HTG2.club

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ dage

  • ***
    • กระทู้: 216
    • เพศ:ชาย
ของแบบนี้นานาจิตตังครับ
ส่วนตัว วัสดูคงไม่ได้ต่างกันฟ้ากับเหว คงไปแพงเพราะ ค่า R&D ไม่ว่าจะวิธีการผลิต การลองผิดลองถูก รววถึงการดีไซน์ และการตลาด.

เคยซื้อสายแพงสุดมาก็ 20k แพงกว่านี้ซื้อได้ แต่ส่วนตัวคิดว่า แค่นี้ พอดี และ พอใจ แล้วครับ

ทุกวันนี้ก็ยังเสียดายกับเงินที่ใช้ซื้ออุปกรณ์บางอย่างที่จริงๆ ใช้อันที่คุณภาพใกล้เคียงกัน แต่ราคาถูกกว่ากันเท่าตัวนึงก็ได้

ของบางอย่างผมก็ขายตัวที่แพงกว่าไป แล้วซื้อตัวที่ถูกกว่ามาใช้ ซึ่งผมก็รู้สึกว่ามันโอนะ ฟัง/ดู ก็ไม่ได้รู้สึกคัน อยากเปลี่ยนของแพงๆอีก


ออฟไลน์ nang kang-pla

  • ทำวันนี้ให้ดีเพื่อวันพรุ้งนี้ และอย่าทำวันนี้ไม่ดีเหมือนเมื่อวาน
  • *****
    • กระทู้: 973
    • เพศ:ชาย
เปิดใจยอมรับความเป็นจริงที่ตัวเองคิดอยู หรือ ใส่วิญญาณของนักเล่นเครื่องเสียง
เลขบันชีและที่อยู่ครับ>>>http://www.htg2.net/index.php?topic=42109.0

ไม่มีสิ่งใดที่ทำไม่ได้ สิ่งที่ทำไม่ได้คือยังไม่ใด้ทำ


ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
ถ้าตอบจากคำถามที่มีให้เลือกคำตอบเพียงสองข้อ ขอตอบกว่าการตลาดจ้าาา  ;D


ออฟไลน์ ภูมิ

  • เสือแรดแหกจากกรง เต่าหยกแตกในกล่อง ข้อบกพร่องอยู่ที่ไหน
  • *
    • กระทู้: 37
    • เพศ:ชาย
เห็นพี่หลายๆคนร่ายมาแล้วขอแสดงความเห็นบ้าง
พี่บอยแจ้งชอบด้วยเหตุผลแล้วครับ สิ่งต่างๆเริ่มจากสาม system หลัก ต้นทาง กลางทาง ปลายทาง
สำหรับเงินที่มีทั้งหมด ปลายทางเป้นสิ่งที่ผมเลือกจะอัดเงินให้มากที่สุด
ผ่านลำโพงสูงสุดคือ 802diamond แต่เสียงที่ชอบที่สุดมาจาก L300
แหลมไม่ได้ต่างกันเลย ทำไมของเมื่อสี่ห้าสิบปีก่อนกลับทำเสียงที่แม้แต่ปัจจุบันก็ยังทำไม่ได้ ฟังเครื่องไฮเอนมามากกลับโหยหาแค่วินเทจดีๆสักชุดกลับตอบสนองเสียงที่ได้รับฟังตามธรรมชาติได้แล้ว
คำถามคือ แต่ละท่านจะว่ายในอ่างนี้อีกนานเท่าไรจึงจะจบ
แต่ผม จบแล้วครับ :D
ที่อยู่ครับ http://www.htg2.net/index.php?topic=40709.0


ออฟไลน์ akeshipping

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,208
บางทีไปกินสเต็กลุงหนวด จานล่ะ 39  บาทก็อิ่มได้เหมือนกันนะครับ
บางทีอร่อยกว่าสเต็กจานเป็นพัน ที่ใช้เนือ้ดีๆแพงๆ แต่ปรุงไม่อร่อย
หรืออร่อยแต่ไม่ถูกปากเราก็ได้เหมือนกันนะครับ

แต่บางคนก็ชอบ และถูกปากกับสเต็กจานแพงๆก็ได้ครับ



ออฟไลน์ nut_ty

  • คนดีคือคนที่ไม่เอาเปรียบผู้อื่น ทั้งในทางตรงและทางอ้อม
  • ผู้สนับสนุน web 1ปี
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,901
    • เพศ:ชาย
วลี "เหาฉลามมุมกลับ"

"พี่ต้องใช้ลำโพงรุ่นนี้สิครับ ถึงจะสามารถรีดประสิทธิภาพของสายลำโพงยี่ห้อ XXX ของเราได้เต็มที่"
นายวัชระ สลัดแก้ว
โทร 083 1214445


ออฟไลน์ ขุนจิต

  • kjit
  • สมาชิกรุ่น Classic
  • Superstar...
  • *****
    • กระทู้: 7,392
    • เพศ:ชาย
  • ไบเกอร์เครื่องเสียง
เคยเขียนในเวปแทค หลายรอบแล้ว. คราวนี้มาย่อสั้นๆในเวปนี้บ้าง.     
ผมอยู่วงการสื่อสาร. ได้เห็นได้ใช้สายสัญญาณคุณภาพสูงในวงการสื่อสาร.  บางทียังอึ้งว่าเขาคิดได้ยังไงในการคิดค้นวิธีการนำมาใช้แบบนี้.  ใครเคยเป็นจานเสาอากาศบนยอดเสาที่เป็นเหมือนกลองไหมครับ
เขาใช้สายชนิดมีทองแดงเป็นกรอบกระดูกนอกที่หุ้มด้วย pvc และแกนใน จากนั้นเข้าหัวคแนเน็คเตอร์ ยังไม่พอ ในชุดประกอบยังมี แวคคั่ม ทำการดูดอากาศเพื่อให้ด้านในนั้นเป็นสูญญากาศอีก. จะเห็นว่าเขาเน้นความสำคัญของคุณภาพสาย. มาก.            อีกตัวอย่างนึง  ผมถูกส่งไปจรวจสอบสถานีส่งข้อมูลระยะไกลแห่งนึงที่ข้อมูลมาๆหายๆ. เลยเอาดัมมี่โหลดและวัตตมิเตอร์ติดตัวไปด้วย พอไปลองวัดกำลังวัตต์ที่ส่งออกจากตัวเครื่อง  ปรากฎว่าวัตตต่ำ.  แต่ก็น่าจะส่งได้.    ทีนี้เลยคิดจะเปลี่ยนสายเกรดสูงเข้าไปแทนที่.  จึงลองวัดใหม่ที่ปลายสายก่อนเข้าเครื่องส่งที่จะขยายออกไป ปรากฎว่า วัตต์เป็นศูนย์ แสดงว่าสายคุณภาพต่ำ.  กล่าวคือ สัญญาณมันสูญเสียไปหมดแล้วในสายส่ง. แล้วดันไปถูกบูสด้วยเครื่องส่ง ซึ่งมันเอาค่าศูนย์ ( 0 w.) ไปขยาย มันถึงขยายอะไรออกไปไม่รู้ การส่งค่าจึงขาดๆหายๆ

แสดงว่าเส้นสายต่างๆมีผลมาก ในวงการสื่อสาร เองก็มีสายประเภทเดียวกัน หลายราคา. ราคาต่างกันแบบห่างกันเท่าตัว และมีหลายสเต็ป.  แล้วแต่เราเลือกใช้.  ปัจจุบันจะเห็นได้ว่า วงการวิศวะกรรมรุ้นใหม่ๆให้ความสำคัญด้่นต้นทุนมากกว่า คุณภาพด้านเทคนิค. จึงใช้วัสดุถูกๆมาทำจนเป็นที่เห็นว่า.  ระบบ 3g เมืองไทยช้าที่สุดในโลก.  ทั้งๆที่ใช้เครื่องส่งยี่ห้อชั้นนำเดียวกันกับทั่วโลก ผลพยามเขียนให้อ่านง่ายๆ ไม่งั้นยาวมาก   ไปดูทำไมรถไฟฟ้าความเร็วสูง.  ต้องใช้ซุปเปอร์คอนดักซ์เตอร์หล่อด้วยไฮโดรเจนเหลว.  ตลอดรางรถไฟ.    ผมละกลัวจริงๆหากระบบมาติดตั้งให้คนไทยด้วยคนไทยเวลานี้ จะใช้แค่สายทองแดงเกรดธรรมดาๆ.  จะกลายเป็นรถไฟความเร็วสูงที่วิ่งช้าที่สุดในโลกไปอีก.

การปรับเซ็ตลำโพงแน่นอนใช้ครับสำคัญ.  แต่คุณภาพเส้นสายก็สำคัญเช่นกัน.   คนใช้สายดีก็ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่ได้เซ็ตลำโพง.  คนที่ผลิตลำโพงขายเขาก็เอาสายดีๆมาเปิดให้คนได้ทดลองฟัง. ไม่มีใครเอาไม้แขวนเส้นมาเสียบให้ลองสักรายในต่างประเทศ ทั้งๆที่เขาเป็นผู้ผลิตลำโพง.

เป็นไปได้บางซิสเต็ม ใช้แล้วไม่ต่าง อาจเพราะมันถูกรีดประสิทธิภาพสูงสุดได้แค่นั้น     เคยเจอบางคนบอกทำไมใช้สายแพงแล้วไม่ดีขึ้นเลย. ไปดูอ้าวเจอขีดจำกัดลำโพงเขาตอบสนองความถี่ได้แค่นั้น จะไปเห็นอะไร

จริงๆ คนเราอยากได้อะไรที่ดีที่สุดในราคาไล้จาก น้อยที่สุดไปหามาก. เมื่อพบว่าเพียงพอแล้วก็จะหยุด.  บางคนหากยังไม่พอก็ไปต่อ. พอไปต่อพบมันไม่ดีไปกว่านี้แล้วก็ย้อนกลับและหยุด



อ่านพี่  pop  เห็นภาพครับ
พิจิต 089-771-8895


ออฟไลน์ mr_mon

  • ***
    • กระทู้: 132
ต่ออีกนิด เดี๋ยวไม่สมบูรณ์.   d_d

ต้งอยอมรับว่าสายแพงๆนั้น ปัจจุบัน มีองค์ประกอบทางด้านการดีไซน์หน้าตาผลิตภัณออกมาผลมด้วย. เพื่อให้ดูไฮโซ หรูหรา เพราะคนเล่นเครื่องเสียง คือคนที่มีตังค์ คนจนคงไม่มาเสียเวลาเล่น
ยกตัวอย่าง.   สายทราน ตัวท๊อป.     เอาแค่เคสตัวถัง ค่าออกแบบ ให้ดูสวยงามอลังการ คงหลายหมื่นอยู่ ทำมาเพื่อให้มีรูปลักษณ์ไฉไลสมกับเป็นของเล่นไฮโซ. หากเขาเอาเคสออก และเอาอุปกรณ์วงจรต่างๆนั้นไปยัดลงในปีปน้ำมันพืชตราองุ่น ส่วนสายไม่ต้องหุ้ม เอาสก๊อตเทปพัน. ราคาอาจถูกลงไปครึ่งนึงก็เป็นได้.  ดังจะเห็นกลุ่ม DIY ทั้วโลกไปก็อปมาทำเล่นกันเองในราคาตั๋วเด็ก คุณภาพอาจด้วยกว่าเล็กน้อย
ความสวยไม่ต้องพูดถึง.   แล้วแต่เลือกใช้วัสดุ.  อาจเอาไปยัดในครกอ่างศิลาก็ได้ ก็มีจ้นทุนค่าครกหินแทน cnc อลูเกรดดีๆสวยๆ.     

คล้ายกางเกงยีนตัวละ 2หมื่น  ทั้งๆที่ผ้ายีนเมตรละ ไม่กี่ร้อย.    บางทีอาจมีเรื่องแบนด์รสนิยมเข้ามาเกี่ยวด้วยบ้าง.   แต่คนคิดค้นเขามองหลายด้าน หลายมุม. จนทำออกมาขายจนได้.

ขำๆครับ.    โลกนี้มันต้องอย่างนี้แหละ. มันถึงจะพัฒนา.   :wiggle
c) c) c)ยอดเยี่ยมครับท่าน อ่านแล้วเข้าใจง่าย


ออฟไลน์ pop2000

  • *****
    • กระทู้: 863
ต่ออีกนิด เดี๋ยวไม่สมบูรณ์.   d_d

ต้งอยอมรับว่าสายแพงๆนั้น ปัจจุบัน มีองค์ประกอบทางด้านการดีไซน์หน้าตาผลิตภัณออกมาผลมด้วย. เพื่อให้ดูไฮโซ หรูหรา เพราะคนเล่นเครื่องเสียง คือคนที่มีตังค์ คนจนคงไม่มาเสียเวลาเล่น
ยกตัวอย่าง.   สายทราน ตัวท๊อป.     เอาแค่เคสตัวถัง ค่าออกแบบ ให้ดูสวยงามอลังการ คงหลายหมื่นอยู่ ทำมาเพื่อให้มีรูปลักษณ์ไฉไลสมกับเป็นของเล่นไฮโซ. หากเขาเอาเคสออก และเอาอุปกรณ์วงจรต่างๆนั้นไปยัดลงในปีปน้ำมันพืชตราองุ่น ส่วนสายไม่ต้องหุ้ม เอาสก๊อตเทปพัน. ราคาอาจถูกลงไปครึ่งนึงก็เป็นได้.  ดังจะเห็นกลุ่ม DIY ทั้วโลกไปก็อปมาทำเล่นกันเองในราคาตั๋วเด็ก คุณภาพอาจด้วยกว่าเล็กน้อย
ความสวยไม่ต้องพูดถึง.   แล้วแต่เลือกใช้วัสดุ.  อาจเอาไปยัดในครกอ่างศิลาก็ได้ ก็มีจ้นทุนค่าครกหินแทน cnc อลูเกรดดีๆสวยๆ.     

คล้ายกางเกงยีนตัวละ 2หมื่น  ทั้งๆที่ผ้ายีนเมตรละ ไม่กี่ร้อย.    บางทีอาจมีเรื่องแบนด์รสนิยมเข้ามาเกี่ยวด้วยบ้าง.   แต่คนคิดค้นเขามองหลายด้าน หลายมุม. จนทำออกมาขายจนได้.

ขำๆครับ.    โลกนี้มันต้องอย่างนี้แหละ. มันถึงจะพัฒนา.   :wiggle


ออฟไลน์ pop2000

  • *****
    • กระทู้: 863
เคยเขียนในเวปแทค หลายรอบแล้ว. คราวนี้มาย่อสั้นๆในเวปนี้บ้าง.     
ผมอยู่วงการสื่อสาร. ได้เห็นได้ใช้สายสัญญาณคุณภาพสูงในวงการสื่อสาร.  บางทียังอึ้งว่าเขาคิดได้ยังไงในการคิดค้นวิธีการนำมาใช้แบบนี้.  ใครเคยเป็นจานเสาอากาศบนยอดเสาที่เป็นเหมือนกลองไหมครับ
เขาใช้สายชนิดมีทองแดงเป็นกรอบกระดูกนอกที่หุ้มด้วย pvc และแกนใน จากนั้นเข้าหัวคแนเน็คเตอร์ ยังไม่พอ ในชุดประกอบยังมี แวคคั่ม ทำการดูดอากาศเพื่อให้ด้านในนั้นเป็นสูญญากาศอีก. จะเห็นว่าเขาเน้นความสำคัญของคุณภาพสาย. มาก.            อีกตัวอย่างนึง  ผมถูกส่งไปจรวจสอบสถานีส่งข้อมูลระยะไกลแห่งนึงที่ข้อมูลมาๆหายๆ. เลยเอาดัมมี่โหลดและวัตตมิเตอร์ติดตัวไปด้วย พอไปลองวัดกำลังวัตต์ที่ส่งออกจากตัวเครื่อง  ปรากฎว่าวัตตต่ำ.  แต่ก็น่าจะส่งได้.    ทีนี้เลยคิดจะเปลี่ยนสายเกรดสูงเข้าไปแทนที่.  จึงลองวัดใหม่ที่ปลายสายก่อนเข้าเครื่องส่งที่จะขยายออกไป ปรากฎว่า วัตต์เป็นศูนย์ แสดงว่าสายคุณภาพต่ำ.  กล่าวคือ สัญญาณมันสูญเสียไปหมดแล้วในสายส่ง. แล้วดันไปถูกบูสด้วยเครื่องส่ง ซึ่งมันเอาค่าศูนย์ ( 0 w.) ไปขยาย มันถึงขยายอะไรออกไปไม่รู้ การส่งค่าจึงขาดๆหายๆ

แสดงว่าเส้นสายต่างๆมีผลมาก ในวงการสื่อสาร เองก็มีสายประเภทเดียวกัน หลายราคา. ราคาต่างกันแบบห่างกันเท่าตัว และมีหลายสเต็ป.  แล้วแต่เราเลือกใช้.  ปัจจุบันจะเห็นได้ว่า วงการวิศวะกรรมรุ้นใหม่ๆให้ความสำคัญด้่นต้นทุนมากกว่า คุณภาพด้านเทคนิค. จึงใช้วัสดุถูกๆมาทำจนเป็นที่เห็นว่า.  ระบบ 3g เมืองไทยช้าที่สุดในโลก.  ทั้งๆที่ใช้เครื่องส่งยี่ห้อชั้นนำเดียวกันกับทั่วโลก ผลพยามเขียนให้อ่านง่ายๆ ไม่งั้นยาวมาก   ไปดูทำไมรถไฟฟ้าความเร็วสูง.  ต้องใช้ซุปเปอร์คอนดักซ์เตอร์หล่อด้วยไฮโดรเจนเหลว.  ตลอดรางรถไฟ.    ผมละกลัวจริงๆหากระบบมาติดตั้งให้คนไทยด้วยคนไทยเวลานี้ จะใช้แค่สายทองแดงเกรดธรรมดาๆ.  จะกลายเป็นรถไฟความเร็วสูงที่วิ่งช้าที่สุดในโลกไปอีก.

การปรับเซ็ตลำโพงแน่นอนใช้ครับสำคัญ.  แต่คุณภาพเส้นสายก็สำคัญเช่นกัน.   คนใช้สายดีก็ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่ได้เซ็ตลำโพง.  คนที่ผลิตลำโพงขายเขาก็เอาสายดีๆมาเปิดให้คนได้ทดลองฟัง. ไม่มีใครเอาไม้แขวนเส้นมาเสียบให้ลองสักรายในต่างประเทศ ทั้งๆที่เขาเป็นผู้ผลิตลำโพง.

เป็นไปได้บางซิสเต็ม ใช้แล้วไม่ต่าง อาจเพราะมันถูกรีดประสิทธิภาพสูงสุดได้แค่นั้น     เคยเจอบางคนบอกทำไมใช้สายแพงแล้วไม่ดีขึ้นเลย. ไปดูอ้าวเจอขีดจำกัดลำโพงเขาตอบสนองความถี่ได้แค่นั้น จะไปเห็นอะไร

จริงๆ คนเราอยากได้อะไรที่ดีที่สุดในราคาไล้จาก น้อยที่สุดไปหามาก. เมื่อพบว่าเพียงพอแล้วก็จะหยุด.  บางคนหากยังไม่พอก็ไปต่อ. พอไปต่อพบมันไม่ดีไปกว่านี้แล้วก็ย้อนกลับและหยุด



ออฟไลน์ FredCouple

  • Freshy
    • กระทู้: 7
วิธิวัดที่ง่ายและสามารถ ทำได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ ก็คือ การทำ double blind test ครับ

จุดประสงค์ของการทำ double blind test คือ
1) วัดว่าผู้ฟัง มีความสามารถในการที่จะใช้อุปกรณ์ accessory ถึงจุดที่ สินค้าได้โฆษณาได้หรือไม่
2) วัดว่าผู้ฟัง มีความไวต่อ suggestion ขนาดไหน เช่น ได้ยินว่าเสียงดี ตามคำโฆษณาของผู้ขาย

ลองทำ double blind test กันดูสิครับ สำหรับผู้ที่จะต้องจ่ายเงิน คุณทำได้ก่อนที่จะควักกระเป๋าด้วยซ้ำ
ทำแล้วจะได้เข้าใจจริงๆ ว่า การที่จะจ่ายเงินลงทุนกับ accessory เหมาะไหมสำหรับแต่ละท่าน

จ่ายเงินเพราะเบื่อ อยากเปลี่ยน หรือ เพราะ performance ของสินค้า

โดยส่วนตัวผมทำ double blind test มาแล้ว และผมก็เคยซื้อสินค้า ด้วยความอยากเปลี่ยน ทั้งๆที่ผมก็รู้ว่ามันไม่ได้ performance มากขึ้น

อย่ากลัว การทำ double blind test ครับ มันไม่ได้ทำให้สินค้าดีขึ้นหรือแย่ลง มันแค่บอกในทางสิถิตว่า ความสามารถในการฟังของคุณมีแค่ใน vs อุปกรณ์ที่คุณจเสียเงินซื้อ

ข้อแตกต่างระหว่าง aware กับ not aware คือ ผมรู้ว่า ผมจ่ายเพื่อดับความอยากได้ ไม่ใช้เพราะ performance ที่ผมไม่สามารถจะบอกความแตกต่างได้ ครับ


ผมก็ลอง Blind Test แล้วครับ ฟังแค่แว๊บเดียวก็ไม่ต้องฟังต่อแล้วครับ  :bye1 (สาย Transparent Vs Siltech) . จริงๆเสียงที่เปลี่ยนแปลงไปทุกคนฟังออกแน่นอนครับ ไม่จำเป็นต้องเป็นนักเล่นเครื่องเสียงด้วย แต่การตีความของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันว่าเสียงที่ได้ยินนั้น ดีหรือไม่ดีอย่างไร ชอบหรือไม่ชอบ เพราะหรือไม่เพราะ ผมยกตัวอย่างนะครับ ถ้าให้ทำ Blind Test โดยให้คนห้าคนยืนอยู่ข้างหลังม่าน แล้วพูดคำว่า 'สวัสดีครับ " ผมว่าแทบจะทุกคนสามารถบอกได้ว่าเสียงแต่ละคนที่อยู่หลังม่านนั้นแตกต่างกัน แต่พอเป็นเรื่องเครื่องเสียงกลับกลายเป็นเรื่อง complicate ไปซะงั้น :bye1

Link ของคุณ Nummie เยี่ยมครับอ่านแล้วมีหลักการและเหตุผลดีครับ. ชอบอันทึ่ว่า if you hear differences, others should hear them too.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 ตุลาคม, 2013, 12:20:36 pm โดย FredCouple »


ออฟไลน์ nuummie

  • *****
    • กระทู้: 850
ผมเคย bookmark วิธี double blind test ไว้ครับ

อ่านเต็มๆ http://www.sanderssoundsystems.com/technical-white-papers/cables-wp

To test interconnects; you do not need any test equipment. You can use your preamplifier to do the switching.  You will need a "Y" connector so you can connect the two interconnects under test (let's call them "A" and "B") to the same component -- probably your CD player.
 
Note that the "Y" connector is the same for both interconnects, so even if you believe that the "Y" connector somehow corrupts the sound (they don't), the same corrupted signal will pass through both interconnects so the test will still be valid. We will only be listening for any differences between the interconnects, and you can hear that difference (if present) on any signal, even a corrupted and distorted one.
 
Inexpensive "Y" connectors can be obtained from Radio Shack. If you want audiophile grade "Y" connectors, Sound Connections International (phone 813-948-2707) sells beautifully-built, gold-plated units at reasonable prices.
 
Plug your "Y" connectors into the left and right outputs of your CD player.  Connect one end of interconnects "A" and "B" to the "Y" connector. Do so for both channels.
 
Connect the other ends of interconnects "A" to one of your preamp line-level inputs (such as "CD").  Connect the other end of interconnect "B" to your tape monitor input.  Do so for both channels. Be sure you don't reverse the channels. All line-level inputs on a preamp are identical, so it doesn't matter which ones you use.
 
You could connect the interconnects to any other line-level input on your preamp instead of "Tape." But the tape monitor inputs will allow to switch back and forth between interconnects by toggling the tape monitor switch instead of having to press different input switches, or rotating a knob.
 
Toggling a single switch like this is more convenient and makes it easy to do the test "blind" so you don't know which interconnect you are listening to. Doing the test blind is desirable so your personal prejudices don't influence the test results.
 
I understand that some audiophiles do not believe in blind testing.  But really now, why do you need know the brand of the interconnects to hear differences between them?  If they sound different, they sound different.  You can hear such differences even with your eyes closed.
 
Blind testing offers the advantage of eliminating personal bias. Human nature is such that if you believe that a particular component will sound "better" (for whatever reason), then it will sound better. So to be sure that you do not deceive yourself, you should not know which interconnect you are listening to.
 
The test is easiest to do if you have a remote-control preamp so you can sit in your listening chair and simply push the Tape Monitor button on the remote whenever you want to switch interconnects. If you don't have a remote control preamp, then you may need an assistant to switch for you whenever you signal them (just wiggle a finger) to do so.
 
To do the test blind, press the tape button several times quickly so you get confused and don't know which interconnect you are listening to. If your preamp has an indicator light showing what you are listening to, then either put a piece of black electrical tape over the light or close your eyes while you do the test.
 
Testing is done by listening to music while switching back and forth between the two sets of interconnects as frequently or as infrequently as little as you wish.  The idea is to try to hear any difference between the interconnects.
 
There is no time limit, you may switch whenever you wish and take as long as you want. If you think you hear a difference, you can go back and listen to the same section of music over and over and switch back and forth several times to be sure.
 
Some audiophiles believe that only long-term listening tests will reveal differences.  If you believe this, then take as many days as you want to do your tests.
 
All you should do is listen for any difference between the interconnects without knowing which one you are hearing. If there is a difference, then you can later decide which sounds better to you. But initially, just listen for differences.
 
If you hear differences, others should hear them too.  You will find that both "golden ear" audiophiles as well as non-audiophiles will both be able to hear the same thing you do. In other words, this test is very accurate and if differences are present, everybody will be able to hear them and agree.

 :D :D :D



ออฟไลน์ Goda Takeshi

  • *****
    • กระทู้: 656
    • เพศ:ชาย
วิธิวัดที่ง่ายและสามารถ ทำได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ ก็คือ การทำ double blind test ครับ

จุดประสงค์ของการทำ double blind test คือ
1) วัดว่าผู้ฟัง มีความสามารถในการที่จะใช้อุปกรณ์ accessory ถึงจุดที่ สินค้าได้โฆษณาได้หรือไม่
2) วัดว่าผู้ฟัง มีความไวต่อ suggestion ขนาดไหน เช่น ได้ยินว่าเสียงดี ตามคำโฆษณาของผู้ขาย

ลองทำ double blind test กันดูสิครับ สำหรับผู้ที่จะต้องจ่ายเงิน คุณทำได้ก่อนที่จะควักกระเป๋าด้วยซ้ำ
ทำแล้วจะได้เข้าใจจริงๆ ว่า การที่จะจ่ายเงินลงทุนกับ accessory เหมาะไหมสำหรับแต่ละท่าน

จ่ายเงินเพราะเบื่อ อยากเปลี่ยน หรือ เพราะ performance ของสินค้า

โดยส่วนตัวผมทำ double blind test มาแล้ว และผมก็เคยซื้อสินค้า ด้วยความอยากเปลี่ยน ทั้งๆที่ผมก็รู้ว่ามันไม่ได้ performance มากขึ้น

อย่ากลัว การทำ double blind test ครับ มันไม่ได้ทำให้สินค้าดีขึ้นหรือแย่ลง มันแค่บอกในทางสิถิตว่า ความสามารถในการฟังของคุณมีแค่ใน vs อุปกรณ์ที่คุณจเสียเงินซื้อ

ข้อแตกต่างระหว่าง aware กับ not aware คือ ผมรู้ว่า ผมจ่ายเพื่อดับความอยากได้ ไม่ใช้เพราะ performance ที่ผมไม่สามารถจะบอกความแตกต่างได้ ครับ



ออฟไลน์ nut_ty

  • คนดีคือคนที่ไม่เอาเปรียบผู้อื่น ทั้งในทางตรงและทางอ้อม
  • ผู้สนับสนุน web 1ปี
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,901
    • เพศ:ชาย
เทคโนโลยีเขาสรรค์สร้างมาให้อยู่แล้ว มีแต่ เส้น สาย นี่ล่ะที่คอยเป็นเหาฉลามอยู่เสมอ และ หลายต่อหลายคนยินดีที่จะจ่ายไม่อั้น ถ้าไม่รู้จะทำอะไรไปมากกว่านั้น พอสายรุ่นที่ใช้อยู่ลดลงมาครึ่งราคา ก็เฝ้าหาสินค้ายี่ห้ออื่นๆ ที่ราคาเท่ากับของเดิมตอนราคาเต็ม เพื่อปลอบใจตัวเองว่ายังใช้ของดีอยู่ จุดสูงสุดของนักเล่น ไม่ใช่อยู่ที่การหาของดีๆ มาใช้ แต่มันอยู่ที่การหาของถูกๆ ที่คุณภาพดีกว่าของดีๆ ที่ผมกล่าวไว้ในข้างต้น แต่ใครเล่าจะพยายามได้ขนาดนั้น ไม่ใช่ผม ไม่ใช่คุณ แต่เป็นคนที่หัวเราะพวกเราในเงามืดไล่ะ  :black_eye
นายวัชระ สลัดแก้ว
โทร 083 1214445


ออฟไลน์ 1080p

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,243

ด้วยเหตุผลต่างๆ นอกเหนือจาก ความชอบ ความเชื่อ จากด้วยหูหรือด้วยตา หรือจากของราคาที่แพงกว่า อะไรคือตัววัด
อันที่จริง ถ้ามันมีอุปกรณ์หรือเครื่ิองมือที่สามารถวัดคุณภาพของสายสัญญานพวกนี้ได้ชัดเจนเด็ดขาด
วัดออกมาเป็นตัวเลขหรืออะไรก็ได้ที่ทำให้รู้ว่ามันดีกว่าและเหนือกว่ามาตรฐานทั่วๆไปยังไงแค่ไหนก็คงดีอ่ะครับ

 


ออฟไลน์ FredCouple

  • Freshy
    • กระทู้: 7
สำหรับผมไม่คิดว่าสายเป็น Accessory ครับ แต่เป็นอุปกรณ์หลักชิ้นนึง  :showoff  สายราคาแพงมีทั้งดีและไม่ดี สายดีๆ(ต้องดีจริงไม่ใช่สายที่มีราคาสูง) สามารถให้เสียงหรือถ่ายทอดเสียงอารมณ์ ความรู้สึกของนักร้อง ออกมาได้  เทียบกับเงินที่จ่ายไป (50,000-100,000) ให้เปลี่ยนเครื่องใหม่ หรืออัพเกรดอย่างอื่น ก็ไม่สามารถทำออกมาได้แบบที่ สายดีๆทำได้ครับ สุดท้ายอยู่ที่การตีความครับว่าเสียงท่านคิดว่าดีนั้น คือเสียงที่ถูกต้องแล้วหรือ   :bye1


ออฟไลน์ nang kang-pla

  • ทำวันนี้ให้ดีเพื่อวันพรุ้งนี้ และอย่าทำวันนี้ไม่ดีเหมือนเมื่อวาน
  • *****
    • กระทู้: 973
    • เพศ:ชาย
สายดีๆแพงๆมันก็มี แต่ทำไมเห็นมือสองขายกันให้เกลื่อน ถ้าเสียงมีค่ามากกว่าเงินคงไม่ขายกัน
เลขบันชีและที่อยู่ครับ>>>http://www.htg2.net/index.php?topic=42109.0

ไม่มีสิ่งใดที่ทำไม่ได้ สิ่งที่ทำไม่ได้คือยังไม่ใด้ทำ


ออฟไลน์ tw145

  • **
    • กระทู้: 54

สำหรับผมแล้วไม่ได้ละเอียดอ่อนถึงกับต้องลงทุนกับเครื่องเคียงพวกนี้เป็นหมื่นเป็นแสนครับ

คิดง่ายๆ ซื้อทีวี 2k เครื่องหนึ่งดูแล้วดูอีกว่าภาพดีไหม ราคาคุ้มไหม ค่าตัว 70,000 โอเคภาพสุดๆแล้ว ถ้าเปลี่ยนสายโน่นนี่แล้วภาพยังไปได้อีกไกล ค่าสายไฟ สายสัญญานดีสุดเท่าที่จะหาได้บนโลกใบนี้ บวกไปอีกแสนนึง รวมเบ็ดเสร็จ แสนเจ็ด

ราคานี้ซื้อทีวี 4k มาได้หนึ่งเครื่อง ใช้สายไฟแถมกับสายสัญญานแถม

ถามว่าเราจะเลือกแบบไหน ??

ผมก็คิดง่ายๆ ประมาณนี้แหละครับ


ออฟไลน์ Era

  • *****
    • กระทู้: 975
    • เพศ:ชาย
 Accessory มือสองราคาตก เพราะมันไม่ดีจริงครับ ผมเห็นซิสเต็มหนึ่งที่สายXXXมันลงตัวด้วยปัจจัยนานาประการแล้ว สายใหม่ๆก็เอาไม่ลง ด้วยความที่เสียงหยาบกว่า กระด้างกว่า สายที่ถูกกว่าจะมีลักษณะที่ทึบกว่าสายแพง(บางเส้นที่คุ้มค่าจริงๆไม่ใช่สักแต่ว่าแพง ซึ่งหลายเส้นสักแต่ว่าแพงจริง) และนี่อาจจะเป็นเหตุที่ว่าหากsystemไม่ถึงผมก็คงฟังไม่ออกระหว่างสายถูกกับแพงอย่างมีนัยยะสำคัญได้(คือสามารถ setupตำแหน่งลำโพงหรือtuningอย่างอื่นเพื่อชดเชยได้)

นี่เป็นข้อสรุปส่วนตัวที่ได้จนบัดนี้ และยังตกผลึกไม่หมดครับ
ข้อมูลติดต่อครับ
http://www.htg2.net/index.php?topic=90857.0


ออฟไลน์ Goda Takeshi

  • *****
    • กระทู้: 656
    • เพศ:ชาย
เรื่องนี้เป็นเรื่องค่อนข้างละเอียดอ่อน เพราะแต่ละท่านต่างก็ฟังเพลงได้ไม่เหมือนกัน และจ่ายเงินไปกับอุปกรณ์ก็ต่างกัน

ผมไม่ต้องการให้เรื่องนี้ขยายไปเป็นเรื่อง ระบบราคาถูกราคาแพง หรือราคาเป็นข้อจำกัดในการทดสอบ

ถ้าจะทดลองก็ลองกับระบบที่แต่ละท่านมีอยู่เลยดีกว่าครับ อย่าเอามาเทียบกันกับ ระบบของคนอื่น เลยครับ

ลองทดลอง อุปกรณ์ passive accessory กับ ระบบของท่าน ในแบบ double blind test แล้วท่านไม่สามารถแยกว่า อันไหน ท่านชอบมากกว่ากัน เอาเงินไปลงทุนกับ อุปกรณ์ active หรือการติดตั้ง จะเหมาะกว่าครับ


ออฟไลน์ อูฐ

  • สมาชิกรุ่น Classic
  • Superstar...
  • *****
    • กระทู้: 4,631
ผมอยากคุยเรื่องนี้ด้วย  แต่ผมคงเขียนยาวมาก  ขอเวลาเรียบเรียง บทความในหัวสมองผมให้เป็นระเบียบก่อนน่ะ   เดี่ยวมาคุยด้วย


ออฟไลน์ tw145

  • **
    • กระทู้: 54
ผมว่าการตลาดครับ

ผมมีแนวคิดคล้ายคุณ nut_ty ครับ
หากจะเล่นอุปกรณ์เสริมพวกนี้ผมให้แค่ไม่เกินห้าพันด้วยซ้ำ

หากเซ็ทระบบเต็มที่แล้วยังไม่ถูกใจ เปลี่ยนเครื่องหลักเห็นผลกว่าครับ...อิอิ


ออฟไลน์ udom

  • ****
    • กระทู้: 310
    • เพศ:ชาย
  • "ยิ่งรู้มาก ยิ่งรู้น้อย"
ผมเคยลองกับน้องโดยเอาสายแถมมากับสายห้าพันน้องว่าดีขึ้นมากแต่ลอง
เอาสายหมื่นกับบอกไม่ต่างจากห้าพัน
แล้วห้าพันกับแสน ไม่รู้ไม่มีเงินซื้อมาลอง
"ยิ่งรู้มาก  ยิ่งรู้น้อย"
http://www.htg2.net/index.php?topic=24673.0


ออฟไลน์ Goda Takeshi

  • *****
    • กระทู้: 656
    • เพศ:ชาย
เรื่องนี้เป็นเรื่อง ความพอใจ ของคนจ่าย กับรายได้ของพ่อค้า

เงินแสน เงินล้าน ของแต่ละคนค่าไม่เท่ากัน
ผมเพียงสงสัยว่า ไม่ว่าจะเงินขนาดไหน ก็ต้องไปจบที่ เชื่อหูตัวเอง

ถ้ามีเงิน "เล่น" เครื่องเสียงได้ขนาดนั้น คงได้เคยเจอ ข้อพิพาท เรื่อง accessory มาอยู่บ้าง

เรื่องของเรื่องคือ เชื่อหู (สมอง) ตัวเองได้แค่ไหน

จะจ่ายเงินเป็น หลัก แสน หลักล้าน คงไม่ยากเกินไปหรอกครับ ที่จะลองทำ double blind test กับอุปกรณ์ Accessory
ลองดูให้รู้ จะได้เปลี่ยนเหตุผลในการซื้อ จาก

ความสามารถในการจ่าย เป็น ความสามารถในการฟัง

ผมยกประโยช์นให้อุปกรณ์เหล่านั้นมีความสามารถตามที่โฆษณาก่อน แต่ละท่านลองเสียเวลาทดสอบตัวท่านเองโดยไม่มีจิตวิทยามาเกี่ยวข้อง ครับ

ปล ผมเคยลอง double blind test แล้วครับ สรุปว่า ผมมีความสามารถน้อยในการแยกแยะ accessory หรืออุปกรณ์จำพวก passive ครับ


ออฟไลน์ GUNTAM

  • ****
    • กระทู้: 478
สายบางตัวก็ทำมือ คือเอาแกนในมาและค่อยๆสวมชิลด์เข้าไป มีเทคนิคเข้าสายบางประเภทที่ต้องประกอบด้วยมือ

ให้ที่ Poem ทำสาย COAX ให้ 1 เส้น คือเลือกแกนใน หุ้มสาย สวมชิลด์ ซึ่งต้องจับแมทระหว่างแกนในกับชิลด์ที่ให้เสียงไม่เหมือนกัน กว่าจะเสร็จเส้นนึงก็ร่วมสามชั่วโมงครับ
สำหรับสายแพงบางยี่ห้อ ดีจริง บางยี่ห้อก็การตลาดล้วนๆ ยี่สิบกว่าปีที่แล้ว CD ยี่ห้อ Melos เอา CD Sony M33 มาใส่หน้ากากอลูมิเนียมทับ และทำ Buffer หลอดไว้ท้ายเครื่อง จากราคาเครื่องต้นทุนไม่ถึงหมื่นก็ขายซะเจ็ดหมื่น อันนี้การตลาดล้วนๆครับ


ออฟไลน์ nang kang-pla

  • ทำวันนี้ให้ดีเพื่อวันพรุ้งนี้ และอย่าทำวันนี้ไม่ดีเหมือนเมื่อวาน
  • *****
    • กระทู้: 973
    • เพศ:ชาย
พูดไปก็ไม่จบ  จบสูงไม่มีประสบการจะสู้คนไม่ได้เรียนแต่ประสบการสูง คุณจะเลือกใคร
เลขบันชีและที่อยู่ครับ>>>http://www.htg2.net/index.php?topic=42109.0

ไม่มีสิ่งใดที่ทำไม่ได้ สิ่งที่ทำไม่ได้คือยังไม่ใด้ทำ


ออฟไลน์ nut_ty

  • คนดีคือคนที่ไม่เอาเปรียบผู้อื่น ทั้งในทางตรงและทางอ้อม
  • ผู้สนับสนุน web 1ปี
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,901
    • เพศ:ชาย
เดี๋ยวจะออกทะเลไปกันใหญ่ เจ้าของกระทู้เขาหมายถึง Accessory ราคา 100,000 - 1,000,000 นะครับ โดยส่วนตัวผมเองมองว่ามันเป็นค่าการตลาด มากกว่าต้นทุนวิจัย  Y]
นายวัชระ สลัดแก้ว
โทร 083 1214445


ออฟไลน์ ย่องมาฟัง

  • ***
    • กระทู้: 133
เมื่อก่อนสมัยเรียนผมจริงจังกับการเลือก underwear หรือ ภาษาไทยเรียกว่า กางเกงลิง มากๆต้องใส่ของมียี่ห้อเท่านั้น (ไม่มียี่ห้อ victoria secret นะครับ) เพราะสมัยผม วัยรุ่นนิยมการใส่กางเกงแบบหลุดบั้นท้ายครับ ซึ่งผมคิดว่าก็มีหลักการเดียวกับการเลือกสายลำโพง สายสัญญาณแหละครับ
.
.
สายเเพงดีไหม"ดี" กกน.แพงดีไหม"ดี" คุ้มไหมแล้วแต่คนใช้ครับ
.
.
สิ่งหนึงที่ทำให้ผมรู้คือ ผมใส่ กกน.แพง น้องชายผมก็ไม่ได้อลังการงานสร้างขึ้นแต่อย่างใด (แต่ก็ใหญ่กว่าชายไทยทั่วไป เพราะมีคนบอกมา...5555) ผมใส่การเกงในแพง เด็กที่เล่นน้ำกับผมก็ไม่เคยมีใครบอกว่า "พี่ค่ะ สุขภาพผิวน้องชายพี่ เนียนระดับพุงปลาโอโทโร่เลยค่ะ" ก็ยังไม่เคยเจอใครบอกแบบนี้ แต่ข้อดีของมันคือ ใส่สบาย
.
.
ดังนั้น สายถูกสร้างมาให้ส่งสัญญาณ เช่นกัน underwear ก็ถูกสร้างมาให้ ปกปิด ห่อหุ้ม เมื่อเราทราบความประเด็นที่แท้จริงของสินค้าแล้ว ก็อยู่ที่ความพอใจของเราแล้วล่ะครับ ว่าชอบอันไหน ของแพงย่อมมีเหตุผลครับ แต่เหตุผลนั้นคุ้มค่าไหม โดนใจเราไหม ขึ้นอยู่กับใครล่ะครับ ผมตอบเลย "เมีย" ครับ....5555 ผมล้อเล่น ตัวเราครับ เราต้องตัดสินใจ
.
.
ผมเคยกะรุ่นพี่ 3 คน เลือกสายไฟ 5 เส้น มี MIT , AZ , Palic , Acrolink , อีกเส้นจำไม่ได้ สายมีราคาแพงสุด 50,000 - 6,000 บาท นั้งฟังพร้องกัน เพลงเดียวกัน สลับอยู่ 3ชม. สรุป แอมป์พัง.....5555 ผมล้อเล่นครับ ชอบไม่เหมือนกันสักคน ดังนั้นการเลือกสายไม่ได้อยู่ที่ราคาแต่อยู่ที่ความ ผสาน กลมกลืน หรือ ความแมชชิ่ง นั้นเอง


ออฟไลน์ Old Tube

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,295
 :) คงเหมือนอาหารมั้งครับ เครื่องปรุงบางชนิด ราคาแสนแพง....แต่มันก็มีคุณสมบัติบางอย่างที่เครื่องปรุงถูกๆ ให้ไม่ได้  ผมว่าทั้งนี้ทั้งนั้น อยู่ที่ตัวเราว่าความชอบ กับ ความพอใจ ชั่งน้ำหนักกับค่าใช้จ่ายที่ไม่เกินตัวมากไป เพราะอาจจะส่งผลให้เกิดทุกข์ เกิดความร้อนใจได้ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11 ตุลาคม, 2013, 02:08:19 pm โดย Old Tube »
oldtube
นายอุกฤษ เหมพิจิตร
184 อาคารฟอรั่ม ทาวเวอร์ ถ.รัชดาภิเษก เขตห้วยขวาง แขวงห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310
 tel.084-677-3599


ออฟไลน์ wat12(คุ้ม)

  • ชอบรวมสิ่งที่ดีๆเข้าด้วยกัน จึงไม่เกี่ยงทั้งเทคโนโลยี่แรกเริ่ม หรือล่าสุด
  • ผู้สนับสนุน web
  • Super Star.
  • *
    • กระทู้: 2,839
  • DLP 4 Studiotek130 , TUBE 4 STAX , SSamp 4 spk
ยังจำได้ว่า  พี่หมอทีเจ รูปหล่อแห่งเว็ป

เคยนิยาม แบบกระชับๆว่า


อะไรๆ  ที่ขาดมันไปแล้ว  เครื่องไม่ทำงาน  และฟัง หรือดูไม่ได้  ขอจัดเป็น  "กระด้างภัณฑ์"
ส่วนที่ไม่มี  ก็ทำงานได้  ขอจัดเป็น "ละมุนภัณฑ์"


ข้าน้อยคงนึงละเห็นด้วยกับแนวคิดนี้จร้า d_d :drunk :drive1
ไม่มีอะไรดีที่สุด การค้นหาข้อดีของแต่ละอย่างแล้วผนวกเข้าด้วยกันเพื่อความพึงพอใจคือสิ่งที่ท้าทาย  " ทำเหมือนเขา ได้ดีที่สุดคือเท่าเขา แต่ส่วนใหญ่จะแพ้เขา แต่ถ้าเราใส่ไอเดียคิดใหม่ของเราเข้าไป โอกาสชนะและดีกว่ามีครับ " สนับสนุนการคิด ไม่พิศมัยการลอกทั้งดุ้น

http://www.htg2.net/index.php?topic=23262


ออฟไลน์ Eames

  • *
    • กระทู้: 49
ผมก็ยังสงสัยการแบ่งแยกว่า อะไรเป็นฮาร์ดแวร์ อะไรเป็น  accessories สายไฟ สายสัญญาณ สายลำโพง เป็น accesssories หรือเปล่า ถ้าใช่ ชุดของเราก็ไม่มีสิ่งเหล่านี้ก็คงทำงานได้ ใช่ไหม
มองให้ถึงที่สุด ตัวเรา หูเรา ก็เป็นส่วยหนึ่งของระบบที่เราฟังอยู่ ใครจะกล้าเคลมว่าหูของตัวเองเป็นมาตรฐานแทนที่ทุกคนได้ ผมจึงให้ความเห็นว่าต้องมอง(ฟัง) เป็นระบบ ไม่เกี่ยวกับรวยจน แต่เกี่ยวเกี่ยวกับเหตุผลส่วนตัวและความพึงใจของแต่ละคน
อย่าลืมว่าของแพงแค่ไหนก็ไม่มีใครมาบังคับซื้อ มันอยู่ที่เรา ถ้าคิดว่าเขาหลอกไม่ซื้อซะมากเข้า เขาก็เจ๊งเอง คงไม่ต้องจริงจังถึงขนาดมองว่าเป็นยุคมืดหรืออะไร ของใหม่คิดมาขายทุกวัน แนวคิดเก่าบ้าง ใหม่บ้าง สนุกดี ผมกลับมองว่ายุคนี้สร้างสรรค์ดีออก มีทั้งจริงทั้งหลอก ก็ฝึกสมองลองค้นหาดู


ออฟไลน์ wat12(คุ้ม)

  • ชอบรวมสิ่งที่ดีๆเข้าด้วยกัน จึงไม่เกี่ยงทั้งเทคโนโลยี่แรกเริ่ม หรือล่าสุด
  • ผู้สนับสนุน web
  • Super Star.
  • *
    • กระทู้: 2,839
  • DLP 4 Studiotek130 , TUBE 4 STAX , SSamp 4 spk
ในเว็บ TAC ตีค่าคำพูดของผมออกมาละเอียดแล้ว เกี่ยวกับเรื่องนี้ คนที่เล่น Accessory จริงๆ นั้นมีอยู่ แต่เขาจะไม่เอามันมาเป็นประเด็น ต่อจะให้มันแพงแสนแพงแค่ไหน คำตอบเดียวก็คือ ฮาร์ดแวร์ คุณดีพอหรือยัง ตั้งลำโพงเป็นหรือยัง ถ้าสองอย่างนี้ยังเซ็ทไม่ได้ ก็คู่ละพันล่ะเหมาะที่สุดแล้ว ตอนแรกผมมองว่าเป็นการ Look Down แต่เอามาคิดอีกที มันเป็นตรรกะที่อยู่บนพื้นฐานความจริง การชี้ช่องด้วยคำว่า กระเป๋าใคร กระเป๋ามัน เป็นช่องทางการอวยให้สำหรับ ผู้มีอันจะจ่าย มิใช่ผู้มีอันจะกิน

ยุคมืดของวงการได้คลืบคลานเข้ามาแล้ว เคยสังเกตมั้ยว่า 1 แสน ทำอะไรๆ ให้เป็นรูปเป็นร่างไม่ได้เลย ซอร์ส + สายไฟ + สายสัญญาณ + ปรี + สายไฟ + สายสัญญาณ + แอมป์ +สายไฟ + สายลำโพง + ลำโพง ให้จบที่งบ 1 แสน สำหรับของใหม่ ให้ได้คุณภาพดีๆ มันช่างยากเสียเหลือเกิน ค่าเงินมันเล็กลงจริงๆ สินค้ามือสองถึงได้เริ่มมีชีวิตชีวาอีกครั้ง

ป.ล. Accessory มือสองเป็นอะไรที่ขายยากที่สุด แค่นี้ก็พจะทราบแล้วว่า สำคัญแค่ไหน

...สายเมน 16-25sqmm ทองแดง ลากจาก มิเตอร์หน้าบ้าน  ผ่านเบรคเกอร์ (แล้วแต่งบ อีกละ)
...สายกราวนด์ดีๆ ไม่ยาว ลากไปหาแท่งกราวนด์ ตอกใหม่  ที่เตรียม/ทำพิถีพิถันกว่าช่างไฟฟ้ามาตรฐานโครงการ/ช่างทำบ้าน

จากเบรคเกอร์  
...บ้างก็ทำสายไฟครึ่งท่อน (มีแต่ท้าย ต้นทางต่อตรงจากเบรคเกอร์) ออกไปเลย   เพราะใช้สายไฟเอซีดีๆได้
...บ้างก็สายไฟดีมาก ถึง ดีพอประมาณ (แล้วแต่งบ อีกละ) เดินทางสู่ปลั๊กผนัง

จากปลั๊กผนัง
...บ้างมีสองเครื่อง  สายไฟเอซี  สองเส้น  เล่นได้ครบ
...บ้างต้องมี สายไฟอีกเส้น  มีกล่องปลั๊กพ่วง  4-6-8 แล้วแต่ความจำเป็น (และงบ อีกละ)
...บ้างต้องมี  หม้อแปลง Balance Isolation Transformer ก่อนใช้กับบางเครื่อง
...บ้างก็จำเป็น ต้องทำเครื่องกรองไฟ  เพราะเนื่องด้วยไฟฟ้าที่บ้าน  มันไม่เสถียร  หรือมีเหตุจำเป็นอื่นๆ


หลายบ้าน  ทำพื้นฐานระบบไฟไว้ แบบเน้นๆ  ก็หมดไปหลาย  
บางบ้าน งบแสนบาท ยังไม่พอด้วยซ้ำไปซะด้วยซี


เพราะเหตุผลหนึ่ง  อย่างที่ทราบๆกัน
เมื่อพื้นฐานระบบไฟ  และกราวนด์ดี.......ในระดับหนึ่ง............มันอำนวยอวยพร  ให้ศักยภาพของเครื่อง  เส้นสาย  อุปกรณ์ต่างๆ  ที่นำมาต่อใช้  สำแดงเดช  ได้ชัดเจนขึ้น


คงยาก  ที่จะเอา งบแสนบาท  ยุคก๋วยเตี๋ยว 40-ครึ่งร้อย น้ำมันเชื้อเพลิงแพงขึ้น3-5เท่า   ไปเทียบกับ   งบแสนบาท สมัยก๋วยเตี๋ยว 10-20บาท  เมื่อ20-30ปีก่อน


แต่ที่แน่ๆ  ปลั๊กผนัง Audio Gradeบางตัว  ราคายุคนั้น  กับตอนนี้แทบไม่ต่างกันเลย ;D

แล้วผมก็หาเก็บเอามาใช้ด้วย  แต่แปลก  ซื้อไม่ค่อยทันพี่ๆน้องๆ ซักกะที  โดยเฉพาะปลั๊กผนังมือสองอะ ;D ;D 2f
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11 ตุลาคม, 2013, 01:30:40 pm โดย wat12(คุ้ม) »
ไม่มีอะไรดีที่สุด การค้นหาข้อดีของแต่ละอย่างแล้วผนวกเข้าด้วยกันเพื่อความพึงพอใจคือสิ่งที่ท้าทาย  " ทำเหมือนเขา ได้ดีที่สุดคือเท่าเขา แต่ส่วนใหญ่จะแพ้เขา แต่ถ้าเราใส่ไอเดียคิดใหม่ของเราเข้าไป โอกาสชนะและดีกว่ามีครับ " สนับสนุนการคิด ไม่พิศมัยการลอกทั้งดุ้น

http://www.htg2.net/index.php?topic=23262


ออฟไลน์ GUNTAM

  • ****
    • กระทู้: 478
มันให้ผลต่างจริงครับ กับราคาที่แพง แต่บางทีก็แพงไป หรือไม่เข้ากับซิสเต็มที่มีอยู่ก็ไม่มีประโยชน์
สายแพงบางตัวแกะมาดูแล้วก็ได้เคล็ดลับพิเศษมา เป็นเทคนิคที่คิดไม่ถึง ลองทำตามดูบ้างก็ให้ผลดีจริงๆ ต้องยกนิ้วให้คนคิดเลยครับ ถือว่าเป็นราคาค่าไอเดียด้วย

ตอนนี้อยากได้สาย AC ของ Hovland ครับ มันมีเนื้อดี


ออฟไลน์ nut_ty

  • คนดีคือคนที่ไม่เอาเปรียบผู้อื่น ทั้งในทางตรงและทางอ้อม
  • ผู้สนับสนุน web 1ปี
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,901
    • เพศ:ชาย
ในเว็บ TAC ตีค่าคำพูดของผมออกมาละเอียดแล้ว เกี่ยวกับเรื่องนี้ คนที่เล่น Accessory จริงๆ นั้นมีอยู่ แต่เขาจะไม่เอามันมาเป็นประเด็น ต่อจะให้มันแพงแสนแพงแค่ไหน คำตอบเดียวก็คือ ฮาร์ดแวร์ คุณดีพอหรือยัง ตั้งลำโพงเป็นหรือยัง ถ้าสองอย่างนี้ยังเซ็ทไม่ได้ ก็คู่ละพันล่ะเหมาะที่สุดแล้ว ตอนแรกผมมองว่าเป็นการ Look Down แต่เอามาคิดอีกที มันเป็นตรรกะที่อยู่บนพื้นฐานความจริง การชี้ช่องด้วยคำว่า กระเป๋าใคร กระเป๋ามัน เป็นช่องทางการอวยให้สำหรับ ผู้มีอันจะจ่าย มิใช่ผู้มีอันจะกิน

ยุคมืดของวงการได้คลืบคลานเข้ามาแล้ว เคยสังเกตมั้ยว่า 1 แสน ทำอะไรๆ ให้เป็นรูปเป็นร่างไม่ได้เลย ซอร์ส + สายไฟ + สายสัญญาณ + ปรี + สายไฟ + สายสัญญาณ + แอมป์ +สายไฟ + สายลำโพง + ลำโพง ให้จบที่งบ 1 แสน สำหรับของใหม่ ให้ได้คุณภาพดีๆ มันช่างยากเสียเหลือเกิน ค่าเงินมันเล็กลงจริงๆ สินค้ามือสองถึงได้เริ่มมีชีวิตชีวาอีกครั้ง

ป.ล. Accessory มือสองเป็นอะไรที่ขายยากที่สุด แค่นี้ก็พจะทราบแล้วว่า สำคัญแค่ไหน
นายวัชระ สลัดแก้ว
โทร 083 1214445


ออฟไลน์ Eames

  • *
    • กระทู้: 49
ทำไมจึงคิดว่า accessories แพงๆจะต้องอยู่และใช้กับ system ที่คนเซ็ทไม่เป็น มีไว้เป็นตัวช่วยตัวกลบเกลื่อนเสมอ เวลาเราเปร๊ยบเทียบน่าจะเปรียบเทียบในสภาพเดียวกันว่า Accessories นั้น ทำให้เสียงดีขึ้นจริงไหม ในชุดและการเซ็ทเดียวกัน ทำไมเราไม่คิดว่าสายหรืออุปกรณ์ที่เราใส่เข้าไป สุดท้ายมันก็จะเป็นส่วนหนี่งของระบบ อุปกรณ์เสริมมันอาจไม่ใช่อุปกรณ์เสริมอีกต่อไปถ้าใส่ไปแล้วทำให้เราพอใจ โดยส่วนตัวเคยฟังชุดชั้นเยี่ยมที่เซ็ทอัพได้ดี แล้วลองใส่สายลำโพงราคาแพงเข้าไป (สายลำโพง Nordost รุ่น top) ก็ฟังออกว่าดีขึ้นได้อีก จากดีเยี่ยมเป็นดีเยี่ยมแบบมีอะไรบางอย่างที่พิเศษขึ้น ส่วนเรื่องราคานั้นก็พูดยาก มันอยู่ที่ความพอใจกับเงินในกระเป๋า ผมไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องถูกผิดถึงขนาดชี้ชัดได้หรอกครับ ความคุ้มค่าของแต่ละคนมันวางไว้ที่คนละจุดกันครับ อย่างน้อยเราจะออกความเห็นเรื่องของพวกนี้ เราน่าจะมีประสพการณ์กับมันซักหน่อย ออกตัวก่อนผมก็งบไม่มาก ไม่มีความสามารถเล่นของระดับนี้เหมือนกันครับ


ออฟไลน์ ยศ

  • ****
    • กระทู้: 337
    • เพศ:ชาย
ผมก็สงสัยเหมือนกันครับ อย่างสายลำโพงยี่ห้อดังที่มีกระเปราะ(หรือจะเรียกกล่องดี)เคยเห็นรูปภายในกระเปราะก็ไม่ได้มีอะไรมากมายแต่ราคา..... :giveup


ออฟไลน์ nang kang-pla

  • ทำวันนี้ให้ดีเพื่อวันพรุ้งนี้ และอย่าทำวันนี้ไม่ดีเหมือนเมื่อวาน
  • *****
    • กระทู้: 973
    • เพศ:ชาย
มันก็เหมือนกับการสร้างบ้าน จะซื้อบ้านสำเหร็จ หรือจะซื้อที่มาสร้างบ้านเอง  ถ้าสร้างเองมันจะได้ความต้องการกับตัวเองมากที่สุดถูกแต่ถ้าขายก็อาจจะถูกกว่าการซื้อบ้านสำเหร็จได้บ้านที่เขาจัดมาให้ตามมาตราฐานทั้วไป แต่อาจตรงใจเราไม่มากเท่าไรแต่มันสะดวกแถมขายได้ราคา แล้วแต่จะเลือก
เลขบันชีและที่อยู่ครับ>>>http://www.htg2.net/index.php?topic=42109.0

ไม่มีสิ่งใดที่ทำไม่ได้ สิ่งที่ทำไม่ได้คือยังไม่ใด้ทำ


ออฟไลน์ nut_ty

  • คนดีคือคนที่ไม่เอาเปรียบผู้อื่น ทั้งในทางตรงและทางอ้อม
  • ผู้สนับสนุน web 1ปี
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,901
    • เพศ:ชาย
ขอตอบแบบห่ามๆ ได้มั้ยครับ  Accessory แต่ละชิ้นที่เกินราคาหมื่น คือ การแก้ปัญหาซิสเต็มที่ไม่ลงตัว ไม่สามารถสร้างสภาวะ DPOLS ได้ด้วยตัวเอง จึงจำเป็นต้องนำสิ่งปรุงแต่งเหล่านั้นมากลบเกลื่อนจุดด้อย มิได้เพิ่มจุดดีเลยแม้แต่น้อย ผมเคยสัมผัสลำโพง วูฟเฟอร์ 8 นิ้ว ธรรมดาๆ ที่จัดวางอย่างลงตัว ด้วยสายลำโพงถูกๆ เทียบกับ JBL L300 ที่จัดตั้งอย่างไม่ลงตัว ไหนจะสายลำโพงครึ่งแสน ขับออกมาแต่เสียงกลาง ต่อให้ใช้ เส้น สาย ดีแค่ไหนก็ไร้ค่า เขาเรียกว่าดีแต่เปลือก เลือกแต่ข้าวลีบ ผัสสะแห่งการฟังมันลึกซึ้งมากเกินกว่าที่จะกำหนดวิธีตายตัวขึ้นมาได้ ทักษะสำคัญกว่าราคา

บางครั้ง (ทุกครั้ง) การจัดตำแหน่งลำโพงที่ดี จะทำให้เราระลึกได้เลยว่า อ้าว...จะไปซื้อเส้น สาย ทั้งหลายมาทำไมเนี่ย หมดไปกี่แสน ขยับลำโพง ซ้าย ขวา หน้า หลัง นิดหน่อยทำไมมันเพิ่มมาตั้งเป็นล้าน (ให้ค่าแรงตัวเอง) ดังนั้น จงขยัยที่จะสัมผัส DPOLS จากลำโพงที่คุณมีอยู่ให้ได้ มากกว่าเฝ้าหาซื้อความไฮเอนด์ จากการตลาดยุคมืดของวงการเครื่องเสียง  :cold
นายวัชระ สลัดแก้ว
โทร 083 1214445


ออฟไลน์ nang kang-pla

  • ทำวันนี้ให้ดีเพื่อวันพรุ้งนี้ และอย่าทำวันนี้ไม่ดีเหมือนเมื่อวาน
  • *****
    • กระทู้: 973
    • เพศ:ชาย
สายแพงต้องคู่กับเครื่องถูกๆมันจะปรุงแต่งให้ดี แต่ถ้าคู่กับเครื่องแพงมันหลอกหูหรือเปล่า คิดเล่นๆเพราะไม่มีปัญญาซื้อ
เลขบันชีและที่อยู่ครับ>>>http://www.htg2.net/index.php?topic=42109.0

ไม่มีสิ่งใดที่ทำไม่ได้ สิ่งที่ทำไม่ได้คือยังไม่ใด้ทำ


ออฟไลน์ หมูอ่อนนุช

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,048
คิดยังไงกันครับกับสายสัญญาณแพงๆ หลักแสนหลักล้าน มันมีต้นทุนสูงขนาดที่จะขายราคานั้นกันจริงๆหรือ

ในความคิดผม ที่เห็นการเล่นสายสัญญาณแพงๆกันนั้น

มักจะพบเสมอคือ สายแพงๆทำหน้าที่เป็น ผงชูรสให้กับเครื่องเสียง..ชดเชยในสิ่งที่ซิสเต็มส์นั้นขาด

แต่ผงชูรสมันเบื่อง่ายเมื่อกินเข้าไปนานๆ แถมยังมีผลเสียที่แรกๆเรามักตื่นเต้นกับเสียงที่เปลี่ยนไป แต่ซักระยะพอคุ้นชินสิ่งที่มันให้ก็จะพบกับสิ่งที่มันขาด

ทำให้นักเล่นอย่างพวกเราต้องเปลี่ยนสายกันเป็นว่าเล่น..เพราะเบื่อ...

ถ้ากินน้ำเปล่าแต่ต้น..มันจืด..แต่มันไม่มีวันเบื่อ..

ผมก็คิดแบบนี้กับสายสัญญาณและการเล่นเครื่องเสียงครับ.ถ้าห้องดี ชุดดี แมทชิ่งดี แอดเซสเซอรี่ทั้งหลายก็

จำเป็นน้อยลง จะใช้ปรุงแต่งบ้างก็แค่พองาม..

เพื่อนๆว่าไงครับ..กับความคิดแบบนี้..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 ตุลาคม, 2013, 07:56:34 am โดย หมูอ่อนนุช »
My twitter.........wo_ofm