หัวข้อ: แนะนำการปรับ Acoutic ผนังห้องฟังหน่อยครับ

[Mr. One]

ดูแค่ rt60 ไม่พอครับ  acoustic เป็นเรื่องยาว ห้องใครห้องมัน
ผมเคยอ่านพวกacoustic ที่นัก acoustic เขาเขียน
ถ้าจะดูเป็นหัวข้อ น่าจะแบ่งได้เป็น  7 ข้อครับ
A: Noise Control ห้องคุณเงียบแค่ไหน เสียงในไม่ออก เสียงนอกไม่เข้า เขามีมาตราฐานการวัดเหมือนกัน RC rating (room criterion) ห้องที่สร้างขึ้นมาควรได้ RC20 แต่ห้องทั่วไป rc30 ก็เจ๋งมากพอแล้ว 
B: Reflected Sound  หลักๆดูเสียงสะท้อนในช่วง 40ms แรก สองข้างซ้ายขวา กราฟหน้าตาเหมือนกัน ราบเรียบ พลังงานเสียงลดลงหลัง40msชัดเจนเจอ และน่าจะลดลง10dBช่วง40msแล้ว
C: Low Frequency Decay Times  ช่วงต่ำกว่า 300Hz ดูresonance ของเสียงต่ำ (อันนี้จัดการยากสุด)
D: Midrange Decay Times 250Hz - 4K ดู T20, T30, T60  T60 อยู่ระหว่าง 0.2-0.5s, T20, T30 ควรแตกต่างกันไม่เกิน +-25% (1/3 octave smoothing standard)
E: Midrange Frequency Response +-3dB ช่วงนี้หูคนไวที่สุด เสียงกลางควรราบเรียบ ต่างกันไม่เกิน +-3dB เสียงซ้ายขวา ต่างกันไม่เกิน 3dB เช่นกัน
F: Low Frequency Response - 30Hz-300Hz +- 5dBได้ (1/3 octave smoothing standard)
G. Room Size and Construction ห้องดีมีชัยไปแต่แรก  ห้องที่มีขนาด กว้าง ยาว สูง เป็นตัวคูณ หรือ หาร ร่วมกัน จะเกิดปัญหาตามมามากมาย แก้ยากสุดๆ และถ้าต้องการการเก็บเสียงก็ต้องคุยกับพวกที่รับทำห้องอัดเสียงอย่างจริงจังครับ 
แต่ยุดนี้ความรู้มีเยอะถ้าขยันอ่านก็รู้เท่าทันกันครับ  เครื่องมือวัดก็ไม่แพงแล้วครับ

ขอบคุณครับ ผมเปิดกระทู้เรื่อง Acoustic และ กราฟ ของเสียง 2 กระทู้ คำตอบนี้เกือบสมบูรณ์ตามที่ผมต้องการเลยครับ     ที่เหลือก็วิธีการวัดที่ถูกต้องเท่านั้นเอง

และชอบประโยคสุดท้ายครับ  ผมถึงเข้า Web นี้มานาน โดยเฉพาะมุม DIY เพราะมีทั้งมือสมัครเล่น มืออาชีพมาแชร์ กันโดยไม่หวงวิชา  

[Withaya]

ดูแค่ rt60 ไม่พอครับ  acoustic เป็นเรื่องยาว ห้องใครห้องมัน
ผมเคยอ่านพวกacoustic ที่นัก acoustic เขาเขียน
ถ้าจะดูเป็นหัวข้อ น่าจะแบ่งได้เป็น  7 ข้อครับ

A: Noise Control ห้องคุณเงียบแค่ไหน เสียงในไม่ออก เสียงนอกไม่เข้า เขามีมาตราฐานการวัดเหมือนกัน RC rating (room criterion) ห้องที่สร้างขึ้นมาควรได้ RC20 แต่ห้องทั่วไป rc30 ก็เจ๋งมากพอแล้ว 

B: Reflected Sound  หลักๆดูเสียงสะท้อนในช่วง 40ms แรก สองข้างซ้ายขวา กราฟหน้าตาเหมือนกัน ราบเรียบ พลังงานเสียงลดลงหลัง40msชัดเจนเจอ และน่าจะลดลง10dBช่วง40msแล้ว

C: Low Frequency Decay Times  ช่วงต่ำกว่า 300Hz ดูresonance ของเสียงต่ำ (อันนี้จัดการยากสุด)
 
D: Midrange Decay Times 250Hz - 4K ดู T20, T30, T60  T60 อยู่ระหว่าง 0.2-0.5s, T20, T30 ควรแตกต่างกันไม่เกิน +-25% (1/3 octave smoothing standard)
E: Midrange Frequency Response +-3dB ช่วงนี้หูคนไวที่สุด เสียงกลางควรราบเรียบ ต่างกันไม่เกิน +-3dB เสียงซ้ายขวา ต่างกันไม่เกิน 3dB เช่นกัน

F: Low Frequency Response - 30Hz-300Hz +- 5dBได้ (1/3 octave smoothing standard)
G. Room Size and Construction ห้องดีมีชัยไปแต่แรก  ห้องที่มีขนาด กว้าง ยาว สูง เป็นตัวคูณ หรือ หาร ร่วมกัน จะเกิดปัญหาตามมามากมาย แก้ยากสุดๆ และถ้าต้องการการเก็บเสียงก็ต้องคุยกับพวกที่รับทำห้องอัดเสียงอย่างจริงจังครับ 

แต่ยุดนี้ความรู้มีเยอะถ้าขยันอ่านก็รู้เท่าทันกันครับ  เครื่องมือวัดก็ไม่แพงแล้วครับ

[YOE]

ไม่ควรติด สุ่มสี่สุ่มห้า หรือติดตามคำบอกเล่านะครับ

การแก้อคุสติคในห้อง เป็นเรื่องของ ห้องใครห้องมัน ซิสเต็มใครซิสเต็มมัน

ในบางห้องบางซิสเต็ม อาจมีปัญหาที่แตกต่างซับซ้อนหลายอย่าง

การแก้อคุสติคห้อง เราควรรู้ปัญหาของห้องเราก่อนว่าคืออะไร ทางที่ดีหางพวก sound engineer ที่มีเครื่องวัดค่าต่างๆ จะดีที่สุด

เขาแก้แบบมีความรู้ มีการเทสเสียงทุกความถี่ และดูว่าห้องเรามีปัญหาอย่างไร ควรแก้อย่างไร

[Mr. One]

ขอบคุณทุกท่านครับ 

ว่าแต่ เราใช้ RT60 ค่าเดียวพอใหมครับ หรือต้องใช้ค่ออื่นๆ อีกครับ

[True man]

ผมมองว่าวัสดุพวกนี้เป็นพวกฉนวน ไว้ตัวช่วยเสริมในห้องครับ  ไว้ลดและป้องกันเสียงออกนอกห้อง
จริงๆ หลักอคูสติก จะมี 2 หลักคือ
1. เก็บเสียง ลดพลังงานเสียง เรียกว่าค่า RT มั้งครับจำไม่ค่อยได้แล้ว เพื่อป้องกันเสียงไม่ให้ออกไปนอกห้องรบกวนห้องอื่นๆ    
2. ควบคุมค่าการซับและสะท้อนของเสียงภายในห้องครับ (ทั้งลดและเพิ่มการสะท้อน)  ค่าพวกนี้มันมีชื่อเรียกนะครับ แต่ผมลืมไปหมดแล้ว อุๆ

ห้องฟัง หรือห้องโฮมที่ดี นอกจากการป้องกันเสียงออกไปนอกห้องแล้ว ต้องมีค่า การสะท้อน ที่อยู่ในเรทที่พอดี  ไม่ซับและสะท้อนมากเกินไป  ถ้าเก็บเสียงซับเสียงมากไปเสียงก็จะแห้งครับ

วัสดุที่ถาม น่าจะตอบโจทย์ในตัวแรกถือว่าเป็นฉนวนป้องกันเสียงชนิดนึง  แต่ต้องดูด้วยเพราะฉนวนหลายๆชนิด ป้องกันความถี่ต่ำไม่ดีครับ

ถ้าให้แนะนำ
1.ควรทำโครงสร้างห้องให้แข็งแรง ป้องกันเสียงได้ในระดับนึง ทั้งพื้น ผนังและฝ้า
2.ใช้วัสดุตัวนี้เป็นตัวป้องกันเสียง เพื่อป้องกันและลดเสียงไม่ให้ออกไปนอกห้อง และไม่สะท้อนเกินไป
3.ใช้วัสดุเสริมประเภท ซับและสะท้อน เพื่อให้ปรับเสียงมีค่าซับ และสะท้อน อยู่ในระดับตามความเหมาะสมครับ

ขอเสริมนิดนึงครับ ค่าRT(Reverberation Time) น่าจะเป็นค่าที่วัดสภาพของห้องครับ(วัดเวลาที่เสียงโรยตัวลง) มาตรฐานสำหรับห้องฟังเพลงคือRT60 ถ้าต่ำกว่า60 ให้เพิ่มการdiffus ถ้ามากกว่า60 ให้เพิ่มการabsorb ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความถี่ต่างๆด้วยครับ
ถ้ากันไม่ให้เสียงเข้าออก น่าจะให้ค่าTL(Sound Transmission loss) การกั้นเสียงไม่ให้เข้าออก ไม่ได้เน้นว่าจะได้เสียงดีหรือไม่ ที่สำคัญการใช้วัสดุที่ ให้ค่าSTC สูงๆ มีโอกาสทำให้ห้องdeadสูงมากขึ้นด้วย

คำแนะนำของคุณTruemanดีมากครับ ต้องมีทั้งวัสดุซับและสะท้อน เพื่อปรับค่าซับและสะท้อนให้อยู่ในระดับเหมาะสม(RT)
 

ขอบคุณที่ช่วยเสริมให้ครับ   ผมลืมพวกชื่อเรียกค่าต่างๆในเชิงทฤษฎี ไปหมดแล้วครับ      
แล้วไม่ได้ไปค้นมาให้ด้วยย อุๆ

[ชัย สาธุ]

ผมมองว่าวัสดุพวกนี้เป็นพวกฉนวน ไว้ตัวช่วยเสริมในห้องครับ  ไว้ลดและป้องกันเสียงออกนอกห้อง
จริงๆ หลักอคูสติก จะมี 2 หลักคือ
1. เก็บเสียง ลดพลังงานเสียง เรียกว่าค่า RT มั้งครับจำไม่ค่อยได้แล้ว เพื่อป้องกันเสียงไม่ให้ออกไปนอกห้องรบกวนห้องอื่นๆ   
2. ควบคุมค่าการซับและสะท้อนของเสียงภายในห้องครับ (ทั้งลดและเพิ่มการสะท้อน)  ค่าพวกนี้มันมีชื่อเรียกนะครับ แต่ผมลืมไปหมดแล้ว อุๆ

ห้องฟัง หรือห้องโฮมที่ดี นอกจากการป้องกันเสียงออกไปนอกห้องแล้ว ต้องมีค่า การสะท้อน ที่อยู่ในเรทที่พอดี  ไม่ซับและสะท้อนมากเกินไป  ถ้าเก็บเสียงซับเสียงมากไปเสียงก็จะแห้งครับ

วัสดุที่ถาม น่าจะตอบโจทย์ในตัวแรกถือว่าเป็นฉนวนป้องกันเสียงชนิดนึง  แต่ต้องดูด้วยเพราะฉนวนหลายๆชนิด ป้องกันความถี่ต่ำไม่ดีครับ

ถ้าให้แนะนำ
1.ควรทำโครงสร้างห้องให้แข็งแรง ป้องกันเสียงได้ในระดับนึง ทั้งพื้น ผนังและฝ้า
2.ใช้วัสดุตัวนี้เป็นตัวป้องกันเสียง เพื่อป้องกันและลดเสียงไม่ให้ออกไปนอกห้อง และไม่สะท้อนเกินไป
3.ใช้วัสดุเสริมประเภท ซับและสะท้อน เพื่อให้ปรับเสียงมีค่าซับ และสะท้อน อยู่ในระดับตามความเหมาะสมครับ

ขอเสริมนิดนึงครับ ค่าRT(Reverberation Time) น่าจะเป็นค่าที่วัดสภาพของห้องครับ(วัดเวลาที่เสียงโรยตัวลง) มาตรฐานสำหรับห้องฟังเพลงคือRT60 ถ้าต่ำกว่า60 ให้เพิ่มการdiffus ถ้ามากกว่า60 ให้เพิ่มการabsorb ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความถี่ต่างๆด้วยครับ
ถ้ากันไม่ให้เสียงเข้าออก น่าจะให้ค่าTL(Sound Transmission loss) การกั้นเสียงไม่ให้เข้าออก ไม่ได้เน้นว่าจะได้เสียงดีหรือไม่ ที่สำคัญการใช้วัสดุที่ ให้ค่าSTC สูงๆ มีโอกาสทำให้ห้องdeadสูงมากขึ้นด้วย

คำแนะนำของคุณTruemanดีมากครับ ต้องมีทั้งวัสดุซับและสะท้อน เพื่อปรับค่าซับและสะท้อนให้อยู่ในระดับเหมาะสม(RT)
 

[ชัย สาธุ]

แผ่น SCG Cylence ถ้าจะดีควรจะใส่ในผนังห้องครับ ถ้าทำผนังใหม่ ทำผนังใหม่ให้มีช่องกลวงระหว่างผนังเดิม แล้วใส่เข้าไปในระหว่างช่องว่าง แต่เป็นเรื่องยากที่จะคำนวณว่าปริมาณเท่าใดถึงพอเหมาะ
แผ่นCylence คือฉนวนใยแก้วหุ้มด้วยผ้า คุณสมบัติของใยแก้วคือซับเสียงกลางได้ดี  แต่ใยแก้วเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจของคนเมื่อมันอยู่ในอากาศ

[ganchar]

ลองศึกษาดูนะครับ
http://www.xav-audio.com/html/article3.php
http://www.xav-audio.com/html/article8.php

[Withaya]

เรื่อง acoustic เป็นหนังเรื่องยาววววครับ  แล้วไม่มีคำตอบเดียวฟิตทุกห้องอีกด้วย  วัสดุต่างๆที่มีขายก็ต้องเอามาใช้ให้ถูกต้องอีกถึงจะได้ผล  โดยเฉพาะไอ้พวกฉนวนซับเสียง  ไม่ว่าจะเป็นใยแก้ว หรือ วัสดุอื่น มักจะไม่ทำความหนา แบบหนามากมาก ส่วนมากทำแค่หนา1" ทำให้มันซับแต่เสียงสูง หรือ กลางสูง พวกกลางต่ำ 500 Hz ลงมาก็ไม่ซับเสียงแล้ว  ก็เลยทำให้ decay ของเสียงต่ำมากกว่า เสียงสูงเยอะ คนที่ลองเล่นดูก็จะบอกกันเป็นเสียงเดียวว่าใช้เยอะๆแล้ว เสียงแหลมหายนะ เสียงทึบ ซึ่งต้องโทษบริษัทที่ผลิตของพวกนี้ขึ้นมา ไม่ให้ข้อมูลคนซื้อเท่าที่ควร

ถ้าจะทำห้อง ลองค้นเว้บอ่่านๆดูก่อนก็ได้ครับ  ผมชอบที่อีตา Ethan เขียน แกเขียนอ่านง่าย คนกลัว math ก็อ่านได้ไม่ขายของมากนัก ลองอ่านดูก่อนครับ

http://www.ethanwiner.com/acoustics.html#big%20waves

[True man]

ผมมองว่าวัสดุพวกนี้เป็นพวกฉนวน ไว้ตัวช่วยเสริมในห้องครับ  ไว้ลดและป้องกันเสียงออกนอกห้อง
จริงๆ หลักอคูสติก จะมี 2 หลักคือ
1. เก็บเสียง ลดพลังงานเสียง เรียกว่าค่า RT มั้งครับจำไม่ค่อยได้แล้ว เพื่อป้องกันเสียงไม่ให้ออกไปนอกห้องรบกวนห้องอื่นๆ    
2. ควบคุมค่าการซับและสะท้อนของเสียงภายในห้องครับ (ทั้งลดและเพิ่มการสะท้อน)  ค่าพวกนี้มันมีชื่อเรียกนะครับ แต่ผมลืมไปหมดแล้ว อุๆ

ห้องฟัง หรือห้องโฮมที่ดี นอกจากการป้องกันเสียงออกไปนอกห้องแล้ว ต้องมีค่า การสะท้อน ที่อยู่ในเรทที่พอดี  ไม่ซับและสะท้อนมากเกินไป  ถ้าเก็บเสียงซับเสียงมากไปเสียงก็จะแห้งครับ

วัสดุที่ถาม น่าจะตอบโจทย์ในตัวแรกถือว่าเป็นฉนวนป้องกันเสียงชนิดนึง  แต่ต้องดูด้วยเพราะฉนวนหลายๆชนิด ป้องกันความถี่ต่ำไม่ดีครับ

ถ้าให้แนะนำ
1.ควรทำโครงสร้างห้องให้แข็งแรง ป้องกันเสียงได้ในระดับนึง ทั้งพื้น ผนังและฝ้า
2.ใช้วัสดุตัวนี้เป็นตัวป้องกันเสียง เพื่อป้องกันและลดเสียงไม่ให้ออกไปนอกห้อง และไม่สะท้อนเกินไป
3.ใช้วัสดุเสริมประเภท ซับและสะท้อน เพื่อให้ปรับเสียงมีค่าซับ และสะท้อน อยู่ในระดับตามความเหมาะสมครับ

[muchmore]

ถ้าฟังเพลงเป็นหลักผมว่าค่อยๆทำ ลองแปะไปเรื่อยๆครับ อย่าแปะทีเดียวทั้งห้อง เด๋วแหลมจะกุดเสียงจะทึบ

[Withaya]

ควรทำครับ  คุ้มค่าเห็นผลชัดเจนกว่าสารพัดสาย ฟิวส์ น้ำยา ที่รองต่างๆ หลายเท่าตัว 

ต้องถามตัวเองก่อนว่า โจทย์คืออะไร   1 ป้องกันเสียงเข้าออกห้อง  หรือ 2 ลดเสียงสะท้อนในห้อง

ไม่ว่าจะทำข้อใดก็ได้เสียงดีขึ้นทั้งนั้นครับ  ข้อแรก ได้ noise floor ที่ต่ำลง ได้ยินรายละเอียดเพิ่มขึ้น ข้อสอง ได้มิติ soundstage และ เสียงที่ราบเรียบขึ้น

อย่าลืมติดเพดานด้วยนะครับ เพราะส่วนมาก เพดานเป็นส่วนที่เสียงสะท้อนมาถึงคนนั้งฟังเร็วที่สุด เพราะความสูงของห้องมักจะน้อยกว่าความกว้าง ยาว ของห้องเสมอ  ยกเว้นห้องคุณ สูง 10 เมตรก็ไม่ต้องครับ  จุดที่ติดก็มองที่ first reflection point ก่อนเลยครับ

[Mr. One]

 

[Mr. One]

ผมอยากทำผนังห้องฟังใหม่ครับ สนใจติดแผ่น SCG Cylence ครับ ไม่ทราบจะเป็นอย่างไรบ้างครับ

ห้องใช้ ฟัง Sterio 80 % HT 20% ครับ