1.
Pacific Rim ท่ามกลางหนังภาคต่อ, ดัดแปลงจากการ์ตูน หรือ รีเมกมาจากหนังเก่า ๆ Pacific Rim ของผู้กำกับชาวเม็กซิโก กีแยร์โม เดล โทโร อาจเป็นงานที่หลายฝ่ายจับตามองมากที่สุด เพราะหนังไซไฟฟอร์มยักษ์เรื่องนี้ เป็นผลงานใหม่ของคนทำหนังที่ไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาขายแต่เทคนิคพิเศษ แต่สามารถผสานทั้งความน่าตื่นตาตื่นใจทางภาพ เข้ากับเนื้อเรื่องที่น่าติดตาม และยังมีความแปลกใหม่ด้วย
Pacific Rim เล่าเรื่องในโลกอนาคตที่เผ่าพันธ์มนุษย์ถูกคุกคามจากสัตว์ประหลาดยักษ์จากใต้ทะเล จึงมีการสร้างหุ่นยนต์ขนาดยักษ์ขึ้นเพื่อต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตที่รุกรานการดำรงอยู่ของมนุษย์ หนังจะเป็นส่วนผสมของงานแนวสัตว์ประหลาดยักษ์แบบ Godzilla กับการ์ตูนหุ่นยนต์ประเภท Evangellion เป็นงานที่ทั้งเด็กเล็ก และเด็กหนวดทุกคนต้องตื่นเต้นแน่นอน
2.
Man of Steel ในฐานะซูเปอร์ฮีโร่อันดับ 1 ซูเปอร์แมน กลับประสบกับความยากลำบากในการขึ้นจอใหญ่ แต่สำหรับการกลับมาของฮีโร่อันดับ 1 แห่งค่าย DC ครั้งนี้ ถือว่าค่อนข้างจะมั่นใจได้ เพราะได้คนทำหนังแถวหน้ามาร่วมกันกุมบังเหียน ทั้ง แซค สไนเดอร์ ที่เป็นผู้กำกับ และ คริสโตเฟอร์ โนแลน สวมบทผู้อำนวยการสร้าง ด้วยวิสัยทัศน์ด้านภาพของคนแรก กับเครดิตผลงานที่เคยมอบชีวิตและจิตวิญญาณให้กับหนังซูเปอร์ฮีโร่ในชุด The Dark Knight ของรายหลังทำให้ Man of Steel เต็มไปด้วยความคาดหวังของแฟน ๆ
Man of Steel ได้นักแสดงหนุ่มชาวอังกฤษมาสวมบทบาทเป็น คลาก เคน/ซูเปอร์แมน ส่วน ส่วน ไมเคิล แชนนอน จะสวมบทบาทเป็นตัวร้าย "นายพล ซอด" และหนังยังจะมีดาราชื่อดังมารวมประชันบทบาทมากมาย ทั้ง เอมี อดัม กับบท โลอิส แลน ขวัญใจซูเปอร์แมน, ลอเรนซ์ ฟิชเบิร์น เป็น เพอร์รี ไวต์ บก. หนังสือพิมพ์ ที่ คลาก เคนต์ ทำงานอยู่ และ เควิน คอสเนอร์ กับ รัสเซล โครว์ จะเป็นพ่อเลี้ยง และพ่อแท้ ๆ ของซูเปอร์แมนตามลำดับ
3.
Iron Man 3 ไม่ใช่เพียงหนังภาคใหม่ของซูเปอร์ฮีโร่เกาะเหล็ก แต่ถือว่าเป็นยุคใหม่ของ ไอออนแมน กับผู้กำกับคนใหม่ เชน แบล็ค ที่เข้ามาสานต่องานของ จอน ฟาฟโร ที่ทำหน้าที่อย่างสุดยอดใน 2 ภาคแรก
เรื่องราวจะดำมืดมากขึ้น, ตึงเครียดมากขึ้น และแน่นอนว่าฉากแอ็กชั่นก็จะดุเดือดมากขึ้นด้วย โดย Iron Man 3 จะอ้างอิงเนื้อเรื่องมาจาก การ์ตูนมินิซีรีส์เล่มที่ชื่อว่า Extremis ที่จะเล่าเรื่องการเผชิญหน้าของ โทนี สตาร์ก กับศัตรูที่อันตรายที่สุด อย่าง "เดอะ แมนดาริน" ตัวร้ายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเรื่องราวของ ไอออนแมน ที่จะได้ปรากฏตัวในจอใหญ่เสียเสีย ซึ่งนอกจาก โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์, กวินเน็ต พัลโทรว์, ดอน ชีเดิล จากหนังภาคก่อนแล้ว หนังภาคล่าสุดจะมี กาย เพียซ และ เบน คิงลีย์ มาสวมบทตัวร้าย
4.
Star Trek Into Darkness เจ.เจ. อับรามส์ กำลังขึ้นชั้นไปอยู่ในตำแหน่งเดียวกับ สตีเว่น สปีลเบิร์ก, เจมส์ คาเมรอน, โรเบิร์ต เซเมกคิส และ ปีเตอร์ แจ็คสัน กับการเป็นผู้กำกับเจ้าของหนังฟอร์มใหญ่ ที่สามารถหาความลงตัวระหว่างสไตล์ส่วนตัว, คุณภาพงาน และความบันเทิงได้ ซึ่งหาก Star Trek Into Darkness ประสบความสำเร็จแบบเดียวกับหนังภาคแรก ชื่อของ อับรามส์ ก็คงขึ้นหิ้งอย่างเป็นทางการ
เมื่อ 5 ปีก่อน Star Trek ภายใต้การนำของ อับรามส์ ได้กลับมาคืนชีพอย่างสวยงาม ถึงขนาดที่หลายคนยกย่องหนังที่กลับไปเล่าเรื่องวัยหนุ่มของ กัปตันเคิร์ต, สป็อก และผองเพื่อนในวัยหนุ่มว่าคือหนังที่ดีที่สุดในชุดนี้ โดยในหนังภาคสองลูกเรือ U.S.S Enterprise ต้องเผชิญหน้ากับศัตรูรายใหม่ ที่น่าสะพรึงกลัวกว่าเดิมแน่นอน
5.
Elysium คนทำหนังจากแอฟริกาใต้ นีล บลอมแคมป์ เคยพาหนัง District 9 ไปไกลถึงเป็นงานที่ถูกเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมมาแล้ว ด้วยการผสมหนังไซไฟกับสารคดี จนได้รสชาติใหม่เป็นหนังวิทยาศาสตร์ที่ทั้งดูสนุก, สมจริงสมจังชนิดสุด ๆ และยังนำเสนอเนื้อหาน่าขบคิด เรียกว่า บลอมแคมป์ นั้นได้รับการยกย่องสูงมาก ว่าสามารถใช้เทคนิคพิเศษด้านภาพเพื่อรองรับการเล่าเรื่อง และเนื้อหาของหนังได้อย่างแท้จริง
แตกต่างจาก District 9 ที่แทบไม่มีดาราซึ่งเป็นที่รู้จักเลย Elysium จะนำแสดงโดย แม็ต เดมอน และจูดี ฟอสเตอร์ ในเรื่องราวที่ว่าด้วยชนชั้น และความไม่เท่าเทียม เมื่อในโลกอนาคตประชาชนเพียงบางส่วนเท่านั้นที่จะได้ใช้ชีวิตในสถานีอวกาศ ส่วนที่เหลือต้องเอาตัวรอดอยู่ในโลกที่ใกล้พังเต็มที
6.
Oz: The Great And Powerful ในช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมาหนังแฟนตาซีจากนิทาน หรือเทพนิยาย คืออีกหนึ่งแนวทางยอดนิยมของสตูดิโอฮอลลีวูด กับการหยิบเอาเรื่องราวที่แสนคุ้นเคยมาตีความใหม่ หรือนำเสนอด้วยเทคนิคพิเศษตระการตา ซึ่งในปี 2013 ก็มีหนังประเภทนี้อยู่หลายเรื่อง แต่ที่น่าสนใจที่สุดคงหนีไม่พ้น Oz: The Great And Powerful แน่นอน
ผลงานใหม่ของ แซม ไรมี ผู้กำกับดังที่ทำให้ Spider-Man 3 ภาคแรกทำเงินถล่มทลาย ขอหยิบเอานิยายเยาชนสุดอมตะ Wizard of Oz มาสร้างด้วยการเล่าเรื่องต้นกำเนิดของพ่อมดอ๊อซ ที่งานนี้เต็มไปด้วยเทคนิคพิเศษมากมายในการเนรมิตเมืองแห่งเวทมนต์แน่นอน นอกจากนั้นหนังยังจะเต็มไปด้วยนักแสดงชั้นยอด ทั้ง มิลา คูนิส, มิเชล วิลเลียม และ เรเชล ไวส์ ส่วนบทพ่อมดตัวเอกของเรื่องนั้นจะเป็นของ เจม แฟรงโก นักแสดงหนุ่มยอดฝีมือที่ปีนี้อาจขึ้นชั้นมาเป็นซูเปอร์สตาร์แถวหน้าของฮอลลีวูดได้เสียที
7.
World War Z หนังซอมบีกลายเป็นกระแสในวงการบันเทิงสหรัฐฯ ในช่วง 2 - 3 ปีนี้ มีหนังที่ว่าด้วยศพคืนชีพออกมาให้ดูกันต่อเนื่อง ส่วนวงการโทรทัศน์ซีรีส์ซอมบี The Walking Dead ก็ฮิตถล่มทลายมีคนรอชมตอนใหม่กันสัปดาห์ละเป็นล้าน ๆ คน อย่างไรก็ตามในปี 2013 เรื่องราวของซอมบีจะใหญ่โตอลังการกว่าเดิม กับ World War Z ที่พูดได้ว่าเป็นหนังซอมบีระดับบล็อคบาสเตอร์เรื่องแรก
World War Z อาจเป็นครั้งแรกที่เรื่องราวการเอาตัวรอดในโลกที่ถูกคุกคามจากคนตายคืนชีพ จะถูกยกระดับให้เป็นหนังฟอร์มระดับใหญ่เต็มไปด้วยเทคนิคพิเศษ ในการสร้างฝูงซอมบีที่วิ่งเร็วกันเป็นจรวด ด้วยทุนสร้าง 125 ล้านเหรียญฯ ที่มีข่าวว่าบานปลายไปถึง 200 ล้านฯ แล้ว และยังมีซูเปอร์สตาร์ฮอลลีวูด แบรด พิตต์ มาแสดงนำ ในเรื่องราวของเจ้าหน้าที่สหประชาชาติ ที่ต้องเดินทางไปทั่วโลกเพื่อหยุดยั้งภัยร้ายจากเชื้อปริศนาที่ทำให้คนตายกลายเป็นผีดิบ
8.
The Lone Ranger หนังคาวบอยดูจะไม่ใช่โปรเจ็คในฝันของสตูดิโอในฮอลลีวูดอีกแล้ว คงไม่มีใครอนุมัติเงินหลักหลายร้อยล้านเหรียญฯ ให้กับหนังแนวที่ต้องยอมรับว่าตกยุคตกสมัยไปแล้วแน่ ๆ รวมถึง Disney สตูดิโอผลิตภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ที่ล้มโปรเจ็คซึ่ง เจอร์รี บรัคไฮเมอร์ ปั้นอยู่หลายปี แต่สุดท้ายนักแสดงซูเปอร์สตาร์อย่าง จอห์นนี เดปป์ กลับเป็นผู้ต่อชีวิตให้กับหนังคาวบอยที่สร้างจากซีรีส์สุดฮิตในอดีตเรื่องนี้ หลังผ่านการเจรจา และมีการลดต้นทุนนิดหน่อย Lone Lone Ranger จึงได้เปิดกล้องและเตรียมเข้าฉายในปีหน้านี้
หนังจะเป็นผลงานของ กอร์ เวอร์บินสกี และ จอห์นนี เดปป์ ที่เคยสร้างให้ Pirates of the Caribbean ประสบความสำเร็จและทำลายอาถรรพ์ที่ว่าหนังโจรสลัดไม่มีทางสำเร็จได้มาแล้ว ซึ่งหลายฝ่ายก็หวังว่าทั้งคู่จะทำสำเร็จกับหนังคาวบอยด้วย
9.
After Earth มีความน่าสนใจหลาย ๆ ประการในหนัง After Earth ทั้งในฐานะหนังไซไฟทุนสูงอีกเรื่อง ที่ดูจะมีอะไร ๆ แตกต่างจากหนังแนวใกล้ ๆ กันที่จะฉายในปีหน้านี้ นอกจากน้นหนังยังจะเป็นผลงานการแสดงของคู่พ่อลูกที่ดังที่สุดในฮอลลีวูดอย่าง วิล และ เจย์เดน สมิธ ที่เคยสร้างความฮือฮาด้วยการร่วมงานกันใน The Pursuit of Happyness มาแล้ว
เหนืออื่นใดผลงานเรื่องนี้ยังเป็นหนังเรื่องใหม่ของ ผู้กำกับ เอ็ม.ไนท์ ชายามาลาน ที่ระยะหลังต้องยอมรับว่าชื่อไม่ค่อยจะขลังเหมือนก่อน อย่างไรก็ตามยังมีคนอีกไม่น้อยที่ยังเชื่อใจใน ชายามาลาน และมองว่าหากเจอบทดี ๆ เขาก็อาจจะกลับมายิ่งใหญ่ได้ และบทดีที่ว่าก็น่าจะเป็นผลงานของ สตีเฟน แก๊กแฮน คนเขียนบทหน้าใหม่ แต่ประสบความสำเร็จมาจากวงการเกม และแกรี วิตตา เจ้าของบทหนังขวัญใจนักวิจารณ์ Syriana โดย After Earth จะเล่าเรื่องในโลกอนาคตที่นายพลผู้ยิ่งใหญ่ และลูกชายวัย 13 ขวบ เอาชีวิตรอดในดาวโลกที่ตอนนี้กลายเป็นดวงดาวอันตรายไปแล้ว
10.
Oblivion ถึงชีวิตส่วนตัวของพระเอกอันดับ 1 ของฮอลลีวูด ทอม ครูซ จะเป็นข่าวให้ชาวบ้านนินทากันตลอดทั้งปี แต่ดูเหมือนว่าเรื่องงานพระเอกวัย 50 ปี จะยังอยู่ในช่วงที่ดี ไม่ได้ตกต่ำลงอย่างที่หลายคนกังวล (หรือแช่ง) ในจำนวนหนังหลาย ๆ เรื่องที่เขารับเล่นและเตรียมเข้าฉายตลอดช่วง 1 - 2 ปี นี้ Oblivion อาจเป็นงานที่น่าสนใจที่สุด กับเรื่องราวแนวไซไฟที่มีฉากหลังอยู่ในโลกอนาคตที่ไม่มีใครอาศัยอยู่บนโลกแล้ว ตัวละครของ ครุซ ต้องกลับมาที่โลกเพื่อค้นหาชุมชนของมนุษย์ที่ยังหลงเหลืออยู่ และใช้ชีวิตอย่างหลบซ่อน เป็นภารกิจระดับสำคัญที่อาจหยุดยั้งการสูญพันธ์ของมนุษย์ได้
Oblivion เป็นผลงานของ โจเซฟ โคซินสกี้ ที่สร้างขึ้นจากบทของ วิลเลียม โมนาก์แฮม หนังใช้ทุนมหาศาลกับการเนรมิตโลกอนาคตในจิตนาการขึ้นมา แต่ด้วยเครดิตของ โคซินสกี้ ที่สร้างชื่อมาจาก TRON 2.0 หลายคนก็เชื่อว่างานชิ้นนี้จะไม่ใช่เพียงหนังไซไฟขายแต่เทคนิคพิเศษ แต่น่าจะมีเนื้อเรื่องที่น่าสนใจเช่นเดียวกัน
