หัวข้อ: ขอความรู้เรื่องการทำ diffusor ครับ // ไม้ดิบเสร็จแล้ว ขอลองฟังก่อนครับ

[100db]

ทำไมต้องห้อย 3 -2-1 กระป๋องครับ มันเป็นสูตรหรือเปล่า และมีผลต่อเสียงมากไหมครับ?

ไม่ใช่สูตรครับ  แต่คิด(ตอนเมา)ครับว่า  วางแบบนี้น่าจะสวยกว่าวางแบบ 3-3-3 ครับ    แล้วก็ corner trap ทั่วไป จะเป็นรูปลักษณะสามเหลี่ยมแบบในรูปครับ  เลยคิดว่า  วางลักษณะคล้ายกันน่าจะ work ครับ

ด้านซ้ายทำตอนต้นเดือนครับ ปลายเดือนงบหมดเลยหวดลีโอแทน ด้านขวาก็เลยเสียงจัดกว่านิดหน่อยเพราะกระป๋องมันบางกว่าครับ 
เนี่ยแหละ  หนึ่งในเพื่อนที่อำแหลกเลย    ตอนนี้ถอดออกหมดแล้วเฟ้ย 

[เจ๊ฟ]

ทำไมต้องห้อย 3 -2-1 กระป๋องครับ มันเป็นสูตรหรือเปล่า และมีผลต่อเสียงมากไหมครับ?

ไม่ใช่สูตรครับ  แต่คิด(ตอนเมา)ครับว่า  วางแบบนี้น่าจะสวยกว่าวางแบบ 3-3-3 ครับ    แล้วก็ corner trap ทั่วไป จะเป็นรูปลักษณะสามเหลี่ยมแบบในรูปครับ  เลยคิดว่า  วางลักษณะคล้ายกันน่าจะ work ครับ

ด้านซ้ายทำตอนต้นเดือนครับ ปลายเดือนงบหมดเลยหวดลีโอแทน ด้านขวาก็เลยเสียงจัดกว่านิดหน่อยเพราะกระป๋องมันบางกว่าครับ 
เนี่ยแหละ  หนึ่งในเพื่อนที่อำแหลกเลย    ตอนนี้ถอดออกหมดแล้วเฟ้ย 

[เจ๊ฟ]

ลำโพงอะไรครับ หน้าตาไม่ได้เรื่องเลย สู้ของผมก็ไม่ได้ 

ทำมาแซว  เดี๋ยะแช่งจู๋ลิงวอยซ์ไหม้ซะเลย 

[100db]

ทำไมต้องห้อย 3 -2-1 กระป๋องครับ มันเป็นสูตรหรือเปล่า และมีผลต่อเสียงมากไหมครับ?

ไม่ใช่สูตรครับ  แต่คิด(ตอนเมา)ครับว่า  วางแบบนี้น่าจะสวยกว่าวางแบบ 3-3-3 ครับ    แล้วก็ corner trap ทั่วไป จะเป็นรูปลักษณะสามเหลี่ยมแบบในรูปครับ  เลยคิดว่า  วางลักษณะคล้ายกันน่าจะ work ครับ

ด้านซ้ายทำตอนต้นเดือนครับ ปลายเดือนงบหมดเลยหวดลีโอแทน ด้านขวาก็เลยเสียงจัดกว่านิดหน่อยเพราะกระป๋องมันบางกว่าครับ 

[100db]

ลำโพงอะไรครับ หน้าตาไม่ได้เรื่องเลย สู้ของผมก็ไม่ได้ 

[เจ๊ฟ]

หลังทำเสร็จครับ   



เดี่๋ยวมาต่อนะครับ   ขอฟังคดีพระวิหารก่อนครับ   

[เจ๊ฟ]

ผลที่ได้เรื่องการเก็บเบสคือดีขึ้นครับ  แต่ยังไม่มาก  คิดว่าน่าจะมาจากปริมาณที่ติดไปยังน้อยเทียบกับพื้นที่เพดานครับ  แต่รายละเอียดและมิติของเสียงซิครับ  ผมว่าคุ้มกว่าการเปลี่ยนสายต่างๆเยอะ  อยากให้เพื่อนๆลองดูครับ

พอเริ่มเห็นแววดี  ผมก็ลุยต่อเต็มพื้นที่หลังคาครับ  แต่จะติด diffusor ประมาณ 60% ของพื้นที่ทั้งหมด  ที่เหลือติดแผ่น absorb ของ daitex ที่เหลือจากการถอดออกในตอนแรกครับ

[เจ๊ฟ]

ความเห็นผมสำหรับ ซิสเต็มตอนนี้ให้ tonal balance ที่ผมโอเคเลยครับ  ถ้าเปิดในระดับที่ไม่ดังมาก   แต่ถ้าเปิดเกิน 9.00 เมื่อไหร่ ก็เริ่มมีมั่วเหมือนกันครับ   ผมเลยต้องลุยต่อ   ได้เรื่องครับ ในหนังสือยังพูดถึงจุดสะท้อนอีกแห่งที่สำคัญคือ เพดานครับ   แต่การทำ Bass trap ติดเพดานจะให้เสียงโดยรวมออกมาทึบครับ    ผมเลยตัดสินใจทำ diffusor ร่องเล็ก  เพื่อสะท้อนกลางแหลม ไม่ให้บรรยากาศทึบเกินไป   ช่วงแรก ลองติดเฉพาะเพดานในตำแหน่งจากผนังหลังมาถึงลำโพงก่อนครับ

[เจ๊ฟ]

ฟังดูแล้วต่างกับไม่ใส่ไม่เท่าไหร่ครับ  แต่ที่ต่างคือ โดนเพื่อนอำแหลกเลยครับ ว่าข้างขวาเสียงเข้มข้นกว่า เพราะเป็นสิงห์   ไม่มีไอเดียต่อเลยครับ  สำหรับ singha trap

[chanan]

  เจ๋งมากเลยครับ

[เจ๊ฟ]

ต่อครับ   ในหนังสือ"ห้องฟัง"ยังได้แนะนำถึงการคุมเสียงก้องจากมุมห้องโดย corner trap ด้วยครับว่า จะทำให้ Reverberation ของเสียงเบสในห้องสั้นลง  ซึ่งจะทำให้เรารู้สึกว่าการสั่นค้างของเสียงเบสมีปริมาณที่น้อยลง   ผมก็เลยสนใจอยากลองครับ   แต่ไม่อยากเสียตังครับ   คู่นึงก็ซื้อเบียร์ได้หลายลังอยู่    ลอง google ดูก็พอได้ไอเดียครับ ว่า หลักการของไอ้เจ้านี่คือ "ทำข้างในให้ซับเสียง  แต่ด้านนอกให้สะท้อนเสียงกลางแหลม"  ตรงกับลักษณะกระป๋องเบียร์เราเลยครับ  แค่หาวัสดุซับเสียงใส่เข้าไป      แต่มุมสะท้อนอาจจะยังไม่ใช่  ก็ไม่เป็นไรครับ   ขอลองชิมลางดูก่อน           

[เจ๊ฟ]

ทำไมต้องห้อย 3 -2-1 กระป๋องครับ มันเป็นสูตรหรือเปล่า และมีผลต่อเสียงมากไหมครับ?

ไม่ใช่สูตรครับ  แต่คิด(ตอนเมา)ครับว่า  วางแบบนี้น่าจะสวยกว่าวางแบบ 3-3-3 ครับ    แล้วก็ corner trap ทั่วไป จะเป็นรูปลักษณะสามเหลี่ยมแบบในรูปครับ  เลยคิดว่า  วางลักษณะคล้ายกันน่าจะ work ครับ

[เจ๊ฟ]

ใช้กระป๋องเบียร์เป็นตัวลดเสียงก้องที่มุมเนี่ยนะ คิดได้ 

เป็นงาน DIY ที่อลังการมากครับ ทำเสร็จนี่มีความรู้เรื่องอคูสติคขึ้นมากเลยครับ

ขอดูด้านหลังห้องด้วยครับ

ด้านหลังห้องยังไม่ได้ทำอะไรเลยครับ  เป็นตู้เก็บของใช้ประจำวันน่ะครับ

[man_304]

 ทำไมต้องห้อย 3 -2-1 กระป๋องครับ มันเป็นสูตรหรือเปล่า และมีผลต่อเสียงมากไหมครับ?

[Mc]

  ใช้กระป๋องเบียร์เป็นตัวลดเสียงก้องที่มุมเนี่ยนะ คิดได้ 

เป็นงาน DIY ที่อลังการมากครับ ทำเสร็จนี่มีความรู้เรื่องอคูสติคขึ้นมากเลยครับ

ขอดูด้านหลังห้องด้วยครับ

[เจ๊ฟ]

อันนี้

[เจ๊ฟ]

ว่าแล้วก็ติด bass trap ปิดผิวไม้ด้านข้างลำโพงด้วย  มั่นใจครับคราวนี้ว่าไม่หลงทาง  ซึ่งก็ไม่ผิดหวัง  มันทำให้คุณภาพเสียงโดยรวมดีขึ้นจริงๆ

อ้อ  สังเกตุเห็นกระป๋องเบียร์ที่ห้อยอยู่มุมห้องด้านหลังลำโพงมั้ยครับ  มีที่มานะครับ

[เจ๊ฟ]

อื้อ...ผมและท่านกูรูท่านนี้เห็นพ้องกันครับว่า  ฟังดีกว่าเดิมมากมาย  Janis ian เลิกทะเลาะกับกลอง-เบส  ปรองดองกันมากขึ้นแบบน่าพอใจเลยครับ   ยังมีของแถมที่ได้ในการนี้คือ tonal balance ที่น่าฟังมากขึ้นจากการใช้ไม้เป็นวัสดุในการซับเสียง   ผมถึงกับบางอ้อในครั้งนี้เองว่า  ทำไม ห้องฟังแทบทุกห้อง ถึงใช้ไม้เป็นส่วนประกอบส่วนมากของห้อง

[เจ๊ฟ]

ในการนี้ได้มีการอัญเชิญกูรูทางด้าน diy (damn it yourself) มาร่วมรีวิวด้วยครับ   เผาหัวกันพอเป็นพิธี

[เจ๊ฟ]

ซักพักก็มีตัวช่วยครับ   พี่ท่านเดิมเอาหนังสือ "ห้องฟัง" ของคุณธานี โหมดสง่า ให้มาลองศึกษาเพิ่ม  โอ้..ท่านเขียนให้อ่านเข้าใจง่ายมากครับ  เข้าใจหลักการของห้องฟังมากขึ้นอีกพอสมควร  ต้องขอขอบคุณท่านธานีมากนะครับ ที่ได้ทำหนังสือดีๆอย่างนี้ให้ผู้เริ่มต้นอย่างผมไม่หลงทิศหลงทาง    แนะนำทุกท่านครับ สำหรับหนังสือเล่มนี้
หลังอ่านจบ  ผมตัดสินใจถอดแผ่นซับเสียง daitex ด้านหลังออก  และทดลองทำ bass trap มาลองใช้ดู  แต่เปลี่ยนวัสดุซับเสียง microfiber  มาเป็นขี้กบขี้เลื่อยแทน  ซึ่งก็ไม่มีเหตุผลอะไรมากครับ  นอกจากประหยัดและ ขี้เกียจไปหาซื้อ micro fiber

[เจ๊ฟ]

เสียงโดยรวมฟังดีกว่าเยอะครับ  เพราะองค์ประกอบของตู้ครบถ้วน   แต่...แต่เบสซิครับ  โอ้โห  ผมว่าเข้าขั้นเลวร้าย  เพราะ woofer ก็ เปลี่ยนจาก 8" ไปเป็น 10"   Janis ian เหมือนทะเลาะกับมือกลอง/มือเบส  มั่วจนฟังไม่ได้อ่ะครับ  ถึงขั้นต้องเอาดินน้ำมันไปอุดท่อเบสด้านหลังไว้   ตอนนั้นบ่องตงว่า  อยากกลับไปเล่นลำโพงวางหิ้งเหมือนเดิมครับ   เซ็งไปเลย...

[เจ๊ฟ]

จัดวางทุกอย่างพร้อม  วาดหวังไว้ในใจครับว่า  "คู่นี้เอาอยู่"  เบสน่าจะคุมได้ดี

[เจ๊ฟ]

เก็บงานรอยต่อ  เก็บสีฝาครอบ cross ด้านหลัง   กะว่าเอาไอ้นี่ขึ้นไปแล้วทุกอย่างน่าจะจบ

[เจ๊ฟ]

หลังจากลองฟังอยู่ประมาณ 2 อาทิตย์  ผมว่า การคุมตัวของเบสดีขึ้นซัก 10 % ได้  แต่รายละเอียดหายเพียบ  เสียงคนร้องและชิ้นดนตรีไม่น่าฟังเหมือนเก่า  แต่ตอนนั้นนึกไม่ออกครับ ว่าควรจะทำไงต่อไป  รู้สึกเบื่อๆไปเหมือนกันครับ  หันไปหันมานึกโทษลำโพงชุด pms ที่ใส่ตู้ลองที่ไม่ได้ปริมาตร  ว่าสงสัยไอ้นี่นี่แหละ  ทำให้เบสในห้องไม่ดี  อย่ากระนั้นเลย  รีบให้ช่างปิดผิว jensen ไม้เสร็จดีกว่า

[เจ๊ฟ]

จากนั้นก็มีความสุขอยู่พักนึงครับ   จนวันนึงนึกครึ้มหยิบ Janis ian ชุด Breaking silence ชุดดังมาฟัง   ห่อเหี่ยวเลยครับ  ทำไมฟังไม่รู้เรื่องเลย  รู้สักมันอื้ออึงไปหมด เดินออกมากินน้ำ เบสยังก้องอยู่ในหัวเลยครับ แต่ยังเข้าข้างตัวเองครับ  ว่าแผ่นอัดไม่ดี  เบสเยอะไป  ตัดสินใจหยิบแผ่นไปบ้านรุ่นพี่คนเดิมครับ
ผลก็คือ janis ian บ้านนี้ร้องดีกว่าบ้านผมครับ  ตำแหน่งชัดแจ๋ว  เบสไม่มีแถม  มาแล้วไป  ไม่มีอาการอื้ออึง   เลยเดือดร้อนต้องขับรถไปภูเขาทองหาแผ่นซับเสียง daitex มาปิดพื้นที่ด้านหลังส่วนที่เหลือ  และด้านข้างจากลำโพงไปผนังหลัง

[เจ๊ฟ]

ผลที่ได้มันคุ้มค่ามากครับ   image ดีขึ้น ความลึกได้เพิ่มอีก  ชักมันสครับ  มีกำลังใจเพิ่มอีกเยอะเลย

อ้อ .. จากการลองฟังครั้งนี้  ผมรู้สึกว่า  skyline ไม่ถูกหูผมสำหรับการฟังเพลงครับ  รู้สึกว่า รายละเอียดหลายๆอย่างหายไป  เลยยกออกครับ

ไหนๆแล้ว  เลยเอาลำโพง jensen เข้าโรงงานไปเตรียมปิดผิวไม้  และเอาชุดลำโพงที่จะมาต่อชุด PMS  ของ Troel มาต่อฟังไปพลางๆก่อน ครับ

[เจ๊ฟ]

หายจากกระทู้นี้ไปนาน  ไม่ได้อับเดทเลย  แต่ยังไงก็ตั้งใจไว้ว่าจะนำสิ่งที่ได้มาแชร์กับเพื่อนๆถึงความสำคัญของอคูสติกของห้องนะครับ   ความดีของกระทู้นี้ทั้งหมด ผมขอยกให้เป็นของ อ.Mc นะครับ  ผู้ซึ่งชี้นำแสงสว่างให้ผมตั้งแต่แรกครับ  ต้องขอบคุณอ.Mc มากๆ เลยนะครับ

จากเดิมผมใส่ diffusor ร่องใหญ่แค่ 1 คู่ หลังลำโพง  ผมว่าคุณภาพเสียงดีขึ้นมากครับ  โดยเฉพาะมิติด้านลึกที่ทุกท่านอยากได้  แต่หลังจากเปรียบเทียบกับห้องของรุ่นพี่ที่มีการแต่งห้องเต็มสูบพบว่า  image ยังไม่ชัด  เลยตัดสินใจทำเพิ่มอีก 1 คู่ครับ  โดยคู่นี้ผมปิดแผ่นลายไม้เลย 

[เจ๊ฟ]

ขวาสุดกับซ้ายสุดเป็นตู้ลำโพงใช่ไหม

Jensen ฝาแฝดของผมไง 
ตัวนี้เป็น Jensen Classic ของผมปรับเป็น Jenzen Illumintor แล้ว ...ยังคิดเสียงร้องหวานๆของใบพัดใน Classic เหมือนกัน 

ตามที่บอลว่าเลยครับ เป็นรุ่น jensen classic ที่ troel ออกแบบไว้        ตอนแรกก็ไม่มั่นใจว่าเสียงจะดีมั้ย    แต่ตอนนี้มองข้ามลำโพงตั้งพื้น commercial ไปหลายตัวเลยครับ 

[100db]

ขวาสุดกับซ้ายสุดเป็นตู้ลำโพงใช่ไหม

Jensen ฝาแฝดของผมไง 
ตัวนี้เป็น Jensen Classic ของผมปรับเป็น Jenzen Illumintor แล้ว ...ยังคิดเสียงร้องหวานๆของใบพัดใน Classic เหมือนกัน 

[Mr.so-nE]

ขวาสุดกับซ้ายสุดเป็นตู้ลำโพงใช่ไหม

[เจ๊ฟ]

ไหนๆก็ลองแล้ว   ทำ skyline มาลองด้วยเลย

[เจ๊ฟ]

หลังจากได้ลองศึกษาตามแหล่งข้อมูลที่ได้จากอาจารย์ Mc   ก็ขอลองทำ diffuser ตัวแรกในชีวิตดู      แต่กว่าจะได้ทำต้องใช้เวลาเคลียร์งานพอดูครับ

สียังไม่ทา  ขอลองฟังเสียงดูก่อน

[เจ๊ฟ]

ขอบคุณมากครับ จะลองดูครับ

[Mc]

ลองศึกษาดูครับ

http://www.rpginc.com/

http://www.hometheatershack.com/forums/home-audio-acoustics/21748-qrdude-diffuser-calculator.html

http://www.digitalaudiorock.com/cgi-bin/qrd.cgi

http://www.subwoofer-builder.com/qrd.htm

[เจ๊ฟ]

ว่าจะลองทำมาใช้น่ะครับ   ท่านใดพอจะมีแหล่งความรู้และวิธีคำนวณบ้างมั้ยครับ