HTG2.club

เลือก impedance ของหม้อให้เหมาะสมอย่างไรครับ

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ dragonus

  • ****
    • กระทู้: 263
เลือกตามใช้ชอบเลยครับ อยากให้ gain มากน้อยยังไงก็ได้ output swing เท่าไหร่ก็ได้ สูตรหา gain ก็อยู่ใน post แถวๆนั้นล่ะครับ

ลองเลือกซักหลอดนึง ลาก load line หลายๆค่าแล้วเทียบผลลัพธ์ดูครับ เป้าหมายเหมือนกับ triode ข้อสำคัญที่ต้องจำไว้คือเมื่อเราได้สิ่งหนึ่งเพิ่ม จะมีอีกสิ่งหนึ่งลดลงเสมอ เพราะฉนั้นขึ้นอยู่กับเราเองว่าจะให้ความสำคัญอะไรมากกว่ากัน ซึ่งปกติผมจะให้พบกันครึ่งทางระหว่าง power output และ distortion ครับ

จะลองดูครับ


ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
เลือกตามใช้ชอบเลยครับ อยากให้ gain มากน้อยยังไงก็ได้ output swing เท่าไหร่ก็ได้ สูตรหา gain ก็อยู่ใน post แถวๆนั้นล่ะครับ

ลองเลือกซักหลอดนึง ลาก load line หลายๆค่าแล้วเทียบผลลัพธ์ดูครับ เป้าหมายเหมือนกับ triode ข้อสำคัญที่ต้องจำไว้คือเมื่อเราได้สิ่งหนึ่งเพิ่ม จะมีอีกสิ่งหนึ่งลดลงเสมอ เพราะฉนั้นขึ้นอยู่กับเราเองว่าจะให้ความสำคัญอะไรมากกว่ากัน ซึ่งปกติผมจะให้พบกันครึ่งทางระหว่าง power output และ distortion ครับ


ออฟไลน์ dragonus

  • ****
    • กระทู้: 263
ในโหมด pentode เนื่องจาก Rp มีค่าสูงมากเมื่อเทียบกับโหมด triode ค่า output impedance มีค่าใกล้เคียง Rl แล้วเราจะเลือก Rl อย่างไร
ผมอ่านดูยังไม่เห็นวิธีการเลือกนะครับหรือผมตาฝาดไป K] 
แบบโหมด triode ที่เลือก 2-4 เท่าจากค่า Rp


ออฟไลน์ dragonus

  • ****
    • กระทู้: 263
ผมเดาว่าอ่าน link ที่ให้มาหน้า 4-6 เรื่อง pentode/beam แล้วนะครับ
ที่ต่างกันจริงๆก็คือ output impedance ของ pentode สูงกว่า triode ครับ ปกติแอมป์ที่ใช้ pentode เป็น output มักจะมี feedback เพื่อลด output impedance ของวงจรครับ

เดี๋ยววันอาทิตย์มาต่อนะครับ  ขออ่านหนังสือสอบก่อน ยังไม่ค่อยรู้เรื่องเลย K]


ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
ผมเดาว่าอ่าน link ที่ให้มาหน้า 4-6 เรื่อง pentode/beam แล้วนะครับ
ที่ต่างกันจริงๆก็คือ output impedance ของ pentode สูงกว่า triode ครับ ปกติแอมป์ที่ใช้ pentode เป็น output มักจะมี feedback เพื่อลด output impedance ของวงจรครับ


ออฟไลน์ dragonus

  • ****
    • กระทู้: 263
สิ่งที่ผมสงสัยต่อคือ ในโหมดเทโทรด เพื่อเพิ่มกำลังให้วงจรใช่ไหม แล้วเรื่องอื่นๆต่างกันอย่างไรครับ  d_d


ออฟไลน์ dragonus

  • ****
    • กระทู้: 263
ใช่ครับ Rp บางทีก็ใช้ Ra
ส่วน RL หมายถึง load ซึ่งก็คือ loadline ที่เราวาด

เรื่อง 2A3 เข้าใจถูกต้องแล้วครับ
ภาพ data ของ 6550 ที่ให้มาดูแปลกๆครับ เพราะ triode mode ของ 6550 มันน่าจะประมาณ 1K เศษๆ

อย่าลืมว่าค่า Rp ที่ datasheet ให้มาเป็นค่า Rp ณ.จุด bias นั้นๆครับ ถ้าเปลี่ยนจุด bias Rp ก็จะเปลี่ยนไปด้วย ยกเว้นหลอดที่ linear มากๆ (เส้น grid ขนานกัน) Rp จะไม่ต่างกันมากเมื่อ bias ต่างกันครับ

ของหลอด 6550 มันน่าจะเป็นอย่างที่คุณ Karin Preeda ว่าไว้จริงๆ อันนี้ไปเจอมาใหม่ประมาณ 1K เศษๆ จริงด้วย


ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
ใช่ครับ Rp บางทีก็ใช้ Ra
ส่วน RL หมายถึง load ซึ่งก็คือ loadline ที่เราวาด

เรื่อง 2A3 เข้าใจถูกต้องแล้วครับ
ภาพ data ของ 6550 ที่ให้มาดูแปลกๆครับ เพราะ triode mode ของ 6550 มันน่าจะประมาณ 1K เศษๆ

อย่าลืมว่าค่า Rp ที่ datasheet ให้มาเป็นค่า Rp ณ.จุด bias นั้นๆครับ ถ้าเปลี่ยนจุด bias Rp ก็จะเปลี่ยนไปด้วย ยกเว้นหลอดที่ linear มากๆ (เส้น grid ขนานกัน) Rp จะไม่ต่างกันมากเมื่อ bias ต่างกันครับ


ออฟไลน์ ลำน้ำ

  • >> Voodo SilverMica Cable <<
  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,211
    • เพศ:ชาย
ใช่ ครับ  ส่วนใหญ่ จะใช้ ค่าแนะนำ ตาม Data Sheet ถ้ามัน มีมาให้ นะครับ

ซึ่งหลอด ที่ เน้น ใช้งาน ทาง Audio จะมี มาให้

แนะนำ ลง โปรแกรม TDSL นะครับ

รูปไหน มี ลำโพง ผมเหมารวม เป็น หลอด Audio เลย ครับ  ;D

โปรดดู ข้อมูลส่วนตัวผมครับ.... ของที่มีอยู่แล้วไม่มีปัญญาทำให้เสียงถูกใจได้ ไม่ต้องหวังจะซื้อมาเพิ่ม ต่อให้ของชั้นเทพ ... มันก็ช่วยอะไรไม่ได้ถ้าไร้ความพยายาม...ว่าแล้ว htg2 ไม่ได้ดั่งใจ เป็น ebay เลยดีกว่าหมดตัวเร็วดี


ออฟไลน์ dragonus

  • ****
    • กระทู้: 263
แล้วถ้าเป็นหลอดที่เป็นไตรโอดอยู่แล้วแบบ 2A3 สามารถนำค่าที่มีในดาตด้ามาใช้ได้เลยใช่ไหมครับ
ส่วนหลอดที่ไม่ใช่ไตรโอดแต่ดาต้าบอกค่าในโหมดไตรโอดไว้ก็สามารถนำมาใช้ได้เหมือนกันใช่ไหม แบบ 6550

ค่าที่หมายถึงคือ Rp,Gm,u,loadline
Rp กับ Ra คือค่าเดียวกันใช่ไหมครับ (p = plate , a= anode)


ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
เอามาคำนวนด้วยครับ จะได้ค่า DC bias ที่แม่นยำขึ้นครับ


ออฟไลน์ dragonus

  • ****
    • กระทู้: 263
จุด bias เป็นเรื่องของ DC bias ครับ

ความแตกต่างของการทำ DC bias ของ load ที่เป็น resistor กับ load ที่เป็นหม้อแปลงแตกต่างกันตรงที่ load ที่เป็น resistor นั้น การคำนวนแรงดันตกคร่อมผ่าน resistor คำนวนได้ตรงๆเลย แต่ถ้าใช้ load ที่เป็นหม้อแปลง สมมติว่าเป็น 5K:8ohm  หมายความว่า ถ้าต่อ load 8 ohm ทางด้าน secondary แล้ว จะทำให้ด้าน secondary มี impedance 5K ซึ่งหลอดจะมองเห็น primary ของหม้อแปลงเท่ากับ 5K

ถ้ามองทางด้าน DC แล้ว ขดลวดมีความต้านทานต่ำ อาจจะประมาณ 100 ohm การทำ DC bias จะใช้ 100 ohm ในการคำนวน แต่เมื่อมองด้าน AC คือมีสัญญาณเข้ามาทาง grid การนำกระแสของหลอดจะเปลี่ยนไปตาม load line ที่เขียนไว้ ในที่นี้คือ 5K ครับ

อ้างถึง
เมื่อเราได้ loadline ที่เหมาะสมแล้ว มันจะเป็นตัวกำหนด OPT ให้เราใช่ไหมครับ เช่น loadline 5k ก็เลือก OPT 5k ด้วย
แต่ถ้าเราใช้ OPT ที่ค่าคลาดเคลื่อนไปจากที่คำนวณไว้ หลอดก็จะมองเห็นค่าตามที่ใส่ OPT มา พูดง่ายๆว่าเส้นโหลดไลน์มี
ความชันที่เปลี่ยนแปลงไป ผลก็คือจุดไบอัสไม่ตรง เกนไม่ได้ ความเพี้ยน ฮาร์มอนิกส์ต่างๆ ใช่ไหมครับ

จาก quote ที่ถามมา คุณ dragonus เข้าใจถูกทุกอย่างยกเว้นจุด bias คลาดเคลื่อนที่เป็นเรื่องของ DC bias ที่ผมอธิบายไว้ก่อนหน้านั้นครับ

แล้วโดยทั่วไปมีการนำค่า DCR ของ OPT มาคำนวณ DC bias ด้วยหรือไม่ หรือว่าละทิ้งไปครับ


ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
จุด bias เป็นเรื่องของ DC bias ครับ

ความแตกต่างของการทำ DC bias ของ load ที่เป็น resistor กับ load ที่เป็นหม้อแปลงแตกต่างกันตรงที่ load ที่เป็น resistor นั้น การคำนวนแรงดันตกคร่อมผ่าน resistor คำนวนได้ตรงๆเลย แต่ถ้าใช้ load ที่เป็นหม้อแปลง สมมติว่าเป็น 5K:8ohm  หมายความว่า ถ้าต่อ load 8 ohm ทางด้าน secondary แล้ว จะทำให้ด้าน secondary มี impedance 5K ซึ่งหลอดจะมองเห็น primary ของหม้อแปลงเท่ากับ 5K

ถ้ามองทางด้าน DC แล้ว ขดลวดมีความต้านทานต่ำ อาจจะประมาณ 100 ohm การทำ DC bias จะใช้ 100 ohm ในการคำนวน แต่เมื่อมองด้าน AC คือมีสัญญาณเข้ามาทาง grid การนำกระแสของหลอดจะเปลี่ยนไปตาม load line ที่เขียนไว้ ในที่นี้คือ 5K ครับ

อ้างถึง
เมื่อเราได้ loadline ที่เหมาะสมแล้ว มันจะเป็นตัวกำหนด OPT ให้เราใช่ไหมครับ เช่น loadline 5k ก็เลือก OPT 5k ด้วย
แต่ถ้าเราใช้ OPT ที่ค่าคลาดเคลื่อนไปจากที่คำนวณไว้ หลอดก็จะมองเห็นค่าตามที่ใส่ OPT มา พูดง่ายๆว่าเส้นโหลดไลน์มี
ความชันที่เปลี่ยนแปลงไป ผลก็คือจุดไบอัสไม่ตรง เกนไม่ได้ ความเพี้ยน ฮาร์มอนิกส์ต่างๆ ใช่ไหมครับ

จาก quote ที่ถามมา คุณ dragonus เข้าใจถูกทุกอย่างยกเว้นจุด bias คลาดเคลื่อนที่เป็นเรื่องของ DC bias ที่ผมอธิบายไว้ก่อนหน้านั้นครับ


ออฟไลน์ dragonus

  • ****
    • กระทู้: 263
ถามคุณ Karin Preeda ต่อครับ

เมื่อเราได้ loadline ที่เหมาะสมแล้ว มันจะเป็นตัวกำหนด OPT ให้เราใช่ไหมครับ เช่น loadline 5k ก็เลือก OPT 5k ด้วย
แต่ถ้าเราใช้ OPT ที่ค่าคลาดเคลื่อนไปจากที่คำนวณไว้ หลอดก็จะมองเห็นค่าตามที่ใส่ OPT มา พูดง่ายๆว่าเส้นโหลดไลน์มี
ความชันที่เปลี่ยนแปลงไป ผลก็คือจุดไบอัสไม่ตรง เกนไม่ได้ ความเพี้ยน ฮาร์มอนิกส์ต่างๆ ใช่ไหมครับ


ออฟไลน์ dragonus

  • ****
    • กระทู้: 263
หลอด เบอร์ เดียวกัน สภาพ NOS เหมือนกัน คนละยี่ห้อ ก็ Behave ไม่เหมือน กับ กราฟ Load Line เสียทีเดียวครับ

ไม่นับ หลอด ที่มี อายุ การใช้งาน แล้ว   เสื่อมลง ยิ่งไม่ตรง กับ Chart เข้าไปหนัก อีก  (หลอดไม่เหมือนกับ อุปกรณ์ Solid State ที่ส่วนมาก ถ้าไม่พัง ก็จะมี ลักษณะ แบบเดิม ตั้งแต่ แรก)

ดังนั้น วงจรหลอด มี Tolerance ได้มาก ครับ

เยี่ยมครับ  O0


ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
หลอด เบอร์ เดียวกัน สภาพ NOS เหมือนกัน คนละยี่ห้อ ก็ Behave ไม่เหมือน กับ กราฟ Load Line เสียทีเดียวครับ

ไม่นับ หลอด ที่มี อายุ การใช้งาน แล้ว   เสื่อมลง ยิ่งไม่ตรง กับ Chart เข้าไปหนัก อีก  (หลอดไม่เหมือนกับ อุปกรณ์ Solid State ที่ส่วนมาก ถ้าไม่พัง ก็จะมี ลักษณะ แบบเดิม ตั้งแต่ แรก)

ดังนั้น วงจรหลอด มี Tolerance ได้มาก ครับ

ใช่ครับ ผิดพลาด 10% ถือว่าธรรมดามาก


ออฟไลน์ ลำน้ำ

  • >> Voodo SilverMica Cable <<
  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,211
    • เพศ:ชาย
หลอด เบอร์ เดียวกัน สภาพ NOS เหมือนกัน คนละยี่ห้อ ก็ Behave ไม่เหมือน กับ กราฟ Load Line เสียทีเดียวครับ

ไม่นับ หลอด ที่มี อายุ การใช้งาน แล้ว   เสื่อมลง ยิ่งไม่ตรง กับ Chart เข้าไปหนัก อีก  (หลอดไม่เหมือนกับ อุปกรณ์ Solid State ที่ส่วนมาก ถ้าไม่พัง ก็จะมี ลักษณะ แบบเดิม ตั้งแต่ แรก)

ดังนั้น วงจรหลอด มี Tolerance ได้มาก ครับ
โปรดดู ข้อมูลส่วนตัวผมครับ.... ของที่มีอยู่แล้วไม่มีปัญญาทำให้เสียงถูกใจได้ ไม่ต้องหวังจะซื้อมาเพิ่ม ต่อให้ของชั้นเทพ ... มันก็ช่วยอะไรไม่ได้ถ้าไร้ความพยายาม...ว่าแล้ว htg2 ไม่ได้ดั่งใจ เป็น ebay เลยดีกว่าหมดตัวเร็วดี


ออฟไลน์ dragonus

  • ****
    • กระทู้: 263
ตามรูปวงจรด้านบน el34 ต่อแบบไตรโอดโหมด เพราะเอาขา g2 ไปต่อกับเพลต
ก็เอากราฟไตรโอดของหลอด el34 มาทำครับ
Opt มีค่า 3K = Ra = RL ที่เราจะลากเส้น load line
ไฟที่เพลต 300V
ไฟที่แคโทด 24V ต่อแบบ self bias = Vk = Vg1
ตัวต้านทานแคโทด = Rk 330+100 = 430R
หา V plate-cathode = 300-24= 276V นี่คือจุดไบอัสแรงดันตามเส้นนอน
หากระแสไหลผ่านหลอด = 24V/430R = 55.8mA  นี่คือจุดไบอัสกระแสตามเส้นตั้ง
เอามาทำกราฟ  
ปรากฎว่าลากไม่ได้ตามวงจร


เลือกเส้น กริดที่ -20 V เพราะว่าแรงดันกริดตามวงจรเป็น -24 V เป็นค่าใกล้เคืยงหรือเปล่า
276 V คือแรงดันที่ไบอัสหลอดต้องบวก 24 V เพื่อเป็นแรงดันที่เพลตเทียบกับกราวด์ ผมเข้าใจถูกไหม
ตามที่ผมเข้าใจ Rp กับ Ra เป็นค่าเดียวกันใช่ไหม (p = plate, a = anode)
ปกติแล้วแรงดัน Vg1 จะมีค่าเกือบเท่าค่าที่เราเลือกไบอัสครับ ที่ต้องเลือกค่าใกล้เคียงจะเป็นตัวต้านทานครับ เพราะไม่ได้มีขายเรียงค่า เช่น ที่มีขาย 300R, 330R,390R,460R ,470R, 500R  ที่เค้าเลือก 330R+100R  = 430R เพราะว่าไม่มีค่า 430R ขาย
เส้นแนวนอนเป็นเส้นที่วัดแรงดันคร่อมหลอดครับ คือ Vak แรงดันที่แอโหนดเทียบกับแคโทด ไม่ใช่เทียบกราวน์
แต่เวลาเราเอาอุกรณ์มาต่อกันในวงจรจะเรียงจาก ไฟบวก, opt, หลอด, Rk แล้วกราวน์ เมื่อเราได้แรงดันต่างๆ แล้วต้องบวกกันขึ้นไปจะเป็นเทียบกับกราวน์ครับ
ตามกราฟที่ผมลาก เมื่อหาค่าออกมาแล้ว จุดไบอัสในกราฟไม่ได้ตามวงจรครับ
ต้องให้ อ.กะรินอธิบายครับ ผมไม่รู้ครับ
เขาอาจจะลากเส้นแบบหนึ่งแล้วตัดเอาเฉพาะส่วนที่ต้องการก็ได้ครับ

ผมก็สงสัยอยู่ว่าทำไม Rk ต้องเอาสองค่ามาบวกกัน ตอนนี้รู้แล้วครับ
เรื่องแรงดันไม่ตรง ผมก็ว่าน่าจะคลาดเคลื่อน เพราะแรงดันหลังบริดจ์เร็กติไฟล์น้อยกว่าแรงดันรวมในวงจรที่บวกย้อนกลับไป


ออฟไลน์ ออดิโอแมน

  • Superstar...
  • ****
    • กระทู้: 5,004
    • เพศ:ชาย
ตามรูปวงจรด้านบน el34 ต่อแบบไตรโอดโหมด เพราะเอาขา g2 ไปต่อกับเพลต
ก็เอากราฟไตรโอดของหลอด el34 มาทำครับ
Opt มีค่า 3K = Ra = RL ที่เราจะลากเส้น load line
ไฟที่เพลต 300V
ไฟที่แคโทด 24V ต่อแบบ self bias = Vk = Vg1
ตัวต้านทานแคโทด = Rk 330+100 = 430R
หา V plate-cathode = 300-24= 276V นี่คือจุดไบอัสแรงดันตามเส้นนอน
หากระแสไหลผ่านหลอด = 24V/430R = 55.8mA  นี่คือจุดไบอัสกระแสตามเส้นตั้ง
เอามาทำกราฟ  
ปรากฎว่าลากไม่ได้ตามวงจร


เลือกเส้น กริดที่ -20 V เพราะว่าแรงดันกริดตามวงจรเป็น -24 V เป็นค่าใกล้เคืยงหรือเปล่า
276 V คือแรงดันที่ไบอัสหลอดต้องบวก 24 V เพื่อเป็นแรงดันที่เพลตเทียบกับกราวด์ ผมเข้าใจถูกไหม
ตามที่ผมเข้าใจ Rp กับ Ra เป็นค่าเดียวกันใช่ไหม (p = plate, a = anode)
ปกติแล้วแรงดัน Vg1 จะมีค่าเกือบเท่าค่าที่เราเลือกไบอัสครับ ที่ต้องเลือกค่าใกล้เคียงจะเป็นตัวต้านทานครับ เพราะไม่ได้มีขายเรียงค่า เช่น ที่มีขาย 300R, 330R,390R,460R ,470R, 500R  ที่เค้าเลือก 330R+100R  = 430R เพราะว่าไม่มีค่า 430R ขาย
เส้นแนวนอนเป็นเส้นที่วัดแรงดันคร่อมหลอดครับ คือ Vak แรงดันที่แอโหนดเทียบกับแคโทด ไม่ใช่เทียบกราวน์
แต่เวลาเราเอาอุกรณ์มาต่อกันในวงจรจะเรียงจาก ไฟบวก, opt, หลอด, Rk แล้วกราวน์ เมื่อเราได้แรงดันต่างๆ แล้วต้องบวกกันขึ้นไปจะเป็นเทียบกับกราวน์ครับ
ตามกราฟที่ผมลาก เมื่อหาค่าออกมาแล้ว จุดไบอัสในกราฟไม่ได้ตามวงจรครับ
ต้องให้ อ.กะรินอธิบายครับ ผมไม่รู้ครับ
เขาอาจจะลากเส้นแบบหนึ่งแล้วตัดเอาเฉพาะส่วนที่ต้องการก็ได้ครับ
ที่อยู่และเบอร์มือถือครับ
http://www.htg2.net/index.php?topic=57741.msg704676#msg704676


ออฟไลน์ dragonus

  • ****
    • กระทู้: 263
ผมวาดโหลดไลน์ ที่ 1785*2 = 3570 ประมาณ 3.5k
เมื่อแรงดันที่กริดเพิ่มขึ้น 10 V จาก -20+10 = -10 V แรงดันที่เพลตเปลี่ยนไป 280-220 = 60 V ; gain = 60/10 = 6
เมื่อแรงดันที่กริดลดลง 10 V จาก -20-10 = -30 V แรงดันที่เพลตเปลี่ยนไป 330-280 = 50 V ; gain = 50/10 = 5
ซึ่งเกนทั้งสองฝั่งไม่เท่ากัน ก็คือความไม่สมมาตรหรือไม่ลีเนี่ยร์ ทำให้เกิด distortion นั่งเองใช่ไหมครับ
ก็ต้องลองปรับเส้นโหลดไลน์ใหม่ทำจนกว่าจะเท่ากันมากที่สุด

ถูกต้องแล้วครับ แล้วเราจะพบว่ายิ่ง loadline มีค่ามากเท่าไหร่ การทำงานที่ไม่สมมาตรแบบนี้จะทำให้เกิด 2nd harmonic distortion ซึ่งบางครั้งก็เป็นผลดี เพราะเสียงจะอิ่มขึ้น แต่มากเกินไปก็ไม่ดีครับ ถ้าลองเขียน loadline ที่มีค่ามากขึ้นเป็นสามเท่า สี่เท่า จะพบว่ามัน linear ขึ้น แต่ power output ก็ลดลงเช่นกัน
หรือถ้าปรับจุด bias ให้สูงขึ้นไปอีก เอาใกล้ๆ max plate dissipation ก็จะพบว่ามัน linear ขึ้นอีก แต่การ bias หนักๆก็ทำให้อายุการใช้งานของหลอดลดลง
สรุปแล้วคือพบกันครึ่งทางครับระหว่าง distortion, power output และจุด bias ที่ไม่ทรมาณหลอดมากเกินไปนัก

ผมจำได้ว่ามีโปรแกรมคำนวนพวก distortion แบบสำเร็จรูปด้วยนะครับ ใส่จุด bias ใส่ชนิดของหลอด ใส่ load ก็ออกมาเลย ช่วยได้เหมือนกันครับ ส่วนผมเองไม่ค่อยได้ใช้เพราะอาศัยการวัดจริงเลย

เมื่อเราได้ loadline ที่เหมาะสมแล้ว มันจะเป็นตัวกำหนด OPT ให้เราใช่ไหมครับ เช่น loadline 5k ก็เลือก OPT 5k ด้วย
คุณ Karin Preeda วัด distortion ด้วย distortion analyzer + spectrum analyzer หรือเปล่าครับ ถ้าใช่ผมว่าคุณ Karin Preeda ไม่ธรรมดาแล้ว นับถือครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06 พฤศจิกายน, 2014, 07:05:27 pm โดย dragonus »


ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
ผมวาดโหลดไลน์ ที่ 1785*2 = 3570 ประมาณ 3.5k
เมื่อแรงดันที่กริดเพิ่มขึ้น 10 V จาก -20+10 = -10 V แรงดันที่เพลตเปลี่ยนไป 280-220 = 60 V ; gain = 60/10 = 6
เมื่อแรงดันที่กริดลดลง 10 V จาก -20-10 = -30 V แรงดันที่เพลตเปลี่ยนไป 330-280 = 50 V ; gain = 50/10 = 5
ซึ่งเกนทั้งสองฝั่งไม่เท่ากัน ก็คือความไม่สมมาตรหรือไม่ลีเนี่ยร์ ทำให้เกิด distortion นั่งเองใช่ไหมครับ
ก็ต้องลองปรับเส้นโหลดไลน์ใหม่ทำจนกว่าจะเท่ากันมากที่สุด

ถูกต้องแล้วครับ แล้วเราจะพบว่ายิ่ง loadline มีค่ามากเท่าไหร่ การทำงานที่ไม่สมมาตรแบบนี้จะทำให้เกิด 2nd harmonic distortion ซึ่งบางครั้งก็เป็นผลดี เพราะเสียงจะอิ่มขึ้น แต่มากเกินไปก็ไม่ดีครับ ถ้าลองเขียน loadline ที่มีค่ามากขึ้นเป็นสามเท่า สี่เท่า จะพบว่ามัน linear ขึ้น แต่ power output ก็ลดลงเช่นกัน
หรือถ้าปรับจุด bias ให้สูงขึ้นไปอีก เอาใกล้ๆ max plate dissipation ก็จะพบว่ามัน linear ขึ้นอีก แต่การ bias หนักๆก็ทำให้อายุการใช้งานของหลอดลดลง
สรุปแล้วคือพบกันครึ่งทางครับระหว่าง distortion, power output และจุด bias ที่ไม่ทรมาณหลอดมากเกินไปนัก

ผมจำได้ว่ามีโปรแกรมคำนวนพวก distortion แบบสำเร็จรูปด้วยนะครับ ใส่จุด bias ใส่ชนิดของหลอด ใส่ load ก็ออกมาเลย ช่วยได้เหมือนกันครับ ส่วนผมเองไม่ค่อยได้ใช้เพราะอาศัยการวัดจริงเลย


ออฟไลน์ dragonus

  • ****
    • กระทู้: 263
ตามรูปวงจรด้านบน el34 ต่อแบบไตรโอดโหมด เพราะเอาขา g2 ไปต่อกับเพลต
ก็เอากราฟไตรโอดของหลอด el34 มาทำครับ
Opt มีค่า 3K = Ra = RL ที่เราจะลากเส้น load line
ไฟที่เพลต 300V
ไฟที่แคโทด 24V ต่อแบบ self bias = Vk = Vg1
ตัวต้านทานแคโทด = Rk 330+100 = 430R
หา V plate-cathode = 300-24= 276V นี่คือจุดไบอัสแรงดันตามเส้นนอน
หากระแสไหลผ่านหลอด = 24V/430R = 55.8mA  นี่คือจุดไบอัสกระแสตามเส้นตั้ง
เอามาทำกราฟ  
ปรากฎว่าลากไม่ได้ตามวงจร


เลือกเส้น กริดที่ -20 V เพราะว่าแรงดันกริดตามวงจรเป็น -24 V เป็นค่าใกล้เคืยงหรือเปล่า
276 V คือแรงดันที่ไบอัสหลอดต้องบวก 24 V เพื่อเป็นแรงดันที่เพลตเทียบกับกราวด์ ผมเข้าใจถูกไหม
ตามที่ผมเข้าใจ Rp กับ Ra เป็นค่าเดียวกันใช่ไหม (p = plate, a = anode)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06 พฤศจิกายน, 2014, 06:56:58 pm โดย dragonus »


ออฟไลน์ dragonus

  • ****
    • กระทู้: 263
ผมวาดโหลดไลน์ ที่ 1785*2 = 3570 ประมาณ 3.5k
เมื่อแรงดันที่กริดเพิ่มขึ้น 10 V จาก -20+10 = -10 V แรงดันที่เพลตเปลี่ยนไป 280-220 = 60 V ; gain = 60/10 = 6
เมื่อแรงดันที่กริดลดลง 10 V จาก -20-10 = -30 V แรงดันที่เพลตเปลี่ยนไป 330-280 = 50 V ; gain = 50/10 = 5
ซึ่งเกนทั้งสองฝั่งไม่เท่ากัน ก็คือความไม่สมมาตรหรือไม่ลีเนี่ยร์ ทำให้เกิด distortion นั่งเองใช่ไหมครับ
ก็ต้องลองปรับเส้นโหลดไลน์ใหม่ทำจนกว่าจะเท่ากันมากที่สุด


ออฟไลน์ ออดิโอแมน

  • Superstar...
  • ****
    • กระทู้: 5,004
    • เพศ:ชาย
ตามรูปวงจรด้านบน el34 ต่อแบบไตรโอดโหมด เพราะเอาขา g2 ไปต่อกับเพลต
ก็เอากราฟไตรโอดของหลอด el34 มาทำครับ
Opt มีค่า 3K = Ra = RL ที่เราจะลากเส้น load line
ไฟที่เพลต 300V
ไฟที่แคโทด 24V ต่อแบบ self bias = Vk = Vg1
ตัวต้านทานแคโทด = Rk 330+100 = 430R
หา V plate-cathode = 300-24= 276V นี่คือจุดไบอัสแรงดันตามเส้นนอน
หากระแสไหลผ่านหลอด = 24V/430R = 55.8mA  นี่คือจุดไบอัสกระแสตามเส้นตั้ง
เอามาทำกราฟ 
ปรากฎว่าลากไม่ได้ตามวงจร
ที่อยู่และเบอร์มือถือครับ
http://www.htg2.net/index.php?topic=57741.msg704676#msg704676



ออฟไลน์ dragonus

  • ****
    • กระทู้: 263
น้า dragonus จะทำ se , se ul , pse , pp , ppp , ทำอินติเกรตแอมป์ , เพาเวอร์แอมป์, ปรีแอมป์ หลอดเบอร์อะไร หลอดปรี หลอดไดร์ด้วย เลือกมาผมจะพาทำ ที่เหลือรบกวน อ. Karin Preeda ช่วยตอบ จะง่ายกว่าครับ
เสาร์ อาทิตย์นี้ ถ้าว่างนะครับ

ดีเลยครับ ผมจะทำ เพาเวอร์แอมป์ se สักตัวแต่อยากรู้วิธีการคิดหาค่าต่างๆก่อน วงจรที่มองไว้เป็นตัวนี้

แล้วค่า Ra ตรง OPT คือค่า impedance ของหม้อใช่ไหมครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06 พฤศจิกายน, 2014, 05:41:53 pm โดย dragonus »


ออฟไลน์ ออดิโอแมน

  • Superstar...
  • ****
    • กระทู้: 5,004
    • เพศ:ชาย
น้า dragonus จะทำ se , se ul , pse , pp , ppp , ทำอินติเกรตแอมป์ , เพาเวอร์แอมป์, ปรีแอมป์ หลอดเบอร์อะไร หลอดปรี หลอดไดร์ด้วย เลือกมาผมจะพาทำ ที่เหลือรบกวน อ. Karin Preeda ช่วยตอบ จะง่ายกว่าครับ
เสาร์ อาทิตย์นี้ ถ้าว่างนะครับ
ที่อยู่และเบอร์มือถือครับ
http://www.htg2.net/index.php?topic=57741.msg704676#msg704676


ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
ใช่ครับ หลังจากนั้นลองเขียน load line และคำนวน power ได้เลย  O0


ออฟไลน์ dragonus

  • ****
    • กระทู้: 263
หา Rp ของหลอดจาก triode curve ครับ แล้วค่อยลอง plot load line ค่าเป็น 2 x Rp, 3 x Rp และ 4 x Rp เทียบกันดู

วิธีหา Rp และ Gm ครับ
http://www.htg2.net/index.php?topic=47462.msg558887#msg558887

Rp = 25V/.014A = 1785 Ohm ใช่ไหมครับ


ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
หา Rp ของหลอดจาก triode curve ครับ แล้วค่อยลอง plot load line ค่าเป็น 2 x Rp, 3 x Rp และ 4 x Rp เทียบกันดู

วิธีหา Rp และ Gm ครับ
http://www.htg2.net/index.php?topic=47462.msg558887#msg558887


ออฟไลน์ dragonus

  • ****
    • กระทู้: 263
ถ้าผมเริ่มสร้างจุดไบอัส ที่แรงดัน 280 V กระแส 58 mA แรงดันกริด -20 V แล้วจะสร้างเส้น load line อย่างไรครับ

คือผมสงสัยว่าจะเลือกเส้น load line อย่างไร ในกระทู้นั้นคุณ Karin Preeda เลือกมาเลยว่า 20k หรือ 10k
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06 พฤศจิกายน, 2014, 11:48:46 am โดย dragonus »


ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
เลือกจุด bias ก่อนครับ เลือกกลางๆเอาไว้ เพื่อให้หลอดทำงานได้ทั้งซีกบวกและซีกลบ จุด bias อย่าให้เกิน plate dissipation ครับ แล้วจากตรงนั้นค่อยลาก load line

ลองเลือกซักจุดสิครับ

ส่วนวิธีการวาด load line อยู่ข้างบนจากกระทุ้ที่คุณ dragonus ยกตัวอย่างมานะครับ
http://www.htg2.net/index.php?topic=47462.msg534596#msg534596


ออฟไลน์ dragonus

  • ****
    • กระทู้: 263
อันนี้ใช่ไหมครับ

ในห้องสมุดกระทู้ไหนครับ หาไม่เจอ

จากรูป จะกำหนด load line อย่างไรครับ


ออฟไลน์ dragonus

  • ****
    • กระทู้: 263
อันนี้ใช่ไหมครับ

ในห้องสมุดกระทู้ไหนครับ หาไม่เจอ


ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060

ออฟไลน์ dragonus

  • ****
    • กระทู้: 263
Karin Preeda เป็นอาจารย์ให้ผมหน่อยนะครับ ตอนนี้กำลังดูกระทู้นี้ควบคู่ไปด้วย http://www.htg2.net/index.php?topic=47462.msg534932#msg534932


ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
spec ที่ให้มาเป็น Rp ของ pentode mode ครับ datasheet ที่คุณ dragonus ให้มาไม่มี spec ของ Rp ใน triode mode  ต้องหาเอาเองจาก triode curve ในหน้า 9 ครับ วิธีการหาลองดูหน้าห้องสมุดก็ได้ครับ


ออฟไลน์ dragonus

  • ****
    • กระทู้: 263
2-4 เท่าของ Rp ครับ เช่น Rp ประมาณ 1K ก็ลอง plot loadline 2K, 3K, 4K หรือ 5K เทียบกันดูครับ
งั้นผมขอยกหลอด 6L6 มาถามนะครับ ตามดาต้าชีต ค่า Rp = 22.5k ใช่ไหมครับ งั้นก็ควรเลือก 22.5*2 หรือ 22.5*3 ใช่ไหมครับ


ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
2-4 เท่าของ Rp ครับ เช่น Rp ประมาณ 1K ก็ลอง plot loadline 2K, 3K, 4K หรือ 5K เทียบกันดูครับ


ออฟไลน์ dragonus

  • ****
    • กระทู้: 263
ใช้ค่าประมาณ 2-4 เท่าของ Rp ของหลอดครับ

Rp ของหลอดดูจาก plate curve ซึ่งปกติการเลือก load ของหลอด จะเลือกจุดที่พบกันครึ่งทางระหว่าง power และ distortion ครับ วัดจริงจะดีที่สุด แต่ถ้าวัดไม่ได้คงต้องใช้พวก software simulation ช่วย

ถ้าเป็นหลอด triode ก็ง่ายหน่อย เพราะมี plate curve ให้แล้ว แต่ถ้าเป็น pentode ก็ต้องดูว่ามี triode mode curve ให้หรือเปล่า ถ้าไม่มีก็ต้องลองผิดลองถูกดูครับ ผมกะคร่าวๆจาก transconductance (gm) ของหลอด ปกติ triode mode ของหลอด pentode จะเหลือ transconductance ประมาณ 60-70% ผมจะเอาค่าตรงนั้นมาหา Rp จาก Rp = 1/gm ครับ

แล้วการเลือก load line จะเลือกอย่างไรครับ


ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
ใช้ค่าประมาณ 2-4 เท่าของ Rp ของหลอดครับ

Rp ของหลอดดูจาก plate curve ซึ่งปกติการเลือก load ของหลอด จะเลือกจุดที่พบกันครึ่งทางระหว่าง power และ distortion ครับ วัดจริงจะดีที่สุด แต่ถ้าวัดไม่ได้คงต้องใช้พวก software simulation ช่วย

ถ้าเป็นหลอด triode ก็ง่ายหน่อย เพราะมี plate curve ให้แล้ว แต่ถ้าเป็น pentode ก็ต้องดูว่ามี triode mode curve ให้หรือเปล่า ถ้าไม่มีก็ต้องลองผิดลองถูกดูครับ ผมกะคร่าวๆจาก transconductance (gm) ของหลอด ปกติ triode mode ของหลอด pentode จะเหลือ transconductance ประมาณ 60-70% ผมจะเอาค่าตรงนั้นมาหา Rp จาก Rp = mu/gm ครับ

** แก้ไขสูตร
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06 พฤศจิกายน, 2014, 10:50:38 am โดย Karin Preeda »


ออฟไลน์ dragonus

  • ****
    • กระทู้: 263
 impedance ของหม้อแปลงเลือกอย่างไรให้เหมาะสมที่สุด เลือกจากค่า load resistance ในสเปคของหลอดหรือเปล่า เช่น หลอด 6L6 ไฟเพลต 350 โวลท์ ใช้หม้อ 4.5k ประมาณนี้หรือเปล่า

แล้ว fix bias กับ cathode bias ต่างกันอย่างไร   d_d