หัวข้อ: และแล้วมันก็เป็นขึ้นจนได้ โรควินเทจขึ้นสมอง

[Supot B]

C ฟิลเตอร์ ขาประจำของผมใส่ได้พอดีเป๊ะ พร้อมไบแคป

ผมเคยเอา C Bicap แบบนี้แหละ มันทำให้เสียงร้องแตก ผมเลยต้องเอาออก เสียงร้องก็กลับมาเป็นปกติ

[betacam]

พี่พจน์เบอร์อะไรครับ รบกวนขอเบอร์หน่อย มีเรื่องจะปรึกษาครับ

[Supot B]

 

[Supot B]

หลังจากทำความสะอาด

[Supot B]

 

[Supot B]

กำลังทำความสะอาด

[Supot B]

เพิ่งได้มาเหมือนกัน Sansui 888  สภาพเดิมๆเลย

[Supot B]

888 เสียงเทียบกับ 777 เป็นไงบ้างครับ

[betacam]

http://www.hifi55.com/?cat=2&id=22341
แล้วตัวนี้ล่ะครับ เป็นงัยมั้ง

เน้นตระกูลตองดีกว่าครับ ซื้อง่ายขายคล่องกว่า

[betacam]

วิธีกำจัดสนิม ทำงัยบ้างครับ แนะนำหน่อย 

ส่วนใหญ่ถ้าเลือกได้ผมจะเน้นสภาพดีไร้สนิมก่อนครับ แพงกว่ากันหน่อยรับได้ครับ
แต่ถ้าได้มาแบบมีสนิม แถวคลองถม อาคารศรีวรจักร น่าจะมีขายน้ำยากำจัดสนิมครับ

[Eak-tubeamp]

http://www.hifi55.com/?cat=2&id=22341
แล้วตัวนี้ล่ะครับ เป็นงัยมั้ง

[Eak-tubeamp]

วิธีกำจัดสนิม ทำงัยบ้างครับ แนะนำหน่อย 

[betacam]

ภายในครับดูกันแบบคร่าวๆก่อน ผมทำความสะอาดแล้ว ใช้วิธีนี้ครับ

อุปกรณ์ที่ใช้

1.น้ำมันสน (หาซื้อได้ที่ร้านก่อสร้างทั่วไป)
2.แปรงทาสี1นิ้ว
3.น้ำยาขัดโลหะ วิมนอล (หลอดแดงๆฝาขาว)
4.ถ้วยเล็กๆไว้ผสมน้ำยา

ขั้นตอนการทำ

1.ใช้แปรงปัดฝุ่นตามบอร์ดต่างๆ ซอกมุมอย่างละเอียด
2.เทน้ำมันสนลงถ้วย ผสมกับครีมวิมนอลเล็กน้อย (ลองผสมดูครับพอให้น้ำมันมีสีขุ่นๆ)
3.เอาแปรงจุ่มน้ำยาพอหมาดๆ ค่อยทำความสะอาดไปเรื่อยๆ หาอะไรปิดจมูกด้วยครับ
   ทำไปเรื่องๆ จนเห็นว่าสะอาดได้ที จากนั้นน้ำสุดท้ายใช้น้ำมันสนเพียวๆครับ
4.ทิ้งไว้มันจะระเหยแห้งไปเองครับ ประมาณ 1 วันครับ

ป.ล.ในภาพนี้ผมเปลี่ยนC ไปประมาณ 80%แล้วครับ

[betacam]

มารีวิว AU-888 กันครับ....

ตัวนี้ได้มาค่อนข้างแพงครับถ้าเทียบกับราคาตลาดทั่วไป แต่แลกมากับสภาพสวยกริ๊ป น่าจะ90%+
ไม่มีสนิมเลย กล่องไม้ข้างสมบูรณ์ เจ้าของเก่าดูแลดีมาก น่าจะอยู่ในห้องตลอดเวลา เปิดดูสภาพข้างใน
มีแค่ฝุ่นบางๆเล็กน้อยเท่านั้น ข้างในเดิมๆหมด และที่สำคัญตัวนี้มีอะไรพิเศษที่ทั้ง 2 ตัวที่แล้ว (AU-555 , AU-666)ไม่มีอยู่

ลองเปิดเทสครั้งแรก เสียงดีสไตล์ SANSUI หวาน นุ่ม แต่จะมีอาการติดขุ่นอยู่บ้างครับตามปรกติของเครื่องอายุขนาดนี้
แต่เรื่องพละกำลังนี่เหลือๆตามกำลังขับวัตต์แท้

ป.ล.มีหลายที่โทรมาสอบถาม เรื่องการ Recap ว่ายากมั๊ย ผมว่ามันอาจจะยากสักหน่อยครับสำหรับเครื่องแรก ทำเป็นแล้วจะง่ายขึ้น
แล้วผมจะหาเวลามาแนะนำกันอย่างละเอียดแบบมือใหม่หัดขับเลยนะครับ

[betacam]

ครอบครัวตระกูลตอง ตัวบนสุดเพิ่งมาวันนี้เองสดๆร้อนๆ ทายสิตองอะไรเอ่ย....

อู๊ย หาเก่งจัง ถ้าเจอ AU20000 ส่งข่าวด้วยนะครับ 

ได้ครับพี่....เจอแล้วจะกระซิบบอกนะครับ ผมเองก็ได้จากในเน็ตนี้ล่ะครับ

[Supot B]

ครอบครัวตระกูลตอง ตัวบนสุดเพิ่งมาวันนี้เองสดๆร้อนๆ ทายสิตองอะไรเอ่ย....

อู๊ย หาเก่งจัง ถ้าเจอ AU20000 ส่งข่าวด้วยนะครับ 

[Eak-tubeamp]

ครอบครัวตระกูลตอง ตัวบนสุดเพิ่งมาวันนี้เองสดๆร้อนๆ ทายสิตองอะไรเอ่ย....

SANSUI  ตระกลู AU  ผมเห็นมีเยอะหลายตัวมาก สวยๆทั้งนั้น

[betacam]

เฉลยครับ...

[betacam]

ครอบครัวตระกูลตอง ตัวบนสุดเพิ่งมาวันนี้เองสดๆร้อนๆ ทายสิตองอะไรเอ่ย....

[betacam]

ค่อยๆประกอบครับ

เหมือนเดิมครับ...เปิดวอร์มไว้สักพักใหญ่ให้เข้าที่เข้าทาง ต้องบอกว่าก่อนทำก็เสียงดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้วครับ เสียงหลังทำจะได้ความใส หวาน รายระเอียดเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
AU-666 ถ้าเทียบกับ AU-555 เสียงครบเครื่องกว่าครับ อิ่มแน่น พริ้วกว่า ความเป็นดนตรีสูงกว่า การออกแบบผมว่าเหนือชั้นกว่ามาก โดยเฉพาะการแยกบอร์ดต่างๆอย่างเด็ดขาด
ลดการกวนกันได้อย่างดีเยี่ยม

[betacam]

ประกอบเข้าที่เดิม

[betacam]

ภาคปรีโทน เปลียน C ใหม่หมด

[betacam]

ใช้ C ฟิลเตอร์ตัวใหญ่แค่สองตัวเองครับ

[betacam]

เอาพวก C ไมล่าออกให้หมด ใส่ของใส่เข้าไป

[betacam]

เริ่มประกอบใส่ที่เดิม

[betacam]

ไล่เก็บเปลี่ยน C ใหม่หมด ค่าเล็กๆที่เป็น C เซรามิคผมเปลี่ยนเป็น ซิลเวอร์ไมก้าหมดเลยแพงเอาการอยู่

[betacam]

C ฟิลเตอร์ ขาประจำของผมใส่ได้พอดีเป๊ะ พร้อมไบแคป

[betacam]

ตรงนี้เป็นช่วงยากครับกว่าจะทำให้เรียบร้อย ต้องอ่านค่า+ดูขั้วให้ดีผมพลาดมาแล้วเล่นเอาเสียงไม่ออกไปข้างไล่หาสาเหตุอยู่พักใหญ่

[betacam]

Au-666 จะแบ่งเป็นบอร์ดย่อยทำให้ค่อนข้างง่ายในการปรับปรุง ของเดิมใช้ C พวกเซรามิคตัวเล็กๆกับ C ไมล่าตัวเขียวๆเยอะ

[betacam]

เสร็จแล้วครับ สำหรับ AU-666

[betacam]

ตอนนี้ผมกำลัง RECAP AU-666 อยู่ครับ ยุ่งยากน้อยกว่า AU-555 มีช่องอัพเกรดได้พอควร เสร็จแล้วจะเอามาโชว์ครับ

[Supot B]

วันนี้ไปลุยบ้านหม้อมา ได้ Cap มา Re ที่ตัวใหญ่ก่อน แต่คงไม่ใช่วันนี้ เพราะหมดแรง เสียดายที่หา จานบินไม่ได้

[Supot B]

มันอึดดีเหมือนกัน วันนี้เปิดตั้งแต่ 5โมงเช้า ยัน 5ทุ่ม ก็ยังปกติดี ตัวเครื่องไม่ร้อนมากเท่าไหร่ ตัว Marantz 7200 ยังร้อนมากกว่าเลย
แต่แปลก ใน สเปค มันบอกกำลังแค่ 25w แต่มันสามารถขับ Usher 718 ได้อย่างสบายๆ 

ถ้าได้ Recap แล้วจะบอกว่าหนังคนละม้วนเลยครับพี่ เครื่องความร้อนถ้าผ่าน Recap มาความร้อนจะลดลงไปอีกเยอะ

ร้านที่รับ Recap ไม่ค่อยมีครับเพราะเสียเวลาช่างอย่างมากรับซ่อมได้กำไรมากกว่าเยอะ ถ้ารับจริงคงแพงเพื่อให้คุ้มกับค่าเสียเวลา
แนะนำว่าทำเองดีกว่าครับ ไม่อยากอย่างที่คิดแถมเลือกเกรดของได้เองด้วย (เรื่องของโทรหาผมได้ครับแนะนำให้ 089-449-2494)
อย่าง AU-555 ค่าอะไหล่ทั้งเครื่องไม่เกิน 1,500 มีทอนแน่นอน 

ขอบคุณครับ คงต้องเปลี่ยนเองแล้วละ คงจะเริ่มที่ Cap ตัวใหญ่ก่อน แล้วผมจะโทรหา

[betacam]

มันอึดดีเหมือนกัน วันนี้เปิดตั้งแต่ 5โมงเช้า ยัน 5ทุ่ม ก็ยังปกติดี ตัวเครื่องไม่ร้อนมากเท่าไหร่ ตัว Marantz 7200 ยังร้อนมากกว่าเลย
แต่แปลก ใน สเปค มันบอกกำลังแค่ 25w แต่มันสามารถขับ Usher 718 ได้อย่างสบายๆ 

ถ้าได้ Recap แล้วจะบอกว่าหนังคนละม้วนเลยครับพี่ เครื่องความร้อนถ้าผ่าน Recap มาความร้อนจะลดลงไปอีกเยอะ

ร้านที่รับ Recap ไม่ค่อยมีครับเพราะเสียเวลาช่างอย่างมากรับซ่อมได้กำไรมากกว่าเยอะ ถ้ารับจริงคงแพงเพื่อให้คุ้มกับค่าเสียเวลา
แนะนำว่าทำเองดีกว่าครับ ไม่อยากอย่างที่คิดแถมเลือกเกรดของได้เองด้วย (เรื่องของโทรหาผมได้ครับแนะนำให้ 089-449-2494)
อย่าง AU-555 ค่าอะไหล่ทั้งเครื่องไม่เกิน 1,500 มีทอนแน่นอน 

[Supot B]

มันอึดดีเหมือนกัน วันนี้เปิดตั้งแต่ 5โมงเช้า ยัน 5ทุ่ม ก็ยังปกติดี ตัวเครื่องไม่ร้อนมากเท่าไหร่ ตัว Marantz 7200 ยังร้อนมากกว่าเลย
แต่แปลก ใน สเปค มันบอกกำลังแค่ 25w แต่มันสามารถขับ Usher 718 ได้อย่างสบายๆ 

[Supot B]

ตอนนี้ที่ลองฟัง กำลังก็ยังดีนะครับ เร่ง Vol แค่ 9โมงก็ดังแล้ว
แล้วถ้าจะ Recap พอแนะนำร้านทำให้ด้วยครับ ไม่รู้ Cap ราคาแพงป่าว

[betacam]

แต่ถ้าพี่อยากมาลองฟังau555ที่ผมทำไปแล้ว ก็ยินดีครับ จากรถไฟฟ้าพระราม9เดินมา5นาทีก็ถึงครับ

[betacam]

ถ้าจะให้ดูจากภายนอกค่อนข้างยาก นอกจากมันจะบวมผิดรูปร่าง ถ้าฟังจากเสียงถ้ามันเริ่มขุ่นมัว ไม่ค่อยมีกำลังเท่าที่ควร แต่อย่าง au777 น่าจะเป็นทรานซิสเตอร์รุ่นแรก อายุไม่น้อยแล้วถ้าพี่คิดว่าจะเก็บไว้ฟังเองผมว่าควรไล่เปลี่ยน c ดีกว่าครับ เสียงดีกว่ากันมาก ค่อยๆดูจากกระทู้ผมก็ได้ ของผมau666ซ่อมเสร็จแล้ว แต่ยังไม่ได้ไปเอาจากช่าง ผมคงมาไล่เปลี่ยน cเหมือนเดิมล่ะครับ

[betacam]

โดยปรกติแล้ว c ที่มีของเหลวอยู่ภายในโดยเฉพาะอีเล็คโตรไลท์พวกนี้มีอายุการใช้งานของมันเอง แม้ว่าจะไม่ได้ใช้งาน ของเหลวพวกนี้ก็จะเสื่อมสภาพลงเรื่อย มีผลให้ค่าเก็บประจุเปลี่ยนไปมากน้อยไม่เท่ากัน

[Eak-tubeamp]

เพิ่งได้ 777 มาเหมือนกัน 

เครื่องสวยครับ 

[Supot B]

ขอถามหน่อยครับ แล้วเราจะรู้ได้ไงว่า Cap มันเสื่อม

ภาพภายในของ 777 ตัวของผม

[Supot B]

เพิ่งได้ 777 มาเหมือนกัน 

[มุนิล]

เพิ่งหามาได้ครับ เบอร์นี้ใช้กับ sansui 800 และ AU-555 ซื้อมาสำรองหายากพอควร ได้มาแบบNOS JAPANแท้
เป็นร้านทำเครื่องสมัยก่อน มีเบอร์เก่าหลายเบอร์น่าสนใจ ใครหาเบอร์อะไรลองฝากมาดูครับเพื่อมี

(ป.ล.ผมขอไม่ลงชื้อร้านนะครับ อันนี้ขออย่างอื่นผมบอกหมด สาเหตุเพราะกลัวพ่อค้าไปสอยกันหวังว่าคงเข้าใจนะครับ)

เจ๋งมากครับ

[betacam]

เพิ่งหามาได้ครับ เบอร์นี้ใช้กับ sansui 800 และ AU-555 ซื้อมาสำรองหายากพอควร ได้มาแบบNOS JAPANแท้
เป็นร้านทำเครื่องสมัยก่อน มีเบอร์เก่าหลายเบอร์น่าสนใจ ใครหาเบอร์อะไรลองฝากมาดูครับเพื่อมี

(ป.ล.ผมขอไม่ลงชื้อร้านนะครับ อันนี้ขออย่างอื่นผมบอกหมด สาเหตุเพราะกลัวพ่อค้าไปสอยกันหวังว่าคงเข้าใจนะครับ)

[มุนิล]

 

[Eak-tubeamp]

กองนี้ครับที่ถอดออกมา

ถึงเวลาเทสเสียง... หนังคนละม้วน ต้องบอกอย่างนั้นครับ ทุกอย่างพรั่งพรูออกมาเลยทีเดียว
เสียงแหลมไปไกลกว่าเดิม ทุ้มลึกแน่น รายละเอียดเล็กๆน้อยๆมาหมด จะบอกว่าเหมือนกับมัน
ตอบสนองความถี่ได้กว้างกว่าเดิมมากๆ ทั้งบนและล่าง เวทีกว้าง มิติสมจริง ฟังเพลงได้เพราะกว่าเดิมเยอะมากๆ

เล่นเอาผมงงเหมือนกันครับ ความเปลี่ยนแปลงแบบหน้ามือเป็นหลังมือแบบนี้
นั่งหาคำตอบอยู่นาน (อันนี้ข้อสันนิฐานของผมนะครับ)

-AU-555ตัวนี้อายุไม่น้อย 30-40 ปี MASTERเพลงในสมัยนั้นมีไม่กี่ประเภท (แผ่นเสียง เทปรีล เทปคาสเซ็ต)
 แหล่งจ่ายข้อมูลเหล่านั้นเก็บข้อมูล รายระเอียด ความถี่ ได้แค่ระดับนีง การออกแบบแอมป์+สายสัญญาณยุคนั้นก็ทำมาเพื่อตอบสนองอุปกรณ์เหล่านั้น
 ซึ่งถือว่าดีที่สุดแล้วของยุค

 ซึ่งแตกต่างจากปัจจุบันที่เทคโนโลยีในการทำMASTERสูงมาก เป็นระบบดิจิตอล เก็บเร้นจ์ของเสียงได้กว้าง เก็บได้ทุกรายละเอียดของเสียง
(บางเพลงแม้แต่ลมหายใจ เสียงกลืนน้ำลายของนักร้องยังได้ยินเลย)และอุปกรณ์เครื่องเสียงก็พัฒนาเพื่อรองรับ โดยเฉพาะสายสัญญาณ

ดังนั้นการที่ผมเปลี่ยนสายสัญญาณก็เหมือนการปลดล็อก การตอบสนองเรื่องเสียงของแอมป์ ซึ่งสายเก่าให้ไม่ได้ ไปไม่ถึง เก็บไม่หมดนั่นเอง

น่าคิดครับ นี่แค่ OUTPUT ถ้าเปลี่ยนช่วง INPUT ด้วยจะขนาดไหน

อันนี้เป็นเรื่องที่ผมคิดนะครับ ผิดถูกไม่รู้ กูรูที่ใดรู้บอกกล่าวกันได้ครับ

 

[betacam]

กองนี้ครับที่ถอดออกมา

ถึงเวลาเทสเสียง... หนังคนละม้วน ต้องบอกอย่างนั้นครับ ทุกอย่างพรั่งพรูออกมาเลยทีเดียว
เสียงแหลมไปไกลกว่าเดิม ทุ้มลึกแน่น รายละเอียดเล็กๆน้อยๆมาหมด จะบอกว่าเหมือนกับมัน
ตอบสนองความถี่ได้กว้างกว่าเดิมมากๆ ทั้งบนและล่าง เวทีกว้าง มิติสมจริง ฟังเพลงได้เพราะกว่าเดิมเยอะมากๆ

เล่นเอาผมงงเหมือนกันครับ ความเปลี่ยนแปลงแบบหน้ามือเป็นหลังมือแบบนี้
นั่งหาคำตอบอยู่นาน (อันนี้ข้อสันนิฐานของผมนะครับ)

-AU-555ตัวนี้อายุไม่น้อย 30-40 ปี MASTERเพลงในสมัยนั้นมีไม่กี่ประเภท (แผ่นเสียง เทปรีล เทปคาสเซ็ต)
 แหล่งจ่ายข้อมูลเหล่านั้นเก็บข้อมูล รายระเอียด ความถี่ ได้แค่ระดับนีง การออกแบบแอมป์+สายสัญญาณยุคนั้นก็ทำมาเพื่อตอบสนองอุปกรณ์เหล่านั้น
 ซึ่งถือว่าดีที่สุดแล้วของยุค

 ซึ่งแตกต่างจากปัจจุบันที่เทคโนโลยีในการทำMASTERสูงมาก เป็นระบบดิจิตอล เก็บเร้นจ์ของเสียงได้กว้าง เก็บได้ทุกรายละเอียดของเสียง
(บางเพลงแม้แต่ลมหายใจ เสียงกลืนน้ำลายของนักร้องยังได้ยินเลย)และอุปกรณ์เครื่องเสียงก็พัฒนาเพื่อรองรับ โดยเฉพาะสายสัญญาณ

ดังนั้นการที่ผมเปลี่ยนสายสัญญาณก็เหมือนการปลดล็อก การตอบสนองเรื่องเสียงของแอมป์ ซึ่งสายเก่าให้ไม่ได้ ไปไม่ถึง เก็บไม่หมดนั่นเอง

น่าคิดครับ นี่แค่ OUTPUT ถ้าเปลี่ยนช่วง INPUT ด้วยจะขนาดไหน

อันนี้เป็นเรื่องที่ผมคิดนะครับ ผิดถูกไม่รู้ กูรูที่ใดรู้บอกกล่าวกันได้ครับ

[betacam]

เปลี่ยนใหม่ทั้งแถบOUTPUT วุ่นวายพอตัวต้องจำสีสายให้ดีๆ จดไว้เลยยิ่งดี
พยายามอย่าหักหรือพับสายเป็นการเพิ่มความเครียดของสายจะทำให้เสียงกร้าวแข็งได้
ดัดให้โค้งเอาไว้ครับ พยายามเดินสายให้ไกลภาคจ่ายไฟมาที่สุด

[betacam]

อีกรูปครับ ใช้ตะกั่วเงินเหมือนเดิม (ตะกั่วเงินที่นัฐพงษ์มีขายครับราคาไม่เกิน 500 บาทแต่คุ้มค่าใช้กันยาวๆ บัคกรีง่าย วิ่งเร็ว สวย เงา ไม่ต้องไปใช้แบรนด์ไฮโซเมตรเป็นร้อยเก็บตังค์ซื้อข้าวดีกว่า )

[betacam]

ภาพนี้ผมเปลี่ยนแล้วครับ สายที่ผมใช้คือ KIMBER ถามว่าทำไมถึงใช้ยี่ห้อนี้ ตอบว่าผมค่อนข้างคุ้นกับเสียงเพราะใช้บ่อยในการเดินสัญญาณ
ขนาดกำลังดี และเค้ามีแบ่งขายเป็นเมตร/เมตรละ 150 บาทมี 2 สีขาวกับใส หาซื้อได้ที่ร้านไฮไฟฮัทชั้น 3 ดิโอสยามครับ
งานนี้ผมใช้สีละ 2 เมตร เหลือนิดหน่อยครับ และติดกันกวนอันล่ะ 10 บาทหาซื้อได้ทั่วไปที่บ้านหม้อ เดินสายตีเกลียว

[betacam]

เข้าเรื่องกันต่อ วันนี้เป็นการเปลี่ยนสายสัญญาณภาคOUTPUT(ช่วงที่ต่อออกลำโพง)
ในภาพคือของเก่าครับ จับดูภายนอกเริ่มแข็งตามอายุขัย

[betacam]

อันนี้ผมซื้อมาเพิ่มเป็นแบบหัวเข็ม สำหรับงานละเอียดจุดเล็กๆพวกIC

(ทดลองใช้แล้วต้องบอกเยี่ยมมากครับ ร้อนเร็ว บางจังหวะต้องใช้ความร้อนสูงทำได้เยี่ยมครับ )

[betacam]

หลังจากหายไปสังพักมาว่ากันต่อครับ สำหรับการบูรณะ AU-555 วันหยุดยาวๆได้ฤกษ์สักที

ติดตามกันดีๆนะครับงวดนี้เป็นจุดสำคัญที่หลายๆคนคาดไม่ถึงแม้แต่ผมเอง แอมป์วินเทจของใครที่ไปไม่ถึงดวงดาว
เสียงแหลมกุดไปไม่สุด เบสลงไม่ลึก เสียงไม่ใส ต้องดูกันดีๆครับ

ที่หายไปพักนึงเนื่องจากหัวแร้งพังครับ ไม่ร้อนเอาดื้อๆ เลยไปสอยของใหม่เอาแบบดีๆเลยกว่า
ได้ตัวนี้มาครับ ของญี่ปุ่นขนาดกำลังดีเร่งความร้อนได้ด้วย ที่สำคัญเปลี่ยนหัวได้ด้วย
มีหลายขนาด ราคา5++อยู่ที่ต่อรองกันเอาเอง หัวเปลี่ยนไม่เกิน100บาท
หาซื้อได้ที่ชั้น2บ้านหม้อพลาซ่า และร้านโชคชัยริมคลองหลอด(ร้านนี้แนะนำสำหรับใครที่ต้องการเครื่องมือคุณภาพสูงของนอก)

[Lana Lenn]

งามแท้ อยากได้บ้างครับ สภาพสวยมาก

[Eak-tubeamp]

ภาพด้านใต้เครื่องครับ

ใต้เครื่องยังเงาวับเลย ผมว่าพวก pcb ก็เหมือน เท่าที่เห็นจะเป็นแบบในภาพทั้งนั้นเลย  เครื่องสวยงามมาก

[betacam]

ตรงบริเวณโวลุ่มด้านหน้า

[betacam]

ภาพด้านใต้เครื่องครับ

[betacam]

ภาพรวมๆด้านบนครับ

[betacam]

C ภาคจ่ายไฟใช้แค่2ตัวยักษ์เองครับ หม้อแปลงขนาดใกล้เคียงกับ Au555

[betacam]

อุปกรณ์ภายในแบบเดียวกันกับ au555ตัวที่แล้ว แต่การวางแผ่นปริ้นท์บางจุดเป็นแบบเสียบสล็อตง่ายกับการซ่อมบำรุงครับ
ลดการเชื่อมต่อและการไลน์สายไปได้พอตัวทีเดียวครับ