สงสัยจะงงกันเพราะว่าภาคจ่ายไฟเป็นวงจรแบบ voltage doubler ใช้ไฟ AC 12V. มาผ่านวงจร voltage doubler แล้วออกมาเป็น บวก ลบ กราวด์
มีท่านใด ได้ลองเพิ่ม CAPACITOR ที่ขา C,E ของ Q2,Q3 ลงกราวนด์ บ้างหรือยังครับ.............รวมสี่ตัว
ถ้าเพิ่ม ต้องมีขั้ว หรือ ไม่มีขั้ว ค่าเท่าไหร่ครับ วานบอก
ถามใจเรากันก่อนว่า ต้องการอะไรจากมัน..................ทั่นนัทตี้ก็คงรู้อยู่แล้ว.....
ขยายคำถามของข้าน้อยต่อ...........เอาคอนเส็ปของวงจร Cap. Multiplier มาใช้ จะได้ไหม?""""""
"""""""""กระแสไม่สูง 10uF 50V ใส่ให้ถูกขั้วไฟ จะพอได้ไหม.....
.....ฝากลองด้วยจร้า ข้าน้อยเพียงแค่อยากทราบผลความเปลี่ยนเแปลง (หรือจะลอง PP 2.2-4.7uF ดูก็ได้)
เป็น AC ทั้งสองช่องครับ ทั่เขียนว่า DCJ เป็นชื่อของแจ็คครับ
อ้อครับ... ปล่อยไก่เลยผม 
เลือกใช้ช่องใดช่องหนึ่งเหรอครับ? 
ถูกต้องเลือกช่องใดช่องหนึ่งครับ
สงสัยจะงงกันเพราะว่าภาคจ่ายไฟเป็นวงจรแบบ voltage doubler ใช้ไฟ AC 12V. มาผ่านวงจร voltage doubler แล้วออกมาเป็น บวก ลบ กราวด์
มีท่านใด ได้ลองเพิ่ม CAPACITOR ที่ขา C,E ของ Q2,Q3 ลงกราวนด์ บ้างหรือยังครับ.............รวมสี่ตัว
ถ้าเป็น C แบบมีขั้วระวัง TR ช๊อตนะครับ
ขอทราบเหตุผลด้วยครับน้า ว่า หากใช้คาปาซิเตอร์แบบมีขั้ว ทำไมทรานซิสเตอร์ถึงชอร์ท......
............น้าพอมีวิธีการสำรวจ ค่ากระแสอะไรๆบ้างไหมครับ จะได้ลองคำนวณดูว่า เพราะอะไรจึงส่งผลถึงกับทำให้ทรานซิเตอร์ชอร์ต
กระแสไหลกลับ ครับ ดูจากวงจรเลย ผมว่าไม่มีประโยชน์อะไรเลยครับ ถ้าจะให้อธิบายยาวครับ
ยิ่งอยากรู้เลยครับน้า.......................ควรดิสคัสชั่นกันให้รู้แจ้งเห็นจริงดีกว่านะครับ.........................อึมครึม ไม่เป็นการดีแน่ๆ

หลูบการทำงาน เป็นวงจร ส่วนของกระแสไฟตรง
การต่อคาปาซิเตอร์ (ค่าไม่มาก)จาก ขาB ลงกราวนด์ ของทรานซิสเตอร์ ตัวผ่านกระแส............ก็น่าจะช่วยทำให้ไฟตรงนะจุดนั้นถูกตรึง/ทำให้เรียบ
การต่อคาปาซิเตอร์ ตัวที่สอง หลังผ่านตัวต้านทาน จำกัดกระแส 47 Ohms ก็คือส่วนของเอ้าท์พุท เสมือนเป็น การกรอง CR filter ด้วยหรือไม่
ไม่รู้ว่าข้อสงสัยของข้าน้อย...........เป็นอย่างไรเหมือนกัน
แต่ยังมองไม่ออกถึงว สิ่งใด จะทำให้เกิดการไหลย้อนของกระแส

รบกวนน้า คิว ช่วยแถลงด้วยจร้า