก้ใหม่นี้ไม่กว้างเหมือนก่อน ไหนๆ ตอบหรือคุยกันมาแล้วขอตอบต่อเลยละกัน คุณจิ๊ปกะคุณวัตและเพื่อนช่วยเสริมด้วยละกัน

ไม่ใช่ว่าลำโพงดอกเล็กๆ จะให้ความถี่ต่ำๆ ไม่ได้นะครับ มันขึ้นอยู่กับ “การออกแบบทั้งดอกและตู้” ครับ ที่ถามมานี้ ไม่ใช่กรณีของการตอบของผมที่ตอบที่ผ่านมานะครับ ซึ่งตอบที่แล้ว ผมถึงบอกไว้ว่า มันขึ้นอยู่กับการออกแบบด้วย

การคุยในใบโฆษณาก็คือการคุย เรื่องจริง เสียงจริง ว่าทำได้ หรือทำให้เราชอบได้หรือเปล่าครับ ลำโพงที่บอกว่าลงลึกที่ 20 Hz เท่าๆ กัน ไม่ได้หมายความว่า มันทำให้เราชอบได้เท่าๆ กันไม่ใช่หรือครับ? กำเงินไปฟังแล้วถูกใจก็ยกมาเลยนั่นแหละคือวิธีที่ดีที่สุดครับ

[PINIJ]

ขอบคุณมากครับ เข้าใจขึ้นเยอะเลยครับ

ขอถามต่อนะครับ

กรณีที่เราจะใช้ดอกลำโพงมากกว่า 1 ดอก
ระหว่างดอกเล็กหลายดอก กับดอกใหญ่หลายดอก
มันมีความแตกต่างอย่างไรครับ

ถามกว้างอีกแล้วครับ ที่จริงผมอยากทราบความต้องการของเจ้าของกระทู้เลยจะได้ไหมครับ? จะได้ตอบได้ตรงจุดครับ

ดีใจที่ตอบไปแล้วคนอ่านเข้าใจ (หรือผมหลงตัวเองหว่า? อาจเป็นคำตอบของคุณจิปหรือคุณวัตที่ทำให้เข้าใจได้ดีกว่าผม?)

เมื่อถามกว้างผมขอตั้งสมมุติฐานว่า จะดอกเล็กหรือใช้ดอกใหญ่ ผมคิดที่พื้นที่ “หน้าตัดลำโพงมันเท่าๆ กัน” นะครับ  แล้วทำตู้เฉพาะแยกส่วนดอกละตู้ที่ออกแบบให้เหมาะกับลำโพงนั้นๆ ดีมากๆ แล้ว แต่นำมารวมไว้เป็นตู้เดียวแบบของแพงๆ ละกัน แล้วลำโพงก็ต้องเป็นชนิดเดียวกันคือวัสดุทำกรวยลำโพงที่ใช้ แม่เหล็กที่ใช้ การพันวอลยคอย สะเป็คต่างใกล้ๆ กัน ฯ มาจากที่เดียวกัน แตกต่างกันแค่ขนาดลำโพงอย่างเดียว (ที่จริงขนาดมันก็ทำให้สะเป็กต่างกันแล้วละครับ มันจะทำให้สิ่งที่พูดต่อไป ผิดได้นะครับ)

ข้อแรกเลยสิ่งที่ต่างคือสะปีดตามที่คุณจิ๊ปว่ามาแล้ว

ข้อสองคือความที่ตอบสนองลำโพงใหญ่ยอมให้ความถี่ได้ต่ำกว่าตามที่คุณวัตว่ามาแหละ ลำโพงดอกเล็กก็จะให้ความถี่ต่ำได้น้อยกว่า (นอกจากใช้ระบบลำโพงที่แตกต่างกัน เช่น ฮอร์นกับตู้เปิดแบบนี้ไม่เข้าข่ายที่จะเอาเทียบกันนะครับ ผมถึงว่าคุยกันเรื่องนี้มันกว้าง แย้งกันได้ตลอดครับ) ยกตัวอย่างลำโพงโฟกัสผมถึงสะแต็กกัน มันก็ไม่ได้ให้ความถี่ต่ำกว่าสะเป็กที่ให้มาอยู่ดีแหละ แค่มันทำความถี่ในช่วงของสะเป็กออกมาให้ดีขึ้นได้ เมื่อฟังกันดังๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แค่นั้นครับ ใครฟังเพลงเบาๆ ไม่มีความจำเป็นต้องสะแต็กครับ ข้อนี้ถ้าต้องการความถี่ต่ำๆ ก็ต้องใช้ลำโพงใหญ่ แต่ก็ต้องยอมเสียความไว (ผมหมายถึงสะปีดนะ) หรือไม่ก็ต้องชดเชยด้วยแอมป์ดีๆ ถ้าต้องการของดี ทุกอย่างไม่มีของถูก เรื่องนี้เป็นสัจธรรมที่เรียกเลี่ยงไม่ได้ครับ ลำโพงถูกให้เสียงที่ดูใหญ่ได้จริง แต่ไดนามิคแบบออกมาสดๆ ไม่มีทางที่มันจะทำได้ดีเท่าลำโพงแพงๆ ครับ คืออย่าคิดว่าซื้อลำโพงถูกๆ หลายๆ ใบมาทำซาวด์วอลล์แล้วจะได้เสียงดีๆ สดๆ นั้นไม่มีทางเป็นไปได้ครับ

สรุปแล้วถ้าหวังผลจากการฟังจริงๆ ไปเดินเลือกซื้อของแบนด์เนมดีๆ มาใช้ ง่ายที่สุดครับ ทำเองปวดหัว แล้วเป็นไปได้มากที่ทำมาแล้วไม่ถูกใจเรา ผมยอมแพ้ของคอมเมอร์เซียนในเรื่องของการสร้างลำโพงใช้เอง แต่ไม่ยอมแพ้เครื่องคอมเมอร์เซี่ยนในการทำแอมป์ขึ้นมาใช้เองครับ

[nutsaint]

คืออ่านแล้วมันขัด ๆ กันนิดหน่อยครับ

ลำโพง Hi end ยี่ห้อหนึ่ง ผู้ผลิตโฆษณาว่า ใช้ Subwoofer 8 นิ้ว 4 ดอก ไม่ใช้ 10 หรือ 12 นิ้ว เพื่อให้ลงได้ลึก และ Speed ยังดีอยู่
แต่ท่าน wat12(คุ้ม) บอกว่า ต้องยอมเรื่องความสามารถสนองย่านความถี่ต่ำของดอกเล็กที่ลงได้น้อยกว่าดอกที่ใหญ่กว่า
ตกลงการที่เบิ้ลดอก Woofer ไปหลาย ๆ ตัวนี่ มันช่วงขยาย Bandwith ให้ตอบสนองได้ลึกขึ้นหรือเปล่าครับ

[wat12(คุ้ม)]

อ้างถึง
คือถ้าเราจะทำลำโพง โดยดอกลำโพงเราก็ใช้ที่คุณภาพดีที่สุดแล้ว
...
พึ่งรู้ว่าจะทำลำโพงเอง แต่ผมก็ยังไม่เคียร์คำว่าดอกลำโพงที่ดีที่สุดนะครับ คือดีที่สุดด้านใด ในด้านทางเทคนิค? หรือความชอบของเรา? แต่ผมคิดว่าไม่มีลำโพงออกมาขายให้เราดีที่สุดนะครับ เพราะขนาดคนผลิตลำโพงออกขายเวลาสั่งซื้อเค้ายังต้องให้ บร้าทผู้ผลิตปรับปรุงให้เค้าเป็นพิเศษกันต่อก็ยังเห็นมีเยอะไป

...
ตามที่พี่พินิจกล่าวเลยจร้า

หลายยี่ห้อที่เขารับทำตามสั่งก็บอกไว้ชัดเจนจร้า  เช่น ในลิ้งค์นี้
You did not find the driver you need for your project in our standard collection?
http://www.accuton.de/service/index.php?&m1=3&m2=2&m3=

เรื่อง Speed ครับ

ดอกใหญ่ๆดอกเดียว ถ้าแอมป์ไม่ถึงเบสจะหน่วง มาช้า ต้องใช้แอมป์ถึงๆมาขับ
ดอกเล็กหลายๆดอก เพิ่มสปีดเบสให้กลมกลืนกับช่วงบน ลดภาระในการหาแอมป์มาขับ

เห็นด้วยกับน้าจิ๊บจร้า

ดอกเล็ก ใช้แรงขับนิดเดียวก็ขยับ  แรงต้าน  แรงคืนตัวก็น้อยกว่า  เมื่อรู้จักคุณสมบัติของมันแล้ว  การควบคุมมันได้ย่อมทำได้ง่ายกว่า
แต่ก็ต้องยอมเรื่องความสามารถสนองย่านความถี่ต่ำของดอกเล็กที่ลงได้น้อยกว่าดอกที่ใหญ่กว่า

ดอกใหญ่กว่าก็ยิ่งตรงกันข้ามกัน  สิ่งที่ง่ายของดอกเล็กกลายเป็นยากขึ้นๆ
การคุมให้เด็ดขาดจึงยากไม่ใช่เล่น  ไม่ใช่ว่าแอ็มป์ที่ตัวเลขบอกกำลังวัตต์มากๆ  จะใช้ได้ดีทุกตัว

แต่ก็พอมีทางแก้  ถ้าใจถึง  + กล้าเล่นกับมัน   

[jibjoy]

เรื่อง Speed ครับ

ดอกใหญ่ๆดอกเดียว ถ้าแอมป์ไม่ถึงเบสจะหน่วง มาช้า ต้องใช้แอมป์ถึงๆมาขับ
ดอกเล็กหลายๆดอก เพิ่มสปีดเบสให้กลมกลืนกับช่วงบน ลดภาระในการหาแอมป์มาขับ

[PINIJ]

อ่านแล้วก็ยังงงนิดหน่อยครับ

จะพยายามเขียนให้หายงง แต่ก็ไม่รู้ว่าผมจะมีความสามารถทำได้หรือเปล่า?

คือถ้าเราจะทำลำโพง โดยดอกลำโพงเราก็ใช้ที่คุณภาพดีที่สุดแล้ว

พึ่งรู้ว่าจะทำลำโพงเอง แต่ผมก็ยังไม่เคียร์คำว่าดอกลำโพงที่ดีที่สุดนะครับ คือดีที่สุดด้านใด ในด้านทางเทคนิค? หรือความชอบของเรา? แต่ผมคิดว่าไม่มีลำโพงออกมาขายให้เราดีที่สุดนะครับ เพราะขนาดคนผลิตลำโพงออกขายเวลาสั่งซื้อเค้ายังต้องให้ บร้าทผู้ผลิตปรับปรุงให้เค้าเป็นพิเศษกันต่อก็ยังเห็นมีเยอะไป

แอมป์ที่จะมาขับก็กำลังพอ

บอกมาแบบนี้ดีครับ คำตอบมันง่ายขึ้น คือตัดเรื่องแอมป์ไปได้

การที่เราเบิ้ลดอกลำโพงไปอีกตัวหนึ่ง จะดีกว่าใช่แค่ตัวเดียวหรือเปล่าครับ

ตรงนี้แหละคือปัญหาที่แท้จริงละ

กรณีที่หนึ่ง ถ้าเราเบิ้นใส่เข้าไปในตู้ที่ถูกออกแบบไว้ดีที่สุดสำหรับดอกลำโพงที่ว่าดีที่สุดนั่นละนะ (เน้นว่าตู้นี้ดีที่สุดสำหรับใส่ลำโพงดีที่สุดดอกเดียว) ข้อนี้ตอบได้เลยว่า เบิ้นแล้วไม่ดีแน่ๆ ครับ

กรณีที่สอง ถ้าเราทำตู้ที่เหมาะกับลำโพงดีที่สุดอีกใบแล้วทำมันติดซ้อนกันเป็นใบเดียว ถ้าเบิ้นแบบนี้แล้วผมคิดว่า ให้เสียงที่ดีกว่าการใช้ตู้เดียวกับลำโพงดอกเดียวครับ ดีตามที่ผมว่ามาแล้วละครับ มันจะดังดีกว่ากัน ความดีจะห่างกันมากขึ้น เมื่อเปิดดังมากขึ้นเรื่อยๆ  คือเปิดดังเบาๆ อาจจะไม่ได้เห็นข้อแตกต่าง แต่ถ้าเปิดดังจนระดับที่เราฟังแบบใช้ระโพงดอกดอกฟังไม่ได้แล้ว (คือมันอาจจะมีเสียงแตก เกิดการพล่าเพี้ยนออกไปมากๆ แล้ว)  แต่เสียงดังระดับนี้เมื่อใช้ลำโพงสองใบมาสะแต็กกัน มันก็ยังฟังได้ดีกว่าครับ

ที่จริงการฟังระดับดังมากๆ แบบที่ผมว่ามานี้เพลงธรรมดาไม่คอยเจอกันละครับ แต่เพลงคลาสสิกนั้นมันจะมีออกมาบ่อยมากๆ คือช่วงเบาก็เบาจนเกือบไม่ได้ยิน (การฟังเพลงคลาสสิกไม่ควรเร่งเสียงช่วงที่เพลงเบาๆ คอนดักเตอร์เค้าตั้งใจให้ได้ยินแค่นี้) แล้วจะมีตอนที่ค่อยๆ เร่ง (เพลงท่านบีฯ เบอร์เก้าท่อนสี่ลองฟังท่านฟุทเวงเล่อร์คุมวงเบอร์ลินดู) หรืออาจมาตูมเดียว (ลองฟังเพลงท่านไชร์ฯ เบอร์หกโดยท่านมราวินสะกี้คุมที่นาทีที่สิเอ็ดดู) จุดที่ว่ามาของเพลงท่านไชร์ฯ นั้นจะเหมือนเสียงของฟ้าผ่าใกล้ๆ ตัว แบบแดดร้อนเปี้ยงๆ เลยละ คือมาแบบไม่รู้ตัว ถ้าลำโพงไม่ดีพอ ก็ฟังไม่ได้อัฐรถครับ คือไม่รู้สึกถึงความเกี้ยวกราดโมโหของคนที่ถูกบังคับให้ฆ่าตัวตายได้  และเพลงของท่านบีฯ ที่ท่านฟุทฯ คุม จะมีอยู่ช่วงก่อนที่จะมีการร้องประสารเสียง คนคุมทุกคนจะทำให้เกิดเสียงเบาๆ ในตอนแรก แล้วก็จะค่อยๆ ดังขึ้น เพลงนี้ผมเคยฟังตอนโฟกัสมีคู่เดียว ตอนที่เสียงดังสูงสุดผมก็ยังรู้สึกเฉยๆ เพราะเปิดดังมากกว่าที่คู่เดียวทำได้ไม่มากไปกว่านี้แล้ว แต่พอสมสะแต็กโฟกัสเท่านั้น ผมเปิดได้ดังมากขึ้น เพลงช่วงที่ดังสุด เมื่อตอนฟังครั้งแรกผมขนหัวลุกเลยครับ ไม่นึกว่าท่านฟุทฯ จะทำเสียงได้สะใจถึงขนาดนี้ได้  คือมีการขึ้นเสียงไปเป็นระดับ สมมุติว่าถึงระดับที่ 9 เราก็ว่ามันสุดๆๆๆๆ ไปแล้ว เกิดความประทับใจมากๆ แล้ว แต่มันยังขึ้นไปอีกถึงขั้นที่ 10 เหนือความคาดหมายของผมจริงๆ ตอนนั้นขนหัวลุกเลยละครับ แต่อาการขนหัวลุกเกิดได้ครั้งเดียว เพราะครั้งหลังเรารู้ไปแล้ว แต่เหตุการณ์แบบนี้สามารถเกิดกับเพลงอื่นๆ ได้อีกเช่นเมื่ออาทิตย์ก่อนผมฟังเบอร์ห้าของท่านบีฯ โดยท่านวิกเตอร์เป็นคนคุม ผมก็เพิ่งจะได้ยินเสียงช่วงเรียนแบบเคาะประตูยมโลกของท่านวิกเตอร์ทำได้เหมือนเอาสายฟ้ามาฟาดกันเลยละ เมื่อก่อนที่เคยฟังเพลงนี้อน่างมากก็รู้สึกเหมือนเอาแค่ค้อนมาเคาะเท่านั้น มันไม่ค่อยเท่าใจเท่าครั้งที่เอาลำโพงมาสะแต็กกันครับ

ผมก็พยายามอย่างที่สุดหวังว่าคงจะเข้าใจนะครับ ถ้ายังไม่เข้าใจผมคงหมดปัญญาอธิบายแล้วละครับ

[nutsaint]

อ่านแล้วก็ยังงงนิดหน่อยครับ

คือถ้าเราจะทำลำโพง โดยดอกลำโพงเราก็ใช้ที่คุณภาพดีที่สุดแล้ว แอมป์ที่จะมาขับก็กำลังพอ
การที่เราเบิ้ลดอกลำโพงไปอีกตัวหนึ่ง จะดีกว่าใช่แค่ตัวเดียวหรือเปล่าครับ

[k.ken]

   มันอยู่ที่การออกแบบมั้ง..ครับ ลองไปดูของยี่ห้อ RCF หรือพวก แรงค์-คัส ไฮท์ ดูสิ เขายัดเข้าไป4ดอกหรือ8ดอก ก็มี แต่ราคาแพง......

[PINIJ]

มาตอบเรื่องของการขับของแอมป์บ้าง ผมคิดว่ามีแอมป์ที่ทำได้  250W ที่ 8 Ohms, 500W ที่ 4 Ohms และ 1000W ที่ 2 Ohms เอาลำโพง 8 Ohms มาต่อขนานกันให้มันขับ ผมคิดว่ามันก็ยังทำงานได้ดีอยู่นะครับ

แต่ผมก็ยังสงสัยอยู่เหมือนกันว่า ถ้าเราเอาลำโพง 8 Ohms 4 ตัวมาต่อรวมให้ได้ 8 Ohms แล้วมันจะมีผลอย่างไรกับแอมป์? (อันนี้ผมไม่รู้และอยากรู้ด้วยเหมือนกันละครับ) ผมคิดว่ามันน่าจะมีแรงดันผลักกลับของเส้นแรงแม่เหล็กในลำโพงที่ย้อนกลับมาที่แอมป์เพิ่มเข้ามาอีกเป็นแน่ (ผมไม่มีเงินที่จะสะแต็กสี่อ่ะครับ และห้องก็ไม่ได้ใหญ่จนถึงใช้กันขนาดนี้ด้วย แค่สะแต็กสองคู่ห้องเล็กของผมแค่นี้ก็พอเพียงแล้วครับ) ที่จริงการซื้อลำโพงแพงๆ ที่สะแต็กกันข้างในมาให้ที่ราคาแพงมากๆ จนเอื่อมกันไม่ถึง ก็น่าหาลำโพงถูกๆ (อาจเป็นตั้งพื้นก็ได้) ลองให้ร้านค้าจับสะแต็กกันให้ฟัง แล้วก็เทียบกับตัวที่แพงกว่าซักสองสามเท่าที่มีอยู่ในร้านั้นๆ (ของราคาลำโพงที่สะแต็กแล้ว) ถ้าได้เสียงที่ดีกว่าก็ถือว่าเป็นลงทุนที่ชาญฉลาดได้เหมือนกันนะครับ

[PINIJ]

ผมขอให้ความเห็นในการเพิ่มลำโพงอีกคู่หนึ่งที่เป็นยี่ห้อและรุ่นเดียวกันเข้ามาในซิสเต็ม จากที่เคยใช้เพียงคู่เดียวฟังเพลงที่ดังในระดับที่ดังเต็มที่จนหนำใจเรา ผมจะไม่ขอพูดเรื่องของกำลังขับของแอมป์ให้ถือว่าเอาแอมป์อีกตัวที่เหมือนกันมาขับก็แล้วกันนะครับ

ระดับเสียงปรกติที่ฟังๆ กันก็เป็นระดับเท่าเดิม คือดังแบบสุดๆ ของทุกคนที่เคยเปิดฟังไปเลย (คือถ้าเปิดดังเบามากๆ อาจไม่ค่อยเห็นผลครับ ใช้ลำโพงคู่เดียวก็พอแล้ว)

การใช้ลำโพงสองคู่สะแต็กกัน จะพบว่าที่ความดังเท่าเก่า (ระดับที่ว่าสุดๆ ของเราแล้ว) จะฟังดีขึ้นมากๆ ครับ เสียงจะไม่เครียส เสียงจะผ่อนคลาย และมีความถูกต้องของเสียงมากขึ้น การตีรวนของชิ้นดนตรีลดลงมากๆ ในกรณีฟังช่วงโหมของเพลงคลาสสิก

ผมคิดว่ามาจากที่กวยลำโพงขยับตัวน้อยลง การวิ่งไปกลับของกวยลำโพงสั้นมากขึ้นกว่าเดิม การทำงานน้อยลง มันจึงทำงานได้ดีกว่าการลำโพงใช้คู่เดียวที่พยายามจะทำเสียงให้ดังเท่าๆ กันครับ ดังจะเห็นว่าลำโพงแพงๆ แอบสะแต็กแยกห้องตู้เบสไว้หลายห้องในตู้ใบเดียวกันก็ยังมีนะครับ

[OuM]

มีผลต่อการบริโภค Watt เพิ่มไหมครับกรณี 2 ดอก

[dust55]

ถ้าใครเคยมีโอกาสได้ทดลองฟังลำโพงแบบ Line Array ที่เซ็ตอัพอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว
ก็คงจะรู้ได้เองว่า ลำโพงหลายๆดอก มัน so powerful 

[Sarvon]

วัตต์เพิ่มขึ้น หมายถึงอัตราทนกำลังขับของดอกลำโพงมากขึ้นครับ

ที่ผมให้ข้อสังเกตุว่า ลำโพงหลายตัวเสียงไม่ได้ดีขึ้น ก็เพราะดอกลำโพงมันไม่รู้อะไรหรอกครับ เพราะมันเป็นเพียงดอกลำโพง มันรู้เพียงถ้ามีการป้อนแรงดันกับกระแสเข้าไปมันก็ทำงานตามกฏของไฟฟ้า ส่วนเสียงดีขึ้นอยู่กับวัสดุที่ผลิตดอกลำโพงครับ

[Mr. Tube]

Woofer หลายดอกมันมีหลาย Configuration ครับ ตัดเอามาคุยเฉพาะ Woofer ที่เหมือนกัน 1 ดอกกับหลายดอกก่อนละกัน ข้อดีคือพื้นที่ผลักอากาศเพิ่มขึ้น 2 เท่า ถ้า Woofer แต่ละตัวได้รับกำลังขับ 1W เท่ากัน เพิ่ม Woofer ทีละ 1 เท่าตัวก็ บวกความดังไป 3dB ครับ

ตัดมาคุยเฉพาะ Woofer 1 ตัวกับ 2 ตัวนะครับ ถ้า Woofer 2 ตัวต่อขนานกัน ป้อนเข้าไป 1W จะได้ความดังมากกว่า Woofer 1 ตัวอีก 6dB ครับ ถ้าต่ออนุกรมกันก็ได้ความดังเท่า Woofer ตัวเดียวครับ

[แคมเมอร์]

ผมว่าอยู่ที่การออกแบบมากกว่า..การจะใช้หลายดอกหรือดอกเดียว..ถ้าออกแบบมาดี..มันก็ให้คุณภาพดีเหมือนกันละครับ..

[wmm]

ผมว่าน่าจะเป็นแบบนี้ครับ
เช่น
ถ้าพูดพร้อมๆกันคำเดียวกันเสียงจะดังขึ้น
ถ้าพูดพร้อมๆกันคำเดียวกันแต่ละคนเสียงสูงต่ำไม่เท่ากันเสียงน่าจะออกมาเพราะดี(อย่างเช่นนักร้องประสานเสียง)
น่าจะคล้ายๆกันกับการใช้ดอกลำโพงหลายๆดอกพร้อมกัน ที่แบ่งกันทำงาน หรือทำงานช่วยกัน
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องให้ทำงานในหน้าที่ตนเองไม่แย่งกันส่งเสียง ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็แทนที่จะเสียงดีเสียงดังกลายเป็นฟังไม่รู้เรื่องเลยล่ะ

ผมนะชอบฟังนะ เวลาพระสวดมนต์ เสียงนี่เข้าจับใจเลย เสียงสวรรค์จริงๆ หาฟังจากเครื่องเสียงไม่สามารถถ่ายทอดได้ดีเท่าฟังกับหูตัวเอง

[nutsaint]

เพิ่มดอกลำโพง กำลังวัตต์เพิ่มขึ้นได้อย่างไรครับ ไม่ได้อยู่ที่แอมป์ที่ใช้ขับหรือครับ

[Sarvon]

หลักๆ จะเพิ่มความดัง และกำลังวัตต์ ไม่ได้เพิ่มคุณภาพเสียงครับ แต่ถ้ามองในแง่ของการทำงานของลำโพง ถ้าลำโพงทำงานหนักที่กำลังสูงจะมีความเพี้ยนมาก ถ้าทำงานต่ำหน่อยก็เพี้ยนน้อย การใช้ดอกลำโพงหลายๆ ตัวช่วยกันทำงานก็เพื่อลดภาระของแต่ละดอกให้ทำงานในตำแหน่งที่ดี ไม่ต้องตะบี้ตะบันขับสุดกำลัง ความเพี้ยนก็จะลดลง และยังได้กำลังวัตต์สูงขึ้นด้วย

แต่การใช้หลายดอกมักมีปัญหาเรื่องเฟสมาหักล้างและเสริมกัน

[Mc]

การเพิ่มดอกลำโพง ผลที่ได้ชัดเจน ก็เป็นเรื่องความดังที่เพิ่มขึ้น แต่เสียงจะดีขึ้นหรือเปล่า มีหลายปัจจัยครับ เสปคของลำโพง ตำแหน่งการติดตั้ง  หากไม่ถูกต้อง อาจทำให้ คลื่นเสียง หักล้างกัน ความถี่ที่มาถึงผู้ฟังอาจขาดหายไป ได้ครับ

[ออดิโอแมน]

เสริมเสียงเบสครับ

[nutsaint]

ลำโพงที่มีวูฟเฟอร์หลาย ๆ ดอกอยู่ในตู้เดียวกัน ขับด้วยแอมป์ตัวเดียว มีข้อดีข้อเสียอย่างไรครับ
ถ้าเปรียบเทียบกับลำโพงแบบเดียวกัน แต่มีวูฟเฟอร์ตัวเดียว ขับด้วยแอมป์ตัวเดียวกันครับ